account_circle
จากกระแสละคร เมีย 2018 ที่มีผู้ชมติดตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง บวกความหล่อทะลุจอและรอยยิ้มชวนละลายของ บอสวศิน ส่งผลให้ “ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ” ปังชั่วข้ามคืนขึ้นแท่นสามีแห่งชาติคนใหม่ แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ เส้นทางชีวิตของเขาผ่านการต่อสู้มาไม่น้อย และครั้งนี้ฟิล์มเล่าทุกเรื่องแบบหมดเปลือกชนิดที่ว่าเมื่ออ่านจนถึงบรรทัดสุดท้าย คุณจะหลงรักผู้ชายคนนี้มากกว่าเดิมแน่นอน
เด็กชายฟิล์ม ณ สระบุรี
“ผมเป็นเด็กสระบุรีครับ ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ฐานะปานกลาง แม่เป็นครู พ่อเป็นพนักงานบริษัท ผมเองก็ใช้ชีวิตเด็กต่างจังหวัดจริงๆ เล่นกลางแดด เตะบอล เล่นการละเล่นพื้นบ้าน ดีดลูกแก้ว ขุดหลุมดีดแข่งกัน ใครชนะก็จะได้ลูกแก้วของเพื่อน เล่นเตย วิ่งเปรี้ยว ซ่อนแอบ ซ่อนแอบเป็นอะไรที่เล่นจนโต ม.6 ยังเล่นอยู่เลย เล่นกัน 20-30 คนแอบกันทั้งโรงเรียน ซ่อนกันเก่งขึ้น หากันยากขึ้น สนุกมากครับ
“ตั้งแต่ประถม-ม.ต้น ผมเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด แต่พอเข้าสู่ช่วงม.ปลาย ผมกลายเป็นเด็กติดเพื่อน ติดเกม นอนดึก ซึ่งการเรียนระดับม.ปลาย เนื้อหายากขึ้น ลงลึกขึ้น และต้องสอบเข้า ‘มหาลัย แล้วผมเรียนสายวิทย์ด้วย เลยยิ่งไปกันใหญ่ เราก็ไปเรียนแบบเบลอๆ ช่วงนั้นไม่สนใจการเรียนเลย อ่านการ์ตูนในห้องเรียน ดื้อ ซน ทุกอย่างที่เด็กม.ปลายจะทำ แต่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวเรื่องเหล้ายาบุหรี่อะไรนะครับ มันเป็นการพลาดในลักษณะที่เราละเลยต่อความรับผิดชอบและหน้าที่ของตัวเอง ส่งผลให้เราสอบเข้า ’มหาลัยไม่ติด ย้อนกลับไปมองดูสิ่งที่เราเคยทำ ทั้งเสียใจและเสียดาย อย่างที่บอกว่าบ้านผมไม่ได้รวย แต่เรามีโอกาสดีๆ ปิดเทอมเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนพิเศษ อยากเรียนอะไรได้หมด แต่เรากลับไม่เข้าเรียน แม่พยายามทำทุกอย่างให้ลูกมีชีวิตที่ดี ยอมกู้เงินให้ผมเรียนพิเศษ แต่ผมไม่เห็นคุณค่า กลับทิ้งขว้างโอกาสนั้นไป”
กลับตัวกลับใจเป็นเด็กเรียน
“ในเมื่อสอบไม่ติด ผมเลยตัดสินใจเข้าเรียนคณะบริหารธุรกิจ เอกการเงิน ม.กรุงเทพ เรียนที่นี่เพราะนั่งรถตู้กลับบ้านได้ ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่า ช่วง’มหาลัยเป็นจุดเปลี่ยนที่เราคิดได้ และกลายเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาตลอด ทำงานสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ให้เด็กประถมด้วย เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวทางหนึ่ง
“ส่วนใหญ่คนจะมองว่าเด็กม.กรุงเทพ มีเงิน จุดนี้ผมไม่เถียง แต่ผมโชคดีที่เพื่อนฐานะดี แต่ไม่อวดรวย ติดดิน บางคนนามสกุลดังแต่ทำตัวโลว์โปรไฟล์ ทุกคนนิสัยดี และเขาก็ไม่ได้รังเกียจที่ผมไม่มีเหมือนเขา ในกลุ่มเพื่อนผมจะเป็นเหมือนหัวหน้ากลุ่มที่คอยโทรตามงานว่าวันนี้มีงานต้องพรีเซนต์นะ เข้าเรียนนะ และคอยเป็นติวเตอร์ให้เพื่อนเวลาสอบ อย่างถ้าสอบวันจันทร์ ผมจะต้องอ่านหนังสือตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อวันอาทิตย์จะรวมตัวกันติว จุดนี้ผมรู้สึกว่าเรามีค่าในจุดยืนตรงนั้น มันเติมเต็มในส่วนที่เราไม่มี ผมเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 พลาดไปนิดเดียว 0.02 ก็จะได้อันดับ 1 เสียดายเหมือนกันครับ”
แพ้ทางสาวอายุเยอะกว่า
“คือผมก็ไม่ได้จำกัดว่าผู้หญิงที่ชอบจะต้องอายุมากกกว่าหรือน้อยกว่านะ ผมสำรวจตัวเองแล้วหลายครั้ง เรามักตกหลุมรักผู้หญิงอายุเยอะกว่าตลอด ไม่ได้แปลว่าผู้หญิงอายุน้อยกว่าจะไม่ชอบนะ ผู้หญิงอายุเยอะกว่า มีเสน่ห์บางอย่างที่ผมเองก็ตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร ผมเคยชอบผู้หญิงอายุมากกว่า 15 ปี ตอนนั้นผมอายุ 20 เขา 34-35 ปี ทีแรกผมคิดว่าน่าจะ 28 ปี คือหุ่นดี สวย ดูแลตัวเองดีมาก
“ส่วนสเป็คโดยประมาณจะชอบผู้หญิงน่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย มีแก้ม ไม่จำกัดว่าไทย จีน ฝรั่ง ขอแค่มีความน่ารักในแบบตัวเอง สำคัญที่สุดผมว่ามันอยู่ที่ความรู้สึกนะ เวลาอยู่ด้วยกันความรู้สึกจะบอกเองว่าใช่หรือไม่ใช่ คือเราต้องมีความสุข และชุ่มชื่นหัวใจเวลาอยู่ด้วยกัน”
เส้นทางสู่อาชีพสจ๊วต
“สำหรับอาชีพสจ็วต ผมก็มองถึงความเป็นจริงเหมือนกัน เรียนจบก็มานั่งคิดว่า แม่ใช้เงินส่งเรียนตั้งเกือบครึ่งล้าน ทำงานได้เงินเดือนหมื่นกว่าถึงสองหมื่น ค่ากิน ค่าอยู่ในกรุงเทพฯ จะเหลือเก็บไปให้ที่บ้านได้อย่างไร พอดีได้เจอกับเพื่อนเลยถามไถ่ว่าทำอะไรอยู่ เขาบอกว่าเรียนภาษาอังกฤษ จะไปสอบสจ๊วตซึ่งเป็นอาชีพที่ได้เงินเดือนค่อนข้างสูง ตัวผมเองก็โง่ภาษาอังกฤษมากๆ เลยนะ แต่ก็ตัดสินในเอาเงินเก็บก้อนสุดท้าย ประมาณครึ่งแสนไปเรียนภาษาอังกฤษใช้เวลาเรียนตั้งแต่เช้าถึงค่ำอยู่ครึ่งปี ซึ่งช่วงที่เรียนอยู่กับพี่ชาย
“เชื่อมั้ยว่าผมใช้เงินค่ากินค่าเดินทางเดือนละ 5,000 บาท เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินและต่อบีทีเอส เอาแค่ค่าเดือนทางก็แทบหมดแล้ว อาหารแพงสุดของผมคือส้มตำข้างถนนครับ อาหารประจำคือ มาม่า ใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ 6 เดือน จนผมสอบโทอิกผ่านแบบฉิวเฉียด และสอบคัดเลือกเป็นสจ๊วตผ่านตั้งแต่รอบแรก ซึ่งผมว่าทุกอย่างมาด้วยดวงเหมือนกัน
“สจ๊วตเป็นอาชีพที่สนุกมาก ผมได้เจอผู้โดยสารใหม่ทุกวัน เพื่อนร่วมงานใหม่ ได้เดินทางไปในที่ที่เราไม่เคยไป มันเป็นการเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เหนื่อยมากเช่นกัน เราทำงานเจอแรงกดอากาศตลอดเวลา ร่างกายมีความอ่อนล้าสะสม ฉะนั้นต้องดูแลสุขภาพให้มากเป็นพิเศษ และบนเครื่องเราต้องเป็นให้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะพนักงานเสิร์ฟ พี่เลี้ยงเด็ก คนเช็ดอาเจียน พนักงานล้างห้องน้ำ เป็นหมอเป็นพยาบาล คนยกกระเป๋า ความประทับในการทำอาชีพนี้สำหรับผมคือ รอยยิ้มของผู้โดยสาร เห็นคุณป้าคุณยายยิ้มให้แล้วบอกว่า “หนูน่ารักจัง ขอบคุณมากนะ นี่คือแฮปปี้แล้ว”
เส้นทางการสู่วงการบันเทิง
“ด้านการแสดงผมโชคดีที่ได้รับโอกาสดีๆ ย้อนไปตั้งแต่เด็ก ผมเข้ามาแคสต์โฆษาตั้งแต่ ม.2 แล้ว แต่ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด จะเข้ามาแคสต์งานก็ต้องเข้ากรุงเทพฯ ช่วงม. ปลายได้งานอยู่สองงาน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ เลยหยุดแคสต์กระทั่งเรียนปี 3 มีเพื่อนที่รู้จักกับโมเดลลิ่งชวนไปเป็นเอ็กตร้าโฆษณา ไปประกวดดัชชี่บอย และยังมีแคสต์งานเรื่อยๆ ต้องไปแต่เช้าเพื่อไปเอาคิวแรก แคสต์ยี่สิบสามสิบงานได้หนึ่งงาน จนได้มีโอกาสเข้ามาแคสต์โปรเจ็คต์ ‘รักฝุ่นตลบ’ ผมชนะของฝ่ายชาย เลยมีโอกาสเข้ามาเป็นนักแสดงของเอ็กแซ็กท์ ระหว่างนั้นผมยังเป็นสจ๊วตอยู่ ก็ทำงานแสดงไปพร้อมกันเพราะ เรายังต้องการความมั่นคงในชีวิตอยู่
“สุดท้ายผมเลือกตามความฝันที่อยากจะเข้ามาทำงานในวงการ จะเป็นไงยังไม่รู้ โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วต้องคว้าไว้ก่อน แล้วถ้ามันล้มเหลวไม่เป็นตามหวัง ผมจะไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมา เพราะถือว่าได้ทำเต็มที่แล้ว ผมให้เวลา 3 ปีจนถึง อายุ 28 ปี ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะกลับไปเป็นสจ๊วต”
บอสวศิน เปลี่ยนชีวิต
“ผมก็ไม่คิดว่าบทนี้จะเอฟเฟคกับตัวเองขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ที่เล่นละครมาสองเรื่องผมเป็นที่รู้จักในวงแคบโดยมากแค่ฐานแฟนละครช่องวัน หากมองภาพรวมทั้งประเทศคือ ไม่เป็นที่รู้จักเลย (ยิ้ม) แต่พอได้มาเล่นละครเรื่อง ‘เมีย 2018’ ใช้คำว่าเปลี่ยนชีวิตเลยก็ได้ มีคนรู้จักภายในข้ามคืน แค่ซีนนั้นซีนเดียว ก็คือซีนบอสว่าอรุณา พอหันหลังเดินกลับแต่แอบยิ้ม แล้วซีนนี้คนแชร์ไปเรื่อยๆ ทำยอดฟอลโลว์ไอจีผมจาก 5 หมื่น ขึ้นไปถึงแสนกว่าภายใน 2 วัน จนวันนี้อยู่ที่ 5 แสนกว่าไปไหนมาไหนไม่มีคนเรียกชื่อฟิล์มเลย เรียกแต่ ‘บอสๆ’
“ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าคนรู้จักเยอะขนาดไหน ล่าสุดผมกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไปกินข้าวกับเพื่อน มีแต่คนมาขอถ่ายรูป บางทีพอเพื่อนลงรูปกับเรา ก็จะมีคนขับรถตามมาถึงร้านเพื่อมาขอถ่ายรูปแล้วก็กลับ ฐานแฟนคลับช่วงนี้จะเป็นผู้หญิงวัยทำงาน หรือคุณแม่ลูกอ่อน (หัวเราะ) พนักงานออฟฟิศผู้ชายก็มีเข้ามาขอถ่ายรูป บอกแฟนพี่ชอบ บางคนก็ขอวีดิโอคอลบอกเมียพี่อยากคุยด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าที่เลือกในวันนั้น และความพยายามที่ทำมาตลอด มันได้เห็นผลและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว เหมือนเป็นกำลังใจให้ตัวเองหายเหนื่อยครับ”
บอสวศิน VS ฟิล์มธนภัทร
“ตัวจริงผมเป็นคนยิ้มง่าย สนุกสนานร่าเริง ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่กับเพื่อน จะไม่ได้มีมาดเยอะเหมือนบอส แต่ส่วนที่เหมือนบอสคือ เป็นคนพูดตรงคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ปากร้ายนิดๆ กับคนสนิทกับเพื่อน ซึ่งผมจะแซว จะจิกกัดตลอด ออกแนวขำๆ ครับ”
สามีแห่งชาติ 2018
“รู้สึกขอบคุณที่ทุกคนให้เกียรติขนาดนั้น ถือกำลังใจให้เราต่อสู้กับการทำงานต่อไป ผมไม่ได้มาทำตรงนี้เพื่อชื่อเสียงหรือแค่มาเอากระแส แต่เป้าหมายของผมคือ อยากเป็นนักแสดงที่ได้รับรางวัลในด้านการแสดง เป็นนักแสดงที่ทุกคนยอมรับในฝีมือ ตอนนี้ผมมีความสุขกับการทำงานมาก อยากทำผลงานต่อไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งละครเรื่องต่อไปของผมคือเรื่อง “หน้ากากแก้ว” เล่นกับแนท-อนิพร แนวเมโลดราม่า เรื่องราวเข้มข้นมาก ฝากติดตามด้วยนะครับ”
Text: AuAi
Photo: เนาวพจน์ / ภาพโปสเตอร์ละคร: th.wikipedia.org
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่ค่ะ
จะทีมไหนก็ไม่สู้ #ทีมบอสวศิน มาแรงแซงสุดใน เมีย 2018
อินให้สุดกับเพลงเพราะๆ จากละครเรื่อง เมีย 2018 ฟิน ซึ้ง เศร้าแค่ไหนต้องฟัง!
สจ๊วตหล่อบอกต่อด้วย! รู้มั้ยว่าพวกเขาเหล่านี้คือ ดาราชายที่เคยเป็นสจ๊วตมาก่อน