Netflix, Sustainability, Net Zero

สู่ความบันเทิงผ่านการสตรีมที่เป็นมิตรต่อโลก Netflix ประกาศแผนลดการปล่อยมลพิษ มุ่งเป้าสถานะ ‘Net Zero’ ภายในสิ้นปี 2022

Alternative Textaccount_circle
event
Netflix, Sustainability, Net Zero
Netflix, Sustainability, Net Zero

ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสองของปี 2021 หลายธุรกิจกลับมาเดินหน้าอีกครั้งหลังจากต้องหยุดนิ่งเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดในปี 2020 ที่ผ่านมา แม้หลากหลายกิจกรรม อุตสาหกรรม หรือกลุ่มธุรกิจต่างๆ ต้องหยุดพักไปเกือบปี แต่มีหนึ่งสิ่งที่ไม่ได้หยุดนิ่งตามไปด้วย นั่นก็คือวิกฤติด้านสภาพภูมิอากาศของโลก ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้เป็นต้นเหตุที่สำคัญ

Netflix สู่ความบันเทิงผ่านการสตรีมที่เป็นมิตรต่อโลก มุ่งเป้าสถานะ Net Zero

ถึงแม้ว่าวงการบันเทิงจะไม่ใช่ชื่ออันดับแรกๆ ที่ใครหลายคนคิดถึงเมื่อพูดถึงผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อม แต่ในฐานะผู้นำบริการสตรีมมิ่งความบันเทิงระดับโลก Netflix เองก็เข้าใจดีว่าการสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานความบันเทิงสู่หน้าจอนับล้านทั่วโลกนั้น ย่อมมีต้นทุนทางคาร์บอนเช่นกัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2021 Netflix ได้ประกาศแผนที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ภายในช่วงสิ้นปี 2022

ดร. เอมม่า สจ๊วต เจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนของเน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า “ฉันโชคดีที่มีโอกาสได้นำสิ่งที่ตัวเองรักอย่างวิทยาศาสตร์มาผสานเข้ากับการถ่ายทอดเรื่องราวที่ Netflix ซึ่งเราทุกคนที่นี่ต่างต้องการสร้างความบันเทิงให้กับโลกใบนี้ แต่การจะสร้างความบันเทิงได้ เราต้องมีโลกที่ผู้คนอาศัยอยู่ได้ และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเราต้องรักษาสภาพอากาศไว้ไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และรักษาระบบต่างๆ ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตให้อยู่ในสภาพดีเพื่อลูกหลานของเราในอนาคต”

ในปี 2020 ที่ผ่านมา Netflix ได้ปล่อยคาร์บอนออกมาเป็นปริมาณ 1,100,000 เมตริกตัน โดยประมาณครึ่งหนึ่งมาจากการผลิตผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ที่เป็นแบรนด์ Netflix ทั้งในส่วนที่เราบริหารจัดการโดยตรง (เช่น The Midnight Sky: สัญญาณสงัด) และที่ผ่านบริษัทผู้ผลิตภายนอก (เช่น โลกของเรา: Our Planet และ ผจญภัยสุดขั้วกับแบร์ กริลส์ : You vs. Wild) รวมทั้งเนื้อหาที่เป็นแบรนด์ Netflix ที่เราให้สิทธิ์ใช้งาน (เช่น บทเรียนจากปลาหมึก: My Octopus Teacher และ เที่ยวติดดินกับแซ็ค เอฟรอน: Down to Earth with Zac Efron)

ส่วนที่เหลือ 45% มาจากการดำเนินงานขององค์กร (เช่น อาคารสำนักงาน) และสินค้าที่จัดซื้อ (เช่น สินค้าที่จัดซื้อสำหรับการตลาด) นอกจากนี้ เรายังใช้บริการจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์อย่าง Amazon Web Services และเครือข่ายนำส่งเนื้อหาอย่าง Open Connect เพื่อสตรีมบริการของเรา ซึ่งคิดเป็น 5% ของปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกมา

Netflix, Sustainability, Net Zero

ถึงแม้จะเป็นสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น แต่ Netflix ก็คิดว่าการเปิดพื้นที่ให้นักเล่าเรื่องได้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับโลกและการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั้น นับว่ายังไม่เพียงพอ เราจึงพร้อมเดินหน้าเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านทางแผนการลดปริมาณมลพิษให้เหลือศูนย์ + การอนุรักษ์ธรรมชาติ (Net Zero + Nature) ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินงาน 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นที่ 1: ลดการปล่อยมลพิษ

ลำดับแรก เริ่มต้นด้วยการลดปริมาณการปล่อยมลพิษภายในองค์กรให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ระบุไว้ในข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และลดการปล่อยมลพิษในส่วนที่ 1  และ 2 (หรือมลพิษทางตรงและทางอ้อม) ลง 45% ภายในปี 2030 ตามแนวทางริเริ่มในการกำหนดเป้าหมายตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

ขั้นที่ 2: รักษาแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีอยู่

ภายในสิ้นปี 2021 ในกรณีที่มีการปล่อยมลพิษภายในองค์กรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมถึงมลพิษในส่วนที่ 3 (หรือมลพิษทางอ้อมอื่นๆ) ด้วย Netflix จะทำการชดเชยด้วยการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่จะป้องกันไม่ให้มีการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ โดยเริ่มด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น ป่าเขตร้อน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเป้าหมายในการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ขั้นที่ 3: กำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ

ภายในสิ้นปี 2022 เราจะดำเนินการกำจัดการปล่อยมลพิษในส่วนที่เหลือทั้งหมดให้เป็นศูนย์โดยดำเนินการลงทุนเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติที่สำคัญ เพื่อมุ่งสู่สถานะการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านทางโครงการต่างๆ เช่น การฟื้นฟูพื้นที่ทุ่งหญ้า ป่าชายเลน และคุณภาพดิน ที่นอกจากจะมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ แล้วยังช่วยจับและกักเก็บคาร์บอนอีกด้วย

นอกจากแผนงานต่างๆ ทั้งหมดนี้แล้ว Netflix ยังมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ความเข้าใจในด้านความยั่งยืน โดยในปี 2020 ผู้คนจาก 160 ล้านครัวเรือนทั่วโลกเลือกรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์อย่างน้อย 1 เรื่องทาง Netflix ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น โลกของเรา: Our Planet ซีรีส์สารคดีที่มีผู้ชมกว่า 100 ล้านครัวเรือนนับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนเมษายน 2019 ก่อนจะคว้ารางวัลมาได้จากหลายเวที รวมถึงรางวัลเอมมี่ไพรม์ไทม์ 2 รางวัล ด้วยเนื้อหาที่ให้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์และการพึ่งพากันและกันระหว่างระบบต่างๆ บนโลกและสิ่งมีชีวิตนานาชนิต หรืออีกหนึ่งผลงานเด่นอย่าง บทเรียนจากปลาหมึก: My Octopus Teacher ภาพยนตร์สารคดีที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ หลังจากคว้ารางวัลมาจากเวทีอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Netflix, Sustainability, Net Zero

ภาพจากสารคดี โลกของเรา: Our Planet

เดวิด แอทเทนเบอเรอห์ ผู้ให้เสียงบรรยายในสารคดี โลกของเรา: Our Planet เคยกล่าวไว้ว่า “เราต้องเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แทนการต่อต้านทำลาย” และแผน Net Zero + Nature นี้ ก็นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของ Netflix ในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงให้วงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากล้องหรือหลังกล้อง ได้มีส่วนร่วมในการรักษาสภาพแวดล้อม ปกป้องความงดงามบนโลกของเราให้พร้อมเป็นเวทีถ่ายทอดเรื่องราวอันมหัศจรรย์ต่อไปในอนาคต

_____________________________________

ดร. เอมม่า สจ๊วต (Emma Stewart, Ph.D.) รับหน้าที่ในตำแหน่งเจ้าหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Netflix ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด ก่อนจะมาร่วมงานกับ Netflix เธอดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute) หัวหน้าฝ่ายแนวทางเพื่อความยั่งยืนที่ Autodesk ผู้นำด้านซอฟต์แวร์การออกแบบ ซึ่งเธอได้ร่วมเป็นผู้จัดทำการกำหนดเป้าหมายตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อลดการปล่อยมลพิษสำหรับองค์กรแนวทางแรกของโลก และเป็นผู้ก่อตั้งฝ่าย R&D ที่ Business for Social Responsibility เธอมีส่วนร่วมในงานเขียนหลายเล่ม และสอนวิชา “Intrapreneurship for Sustainability” ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

 

ข้อมูลและภาพจาก Netflix

 

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไลน์อัพออริจินัลคอนเทนต์ Netflix ปี 2021 มาเต็ม จัดครบซีรี่ย์ หนัง และรายการ!

Money Heist เวอร์ชั่นเกาหลีมาแน่! ประกาศไลน์อัพนักแสดงแน่นเรื่อง

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up