NU'EST W เกิดใหม่อีกครั้ง ขอปังกว่าเดิม

ปี 2017 ถือเป็นปรากฏการณ์สำหรับหนุ่มๆ วง NU’EST W เลยทีเดียว เมื่อบัตรคอนเสิร์ต NU’EST W CONCERT DOUBLE YOU IN SEOUL ทั้ง 3 รอบการแสดงในเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ขายหมดหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีแฟนคลับทั้งในประเทศเกาหลีใต้และทั่วโลกต่างให้ความสนใจพยายามช่วงชิงบัตรกันกว่า 2 แสนคน!

NU’EST W เกิดใหม่อีกครั้ง ขอปังกว่าเดิม

แล้วแฟนคลับชาวไทยล่ะสู้ไม่สู้ เพราะหนุ่มๆ จะมาพบกับเลิฟไทย (L.O.Λ.E : ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับ) ในคอนเสิร์ต NU’EST W CONCERT DOUBLE YOU IN BANGKOK ซึ่งจะมีกำหนดการแสดงในวันเสาร์ที่28 เมษายน2561 นี้เวลา 18.00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

เห็นบัตรคอนเสิร์ตขายดีเหมือนแจกฟรีแบบนี้ เชื่อไหมคะ ว่า NU’EST W ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากถึงขั้นเกือบจะยุบวง เมื่อตอนที่เป็น NU’EST (NU’EST W คือ ซับยูนิตของ NU’EST / ซับยูนิต คือ การที่สมาชิกบางส่วนแยกออกมาจำโปรเจ็คต์พิเศษร่วมกัน) มาแล้ว ก่อนจะไปพบพวกเขา เรามาย้อนดูเส้นทางความสำเร็จของ NU’EST กันดีกว่าค่ะ บอกเลยว่าผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ!

บางคนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่า NU’EST เพิ่งเดบิวต์ได้ไม่นาน แต่ที่จริงพวกเขาเดบิวต์มา 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2012 เป็นบอยกรุ๊ปกลุ่มแรกของค่าย Pledis Entertainment มีสมาชิก 5 คน ได้แก่ เจอาร์ อารอน แบคโฮ มินฮยอน และเร็น โดยเปิดตัวมาอย่างสวยงามกับเพลง Face ที่ปังมากๆ ด้วยท่าเต้นที่มีเอกลักษณ์บวกกับเร็น ที่มีหน้าตาคล้ายผู้หญิง ทำให้มียอดผู้ชม MV ผ่านทางยูทิวบ์มากกว่า 60 ล้านครั้งในขณะนั้นเรียกว่ายอดวิวพุ่งแซงหน้ารุ่นเดียวกันใน 2012ไลน์ อย่าง B.A.P และ EXO เลยละค่ะ

ซิงเกิ้ลแรกปังก็เป็นธรรมดาที่คนจะคาดหวังกับซิงเกิลที่ 2 แต่น่าเสียดายที่เพลงต่อมาอย่าง Action กับ HELLO ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร อันดับสูงสุดในชาร์ตก็อยู่แค่อันดับที่ 51 เพลงต่อจากนี้ก็ไปไม่รอดอีก เรียกว่ามาจุดกระแสแค่แป๊บๆ แต่ยังจับฐานแฟนคลับไม่มั่น สังเกตจากการชิงรางวัล Rookie ปีนั้นที่ EXO กับ B.A.P แข่งกันอยู่ 2 วง

ปี 2013 ส่งมินิอัลบั้มที่ 3 Sleep Talking เข้าชาร์ตในอันดับต่ำก็เลยทิ้งตลาดบ้านเกิดไปบุกตลาดเพลงจีน พอกลับมาโปรโมทที่เกาหลีใต้อีกครั้งในปี 2014 ก็ปล่อยอัลบั้มเต็มครั้งแรก Re:Birth เปิดตัวด้วยเพลง Goodbye Bye ซึ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทั้งสไตล์เพลง การแต่งตัว และทรงผม ที่ลดความฉูดฉาดลง ยิ่งเห็นซิกส์แพ็คของหนุ่มเร็น สาวๆ ก็แทบอยากจะเปลี่ยนเมนกันเป็นแถว ฟ้าเริ่มเปิดแล้วเชียว แต่มาตกม้าตายตรงที่ค่ายโปรโมทสั้นมาก (ทำมายยย TOT ) กระแสก็มาแบบเรื่อยๆไม่ได้พุ่งหรือลงมากมาย การออกสื่อออกรายการวาไรตี้ก็ค่อนข้างน้อย

โปรโมตที่จีนในชื่อซับยูนิต NU’EST M โดยเพิ่มสมาชิกหนึ่งคนคือ ‘เจสัน’

ยังไม่ทันโกยหัวใจแม่เกา (หลี) ให้เต็มกระบุง Pledis ค่ายต้นสังกัด ก็ตัดสินใจส่ง NU’EST ไปดอง เอ๊ย เดบิวต์ที่ญี่ปุ่น ทั้งออกซิงเกิลเพลงภาษาญี่ปุ่นถึง 3 เพลงกับอีกหนึ่งมินิอัลบั้มช่วงปี 2015 -2016 เรียกว่า NU’EST ทิ้งตลาดเกาหลีไปเลย จากเดิมฐานแฟนคลับในเกาหลีก็ไม่ได้แน่นอยู่แล้วยิ่งหายหน้าหายตาไปวงใหม่ๆ ก็แย่งชิงฐานแฟนคลับกันสุดฤทธิ์ พอคัมแบ็คทีก็แทบจะไม่มีฐานแฟนคลับเหลือแล้ว แต่ Pledis ก็ยังพยายามคัมแบ็คหลายครั้ง (ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ Y-Y)

คอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น ปี 2014

ปลายปี 2016 NU’EST ส่งเพลง Love Paint เข้าชิงที่ 1 ในรายการ The Show ถึง 3 ครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถเรียกกระแสกลับมาได้ จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วอินเตอร์เน็ตเกาหลีว่า NU’EST จะยุบวง ต่อมา Pledis ออกมาประกาศว่า NU’EST แค่หยุดกิจกรรรมวงชั่วคราวเท่านั้น สมาชิก 4 คน เจอาร์ แบคโฮ มินฮยอน เร็น จะเข้าร่วมรายการ PRODUCE 101 ซีซั่น2 (อารอนไม่ได้เข้าร่วมเพราะบาดเจ็บที่เข่า) ไม่ได้หมายความว่าจะยุบวงตอนนี้

(PRODUCE 101 เป็นโปรเจ็คต์ค้นหาศิลปินจากเด็กฝึกหัด 101 คน จากหลากหลายสังกัด เพื่อเดบิวต์เป็นศิลปิน โดยมีโจทย์และภารกิจแตกต่างกัน และมีเพียง 11 คนที่จะได้รับเลือกจากการตัดสินด้วยคะแนนโหวตของผู้ชม)

และนี่คือจุดเปลี่ยนของพวกเขาค่ะ NU’EST กำลังจะหมดสัญญาในช่วงก่อนเข้าร่วม PRODUCE 101 ซีซั่น 2 เนื่องจากกระแสตอบรับที่ไม่ดีมาตลอด พวกเขาจึงฝากความหวังไว้ที่รายการนี้ ยอมทิ้งศักดิ์ศรีและต่อสู้เพื่อต่ออายุของวง แต่พอ PRODUCE 101 ซีซั่น 2 ตอนแรกออนแอร์ก็กลับถูกชาวเน็ตเกาหลีวิจารณ์แร๊งส์ว่า ‘ขี้โกง’ เพราะพวกเขาผ่านการเดบิวต์มาแล้ว ทำให้มีฐานแฟนคลับอยู่ก่อน โอกาสชนะก็ย่อมมีมากกว่า

ทว่าพวกเขาก็พยายามพิสูจน์ตัวเองระหว่างการแข่งขัน การกลับไปเป็นเด็กฝึกใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าทำได้ดี คนก็จะบอกว่าเพราะเคยเดบิวต์มาแล้ว ถ้าทำได้ไม่ดี คนก็จะบอกว่าเพราะแบบนี้ไงถึงไม่ดัง เรียกว่าทำอะไรก็ผิด เจอแรงกดดันทุกทาง ถึงอย่างนั้นหนุ่มๆ NU’EST เขาก็ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Dazed ว่าสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาฟันฝ่ามาได้จนถึงตอนนี้ก็คือครอบครัวและเพื่อนสมาชิกในวง แม้อารอนจะไม่ได้เข้าร่วมรายการ แต่ก็ทำอาหารให้พวกเขากินเสมอเมื่อมีโอกาสเจอกัน พวกเขาไม่เคยรู้สึกเสียศักดิ์ศรีหรือเสียความมั่นใจในตัวเองเลย เพราะไม่มีเวลาเก็บคำพูดของคนอื่นมาใส่ใจ คิดแค่ว่าต้องทำให้ดีที่สุด ปรับตัวไปตามสถานการณ์ และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น

แล้วความมุ่งมั่นกับความจริงใจก็ทำให้ทุกคนได้เห็นสมาชิก NU’EST ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งตอนที่พวกเขาเผยความรู้สึกมืดแปดด้าน จนต้องมาเข้าร่วม PRODUCE 101 ซีซั่น 2 …เรียกคะแนนสงสารจากโปรดิวเซอร์แห่งชาติไปได้ไม่น้อย

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องหันกลับมามอง NU’EST ใหม่ ก็คือด้านดีๆ ของสมาชิกแต่ละคน อย่างความเป็นผู้นำของเจอาร์ เขาพยายามนำทีมฝึกซ้อมอย่างสุดความสามารถ จนเกิดกระแสลีดเดอร์แห่งชาติกันทั่วบ้านทั่วเมือง

ความขี้เล่นน่ารักของเร็น ที่เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากเด็กฝึกคนอื่นๆ ได้ตลอดการแข่งขัน

ความแข็งแกร่งและกล้าหาญของแบคโฮ เจ้าของฉายา ‘ซังนัมจา’ (แปลว่า เป็นชายชาตรี, เป็นลูกผู้ชาย)

และสุดท้าย เสียงร้องเพราะๆ กับคาริสม่าของมินฮยอน ที่โปรดิวเซอร์แห่งชาติเสียดายว่าถูกดองอยู่หลายปี เลยเทคะแนนโหวตให้เขาเป็นสมาชิกหนึ่งเดียวใน NU’EST ที่ได้เข้าร่วมโปรเจ็คต์ Wanna One

แม้จะได้เดบิวต์ (อีกครั้ง) แบบไม่ครบทั้ง 4 คนแต่สิ่งที่ NU’EST ได้รับจากการเข้าร่วมรายการมีค่ามากกว่านั้น หลังจากตอนสุดท้ายของ PRODUCE 101 ซีซั่น 2 ออนแอร์ เพลง Hello (ปี 2013) เข้ามาอยู่อันดับที่ 11 ในรายการ Inkigayo จากนั้นก็เกิดกระแสตีกลับมากมาย ทั้งอัลบั้มเก่า เพลงเก่า กลับเข้าชาร์ต ยอดรีทวิต ยอดแฟนคาเฟ่ เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว สรุปคือวงกลับมาเป็นที่สนใจและมีกระแสอีกครั้งแล้วค่า …ปรบมือ!

NU’EST

วันที่ 18 กรกฎาคม 2017 NU’EST ประกาศทำกิจกรรมในรูปแบบซับยูนิต NU’EST W ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน คือ เจอาร์ อารอน แบคโฮ และเร็น โดย “W” มาจาก “wait” ที่แปลว่า รอ หมายถึง รอมินฮยอน กลับมาหลังจากเสร็จสิ้นการโปรโมทในนาม Wanna One และได้ปล่อยซิงเกิล If You กับ Where You At ที่ฮอตฮิตติดทุกชาร์ต หลักจากนั้นสิ่งดีๆ ก็ตามมาไม่ขาดสาย เช่น บัตรแฟนมีต 10,000 ที่นั่งขายหมดภายใน 2 นาที ชนะรายการเพลงครั้งแรกตั้งแต่เดบิวต์มา 6 ปีจากรายการ M Countdown และชนะเป็นครั้งที่สองจากรายการ Music Bank

เท่านั้นยังไม่พอ ความสำเร็จของอัลบั้ม ‘W.HERE’ ทำให้ NU’EST W ชนะรางวัล Best Entertainer Award จาก Asia Artist Awards และชนะรางวัล Discovery of the Year จากงาน MAMA 2017 ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ แถมปลายปีล่าสุดก็ได้รางวัล Disc Bonsang (ยอดจำหน่ายอัลบั้มสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน) จาก Golden Disk Awards ครั้งที่ 32 เมื่อเดือนมกราคม 2018 ที่เปรียบเสมือนแกรมมี่อวอร์ดแห่งวงการเพลงเกาหลีเลยละ

โอ้โห ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอจริงๆ นะคะ ทั้งเจอค่ายทำการตลาดพลาดจนเกือบถูกยุบวง ทั้งต้องกลับไปเป็นเด็กฝึกอีกครั้งให้คนเขาครหา แต่ NU’EST ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเพชรก็คือเพชร พวกเขากลับมาเจิดจรัสสมกับความพยายามและความใฝ่ฝันมาตลอด นี่จึงไม่ใช่การคัมแบ็คธรรมดาแต่เป็น ‘การเกิดใหม่อีกครั้ง’ ของ NU’EST เลยก็ว่าได้