อัพ-เบลล์-ทะเล-มาร์ทเปิดใจทุกซอกทุกมุมเบื้องหลังจาก START-UP เวอร์ชั่นเกาหลีสู่เวอร์ชั่นไทย

Alternative Textaccount_circle
event

เชื่อว่าซีรีส์เกาหลีเรื่อง START-UP ขึ้นหิ้งเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน จากวันนั้นผ่านไปกว่า 4 ปีในปี 2024 จากซีรีส์เกาหลีที่โด่งดังทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ สู่ START-UP เวอร์ชั่นไทย ซึ่งได้ อัพ-ภูมิพัฒน์, เบลล์-เขมิศรา, เกรท-สพล และ ก้อย-อรัชพร แสดงนำ พร้อมด้วยนักแสดงฝีมือดีอีกมากมายมาเสริมทัพ 

ก่อนที่ซีรีส์จะออนแอร์ไม่กี่วัน สุดสัปดาห์มีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์ทีมนักแสดงทั้งอัพ เบลล์ ทะเล และมาร์ท ถึงเบื้องหลังการถ่ายทำ START-UP เวอร์ชั่นไทยว่าโหด หิน และสนุกขนาดไหน รวมถึงความกดดันกับงานแสดงซีรีส์รีเมกเกาหลีชื่อดัง ซึ่งพวกเขาทั้ง 4 คนก็เปิดใจแบบไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว

อยากให้เล่าเรื่องราวของ START-UP เวอร์ชั่นไทย และคาแร็กเตอร์ตัวละครที่ได้รับ

เบลล์ : START-UP จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวพี่น้อง และเรื่องราวของธุรกิจ หรือ Startup นั่นเองค่ะ โดยเล่าเรื่องราวของ “พาฝัน” แสดงโดยเบลล์เอง ที่ชีวิตต้องการจะพิสูจน์อะไรสักอย่างก็เลยเข้ามาทำ Startup แล้วก็ได้มาเจอกับพี่สาวที่ชื่อว่า “อลิส” รับบทโดยพี่ก้อยนะคะ ซึ่งตัวอลิสก็ต้องการจะพิสูจน์อะไรบางอย่างเหมือนกัน แต่ในเชิงของคำว่าเด็กเส้นโน่นนี่นั่น แต่ของพาฝันจะเป็นคนที่เจอคำดูถูกมาเยอะ เพราะว่าไม่ได้เรียนมาสูง แต่พาฝันต้องการจะทำให้ทุกคนเห็นว่าเราก็เก่งเหมือนกัน เราก็ทำได้เหมือนกัน เราก็เก่งไม่แพ้พี่สาว

อัพ : พาฝันก็คือคนที่เดินตามความฝัน เดินตามแพชชั่นของตัวเอง เดินตามหัวใจของตัวเอง ส่วนบทบาทที่ผมได้รับในเรื่องรับบทเป็น “กรณ์” ครับ ซึ่งเป็นคนที่มีความฝันแต่ล้มเหลว และเชื่อในการลงมือทำมากๆ

เบลล์ : ตัวกรณ์จะเป็นคนที่เก่งแต่ไม่มีความมั่นใจ

อัพ : ใช่ ไม่มีความมั่นใจ ไม่มีแพชชั่นขนาดนั้น แต่เชื่อว่าถ้าลงมือทำก็สามารถประสบความสำเร็จได้ครับ

เบลล์ : กรณ์ก็มาเจอกับพาฝัน ทำให้พาฝันก็กระตุ้นให้ความฝันที่กรณ์ฝันไว้แล้วคิดว่าจะล้มเหลว ซึ่งกรณ์ล้มเลิกไปแล้ว ทำให้กรณ์กลับมามีความฝันอีกครั้ง เพราะพาฝันเป็นคนที่มีความฝันและแพชชั่นสูงมาก แต่อาจจะขาดเรื่องความเก่ง ความความรู้ว่าธุรกิจเป็นยังไง โปรแกรมเป็นยังไง เขาไม่รู้เรื่องนี้ แต่พาฝันจะเป็นคนที่พรีเซ็นต์เก่ง ทำอะไรเก่ง พาฝันก็เลยเข้ามาช่วยเหลือกรณ์ ช่วยกันผลักดันว่าถ้าเรามีความฝันเราก็ควรจะพากันทำตามความฝันให้สำเร็จสิ

อัพ : เป็นคนใช้หัวใจนำ

เบลล์ : ใช่ค่ะ ถึงจะไม่ได้จบมาสูง แต่ผ่านการทำงานมาหลากหลายอาชีพ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เหมือนฝั่งเกาหลีที่พาฝันจะอยู่กับย่าสองคนค่ะ ซึ่งพาฝันจะมีสิ่งที่เป็นแรงผลักดันในชีวิตมากที่สุดก็คือพี่สาวค่ะ เพราะเขารู้สึกว่าพี่สาวเก่งมากเลยอะ แต่ทำไมเราไม่สามารถเป็นแบบเขาได้ อยากเป็นแบบเขาจังเลย พาฝันก็เลยร่วมมือกับ “3 กรไทยเทค” เพื่อให้ไปสู้กับพี่สาว

ทะเล : ผมทะเลครับ รับบทเป็น “ธนากร” หรือในเรื่องจะเรียกว่าแบงค์ครับ ทั้งสามคนทำธุรกิจด้วยกัน บริษัท 3 กรไทยเทค เป็นตัวแทนของวัยรุ่นที่เรียกว่ามีความสามารถ แต่ก็ยังไม่มีความรู้เรื่องทำธุรกิจก็เลยรู้แค่ว่าเราไปข้างหน้าอย่างเดียว ทำตามความฝันอย่างเดียวเรื่อยๆ ยังไม่เคยรู้ว่าระบบมันเป็นยังไง การทำงานในโลกของผู้ใหญ่จริงๆ เป็นยังไงครับ ส่วนตัวแบงค์จะมีปมอย่างหนึ่งคือเรื่องของเงิน ไม่ค่อยยอมเสียเปรียบใครและก็ไม่อยากให้ใครมาเอาเปรียบเราและเพื่อนเรา ก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะได้เห็นในเรื่องครับ

มาร์ท : ส่วนผมมาร์ทรับบทเป็น “คี คิรากร” ตัวคีจะเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้คอมมอนเซนส์เท่าไหร่ เช่น เขาเล่นมุกอะไรมาก็จะงงๆ หรือเขาจะจีบกัน เราไม่รู้ว่าควรทิ้งให้เขาอยู่ด้วยกันไหม

ทะเล :จริงๆ ทั้งสามคนไม่ค่อยมีประสบการณ์ในเรื่องเข้าหาสาวอยู่แล้ว ในเรื่องนะ

มาร์ท : จะป่วนๆ นิดหนึ่งครับ ตัวคีจะเป็นคนมีเอนเนอร์จี้เยอะกว่าเพื่อนๆ สามคน แล้วก็เป็นคนที่จะคอยช็อตฟิลเพื่อนๆ ไม่ค่อยมีคอมมอนเซนส์นี่และเป็นตัวป่วนเลย

เบลล์ : จังหวะนรกอะไรอย่างนี้เนอะ

มาร์ท : ถูกต้อง

แล้วแต่ละคนมีการตีความและดีไซน์ตัวละครกันยังไงบ้าง

อัพ : ระหว่างทางเรามีการเวิร์กช็อปด้วยกันครับ มีกระทั่งไปเวิร์กช็อปเรื่องของ Startup ที่จุฬาฯ ไปดูว่าการทำงานของ Startup เป็นยังไง มันต้องมีอะไรบ้าง ครั้งนั้นน่าจะเป็นครั้งแรกๆ ที่เราได้เจอกันเลย หลังจากนั้นก็มีการดีเวลลอปตัวละครและคาแร็กเตอร์กับครูร่ม

ทะเล : ซึ่งจะมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นออริจินัลด้วย เพราะหลายๆ อย่างถูกปรับให้มันย่อยง่ายขึ้น ทันสมัยขึ้น แล้วก็มีความเป็นไทยเข้าไปด้วย

เบลล์ : ใช่ ปรับให้เป็นวัฒนธรรมแบบประเทศไทย องค์ประกอบโดยรวมก็จะเป็นแบบเดิมคือเกี่ยวกับ Startup และความสัมพันธ์ แล้วพวกตัวละครพ่อแม่คุณย่าเหมือนกับออริจินัลหมดเลย

ด้วยความที่มีการปรับใส่ความเป็นไทยลงไป ผู้ชมจะได้เห็นผ่านองค์ประกอบไหนบ้างคะ

อัพ : ความจริงก็อยากให้ไปดูกันเองในเรื่อง เพราะบางองค์ประกอบที่ใส่เข้าไปทำให้มันกลายเป็นวัฒนธรรมในแบบของไทยมีหลายอย่างมาก สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ในซีน หรือที่เกิดขึ้นตลอดทางของเรื่อง บางอันเป็นองค์ประกอบที่มีความเป็นไทยจริงๆ เช่น ขนมชื่อประเทศอาจจะเป็นของไทยจริงๆ ก็ได้ ไม่แน่

เบลล์ : แต่จริงๆ ในอีพีหนึ่งก็จะเห็นเลยนะว่าพาฝันจะมีความเป็นไทยสูง แต่ความเป็นไทยของพาฝันทำอะไรเดี๋ยวต้องไปดูกัน แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนรีเลทได้อยู่แล้ว คนไทยจะต้องไหว้พระอะไรอย่างนี้

ทะเล : พูดถึงเรื่องไหว้พระก็มียาวๆ อีกนะ มีหลายตัวละครเลย มันจะมีสอดแทรกเป็น soft power เบาๆ อยู่เรื่อยๆ ครับ

มาร์ท : เรื่องมุกอะไรแบบนี้ก็จะเป็นสไตล์แบบไทยๆ

อัพ : เพื่อปรับให้คนไทยดูแล้วย่อยง่าย ดูสนุก ดูสบายครับ

สุดสัปดาห์ : มุกก็จะต่างจากเกาหลี มีความโบ๊ะบ๊ะ เพราะเกาหลีก็จะอีกจังหวะหนึ่ง

อัพ : แน่นอนครับ นี่คุณมาร์ทเขาทุ่มสุดตัวเลยนะ ตกบันดงตรงบันไดเขาทุ่มสุดตัวอยู่นะ

ทะเล : เขาเล่นใหญ่สุดๆ เรื่องแรกของน้องเลย

มาร์ท : ตกบันไดจะมีอยู่ฉากหนึ่ง เดี๋ยวไปลุ้นกันว่าเป็นฉากไหน (หัวเราะ)

อัพ : ลุ้นว่าเขาจะตัดมาใส่หรือเปล่า

มาร์ท : น่าจะใส่นะ

เรื่องนี้จะมีรสชาติหรือแนวแบบไหนบ้าง

เบลล์ : มีทุกแนวเลยค่ะ มีดราม่า ตลก จริงจัง โรแมนติก เรื่อง Startup

ทะเล : มีแอ็กชั่นด้วย

อัพ : แอ็กชั่นนี่ซ้อมนะ ซ้อมคิวนะ

เบลล์ : จริงๆ ในพาร์ต Startup พาร์ตธุรกิจมีเหมือนคล้ายๆ สอดแทรกความรู้ให้คนที่อยากจะเริ่ม Startupได้รู้เหมือนกันว่ากระบวนการเวลาจะไปพิชงานมันเป็นยังไง จริงๆ ไม่อยากให้ไปมองหรือเปรียบเทียบว่าทำไมเกาหลีเป็นแบบนี้ ไทยเป็นแบบนี้ คือเราแค่เอาองค์ประกอบ Startup มา แต่เราไม่ได้เอามาทุกองค์ประกอบค่ะ

ตอนได้ยินว่าจะได้แสดงโปรเจ็กต์นี้รู้สึกยังไงคะ

เบลล์ : ตัดสินใจได้ง่ายมาก พอเป็น START-UP เป็นซีรีส์ที่ชอบมากอยู่แล้ว พอมีโอกาสได้แคสต์ ได้เข้าไปคุย ยิ่งรู้สึกว่าอยากลองเล่นบทนี้ และเราสามารถครีเอตตัวละครพาฝันไปในเวย์ที่เราอยากให้เป็นได้ด้วย คือเวลาเป็นรีเมกเบลล์จะไม่กลับไปดูออริจินัลอีก เพราะจะกลายเป็นภาพจำ กลัวจะไปก็อปท่าทางหรืออย่างอื่นมาค่ะ เรื่องนี้ก็จะเป็น START-UP แบบไทยนี่แหละค่ะ

อัพ : ผมเชื่อว่านักแสดงทุกคนอยากดีไซน์ตัวละครออกมาให้ดีที่สุดในแบบของตัวเอง คือตัวละครไม่ได้ชื่อเดียวกับเวอร์ชั่นเกาหลี ตัวละครเราชื่อกรณ์ ตัวละครชื่อพาฝัน ชื่อธนากร คิรากรอะไรอย่างนี้ครับ ควรจะเป็นตัวละครนั้นนั้นที่ถูกดีไซน์ผ่านทั้งทางแอ็กติ้งโค้ช ผู้กำกับ และตัวนักแสดงเองด้วย ผมเชื่อว่าทุกตัวละครมีความกลม มีมิติหลายด้านที่อยากให้ทุกคนลองไปดูในเรื่องครับ

ส่วนความรู้สึกที่รู้ว่าจะได้เล่นเรื่องนี้ ตื่นเต้นครับ และตามมาด้วยความกดดัน เพราะของเกาหลีเขาทำมาดีมาก

เบลล์ : แล้วมันผ่านไปไม่กี่ปีด้วยเนอะ

อัพ : ใช่ครับ ตอนที่ตกลงรับ ยอมรับว่าผมค่อนข้างบ้าเทคโนโลยีอยู่แล้ว เคยพยายามจะทำ Startup มีเพื่อนที่ทำอยู่ใน Startup อยู่แล้ว เราเห็นคนรอบตัวทำมาตลอด เราเลยรู้สึกว่าอยากลองดู ถ้าเราเข้ามาเล่นจริงๆ มันจะเป็นยังไง ก็ศึกษาเยอะครับ ได้ศึกษาจากเพื่อนด้วย

ทะเล : ดีใจครับผมได้กลับมาร่วมงานกับ True CJ อีกรอบ และซีรีส์เรื่อง START-UP ก็ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว แต่ผมไม่เคยดูมาก่อนนะครับในเวอร์ชั่นออริจินัล ซึ่งทางครูร่ม แอ็กติ้งโค้ชบอกว่าไม่ต้องไปดู เดี๋ยวจะติดภาพมา เราต้องไว้ใจทางแอ็กติ้งโค้ช ผู้กำกับ และเล่นไปตามที่เขาบอก ทุกคนตั้งใจมาก อยากให้ทุกคนไปดูกัน

มาร์ท : เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกด้วยครับ รู้สึกกดดันพอสมควร เพราะผมใหม่กับการแสดงมาก แต่ผมก็เต็มที่กับทุกซีนทุกฉาก พยายามเอาความสามารถที่ตัวเองมีทำให้เต็มที่ หวังว่าผู้ชมจะชอบและให้กำลังใจพวกเราครับ

รู้สึกกดดันขนาดนั้นกับซีรีส์รีเมกเกาหลีที่ประสบการณ์

อัพ : ด้วยความเป็นรีเมก ต้องมีการเปรียบเทียบและกดดันอยู่แล้ว ก็อ่านคอมเมนต์นะ แต่อ่านเสร็จมันกลายเป็นแรงผลักดันให้เราอยากจะทำให้ออกมาดี ไม่ใช่แค่ผม แต่ทุกคน ทั้งทีมงาน ผู้กำกับเอง เชื่อว่าทุกคนยิ่งมีไฟในการทำงาน อยากให้ออกมาดีที่สุด

ทะเล : ไม่ได้จะมีจุดให้เปรียบเทียบได้ขนาดนั้น เพราะมีการอแดปมีการปรับเข้าไปด้วย อย่างผมเคยเล่นซีรีส์กับทาง True CJ อยู่แล้ว ก็โดนเปรียบเทียบเหมือนกัน แต่พอผลงานออกมา จะเห็นเองครับว่าเป็นแบบไหน

เบลล์ : ตอนปล่อยไลน์อัพ ก็เข้าไปอ่านคอมเมนต์ค่ะ อยากรู้ฟีดแบ็ก ยอมรับว่าตอนแรกนอยด์นะคะ แต่เรามาคิดได้ว่า ต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบอยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะโดนเปรียบเทียบ เราจะไม่เก็บเอาไปคิดเล็กคิดน้อย แค่ทำให้ดีที่สุด พอยิ่งอ่านบท ได้เวิร์กช็อป ถึงรู้ว่าไม่เหมือนเวอร์ชั่นเกาหลีเป๊ะขนาดนั้น มันคือ START-UP ของคนไทยนี่แหละค่ะ เรารอออนแอร์อย่างเดียว ไม่รู้สึกกดดันอะไรแล้วค่ะ เพราะเราเชื่อมั่นว่าทีมงานทุกคน ผู้กำกับ ทำเต็มที่มาก สุดท้ายแล้ว ณ ตอนนี้ผลงานออกมา เราอยากให้ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจ คอมเมนต์ติชมกันได้ตลอดเลยนะคะ

ก่อนแสดงมีไปเวิร์กช็อปเรื่อง START-UP กันมา ทำการบ้านหนักขนาดไหน แล้วศัพท์ยากเบอร์ไหน

เบลล์ : ศัพท์งงมาก

อัพ : ศัพท์ยากมาก

ทะเล : ต้องแก้โน่นแก้นี่

อัพ : พวกแก้โค้ดอะไรอย่างนี้

เบลล์ : สามคนนี้น่าจะโหด ให้สามคนนี้เล่าก่อนดีกว่า

อัพ : ผมโชคดีมีเพื่อนทำงานด้านนี้ เพื่อนเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่แล้ว ก็ไปนั่งอยู่คอนโดเพื่อน คอยถามโน่นนี่ หรือแม้กระทั่งอะไรที่อยู่ในซีนผมก็ยกไปถามเพื่อน ทุกคนช่วยผมมาก ทั้งทีมงาน ตัวผมเองช่วยอะไรได้นอกจากการแสดง ผมก็อยากจะทำครับ ตอนนั้นฟีดไอจีผมมีแต่เรื่องเอไอ เรื่อง Startup เต็มไปหมดเลย ไม่มีอย่างอื่นเลยครับ

ทะเล : ผมถามน้องชายบ่อยๆ เพราะน้องผมทำงานเป็น Dev บางทีก็สังเกตพฤติกรรมเขา น้องก็มีแนะนำว่าพี่เลอย่าไปนั่งหงอๆ อย่างนี้นะ เขาไม่ทำกันครับ

อัพ : พวกชื่อโปรแกรม ชื่อศัพท์เฉพาะ ต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม เพราะไม่เข้าใจว่าคืออะไร เลยต้องทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ด้วย ซึ่งตอนนี้ก็จำไม่ได้ครับ (หัวเราะ)

ทะเล : จริงๆ ผมกับมาร์ทก็มีพูดบ้าง แต่ส่วนใหญ่น่าจะหนักที่กรณ์ เพราะกรณ์จะเป็นคนที่ต้องอธิบาย

เบลล์ : ฉลาดที่สุดในสามคน

มาร์ท : เหมือนเดอะแบกในพวกเราสามคน

ทะเล : ใช่ คือบทกรณ์พูดอะไรมา เราจะรู้แล้วว่ากรณ์พูดมา เราต้องต่อด้วยอะไร แต่คนเปิดจั่วหัวมาก็คือกรณ์

จะมีฉากในตำนานที่ต้องพูดบนเวทีไหมคะ

เบลล์ : มีค่ะ ตื่นเต้นมาก และโหดมาก แล้วเป็นถ่ายแบบลองเทกค่ะ บทประมาณหน้าครึ่ง ตอนที่เราต้องขึ้นเวทีไปพิชงาน อย่างสามคนนี้เขาต้องเก่งและรู้เรื่องโปรแกรมใช่ไหมคะ พาฝันก็จะต้องรู้คำศัพท์เฉพาะของพวก Startup ซึ่งเบลล์ก็ไม่ได้รู้อะไรมาก่อนเลย มีไปเวิร์กช็อปกับคณะ Startup ที่จุฬาฯ สอนตั้งแต่เบสิกว่า Startup คืออะไร แต่ด้วยเวลามันน้อย อาจจะได้แค่เบสิก เบลล์ก็เลยต้องไปทำการบ้านกับตัวละครพาฝัน เพราะต้องเข้ากับพี่สาวเยอะ แล้วมีเส้นเรื่องดราม่ากับพี่สาวเรื่องครอบครัว

แล้วตอนถ่ายฉากพิชงานเป็นยังไงบ้าง

อัพ : เราสามคนคือยืนเอาใจช่วย นั่งลุ้นๆ

ทะเล : จำได้ว่าตอนนั้นหนักสุดน่าจะพี่เกรท พี่เกรทต้องอยู่ในฉากด้วย เป็นช่วงที่พี่เกรทก็แอ็กติ้ง แต่ไม่มีบทพูด และต้องถ่ายทั้งวัน

เบลล์ : ซีนพูดมีหลายฉาก สำคัญและยากทุกฉากเลย เหมือนซีนซีนหนึ่งเวลาขึ้นไปพูดก็จะใช้เวลาถ่ายครึ่งวัน อยู่ในฮอลล์ยาวๆ

อัพ : พวกเราสามคนนั่งลุ้นกันหนักมาก ลุ้นทั้งในความเป็นตัวละครเอง ลุ้นว่าจะพิชได้หรือเปล่า แล้วก็ลุ้นในความเป็นนักแสดงว่าเพื่อนเราจะพูดได้ครบไหม

ซีนไหนที่ชอบที่สุดของแต่ละคน

อัพ : ชอบหลายซีนเลยครับ ชถ่ายไปสักแป๊บนึงพวกเราเริ่มซิงก์กันแล้ว ในฐานะนักแสดงผมรู้สึกว่าช่วงนั้นสนุกมาก พอได้ร่วมงานกันกลายเป็นว่าทุกครั้งที่ไปเหมือนไปเล่นมากกว่าไปทำงาน เหมือนไปปล่อยของ มีอะไรก็ปล่อยกัน

ทะเล : บางคนหมดซีนแล้วก็ยังไม่กลับบ้านนะ

เบลล์ : มีอะไรก็เอาไปขายผู้กำกับ ซื้อไม่ซื้ออีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราอยู่ด้วยกันยาวเหมือนกันค่ะ ประมาณหกสิบกว่าคิว เกือบปีได้ค่ะ

เบื้องหลังการถ่ายทำบันเทิงขนาดไหนคะ

มาร์ท : สนุกมากครับ

ทะเล : ผมว่าอายุไล่เลี่ยกันด้วยแหละ

อัพ : แกล้งกันสุดๆ

มาร์ท : ผมว่าการเข้าฉากเหมือนไปเล่นกับเพื่อนมากกว่า มันสนุกมาก หลังๆ สนิทกันจนเวลาไปถ่ายรู้สึกอยากไปเจออยากไปเล่นไปเข้าฉากด้วยกัน

ทะเล : ในมือถือผมมีรูปหลุดเต็มเลย ส่วนใหญ่จะเป็นพี่เกรทหลับ

อัพ : ทุกคนชอบถ่ายพี่เกรทหลับ

ทะเล : เพราะพี่เกรทชอบหลับท่าแปลกๆ แล้วอยู่ที่แปลกๆ เช่น ปูเสื่อนอนเลย กลางลาน

การร่วมงานกันของทั้งสี่คนเป็นยังไงบ้าง

เบลล์ : จริงๆ เราค่อยมาซิงก์กันช่วงคิวหลังๆ จริงๆ ในทีมจะมีพี่แคทย่าอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่ทำดีไซน์ในทีม

ทะเล : เพราะเจอกันตั้งแต่เช้าจรดเย็นไปเรื่อยๆ ก็เริ่มสนิทกันขึ้นไปเรื่อยๆ

เบลล์ : เริ่มแกล้งกัน

ทะเล : แล้วก็มีนัดกันนอกรอบ เลิกงานก็ไปกินข้าวต่อกันด้วย

พูดถึงเบลล์กับพี่เกรทก็จะมีเส้นเรื่องของความเป็นรักแรกกันอยู่ เป็นยังไงบ้างเคมีและความเข้าขากัน

เบลล์ : กับพี่เกรทก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหา เพราะเคยร่วมงานกันมาแล้ว พอสนิทกันอยู่แล้วก็จะมีความเชื่อใจกัน ก็จะเล่นแบบปล่อยออกมาเลย รู้สึกแบบไหนก็แสดงออกมาแบบนั้นเลย แล้วก็ช่วยเหลือรับส่งกัน

แล้วเคมีกับพระเอกเป็นยังไงบ้าง

เบลล์ : ไม่เคยเล่นกับพี่อัพมาก่อน แต่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว

อัพ : เรียนโรงเดียวกัน เคยเห็นหน้าคร่าตากันมาบ้าง รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมยันมัธยม

เบลล์ : แต่ไม่เคยคุยกันเลยที่โรงเรียน แล้วได้มาเล่นคู่กัน ตอนแรกก็แอบเกร็งนิดหนึ่ง เขาจะเป็นคนยังไงน้า แต่พอร่วมงานกันไปเรื่อยๆ ก็อ้าว! เป็นคนนิสัยเหมือนเรานี่แหละ ก็โดนปลูกฝังมาแบบเรานี่แหละ

อัพ : ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเบลล์ และรู้สึกว่าเป็นน้องที่น่ารักมากๆ อยู่แล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากจะไปพูดคุยกับเขาสักหน่อย สมัยนั้นเราก็ยังเป็นเด็กอ้วนสองคน กินข้าวเหนียวไก่ทอดกันอยู่ เจอกันตามร้านข้าวเหนียวไก่ทอด ซึ่งก็ดีใจที่ได้วนกลับมาเจอกัน โรงเรียน EIS (Ekamai International School) เฮ้ย! บอกชื่อโรงเรียนไปแล้ว

ในเวอร์ชั่นเกาหลีพระเอกกับพระรองเหมือนคู่ปะทะกันนิดหนึ่ง ปกติเวลาแกล้งเขาจะทำตัวเล็กตัวน้อย เวลาเข้าฉากเขาเป็นยังไง

อัพ : เขาเอาจริง เขาดุ เขานี่นักช็อตฟิลเลยนะในเรื่อง เล่นด้วยกันสนุกมาก

ทะเล : เวลาสามกรทำอะไร ก็เอาแล้ว เดินเบ่งกล้ามมาแล้ว

อัพ : เสื้อนี่รัดจัด

เบลล์ : รัดทุกคิว และรัดขึ้นทุกคิวด้วย

สุดสัปดาห์ : เขาต้องใส่สูทด้วยใช่ไหม

เบลล์ : ใช่ แล้วช่วงที่เราถ่ายก็อากาศร้อนมาก

อัพ : สุดๆ สงสารพี่เกรทสุดๆ อย่างพวกเรา 3 กรเสื้อยืดกางเกงยีนสบายๆ ตลอด

พูดถึง 3 กรพอดี การร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง

อัพ : เปิดคิวมาถ่าย 3 กรก่อนเลย

ทะเล : ฉากออฟฟิศแรกของ 3 กรเป็นคิวแรกๆ ของเรื่องพอดี

มาร์ท : อยู่ด้วยกันทั้งวันสามสี่วันติดเลยเนอะ

ทะเล : แล้วเป็นการออกกองครั้งแรกของมาร์ทด้วย

สุดสัปดาห์ : ดูแลน้องกันยังไงบ้าง

อัพ : รับน้องเลยครับ

มาร์ท : น้องช็อตไปเลยครับ แต่ก็ผ่านไปได้ครับ ก็พยายามเต็มที่ พยายามพัฒนาตัวเอง

อัพ : แต่มาร์ทเก่งขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ นะจากวันแรกที่เจอ แล้วเก่งขึ้นเร็วมาก

ทะเล : จริงๆ วันแรกก็เก่งอยู่แล้ว แต่เก่งขึ้นอีก

อัพ : ตอนวันแรกเหมือนยังไม่ซิงก์ แต่พอผ่านไปแป๊บนึงวันสองวันก็เลยซิงก์ จังหวะเริ่มได้ คือมันมีอีกซีนที่ชอบมากๆ คือซีนที่กอดกันสามคน กอดจนร้องไห้ รู้สึกว่าคอนเน็กกันมากๆ ภายในเวลาแค่แป๊บเดียว ก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงแรกๆ ที่ถ่าย 3 กร โหดจัดเลย

ทะเล : หลังๆ เวลาเราไปอาจจะไม่ได้เข้าทุกซีน เพราะมีหลายคน แต่ตอนนั้นคือสามวันแรกเราต้องอยู่ด้วยกันทุกซีนสามวันติด

เบลล์ : เรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายเรียงซีน จะเรียงเป็นโลเกชั่นมากกว่าค่ะ อย่างเช่น บริษัท 3 กร เขาก็จะถ่ายตั้งแต่อีพีแรกจนท้ายๆ เลย มันก็ต้องเรียบเรียงความสัมพันธ์ แต่เขาดูซิงก์กันมาก

ถ้าเปิดบริษัท Startup อยากจะทำอะไร

อัพ : ผมอยากทำเซอร์วิสเกี่ยวกับการศึกษา เคยเป็นแผนของผมตอนที่เรียนช่วงปีสองปีสาม เคยคุยกับเพื่อนว่าอยากทำแมชชิ่งระหว่างผู้สอนกับนักเรียน แต่ความจริงมีแล้วนะครับทุกวันนี้เป็นแพลตฟอร์มอยู่บนเว็บไซต์ มีหลายเจ้าเหมือนกันครับ ผมอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการศึกษาครับ

เบลล์ : อยากทำอะไรที่สามารถคอนเน็กคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ได้มั้งคะ เพราะส่วนตัวที่บ้านมีคนแก่เยอะ แล้วพอเป็นวัยเราจะดีลกับเขาได้ยาก ถ้ามันมีอุปกรณ์อะไรสักอย่างสามารถทำให้เขาเข้าใจเราได้ แล้วเราสามารเข้าใจเขาได้ง่ายขึ้น น่าจะดี เพราะยายเบลล์เป็นพาร์กินสันก็เลยต้องดูแลมากกว่าปกติ ในวันที่เราไม่อยู่บ้านแล้วสามารถมีอะไรที่ทำให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้ก็น่าจะดี

ทะเล : เอาตามแพชชั่นตัวเองเลย พวกตู้กาแฟที่อยากทำเป็นแบบสเปเชียลเรื่องเม็ดกาแฟโน่นนี่นั่นมีแบบเฉพาะเจาะจงเลย

มาร์ท : ผมเคยคิดเล่นๆ อยากทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ติดไว้หลังรถแล้วใช้คำสั่งเสียงพูดว่ามีเหตุเกิดข้างหน้านะ ตอนนี้กำลังมีอุบัติเหตุเพื่อแจ้งรถข้างหลังประมาณนี้ครับ เป็นไง

คิดว่าถ้าผู้ชมได้ดูเรื่องนี้จะได้เห็นอะไรหรือรับสารอะไรไปบ้าง

ทะเล : ถ้ามุมเรา 3 กรก็จะเป็นเรื่องมิตรภาพมากกว่าว่าระหว่างทางถ้าเราต้องจริงจัง ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ ร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน อาจจะมีปัญหากันบ้าง แต่ว่ามันก็ต้องผ่านไป

เบลล์ : สำหรับตัวเบลล์คิดว่าน่าจะเป็นการได้เห็นมุมต่างๆ ของประเทศไทย เพราะเราไม่ได้ถ่ายแค่ที่กรุงเทพฯ และ True Digital Park ยังมีไปถ่ายต่างจังหวัด

เบลล์ : เอาจริงๆ ตอนถ่ายร้อนมาก เหนื่อยมาก แต่ภาพออกมาหายเหนื่อย มันสวยมาก

อัพ : เหมือนบินไปถ่ายที่สวิตฯ มีวัวด้วยนะ

เบลล์ : มันก็จะมีหลายซีนในประเทศไทยที่โชว์ให้ได้เห็น และในเรื่องก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการตั้ง Startup ขึ้นมาว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง เหมือนได้ How To

อัพ : สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราหลงใหลในการเป็นนักแสดงคือ การได้เป็นตัวละครที่เราเคยคิดว่าไม่น่าจะได้เป็นแน่นอนในชีวิตจริง ไม่มีทางที่เราจะได้ทำสิ่งนี้ในชีวิตจริงแน่ๆ แล้วแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เราได้ลองเป็นอาชีพอาชีพนี้ ได้ลองเป็นคนคนนี้ ผมคิดว่าเป็นความโชคดีที่เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกว่าไม่อยากที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เสมอ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวงการ Startup เยอะมาก เชื่อว่าผู้คนก็จะได้รับข้อมูลไปเหมือนกัน

เบลล์ : และยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวด้วยค่ะที่จะทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ครอบครัวในหลากหลายมุมค่ะ

ฝากซีรีส์หน่อยค่ะ

เบลล์ : ฝากซีรีส์เรื่อง START-UP ด้วยนะคะ ออนแอร์เรียบร้อยค่ะทุกวันศุกร์-เสาร์ เวลาสองทุ่มตรง ดูฟรีที่ True ID นะคะ สามารถดูได้ทั้งทางโทรศัพท์หรือจากทางกล่อง True Vision ก็สามารถดู True ID ได้เลยค่ะ

 

 

TEXT : ImJinah

PHOTO : นวพจน์ โพธิเกษม

 

 

อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชียดาราเกาหลี ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

พูดคุยกับ WOODZ ศิลปินเดี่ยวเกาหลีคนเก่งระดับ all rounder ที่จะทำให้รู้จักเขามากขึ้นในหลากหลายแง่มุม

Young K เปิดใจถึงการชาลเลนจ์อะไรใหม่ๆ บนเส้นทางบันเทิง เบื้องหลังออกรายการ Bam House และความทรงจำเกี่ยวกับเมืองไทย และไทยมายเดย์

คุยกับ CRAVITY แชร์ความประทับใจที่มีลอบิตี้ชาวไทย พร้อมแอบเมาท์เมมเบอร์