อีกหนึ่งประเทศที่ธุรกิจบันเทิงขึ้นชื่อสุดๆ คงหนีไม่พ้นเกาหลีใต้ ที่ไม่ว่าจะมีเพลงอะไร ซีรี่ย์เรื่องไหน หรือแม้แต่หนังโรง ก็ทำออกมาโดนใจคนดูแบบสุดๆ มีหนังเกาหลีหลายเรื่องเลย ที่แม้จะเก่า แต่หยิบมาดูกี่ครั้งก็ทั้งอินทั้งซึ้ง สุดฯ เลยอยากชวนขุดกรุ ไปดู หนังเกาหลี 5 เรื่องนี้ ที่เรียกว่าเป็นหนังในตำนานเลยก็ว่าได้ ใครยังไม่ได้ดูถือว่าพลาด
5 หนังเกาหลี ในตำนาน ดูแล้วต้องแอบหลั่งน้ำตา
The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต ฉายเมื่อปี 2003 แบ่งเรื่องราวเป็นความรักของคน 2 ยุค คือยุคในปัจจุบัน เรื่องราวของจีแฮที่มีเพื่อนสนิทชื่อซูคยัง ทั้งคู่แอบปลื้มซางมิน เพื่อนในชมรมละครเวที ซูคยังให้จีแฮช่วยเขียนจดหมายรักส่งให้ซางมินอยู่หลายครั้ง จีแฮก็ช่วยเขียนทั้งที่ก็มีใจให้ซางมินเหมือนกัน จีแฮพยายามหลบหน้าซางมินเพื่อให้ซูคยังได้เป็นแฟนกับซางมิน แม้ว่าเธอจะปวดใจแค่ไหนก็ตาม จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้ค้นพบสมุดบันทึกและจดหมายรักของคุณแม่ในตู้เก็บของ และทำให้เธอได้รู้ความรักของคุณแม่ที่เก็บเอาไว้ ซึ่งเป็นความรักที่ต้องแอบซ่อนเหมือนกัน
เนื้อเรื่องอีกส่วนคือยุคปี 1968 จูฮีพบรักแรกกับจุนฮาในวันหยุดฤดูร้อนที่ชนบท แต่เธอถูกผู้ใหญ่หมั้นหมายให้แต่งงานกับลูกชายพ่อค้าใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนกับจุนฮา ทั้งคู่จึงต้องเก็บงำความรู้สึกที่มีต่อกัน ปิดบังทั้งเพื่อนและพ่อ เพื่อแอบพบกันอย่างลับๆ
เป็นเรื่องราวความรักที่คลาสสิกสมชื่อเรื่อง และทำให้คนดูต้องอินกับเรื่องราวของคนทั้งสองยุค จนต้องร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง เรื่องนี้หลายคนลงความเห็นว่า หยิบมาดูเมื่อไหร่ก็ยังอิน และต้องร้องไห้ตามทุกครั้ง
My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม ฉายครั้งแรกเมื่อปี 2001 และเป็นหนังแจ้งเกิดให้กับจอนจีฮยอน และชาแทฮยอน โดยทั้งคู่ก็เลยได้ชื่อไทยว่า “ยัยตัวร้าย” กับ “นายเจี๋ยมเจี้ยม” ไปโดบปริยาย ต่อมาไม่ว่าเล่นเรื่องไหน ชื่อหนังหรือละครในเวอร์ชั่นไทยก็จะต้องมีฉายานี้อยู่ในชื่อทั้งนั้น เป็นหนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่แน่นอนว่าต้องแอบแทรกฉากดราม่าเบาๆ ตามสไตล์เกาหลี นอกจากจะทำให้เราฮา อมยิ้มไปด้วยแล้ว ยังแอบเรียกน้ำตาคนดูอีกต่างหาก
เรื่องราวของนักศึกษาหนุ่มที่ซื่อและไร้เดียงสานามว่า คยอนอู กับหญิงสาว ผู้ซึ่งไม่ถูกเอ่ยชื่อถึงเลยในหนัง (อย่างนี้ก็ได้เหรอ) คยอนอูเพิ่งจะโดนแม่ของเขาไล่ให้ไปอยู่กับป้า แล้วมาพบกับหญิงสาวที่กำลังอยู่ในสภาพมึนเมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน เธอเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์แปรปรวน เข้าใจยาก เขารู้สึกโชคไม่ดีที่มาพบเธอ แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มสนิทสนมกัน และมีเหตุการณ์ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นมากมาย
เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากๆ ในหลายประเทศ จนทำให้ทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอินเดีย ถึงขนาดสร้างเวอร์ชั่นของประเทศตัวเองขึ้นมาเลยนะ หยิบมาดูเมื่อไหร่ เราก็ต้องอมยิ้มกับความน่าเอ็นดูของนายเจี๋ยมเจี้ยม และความกวนประสาทสุดๆ ของยัยตัวร้ายเมื่อนั้น
Il Mare ลิขิตรัก ข้ามเวลา ฉายครั้งแรกเมื่อปี 2000 เรื่องราวความรักที่ถูกกั้นด้วยห้วงเวลา ทำให้พระเอก-นางเอก ไม่สามารถสมหวังได้ เรื่องนี้ประทับใจและเรียกน้ำตาคนดูไปเป็นปี๊บเลยทีเดียว
เรื่องราวของ ซังฮุล สถาปนิกหนุ่ม ที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งริมทะเลที่ชื่อว่า “อิล มาเร” บ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านของป้าของเขามาก่อน จึงไม่มีใครเคยย้ายเข้ามาอยู่ก่อนหน้านี้ แต่แล้วเขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเปิดดูในตู้จดหมายหน้าบ้าน แล้วพบจดหมายฉบับหนึ่งที่ลงปี ค.ศ. 1999 ลงชื่อว่า อึนจู เขาตกใจและคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น เพราะปีปัจจุบันที่เขาอยู่นั้นคือปี ค.ศ. 1997
วันหนึ่งซังฮุลได้พบลูกสุนัขหลงทางมา และทำให้เขาเริ่มเข้าใจในจดหมายของอึนจู เหตุการณ์ประหลาดทำให้ทั้งคู่พบว่า ตู้จดหมายบ้านอิลมาเรเป็นรอยต่อระหว่างช่วงเวลา แต่ทั้งคู่ไม่สามารถพบกันในจุดร่วมเวลาเดียวกันได้ แม้จะมีใจให้กันก็ตาม
หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากๆ จนถึงขนาดที่บริษัท Warner Brothers ขอซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใหม่ในชื่อ “The Lake House” และฉายในปี 2006
The Way Home คุณยายผมดีที่สุดในโลก หนังเกาหลีเรื่องนี้ฉายในปี 2002 เป็นหนังเกี่ยวกับครอบครัวที่เรียกได้ว่าค่อนข้างเรียลเลยทีเดียว เมื่อเด็กที่อยู่ในวัยแก่นเซี้ยว ช่างต่อต้าน ต้องมาอยู่กับคนแก่เพียงลำพัง ช่องว่างระหว่างวัยกลับกลายเป็นเรื่องซึ้งๆ ที่ดูแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาแทบไม่ทัน
เรื่องราวของ ซังวู ที่เคยอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ แต่แม่ต้องพาเขามาฝากให้คุณยายซึ่งเป็นใบ้เลี้ยง ซังวูต้องอยู่ในชนบทที่แตกต่างจากเมืองหลวงที่เขาเคยอยู่อย่างสิ้นเชิง ที่นี่ไม่มีทั้งโทรศัพท์ ไม่มีทั้งของเล่น สิ่งเดียวที่พอจะทำให้เขารู้สึกหายหดหู่คือ เครื่องเล่นเกม เขาและยายต้องสื่อสารกันด้วยภาษามือ และถึงแม้จะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ยายก็ดูแลซังวูเป็นอย่างดี จนเกิดความใกล้ชิดและความผูกพันกัน กลายเป็นภาพที่น่ารัก แถมซึ้งสุดๆ
The King and The Clown กบฏรักจอมแผ่นดิน หนังเกาหลีเรื่องนี้ฉายครั้งแรกในปี 2005 หลายคนยอมรับว่า ที่ตี๋ตั๋วเข้าไปดูเพราะพระเอกหน้าหวาน อีจุนกิ แต่พอดูแล้วกลับได้อะไรมากกว่าที่คิดเยอะ ได้รู้เรื่องประวัติศาสตร์เกาหลี และยังมีฉากให้ต้องเสียน้ำตาตามตัวละครอีกด้วย
หนังเรื่องนี้อิงประวัติศาสตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงในสมัยพระเจ้ายอนซัน แห่ง ราชวงศ์โชซอนโดยอิงจากข้อความเล็กๆ ในพงศาวดารราชวงศ์โชซอน ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ายอนซันกับนักแสดงละครเร่หนุ่ม 2 คนได้แก่ จางซัง และ กองกิล ผู้รับบทตัวตลก ซึ่งถูกจับกุมเนื่องด้วยกระทำการแสดงที่ล้อเลียนกษัตริย์ และจะได้รับการอภัยโทษ หากทำให้ผู้เป็นกษัตริย์นั้นหัวเราะได้ เนื้อเรื่องดำเนินถึงความสัมพันธ์แบบรักสามเส้าของพระราชาและนักแสดงละครเร่ทั้ง 2 คน จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและชวนติดตาม และมีหลากหลายมุมมองด้านการเมืองผ่านตัวละคร
แม้จะเป็นหนังที่ค่อนข้างซีเรียส แต่ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีจนแทบไม่อยากกะพริบตา และทำให้คนดูวิเคราะห์เรื่องราวไปได้หลากหลายมุม
ภาพจาก blog.daum.net , baomoi.com , www.opencollege.kr , leendashinhyunjae.wordpress.com , mubi.com , doramakun.ru
TEXT : Ploychompoo
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
10 หนังไทยร้อยล้าน ที่คอหนังไม่ควรพลาด #ถ้ายังไม่เคยดูควรหามาดูนะ
โอตะพร้อมมั้ย?? เฌอปราง BNK48 เล่นหนังครั้งแรกกับค่าย GDH
รวม หนังในจักรวาลมาร์เวล 18 เรื่อง ที่ควรตามเก็บก่อนดู Avengers: Infinity War