คิมอูบิน - ซงซึงฮอน แท็กทีมในซีรี่ย์เกาหลี Black Knight จาก Netflix #มีเรื่องย่อ

ใครที่เป็นแฟนคลับคิมอูบินมามุงกันด่วนๆ คิมอูบินกำลังมีผลงานซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่แล้วกับซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Black Knight เป็นออริจินัลซีรี่ย์เกาหลีของ Netflix ที่มีคิวจะลงจอในเดือนพฤษภาคม 2023 นี้แล้ว ซึ่งบอกเลยว่าเป็นซีรี่ย์เกาหลีเรื่องอีกในปี 2023 ที่น่าดูมากๆ

Black Knight, คิมอูบิน, 김우빈, Kim Woo Bin, ซงซึงฮอน, คังยูซอก, อีซม, Netflix, ซีรี่ย์เกาหลี Netflix, ซีรี่ส์เกาหลี Netflix, ซีรี่ส์เกาหลี Netflix

เรื่องย่อ Black Knight ผลงานซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่ของคิมอูบิน

ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Black Knight ได้ส่งสัญญาณเตรียมจะปล่อยให้ได้ชมกันแล้ว ด้วยการปล่อยทีเซอร์และโปสเตอร์ออกมาโดยBlack Knightจะเล่าเรื่องราวการปฏิบัติการของ Black Knight หรืออัศวินขนส่งในโลกอันไร้ระเบียบ โดยเรื่องนี้จะพาผู้ชมไปติดตามการเดินทางของซาวอล เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัย และ “5-8” อัศวินขนส่งในตำนาน กับการต่อกรกับชอนมยองกรุ๊ปอันทรงอิทธิพลโดยมีฉากหลังเป็นประเทศเกาหลีที่ล่มสลายจากมลพิษทางอากาศอันเลวร้าย จนไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเอาชีวิตรอดได้โดยปราศจากหน้ากากออกซิเจน

คิมอูบิน, 김우빈, Kim Woo Bin, ซงซึงฮอน, คังยูซอก, อีซม, Netflix, ซีรี่ย์เกาหลี Netflix, ซีรี่ส์เกาหลี Netflix, ซีรี่ส์เกาหลี Netflix

ทั้งนี้ ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องBlack Knightเป็นซีรี่ย์เกาหลีที่หยิบมาจากเว็บตูนเรื่อง “Delivery Knight” (เขียนโดย อียุนกยุน) แล้วได้โจอึยซอกมารับหน้าที่กำกับและเขียนบทซีรี่ย์ แถมขนทัพนักแสดงสุดปังมาแน่นจอ นำมาโดยคิมอูบินและซงซึงฮอน พร้อมด้วยคังยูซอก และอีซม แถมยังมีนักแสดงอีกมากมายในเรื่องจ้า โดยในเรื่องจะเต็มไปด้วยฉากแอ็กชั่นเร้าใจสุดระห่ำที่จะทำให้ผู้ชมได้ลุ้นจนลืมหายใจ

ภาพโปสเตอร์ใหม่นี้เรียกความสนใจจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี ด้วยภาพของคิมอูบิน นักแสดงนำที่รับบท “5-8” ที่กำลังจับหน้ากากอันเป็นเอกลักษณ์และมองมาด้วยสายตาที่เคร่งขรึม ท่ามกลางพื้นหลังที่แสดงให้เห็นโลกอันรกร้าง ปกคลุมไปด้วยผืนทรายและมลพิษ

ส่วนทีเซอร์แรกของซีรี่ย์Black Knightที่เพิ่งปล่อยออกมาก็เผยภาพของโลกที่ล่มสลาย ซึ่งการเอาตัวรอดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ตัวละคร 5-8 ของคิมอูบินได้ทำให้เห็นถึงบทบาทของBlack Knight ผู้เสี่ยงชีวิตเข้าปกป้องรถบรรทุกสินค้า จากนักล่าที่ออกปล้นชิงสิ่งของจำเป็นอย่างออกซิเจน รวมทั้งแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งคือสิ่งที่จำเป็นต่อการเอาตัวรอดในโลกใบนี้

กรุงโซลที่เคยเป็นมหานครอันรุ่งเรือง ตอนนี้จมอยู่ใต้ผืนทราย และออกซิเจนที่ใครๆ ก็เคยเข้าถึงได้ง่ายๆ ตอนนี้กลับต้องแจกจ่ายกันไปในปริมาณมากหรือน้อยตามชนชั้นทางสังคม โดยใช้คิวอาร์โค้ดที่ฝังอยู่บนหลังมือของแต่ละคนเป็นระบบแบ่งแยกชนชั้น ตอกย้ำให้ภาพความเหลื่อมล้ำในสังคมเด่นชัดยิ่งขึ้น

และอีกหนึ่งความน่าสนใจของซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนี้ก็คือเราจะได้เห็นเทคโนโลยีล้ำสมัยสอดแทรกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น ทำให้โลกในซีรีส์ดึงดูดสายตาผู้ชมมากยิ่งขึ้นไปอีก แล้วขอบอกเลยว่ายิ่ง Netflix ทยอยปล่อยภาพและทีเซอร์ออกมาเรื่อยๆ ก็ยิ่งเห็นถึงความเดือดและหายนะราวกับหลังวันสิ้นโลก ที่จะเกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีที่รกร้างดั่งทะเลทราย และมีประชากรเพียง 1% เท่านั้นที่ยังมีชีวิตรอด

อย่างที่บอกไปว่าในเรื่องนี้จะได้นักแสดงนำสุดปังมาแสดง โดยนอกจากจะมีคิมอูบินในบทบาท “5-8” อัศวินขนส่งในตำนาน ที่เป็นเสมือนที่พึ่งของมวลมนุษยชาติ โดบเขาต้องทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนและสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชนในเวลากลางวัน แต่ตกกลางคืน เขาจะกลายเป็นเป็นอัศวินBlack Knight ที่มีแผนจะพลิกระเบียบโลกซึ่งชอนมยองกรุ๊ปได้วางไว้เพื่อผูกขาดโลกที่ล่มสลายใบนี้แล้ว ยังมี “รยูซอก” ที่แสดงโดย ซงซึงฮอน ทายาทสุดอำมหิตของชอนมยองกรุ๊ป คือผู้ที่ยืนอยู่คนละข้างกับ “5-8” เพราะเขาต้องการสร้างโลกที่ไม่เหลือที่ยืนให้กับผู้ลี้ภัยอีก

ไหนจะยังมี “ซอลอา” รับบทโดย อีซม ทหารหญิงประจำหน่วยข่าวกรองกลาโหม ต้องออกปากเตือน “5-8” ว่าสถานการณ์ความวุ่นวายนี้อาจบานปลายเกินควบคุม ในขณะที่ “ซาวอล” (รับบทโดย คังยูซอก) เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัยที่ฝันอยากเป็นBlack Knight ได้ปีนขึ้นรถบรรทุกของ “5-8” ด้วยความฮึกเหิมที่จะร่วมศึกนี้ด้วยอีกคน เรียกว่านักแสดงปัง บทเดือด โดยนอกจากจะได้เห็นฉากแอ็กชั่นแล้ว Netflix แย้มว่ายังดราม่าเข้มข้นอีก

แล้วฉากแอ็กชั่นที่จะเห็นในเรื่อง ก็มีทั้งฉากขับรถไล่ล่าบนเนินทราย ฉากผจญเพลิงสุดระทึก และฉากต่อสู้มือเปล่าที่ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบ โดยผู้กำกับโจอึยซอกตั้งใจจะสร้างฉาก “ที่ดูสมจริงและมีสีสันมากขึ้น” เมื่อเทียบกับเว็บตูนต้นฉบับ นอกจากจะได้ลุ้นไปกับภารกิจของ “5-8” ที่วางแผนจะทลายโลกอันบิดเบี้ยว ผู้ชมยังจะได้สนุกไปกับการติดตามดูความทะเยอทะยานสุดโหดเหี้ยมของรยูซอก

เส้นทางการไล่ล่าความฝันที่จะได้เป็น Black Knight ของซาวอล และการสืบสวนเพื่อเปิดโปงความลับแสนสกปรกเบื้องหลังชอนมยองกรุ๊ปของซอลอาอีกด้วย เรียกได้ว่า เรื่องราวในจักรวาลของซีรีส์ Black Knight นั้นเต็มไปด้วยความสนุกที่พลาดไม่ได้

ผู้กำกับโจอึยซอกกล่าวถึงการตัดสินใจรับทำโปรเจ็กต์นี้ไว้ว่า “ตอนที่อ่านเว็บตูนเรื่องนี้ครั้งแรก ผมรู้สึกเลยว่าการดำเนินเรื่องนั้นออกจะล้ำมาก เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องคนส่งของทั่วๆ ไปที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่เป็นคนส่งของที่ต้องต่อสู้กับนักล่าเพื่อส่งออกซิเจนและของใช้จำเป็น หมายความว่าคนกลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ ซึ่งทำให้ผมสนใจมากๆ เลยครับ”

รอติดตามเรื่องราวสุดเข้มข้นในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Black Knightได้ โดยจะปล่อยพรีเมียร์ให้ได้รับชมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ที่ Netflix เท่านั้น