ถ้าพูดถึงซีรี่ย์เกาหลีที่ร้อนแรงและมาแรงมากในช่วงก้าวสู่ครึ่งปีหลัง 2021 ก็ต้องยกให้ Nevertheless เลย ที่ทำให้คนดูอินหนักมากและเริ่มเกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องราวในเรื่องค่ะ สุดฯ เองก็จะมาชวนทุกคนคุยเกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อเรื่องนี้ผ่าน รีวิว Nevertheless
รีวิว Nevertheless ซีรี่ย์เกาหลีที่สะท้อนความสัมพันธ์
พล็อตเรื่องที่หยิบเรื่องความสัมพันธ์มานำเสนอ
Nevertheless เป็นซีรี่ย์เกาหลีที่ชูโรงเรื่องความรักหรือความสัมพันธ์เป็นหลักเลย ด้วยการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของพัคแจออน (รับบทโดย ซงคัง) ผู้ชายที่ไม่อยากคบหากับใคร แต่อยากจะออกเดท กับยูนาบี (รับบทโดย ฮันโซฮี) ผู้หญิงที่เจอความเจ็บปวดจากความรัก แม้เธอจะมีบาดแผลกับความรัก แต่พอได้เจอพัคแจออนก็ทำให้เธอไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้หลงรักพัคแจออนได้
ขอบอกเลยว่าเรื่อง Nevertheless ไม่ใช่เรื่องที่เล่าเรื่องความรักแบบในอุดมคติหรือที่เราเคยเห็นมาในละครเรื่องอื่นที่พระนางตกหลุมรักกันและมอบหัวใจทั้งดวงให้เธอ สายตาฉันจะไม่เหลียวไปมองใคร แม้จะมีอุปสรรคมากมาย แต่เพราะความรักที่ทั้งคู่มีให้ต่อกันก็ทำให้ผ่านพ้นทุกอุปสรรคมาได้ ฯลฯ เพราะเรื่อง Nevertheless เล่าเรื่องความรักอีกแบบเลย จะพูดเกี่ยวกับความรักที่มีความสมัยใหม่ขึ้นและดูสมจริงมากๆ ก็ว่าได้ อาจดูแปลกใหม่สำหรับซีรี่ย์เกาหลีก็จริง แต่ความสัมพันธ์แบบในเรื่องก็มีอยู่จริงๆ ในสังคมค่ะ
ในแง่ของการมองความรักและความสัมพันธ์ที่ยูนาบีเจอมาก็แสนเรียล กับเรื่องของผู้หญิงที่ความรักครั้งเก่าจบแบบไม่สวย และยูนาบีเองก็เป็นคนที่ทุ่มเทกับความรักมากๆ ในวันที่อกหักกลับมาเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่มีเสน่ห์เย้ายวนจนทำให้ละสายตาไปจากเขาไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายคนนี้ดูไม่ได้จริงจังกับความสัมพันธ์ แต่รักนี้ห้ามไม่ได้จ้า ยูนาบีก็เลยติดบ่วงของพัคแจออนเข้าไปเต็มๆ
ส่วนมุมมองความรักของพัคแจออนที่ว่าใหม่สำหรับซีรี่ย์เกาหลี หรือเป็นมุมมองที่ผู้ชมหลายๆ คนก็ไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไหร่ นั่นเพราะพัคแจออนเป็นผู้ชายสไตล์ที่มองว่าเขาสามารถจีบ สนิท ไปเที่ยว เดท หรือแม้กระทั่งสกินชิพและมีอะไรกันได้โดยไม่ต้องคบหา และพัคแจออนเองก็ไม่ได้อยากคบหากับใครด้วยค่ะ ซึ่งเรื่องแบบนี้ก็เป็นสิทธิของแต่ละคู่ที่จะตกลงกัน แต่หลายๆ ครั้งความสัมพันธ์แบบนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่สร้างความบาดหมางและความทุกข์ขึ้นได้เช่นกัน
จากมุมมองของสุดฯ มองว่าด้วยสไตล์ของยูนาบี เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มีสไตล์การคบหาแบบเดียวกับพัคแจออน ทั้งจากการสังเกตตัวละคร และแม้แต่คำพูดยืนยันของเพื่อนสนิทของยูนาบีที่เคยพูดไว้ในเรื่องอีก แล้วเธอก็รู้ว่าพัคแจออนเป็นผู้ชายแบบไหน ซึ่งทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะตกลงกันได้แล้ว แต่มันมีความไม่ชัดเจนบางอย่าง แล้วด้วยตัวยูนาบีที่ไม่ชอบการมีความสัมพันธ์แบบ Friend with Benefits ไหนจะชอบพัคแจออนไปแล้วด้วย จึงกลายเป็นความเครียดและความเศร้าขึ้นมา
เรียกว่า Nevertheless เป็นเรื่องที่หยิบความแตกต่างของสไตล์การคบหาของคนสองคนมานำเสนอว่าเมื่อต่างคนต่างมีมุมมองความรักที่ต่างกันจะเกิดอะไรขึ้น และเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ในชีวิตของคนด้วยค่ะ
ไม่ใช่แค่เล่าเรื่องความสัมพันธ์หลายรูปแบบหรือหลายสไตล์ผ่านตัวละครหลักเท่านั้น แต่ตัวเรื่อง Nevertheless ยังพยายามใส่เรื่องความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบไว้ในตัวละครอื่นๆ ด้วย เช่น ความสัมพันธ์แบบเฟรนด์โซน, ความสัมพันธ์แบบพรหมลิขิต, ความสัมพันธ์แบบเลิกกันแล้วแต่ยังกลับมาเจอกันได้, ความสัมพันธ์แบบไม่จำกัดเพศ, ความสัมพันธ์แบบถูกปฏิบัติเหมือนช้างเท้าหลัง หรือแม้กระทั่งการแอบรักข้างเดียวมาเป็นสิบปีค่ะ
วิธีการเล่าเรื่องและการใช้เทคนิคภาพ
นอกจากการหยิบเรื่องความสัมพันธ์หลายรูปแบบที่มีอยู่จริงในสังคมมาเล่าแล้ว สุดฯ ยังชอบวิธีการเล่าเรื่องที่สมจริงของ Nevertheless ด้วย ข้อแรกที่สำคัญเลยคือการเลือกเล่าเรื่องผ่านมุมมองของยูนาบี ถ้าได้ดูเรื่อง Nevertheless ทุกคนจะเห็นว่าเรื่องทั้งหมดแทบจะเกิดขึ้นภายใต้มุมมองของนาบีว่ายูนาบีมองพัคแจออนยังไง มองชีวิตตัวเองยังไง ทั้งใช้บทละครมาเล่า ไหนจะงานภาพที่จะการใช้เทคนิคภาพแทนการมองของยูนาบีที่มองคนอื่น หรือแม้กระทั่งตัวละครตัวอื่นด้วย จะเห็นว่ามีการใช้มุมภาพที่โคลสอัพตาบ้าง ปากบ้าง เพื่อจำลองการมองของตัวละครนั่นเอง และยังการใช้เสียงนาบีบรรยายความรู้สึกข้างในออกมา จะเห็นว่าครึ่งแรกของเรื่องเนี่ย เราแทบจะไม่ได้ยินความนึกคิดของตัวละครตัวอื่นเลย เราจะรู้แค่ความคิดของนาบีคนเดียวตลอดค่ะ ซึ่งเมื่อดูจนจบแล้วจะพบว่าเรื่องส่วนใหญ่หนักไปในทางการเล่าในมุมนาบีเป็นหลัก
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรารู้หมดว่านาบีคิดอะไร ทำแบบนี้เพราะอะไร แต่เราไม่รู้เลยว่าตัวละครอื่น โดยเฉพาะพัคแจออนคิดอะไรอยู่ ทำแบบนี้เพราะอะไร ได้แค่เดาแบบที่นาบีเดาว่าพัคแจออนทำแบบนี้เพราะแบบนี้หรือเปล่า หรือตั้งคำถามแบบที่นาบีทำ ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนเป็นยูนาบี ขอบอกเลยว่ายิ่งเพิ่มความอินมากขึ้นไปอีกค่ะ
แต่ แต่ แต่ ก็เพราะว่าเรื่อง Nevertheless เล่าผ่านมุมนาบีนี่แหละ สุดฯ จึงพยายามเบรกตัวเองตลอดว่าเรายังไม่ได้รู้มุมของพัคแจออนเลยนะ ไม่รู้เลยว่าพัคแจออนคิดอะไร และเจออะไรมาบ้าง แล้วตัวพัคแจออนก็ดูมีความลับและความลึกลับมากแม่ เรียกว่าแจออนเป็นตัวละครที่ทั้งตัวละครในเรื่องและคนดูไม่ค่อยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเท่าไหร่ ทำให้คนดูอย่างเรายิ่งเดาไม่ออกมากขึ้นไปอีกว่าเรื่องราวในช่วงครึ่งหลังจะไปในทิศทางไหนกันแน่
สุดฯ มองว่าวิธีการเล่าเรื่องผ่านนาบีมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่เหมือนกัน ข้อดีคือเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่ทำให้คนดูอินมากขึ้น เข้าใจตัวละครตัวหนึ่งมากขึ้น เหมือนเราถูกดึงเข้าไปเป็นนาบีเบาๆ แต่ข้อเสียคือเรื่องจะดูค่อนข้างคาราคาซังแบบไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ เรื่องค่อนข้างดำเนินช้า ทั้งที่มีความยาวแค่ 10 ตอน เนื้อเรื่องค่อนข้างวนไปวนมา และส่วนตัวก็อยากรู้มุมมองของตัวละครพัคแจออนและตัวละครตัวอื่นๆ มากขึ้นด้วย
ใดๆ อีก 2 สิ่งที่ชอบมากในเรื่องนี้คือการใช้สัญญะต่างๆ เพื่อสื่อเรื่องราว ทั้งการใช้ชื่อของตัวเองอย่างชื่อนางเอกที่คำว่า “นาบี” แปลว่าผีเสื้อ แล้วจะเห็นว่าเรื่อง Nevertheless เต็มไปด้วยคำว่า “ผีเสื้อ” ทั้งรอยสักรูปผีเสื้อที่คอของพัคแจออน การชื่นชอบและเลี้ยงผีเสื้อของพัคแจออน พร็อพที่เกี่ยวกับผีเสื้อ หรือบทละครที่จะเอ่ยถึงผีเสื้ออยู่บ่อยๆ เรียกว่ามีแต่ผีเสื้อเต็มไปหมด จะพูดว่าผีเสื้อแทบเป็นหนึ่งในคอนเซ็ปต์ของเรื่องก็ได้ ซึ่งคำว่าผีเสื้อก็ทำให้เกิดความหมายและการตีความมากมายเลย พูดเลยว่าเรื่องนี้แฝงสัญญะไว้เยอะ ผ่านบทละคร พร็อพ ฉาก เทคนิคภาพ และชื่อ
และอีกสิ่งที่ต้องพูดถึงเพราะชอบมากคือการยึดคอนเซ็ปต์ชื่อเรื่องไว้อย่างเหนียวแน่นมาก โดยชื่อเรื่อง Nevertheless ในภาษาเกาหลี คือ “알고있지만,” (อ่านว่า อัลโกอิชจิมัน ) ซึ่งแปลว่า “ถึงจะรู้ว่าแต่…” หรือ “แม้จะรู้อยู่แล้วว่า….” แล้วถ้าสังเกตจะเห็นว่าชื่อแต่ละตอนจะเล่นคำว่า “แม้จะรู้อยู่แล้วว่า” หมดเลย แถมแต่ละตอนเรื่องก็จะเล่าอยู่ภายใต้คำนี้นี่แหละ โดยอาศัยการเปลี่ยนสถานการณ์ไปเรื่อยๆ พูดเลยว่าชอบกิมมิกตรงนี้มากค่ะ
นักแสดงรุ่นใหม่ที่ส่วนผสมลงตัว
นอกจากเรื่อง Nevertheless จะหยิบความรักรูปแบบใหม่ๆ มาเล่าแล้ว เรื่อง Nevertheless ยังเต็มไปด้วยนักแสดงรุ่นใหม่ทั้งนั้น จะมีนักแสดงรุ่นใหญ่โผล่มาเล็กๆ น้อยๆ แต่ตัวดำเนินเรื่องและตัวละครที่ออกบ่อยๆ จะเป็นนักแสดงรุ่นใหม่หมด และมีนักแสดงเยอะมาก ตั้งแต่นักแสดงนำ นักแสดงสมทบ ไปจนนักแสดงตัวประกอบ
Nevertheless เลือก 2 นักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงและฝีมือการแสดงดีอย่างฮันโซฮีและซงคังมาแสดงนำ ซึ่งถือว่าเป็นคู่ในฝันได้เลย แล้วการมาเจอกันของฮันโซฮีและซงคังก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ เคมีเข้ากันมากกกกกก ทั้งคู่ถ่ายทอดตัวละครของตัวเองออกมาได้ดี ฮันโซฮีที่ก่อนหน้านั้นรับบทเมียน้อยในเรื่อง A World of Married Couple หรือ The World of the Married ก็พลิกบทบาทมารับบทผู้หญิงขี้อาย พูดน้อยชนิดที่ลืมภาพเมียน้อยไปเลย แล้วเป็นตัวละครที่เจอซีนอารมณ์ค่อนข้างเยอะ ซึ่งฮันโซฮีก็เอาอยู่หมด
ส่วนซงคังก็พลิกคาแร็กเตอร์มาเป็นหนุ่มแบดบอยเจ้าเสน่ห์ได้สมบทบาทจนหลายๆ คนลงความเห็นว่าบทพัคแจออนเข้ากับซงคังมาก สิ่งที่เห็นชัดคือพัฒนาการทางการแสดงของซงคังที่ดีขึ้น เป็นนักแสดงรุ่นใหม่อีกคนที่แสดงออกทางสายตาได้ดี
นอกจากนี้ยังมี แชจงฮยอบ นักแสดงดาวรุ่งอีกคนที่มารับบทบาทสำคัญอย่างบทยังโดฮยอก เพื่อนสมัยประถมของยูนาบีที่แอบชอบนาบีมาตั้งแต่เด็ก ที่ขนรอยยิ้มและความอบอุ่นมาแบบจัดเต็ม แค่ออกมาแรกๆ ก็ทำคนดูหวั่นไหวแล้ว ไหนจะมีแก๊งเพื่อนทั้ง ยังฮเยจี อีโฮจอง และยุนซออาที่เล่นได้ดีและมีเสน่ห์มากจนทำคนดูหลงรัก รวมถึงอียอลอึม ที่มารับบทเป็นคนรักเก่าของพัคแจออน นอกจากนี้ยังมีนักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันในเรื่องอีกเพียบ บอกเลยว่าแต่ละคนถึงจะเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ แต่การแสดงดีมีแววปังกันมากๆ แล้วที่สำคัญเคมีเข้ากันไปหมด เป็นส่วนผสมที่ลงตั๊วลงตัว
โลเคชั่นสมจริง
งานโลเคชั่นเรื่อง Nevertheless เขาก็ดีนะจ๊ะ มีความสมจริงและสวยงามด้วย ทั้งโลเคชั่นในมหาวิทยาลัย ร้านอาหาร หรือที่พัก ทำให้หลายๆ คนหวนคิดถึงชีวิตในมหาวิทยาลัยเลย และโลเคชั่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็หนีไม่พ้นห้องของยูนาบีที่ตกแต่งได้สวยงามน่าอยู่มาก แถมในเรื่องยังมีโลเคชั่นหรือซีนที่ทำให้ได้เห็นความสวยงามของฤดูในเกาหลี อย่างเช่น ฉากฟินๆ ท่ามกลางดอกซากุระของพัคแจออนและยูนาบี เป็นต้น
Message ของเรื่องที่สะท้อนเรื่องความรัก
บอกเลยว่าเรื่อง Nevertheless งาน Message จุกอยู่เด้อ ข้อแรกเลยคือการเปิดโลกให้คนได้รู้จักความสัมพันธ์ที่หลากหลายมากขึ้น ว่าความสัมพันธ์บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียวหรือสองแบบ ยังมีอีกเยอะ และแต่ละคนก็มีสิทธิที่จะเชื่อในความรักที่ไม่เหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกันเรื่อง Nevertheless ก็ทำให้เห็นถึงปัญหาของความสัมพันธ์อีกเช่นกันว่ามุมมองที่แตกต่างกันทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าสังเกตจะเห็นว่าความขัดแย้งในความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวจะมีปัญหามาจากเรื่องของการขาดการสื่อสารระหว่างกันเป็นจุดหลักเลยว่าพอไม่ได้สื่อสารกันมากพอ ทำให้เกิดความขัดแย้งและความไม่เข้าใจกันขึ้น แล้วการสื่อสารอีกนั่นแหละที่ทำให้พวกเขาเข้าใจกันมากขึ้น
เรื่องการสื่อสารยังไม่ใช่แค่ทำให้เห็นผ่านเรื่องราวของแต่ละตัวละคร แม้แต่การเลือกเล่าเรื่องผ่านมุมมองยูนาบีที่มีต่อความรักก็แสดงให้เห็นว่าในชีวิตจริง เราจะเห็นและมองอะไรจากมุมมองของตัวเอง เราทำได้แค่เพียงเดาและคิดจากมุมมองของเรา แต่ในความสัมพันธ์จะทำยังไงให้แต่ละคนได้รู้มุมมองและความคิดของกันและกันจนเข้าใจกันมากขึ้น เพราะสุดท้ายไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะไปต่อหรือจบลง แต่ถ้าเราได้รู้มุมมองของแต่ละคน ได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาด้วยความเข้าใจกันก็จะชัดเจน และทำให้เราเดินหน้าต่อหรือมูฟออนไปได้ง่ายขึ้นและมีความสุขมากขึ้น
นอกจากเรื่องการไม่สื่อสารและให้แง่คิดในเรื่องความสัมพันธ์ที่มีหลากหลายประเด็นแล้ว อีกประเด็นที่สุดฯ ชอบจนอยากหยิบมาพูดคือเรื่องนี้พยายามสะท้อนเรื่องสังคมชายเป็นใหญ่ด้วย ซึ่งเกาหลีเป็นประเทศที่มีเรื่องแนวคิดเรื่องสังคมชายเป็นใหญ่ฝังลึกมาก จะเห็นว่าในความรักของเก่าของยูนาบี แฟนคอยควบคุม จะทำอะไรต้องได้รับการอนุญาต ซึ่งจากการกระทำของแฟนเก่าทำให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากสังคมชายเป็นใหญ่ รวมถึงในเรื่องของ Nevertheless ก็จะมีกลิ่นของความสังคมชายเป็นใหญ่ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
สุดฯ ว่าสิ่งที่เรื่อง Nevertheless ทำงานมากที่สุดในความคิดของคนดูในแง่ของ Message คือการที่ทำให้คนดูได้ตีความเรื่องราวความรักออกมาในมุมมองของแต่ละคน ถ้าเราสังเกตดีๆ หลายๆ ครั้งประเด็นเรื่องความรักมักจะเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ตลอด แต่ละคนก็มีมุมมองความรักไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งเรามาชมเรื่อง Nevertheless ก็จะเห็นว่าผู้ชมแต่ละคนก็มีมุมมองในการตีความเรื่องราวออกมาต่างกัน สุดฯ ว่า Nevertheless แอบเหมือน Club Friday ที่มีนาบีมาเล่าเรื่องความรักตัวเองให้เราฟัง แล้วคนดูมีความคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ สุดท้ายคนที่จะตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับความสัมพันธ์ก็เป็นคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ทั้งสองคนนั่นแหละ
นอกจากความสนุกชวนอินของเรื่อง สุดฯ คิดว่าพอตั้งใจดูรายละเอียดในแต่ละจุด Nevertheless นับเป็นซีรี่ย์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว เป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องความรักได้สมจริงและหลากมุมมอง ใครที่อยากไปติดตามชม ตามไปได้ที่ Netflix เลย
TEXT : ImJinah
PHOTO : JTBC, Facebook(@jtbcdramapage)
อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
ส่อง 7 ความเหมือนของซงคังกับฮันโซฮี คู่เคมีพลุ่งพล่านจาก Nevertheless!
ส่องเบื้องหลังกองถ่าย Nevertheless ซงคังเรียกฮันโซฮีว่าอะไร #บอกเลยพีคมาก
13 เรื่อง (ไม่) ลับของซงคัง พ่อผีเสื้อว่าที่แฟนแห่งชาติคนต่อไป ที่ผู้ชมขอยกหัวใจให้!!!
ฮันโซฮี นางเอกเกาหลีดาวรุ่งพุ่งแรงที่ผ่านมาแล้วหลากหลายบท ยันบทเมียน้อย!
เปิดวาร์ป แชจงฮยอบ พ่อหนุ่มแสนอบอุ่นดั่งไมโครเวฟ จาก Nevertheless ผู้มาพร้อมรอยยิ้มทำลายล้าง
เคลียร์คิวทุกวันศุกร์-เสาร์ ให้ แชจงฮยอบ กับผลงานซีรี่ย์ 2 เรื่อง ที่จะทำให้กรี๊ดจนบ้านแตก!
แชจงฮยอบเคยอยู่ไทยและเคยเข้าวงการที่แอฟริกาใต้ พร้อมเผยเสน่ห์ใน Running Man!
ทำความรู้จัก 3 นักแสดงแก๊งเพื่อนนาบีจาก Nevertheless ที่ทำคนดูหลงรักไม่แพ้พระนาง!
เปิดวาร์ป อีซึงฮยอบ – อีจองฮา ปรากฏตัวใน Nevertheless แป๊บเดียวแต่กระแทกตาหนักมาก!
ส่องเคมีพลุ่งพล่านชวนเขินของ ซงคัง – ฮันโซฮี พระนางจาก Nevertheless!
TMI News เปิดเผย ซงคังฮ็อตตั้งแต่ก่อนเป็นนักแสดง เคยถูกแคสจาก 8 ค่ายดังสายปั้นไอดอล!
แฟนซีรี่ย์เกาหลีเม้าท์ ฮันโซฮี มีใบหน้าคล้ายคลึง ซงเฮเคียว #งานจับเทียบต้องมา
ซงคังฮ็อตมาก! ส่งงานแสดงซีรี่ย์เกาหลีลงจอรัวๆ 6 เรื่องรวดยาวข้ามปี!
ซงคังลงทุนเรียนบัลเล่ต์ก่อนถ่ายทำถึงครึ่งปีเพื่อแสดงใน Navillera #เรื่องย่อNavilleraก็มา
เปิดชื่อเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีที่ซงคังยอมรับว่าชื่นชอบมากที่สุด!
เดือนซงคัง! ผลงานซีรี่ย์เกาหลีของซงคัง มีนานี้มาแน่ พร้อมเขย่าหัวใจผู้ชม 2 เท่า!
คิมโซฮยอน และซงคัง 2 นักแสดงนำ Love Alarm เตรียมส่งซีรี่ย์เกาหลีต้อนรับปี 2021 2 เรื่องซ้อน!
ฟังคำตอบจากปากคิมโซฮยอน ในชีวิตจริงจะเลือกฮวังซอนโอหรืออีฮเยยองเป็นคนรู้ใจ?!?
22 มีนา วันแฟนเด็กแห่งชาติ!ซงคังและจางดงยุน ลงซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคปะทะปัจจุบัน!
ซงคังแอบสปอยล์ Love Alarm 2 เบาๆ หลังทิ้งปมความรักสุดค้างคาไว้ในซีซั่นแรก!
โกมินชีผู้หญิงที่น่าอิจฉาได้ร่วมงานกับซงคัง – อีโดฮยอน 2 ครั้งซ้อน!
อีโดฮยอน เผย จริงๆ ในเรื่อง Sweet Home อยากเล่นบทของซงคัง!
วันเกิดคนหล่อ!ซงคังและเจโน่ ดาราวัยรุ่นที่ทำให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ!