สุดฯ แยกพัฒนาการ คิมโซฮยอน จากนักแสดงเด็กเจ้าบทบาท ขึ้นแท่นนางเอกสาวฝีมือฉกาจ

ถ้าพูดถึงชื่อ คิมโซฮยอน แฟนซีรี่ย์เกาหลีจะร้องอ๋อขึ้นมาทันที เพราะคิมโซฮยอนเป็นนักแสดงเด็กที่ผ่านงานแสดงมาเยอะมาก แถมเล่นได้ดีสุดๆ จนได้รับคำชื่นชมมากมาย พอเริ่มโตขึ้นก็เริ่มมีโอกาสได้รับบทนางเอกเต็มตัว ซึ่งคิมโซฮยอนก็ทำให้เราเห็นพัฒนาการการแสดงที่ดีขึ้น เป็นนักแสดงที่เชื่อถือในเรื่องของการแสดงได้เลย

คิมโซฮยอน กับเส้นทางในวงการที่สะสมวิชามาตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อย

คิมโซฮยอนเกิดวันที่ 4 มิถุนายน 1999 เดบิวต์เป็นนักแสดงเมื่อปี 2006 ด้วยการเล่นซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Drama City – Ten Minute, Minor ทางช่อง KBS โดยคิมโซฮยอนได้เล่นซีรี่ย์เกาหลีของช่อง KBS ติดต่อกัน 2 เรื่อง อีกเรื่องในปี 2007 กับซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง A Happy Woman และในปีเดียวกันคิมโซฮยอนยังมีโอกาสได้เล่นซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Que Sera, Sera ทางช่อง MBC อีก

ก่อนที่ในปี 2008 เส้นทางการเป็นนักแสดงเจ้าแม่ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคในอนาคตก็เริ่มต้นขึ้นจากการได้รับโอกาสให้แสดงซีรี่ย์เกาหลีแนวย้อนยุคเรื่อง Korean Ghost Stories หรือ Hometown Legends ของช่อง KBS ในบทบาท “ยอนฮวา” ซึ่งเป็นผลงานย้อนยุคเรื่องแรกของน้อง และก็แสดงได้มีแววอนาคตไกลมาก และยังได้กระโดดไปแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกใน My Name Is Pity ด้วย

จากนั้นคิมโซฮยอนก็กลับมาแสดงซีรี่ย์เกาหลีแนวปัจจุบันอีกครั้งในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Wife and Woman ทางช่อง KBS เมื่อปี 2008-2009 แล้วถึงจะคัมแบ็กกลับมาเล่นซีรี่ย์เกาหลีแนวย้อนยุคอีกครั้งในปี 2009 ผ่านซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Ja Myung Go ของช่อง SBS ในบท “มโยริ”

แล้วในปีเดียวกันก็เล่นซีรี่ย์เกาหลีของช่อง SBS ต่อเนื่อง 3 เรื่องติดไปเลย โดยอีก 2 เรื่องได้แก่ The Children of Heaven และ Loving You a Thousand Times และมีไปเล่นละครเวทีเรื่องแดจังกึมด้วย

เริ่มเห็นแววความเป็นนักแสดงเด็กงานชุกของคิมโซฮยอนแล้วใช่ไหมคะ มีงานแสดงออกมาปีนึงมากกว่า 1 เรื่องรัวๆ เช่นเดียวกับปี 2010 คิมโซฮยอนก็มีโอกาสได้แสดงซีรี่ย์เกาหลี 2 เรื่อง ทั้ง Becoming a Billionaire และ Bread, Love and Dreams ของช่อง KBS ทั้งสองเรื่อง และยังมีผลงานภาพยนตร์เกาหลีอีก 1 เรื่อง นั่นก็คือ Man Of Vendetta

ในขณะที่ปี 2011 คิมโซฮยอนก็มีผลงานซีรี่ย์เกาหลีออกมา 3 เรื่อง และภาพยนตร์เกาหลีออีก 2 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง The Thorn Birds ของช่อง KBS, ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง The Duo ทางช่อง MBC, ภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Sin of a Family, ภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Spy Papa และซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Padam Padam ของช่อง JTBC

ปีทองของคิมโซฮยอนในชีวิตการเป็นนักแสดงเด็ก

ปี 2011 ก็ว่าคิมโซฮยอนงานเยอะไม่ไหวแล้วใช่มั้ย แต่ปี 2012 ยิ่งกว่าอีกจ้า แล้วเป็นปีที่ทำให้ชื่อของคิมโซฮยอนเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในเกาหลีและต่างประเทศจากการแสดงในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง The Moon that Embraces the Sun ทางช่อง MBS ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคชื่อดังที่ฟาดเรตติ้งเกิน 40% โดยในเรื่องคิมโซฮยอนรับบทเป็น “ยุนโบกยอง” ตอนเด็ก พูดเลยว่าแสดงปังมาก

แถมในปีเดียวกันคิมโซฮยอนยังได้แสดงแนวย้อนยุคอีก 2 เรื่อง ทั้งในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Rooftop Prince (ย้อนยุคฟิวชั่น) ของช่อง SBS และหนังเกาหลีเรื่อง I am the King คิดดูว่าแค่ปีเดียว เล่นแนวย้อนยุคไป 3 เรื่องเลย

ยังไม่นับซีรี่ย์เกาหลีแนวปัจจุบันอีก 4 เรื่องได้แก่ Love Again (JTBC), Reckless Family – Season 1 (MBC Every), เว็บดราม่าเรื่อง Ma Boy ที่แอบได้ขึ้นมาชิมลางรับบทนางเอกที่ไม่ใช่บทตอนเด็กของตัวละครผู้ใหญ่ และอีกหนึ่งซีรี่ย์เกาหลีที่ทำให้คิมโซฮยอนโด่งดังมากขึ้นในฐานะนักแสดงเด็กอย่าง Missing You ทางช่อง MBC รับบทเป็น “อีซูยอน” ตอนเด็ก เรียกว่าปี 2012 เป็นปีทองของคิมโซฮยอนเลยก็ว่าได้

จากนั้นในปี 2013 คิมโซฮยอนก็ยังสานความปังต่อด้วยการรับงานแสดงแบบรัวๆ ทั้งซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง IRIS 2 (KBS), ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง The Secret of Birth (SBS), ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง The Suspicious Housekeeper (SBS), ภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Killer Toon และ ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง I Hear Your Voice (SBS) ในบท “จางฮเยซอง” ตอนเด็ก ที่สุดฯ เชื่อว่าน่าจะบทบาทที่แฟนซีรี่ย์เกาหลีชาวไทยหลายคนจดจำคิมโซฮยอนได้

ยังไม่พอ! ปี 2013 คิมโซฮยอนยังได้ลองบทบาทใหม่เป็นพิธีกรในรายการเพลงดังอย่าง Music Core ของช่อง MBC โดยคิมโซฮยอนทำหน้าที่พิธีกรในรายการนี้จนถึงปี 2015 เลย ซึ่งหลังจากนั้นเราก็แอบได้เห็นคิมโซฮยอนเป็นพิธีกรอยู่เรื่อยๆ ทั้งในรายการและงานประกาศรางวัล แล้วก็ต้องยอมรับว่าทักษะการพูดของคิมโซฮยอนปังมากจริงๆ

ตัดภาพกลับมาที่งานแสดงกันต่อ ในปี 2014 คิมโซฮยอนก็มีผลงานซีรี่ย์เกาหลีออกมาอย่างต่อเนื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Triangle ทางช่อง MBC ก่อนจะก้าวขึ้นมารับบทนำเต็มตัวในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Reset ทางช่อง OCN พร้อมกับเจอบทบาทท้าทายความสามารถต้องรับบทเป็นสองตัวละคร คือเป็นรักแรกของพระเอกในอดีต และปัจจุบันเป็นนักเรียน เรียกว่าเรื่องนี้ก็เป็นก้าวสำคัญของคิมโซฮยอนที่เริ่มจะมารับบทนำ และเตรียมเป็นนางเอกในอนาคต

ที่บอกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะในปีเดียวกัน คิมโซฮยอนก็ได้แสดงนำในซีรี่ย์เกาหลีสั้น Drama special : We All Cry Differently ของช่อง KBS จากนั้นก็ไปรับเชิญในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง A Girl Who Sees Smells ทางช่อง SBS ในปี 2015

จากนักแสดงเด็กสู่นางเอกเกาหลีเต็มตัวในวัยเพียงแค่ 16 ปี

ก่อนที่ในปีนั้นคิมโซฮยอนจะได้รับบทนางเอกเต็มตัวสักทีในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Who Are You: School 2015 ทางช่อง KBS เปิดด้วยบทบาทที่ค่อนข้างยากมากๆ ต้องรับบทเป็นฝาแฝดที่เจอเรื่องราวที่ค่อนข้างดราม่าและดาร์กสุดๆ ซึ่งคิมโซฮยอนสามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ดี จนได้รับคำชมในเรื่องฝีมือการแสดงเยอะมาก ทั้งที่เป็นการกระโดดมารับบทนางเอกเต็มตัวครั้งแรกๆ เนื้อเรื่องค่อนข้างเครียด ตัวละครต้องแสดงอารมณ์ค่อนข้างหลากหลาย แต่น้องก็เอาอยู่

พอได้ขึ้นมารับบทนางเอก แล้วทำได้ดี ก็มีผลงานตามออกมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย โดยในปี 2016 คิมโซฮยอนก็มีผลงานออกมารัวๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บดราม่าเกาหลีเรื่อง Nightmare Teacher, ซีรี่ย์เกาหลีสั้นเรื่อง Drama special : Page Turner ของช่อง KBS และซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Let’s Fight Ghost ทางช่อง tvN ที่เป็นหนึ่งในผลงานเด่นของคิมโซฮยอน และยังเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Guardian: The Lonely and Great God หรือ Goblin อีก

ไหนจะยังมีผลงานหนังเกาหลีอีก 2 เรื่อง ได้แก่ บทนางเอกในเรื่อง Pure Love หรือ UNFORGETTABLE และบทนางเอกตอนเด็กในเรื่อง The Last Princess ซึ่งเป็นแนวย้อนยุคและเป็นหนังที่ดังมาก

จากนั้นหลังจากคิมโซฮยอนได้ก้าวขึ้นมาเป็นนางเอกแล้ว ก็ถึงเวลาได้มาเป็นนางเอกในซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคเต็มตัวบ้าง หลังจากรับบทตอนเด็กรัวๆ โดยคิมโซฮยอนเปิดบทนางเอกในซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคด้วยเรื่อง The Emperor: Owner of the Mask ทางช่อง MBC ในปี 2017

บอกเลยว่าจากเรื่อง The Emperor: Owner of the Mask ทำให้ได้เห็นประสบการณ์การแสดงที่คิมโซฮยอนสั่งสมมาตั้งแต่เด็กแบบชัดเจน นอกจากจะแสดงในปัจจุบันหรือแนวซีรี่ย์เกาหลีวัยรุ่นในโรงเรียนเก่งแล้ว ยังเล่นแนวย้อนยุคเก่งและแต่งชุดย้อนยุคเข้ามา ไม่แปลกที่คิมโซฮยอนจะกลายเป็นนักแสดงที่ได้รับความไว้วางใจให้แสดงแนวย้อนยุคอีกเรื่อยๆ

และในปี 2017 คิมโซฮยอนยังไปเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรี่ย์เกาหลีเรื่องดังอย่าง While You Were Sleeping ของช่อง SBS รับบทเป็นนักเรียนม.ปลายชื่อว่า “พัคโซยุน” ที่แม้จะมารับเชิญแต่บทก็แอบเด่นอยู่เด้อ

ต่อมาคิมโซฮยอนก็ตัดสินใจรับบทที่โตขึ้นฉีกภาพลักษณ์นักเรียน หรือภาพลักษณ์สไตล์ย้อนยุคด้วยซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Radio Romance ทางช่อง KBS เมื่อปี 2018 รับบทเป็นนักเขียนบทรายการวิทยุที่ผ่านการทำงานมาหลายปี แต่เป็นได้แค่ผู้ช่วยนักเขียน เจอกดขี่มาตลอด จนกระทั่งได้รับโอกาสเลื่อนมาเป็นนักเขียนหลักของรายการ แต่ต้องมารับมือกับซูเปอร์สตาร์หนุ่มที่เอาใจยาก แต่เธอก็พยายามและอดทนถึงแม้ว่าต้องคอยรับมือกับเขาเสมอ

แม้คิมโซฮยอนจะอายุน้อยกว่าบทบาทที่ได้รับก็จริง แต่ทำให้เชื่อได้ว่าเธอคือตัวละครนั้น เธอคือผู้หญิงที่อายุอยู่ในวัยทำงานแล้วจริงๆ จนลืมภาพไปเลยว่าคิมโซฮยอนเคยเป็นนักแสดงเด็กและรับบทเป็นเด็กมัธยมมาก่อน

ก่อนที่ในปี 2019 คิมโซฮยอนจะกลับมาใส่ชุดนักเรียนอีกครั้งในซีรี่ย์เกาหลีของ Netflix เรื่อง Love Alarm ซึ่งเป็นซีรี่ย์เกาหลีที่โด่งดังและกระแสดีมากในต่างประเทศ

แล้วในปีเดียวกันคิมโซฮยอนยังสานต่อความปังด้วยซีรี่ย์เกาหลีแนวย้อนยุคเรื่อง The Tale of Nokdu ของช่อง KBS ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นการกลับมารับบทนางเอกในซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุครอบ 2 ปี แต่ครั้งนี้คิมโซฮยอนยังมาลุคที่แตกต่างในชุดฮันบก ทั้งการใส่ชุดฮันบกแต่ผมสั้น (เคยใส่ชุดฮันบกในลุคผมสั้นตอนเล่นเรื่อง Korean Ghost Stories มาแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นเวอร์ชั่นตอนโต) หรือใส่ชุดฮันบกของผู้ชาย

หลังจากนั้นคิมโซฮยอนก็ห่างหายจากงานแสดงไปเกือบปีกว่าๆ ก่อนจะกลับมาพร้อมซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่ต่อเนื่องกัน 2 เรื่อง ในปี 2021 ทั้งซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคเรื่อง River Where the Moon Rises ทางช่อง KBS ที่คิมโซฮยอนต้องท้าทายตัวเองเยอะมาก ทั้งรับบทเป็นตัวละคร 2 ตัว เล่นเป็นทั้งแม่และลูก แถมบทลูกยังมีความซับซ้อนอีก ไหนจะเรื่องต้องฝึกขี่ม้าและฝึกคิวบู๊ต่างๆ เป็นเรื่องที่ทำให้ได้การเจริญเติบโตในฐานะนักแสดงของคิมโซฮยอนเยอะมาก

ในช่วงที่ River Where the Moon Rises กำลังออนแอร์ ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Love Alarm season 2 ก็ถูกปล่อยให้ได้รับชมอีกด้วย ทำให้ได้เห็นคิมโซฮยอนในมิติที่หลากหลายจากผลงานใน 2 เรื่องที่เล่าเรื่องคนละยุคกัน ซึ่งหลังคิมโซฮยอนทุ่มเทอย่างหนักกับซี่รี่ย์เกาหลีทั้งสองเรื่อง ก็พักงานแสดงไปเกือบ 2 ปี

ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง My Lovely Liar ทางช่อง tvN ในปี 2023 ด้วยบทบาท “มกซลฮี” หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษสามารถได้ยินคำโกหกของคนอื่นได้

ไม่ว่าจะดูการแสดงของคิมโซฮยอนในผลงานเรื่องไหนก็ทำให้เราอินได้ตลอด จนอดจะชื่นชมการแสดงของคิมโซฮยอนไม่ได้เลย เป็นนักแสดงที่เก่งมาตั้งแต่เด็ก แล้วยิ่งโตยิ่งเก่ง เติบโตมาอย่างมีคุณภาพจริงๆ เป็นนักแสดงที่ใครๆ ก็รู้จักและชื่นชอบ แถมสร้างภาพจำว่าเป็นเจ้าแม่บทบาทแนววัยรุ่นไฮสคูลและเจ้าแม่ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคอีก แถมยังเล่นมาหลายแนวทั้งดราม่า โรแมนติก คอเมดี้ สืบสวน แอ็กชั่น ฯลฯ เป็นนักแสดงอายุน้อยที่เก่งจนต้องปรบมือให้

.

.

TEXT : ImJinah

PHOTO : 이음해시태그, MBC, KBS, Sidus HQ, 빅토리콘텐츠, CJ Entertainment, Netflix

.

.

อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

ส่องวิวัฒนาการคิมโซฮยอนในซีรี่ย์ย้อนยุคตั้งแต่เด็กยันซีรี่ย์เรื่องล่าสุดในปี 2021!

ยอจินกู & คิมโซฮยอน คู่ขวัญจาก Missing You รียูเนียนใน 2022 MAMA AWARDS โชว์เคมีรับส่งสุดเข้าขา!

9 ปีผ่านไป นักแสดง The Moon Embracing the Sun ทั้งรุ่นเด็กรุ่นโต ขึ้นแท่นพระเอกนางเอกกันเพียบ!

คิมโซฮยอน จากนักแสดงเด็กเจ้าบทบาท ขึ้นแท่นนางเอกสาวมากความสามารถ หยิบจับอะไรก็ปัง

คิมโซฮยอนเคมีสาธารณะ เล่นเข้าขากับนักแสดงชายทุกคนใน River Where the Moon Rises!

รีวิว River Where the Moon Rises ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

รีวิว Love Alarm ซีรี่ย์เกาหลีวัยรุ่นจากเว็บตูนชื่อดัง ที่มีมากกว่าเรื่องรักๆ ของวัยรุ่น

ฟังคำตอบจากปากคิมโซฮยอน ในชีวิตจริงจะเลือกฮวังซอนโอหรืออีฮเยยองเป็นคนรู้ใจ?!?

รีวิว The Tale of Nokdu ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคสุดพีคแห่งปี 2019

คิมโซฮยอน ผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในปี 2019 ได้ประกบแต่ผู้ชายงานดี วัยกำลังน่าคบหา!

ผมสั้นกำลังมา! คิมโซฮยอน – คิมยูจอง หั่นผมสั้นต้อนรับซัมเมอร์ ปรากฏตัวด้วยลุคใหม่สุดปัง #หนูโตเป็นสาวแล้วค่ะ

ซงคัง – คิมโซฮยอน 2 นักแสดงนำ Love Alarm เตรียมส่งซีรี่ย์เกาหลีต้อนรับปี 2021 2 เรื่องซ้อน!

เซอร์ไพรส์! คิมโซฮยอน – จางดงยุน กับฉากที่คิดว่าดีที่สุดใน The Tale of Nokdu

คิมโซฮยอนมีคู่แข่งความสวยคนใหม่ในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง The Tale of Nokdu