สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู จากยูทูบเบอร์สู่ศิลปินนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้

account_circle
event

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู สาวน้อยที่โด่งดังจากการคัฟเวอร์เพลงในยูทูบ ด้วยความสามารถที่มาพร้อมกับความสวย น่ารัก ทำให้เธอเดินเข้าสู่เส้นทางในวงการบันเทิงไทยอย่างเต็มตัวภายใต้สังกัดแกรมมี่ มีทั้งผลงานเพลงและงานแสดง ภายหลังจากหมดสัญญากับแกรมมี่ สาวน้อยพลอยชมพูต้องเจอมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อไปร่วมงานค่ายเพลงที่มาเลเซีย เพราะทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ หลังจากหมดสัญญาเธอตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทย แต่ปัญหาก็ยังเข้ามารุมเร้า ด้วยหัวใจนักสู้ เธอไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคสักครั้ง เพราะความรักในเสียงเพลง พลอยชมพูขอเดินหน้าต่อในเส้นทางดนตรี ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่เราก็เชื่อว่าไม่เกินความพยายามของเธอแน่นอน

 

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู จากยูทูบเบอร์สู่ศิลปินนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้

พลอยชมพู – ญานนีน ภารวี ไวเกล  เป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมัน  เธอมีชื่อเสียงจากการแสดงเอ็มวีเพลง “ไกลแค่ไหนคือใกล้” ของ วงเก็ตสึโนวาเมื่อปี 2555 ต่อมาได้คัฟเวอร์เพลงบนช่องยูทูบของตัวเองที่ชื่อ “Jannine Weigel” นั่นทำให้เธอมีชื่อเสียงทางโซเชียลในฐานะนักร้องคัฟเวอร์ จากนั้นก็ได้เข้าเป็นศิลปินฝึกหัดในแกรมมี่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

พ.ศ. 2558 พลอยชมพูมีผลงานเพลงเป็นของตนเอง “ชักดิ้นชักงอ”  ทำให้เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงในวงการในวงกว้างมากขึ้น จากนั้นก็มีผลงานละครเรื่องแรกบัลลังก์เมฆ บัลลังเมฆ รับบทเป็น วีรินทร์ คู่กับ มาร์ค จุฑาวุฒิ และในปีเดียวกันพลอยชมพูยังมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตเรื่อง รุ่นพี่ อีกด้วย

 

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

 

หลังจากหมดสัญญากับแกรมมี่ พลอยชมพูยังมีแพชชั่นในการทำเพลงอยู่ เธออยากเติบโตไปอีกก้าว จึงตัดสินใจเซ็นสัญญาเข้ามาอยู่ค่ายยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) ภายใต้ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค กรุ๊ป มีซิงเกิ้ล “ปากร้าย ใจรัก” และได้ไปเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในรายการ The Mask Line Thai ภายใต้  “หน้ากากปลากัด” โดยเหตุผลที่เธอเลือกเป็นหน้ากากปลากัด ก็เพราะว่าปลากัดมีรูปร่างสีสันที่สวยงามและเป็นนักสู้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเธอได้เผยความรู้สึกในรายการพร้อมน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้เคยเจอกระแสที่วิจารณ์ว่ามีดีแค่หน้าตา จึงทำให้ฮึดสู้ลุกขึ้นฝึกร้องเพลงทุกวันเพื่อเอาชนะกระแสวิจารณ์

ต่อมาในวันที่ 6 ธันวาคม 2562 พลอยชมพูได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง “Red Records” ซึ่งเป็นค่ายที่ร่วมมือกันระหว่างค่ายเพลง Universal Music Group กับสายการบิน Air Asia โดยพลอยชมพูเป็นศิลปินคนแรกของค่ายนี้ แต่ก็ได้ขอยุติการเป็นนักร้องกับ Red Records และได้มีการแถลงข่าวเปิดใจพร้อมน้ำตาถึงกรณีที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องค่ายเก่าในประเทศมาลาเซียที่เคยร่วมงานกัน อดีตต้นสังกัดประเทศมาเลเซีย ในข้อหาผิดสัญญา และเรียกร้องค่าเสียหาย จำนวน 8 หลัก พร้อมอัพเดตผลงานใหม่ในรอบ 2 ปีที่ลงทุนทำเองโดยไร้สังกัด

หลังจากฝ่ามรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตสำหรับศิลปินที่มีหัวใจของความเป็นนักสู้  “พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล” ก็ได้คัมแบ็คงานเพลงในรอบ 2 ปี ลงทุนทำเพลงเองด้วยเงินเก็บก้อนสุดท้าย ปล่อยซิงเกิ้ล “LOCATION” (โลเคชั่น) เรียกว่ากระแสดีได้ใจแฟนคลับไปเต็มๆ

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

พลอยชมพูกลับมาอยู่เมืองไทยยาวๆ แล้ว ล่าสุดเธอมีซิงเกิ้ลใหม่ชื่อว่า Location เธอมาหาเราถึงออฟฟิศสุดสัปดาห์ เรามาพูดคุยกับเธอให้หายคิดถึงพร้อมกับอัพเดตผลงานใหม่ๆ กันค่ะ

เล่าถึงที่มาของเพลง โลเคชั่นมีที่มาที่ไปอย่างไรคะ

“ตอนแรกที่เริ่มโปรเจ็กต์นี้ก็กังวลนิดนึงค่ะ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาหนูแทบไม่มีรายได้อะไรเลย ทำให้เกิดความเครียดว่าเราจะเอาเงินจากไหนมาลงทุนในการกลับมาทำเพลงเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนึง แต่เราก็พยายามบอกตัวเองว่าทำไปก่อน เงินเดี๋ยวเราก็หาทางหามาได้ (แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย5555)  และความยากที่สุดของเพลงนี้จะเป็นการจัดการหางบและการจัดการโปรเจ็กต์ต่างๆ ค่ะ เพราะเรากลับมาทำเองทั้งหมด ทีมงานก็ไม่มี งบก็ไม่มี เลยต้องหาสปอนเซอร์มาช่วยลงทุนกันค่อนข้างเยอะในระยะเวลาสั้นๆ แค่เดือนเดียว  ความท้าทายจะมีในจุดนี้มากกว่าจุดอื่นๆค่ะ

ตื่นเต้นมากๆค่ะ ที่เราได้กลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักสักที เนื้อหาของเพลงนี้จะเกี่ยวกับความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊ก ที่เหมือนจะชอบกันแหละ แต่ยังไม่ชัดเจนเพราะต่างคนต่างอ้อมค้อมไปมา ไม่มีใครบอกความรู้สึกไปตรงๆ ก็เลยใช้การส่งโลเคชั่นเพื่อมาเจอกันในการบอกว่า ชอบนะ อยากเจอ อะไรประมาณนี้ค่ะ

หนูอยากให้เพลงนี้มีความเป็นตัวเองมากที่สุด หนูเป็นลูกครึ่ง ก็อยากทำเพลงไทยที่มีความอินเตอร์ มีภาษาอังกฤษแทรก แต่ต้องสมูธและไม่ฝืนเกินไป ท่อนเพลงแต่ละท่อนต้องมีความเป็นธรรมชาติที่สุดกับเรา เพลงนี้ก็ได้มีโอกาสทำงานกับพี่ HYE (ฮาย) ที่เป็นศิลปินในวง Paper Planes ด้วย ซึ่งเราก็ชอบการทำงานเขามากๆ เพราะเขาจะค่อนข้างปล่อยฟรีว่าเราอยากจะแต่งอะไร ตรงไหนยังไงพี่เขาก็จะช่วยแก้เมโลดี้แก้เนื้อให้ ซึ่งมันทำให้ผลงานออกมาเป็นตัวเองมากที่สุดค่ะ เป็นเพลงแรกในชีวิตที่มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนเลยค่ะ โดยเฉพาะในตัวเพลงที่เราแต่งเองกับโปรดิวเซอร์ ตอนแรกที่เริ่มทำเพลงนี้กันหนูยังอยู่เยอรมนี ทางโปรดิวเซอร์เขาก็ส่งบีทมาให้ก่อนแล้วเรานึกทำนองอะไรออกเราก็ร้องทับแล้วส่งกลับไปให้เขา ก็ทำงานส่งกันไปมาแบบนี้จนเพลงเสร็จถึงรอกลับมาอัดเสียงที่ไทย

ส่วนเอ็มวีก็ช่วยกันออกไอเดียกับทีมงานค่ะ เราก็รู้สึกว่าส่วนตัวก็ชอบงานนี้เพราะเราได้ควบคุมทุกอย่างในทุกๆขั้นตอน รวมถึงการร่วมออกแบบลุคเสื้อผ้าหน้าผมทุกๆลุคในเอ็มวีด้วยค่ะ  ก็ขอฝากเพลงซิงเกิ้ลใหม่ของพลอยชมพูเพลง Location  ไว้ด้วยนะคะ หนูตั้งใจทำโปรเจ็กต์นี้มากๆ

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

ฟีดแบ็กดีมากค่ะ ปล่อยไปชั่วโมงแรกมีคอมเมนต์เป็นพันๆ ตกใจมากค่ะ ไม่เคยมีเพลงที่คอมเมนต์เยอะขนาดนี้ เราหายไปนาน เกือบสองปี ก็แอบกลัวว่าคนจะลืมเรามั้ย เรากลับมาเริ่มต้นใหม่ ไม่ได้มีเงินทุนมาก ผ่านมาสองปีไม่มีงาน บวกกับมีเรื่องการฟ้องร้องค่ายเก่าด้วย มันก็ติดลบค่ะ แต่โชคดีที่มีสปอร์นเซอร์เข้ามาซัพพอร์ตด้วย ต้องขอบคุณมากค่ะที่เชื่อมั่นและวางใจในงานของเรา

ขอย้อนกลับถามถึงการไปเป็นศิลปินที่มาเลเซียเล่าให้ฟังสักนิดค่ะ

หนูเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับเขา แต่การย้ายไปมาเลเซีย ไม่ใช่การตัดสินใจของหนูเอง หนูรู้คนสุดท้ายเลยค่ะ หนูย้ายไปตั้งแต่ยังไม่เกิดโควิดเลยค่ะ ใจเราคิดว่าไม่เป็นหรอก มาเลเซียกับไทยใกล้กัน คิดถึงก็บินกลับบ้าน แต่เป็นเวลากว่า 9 เดือนไม่ได้กลับไทยเลย เพราะโควิดด้วย อยากทำงานให้เสร็จด้วย แต่แล้ว 3-4 เดือนผ่านไป เพลงแรกก็ยังไม่ออก

อยู่ที่นั่นก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรเลย เทียบระหว่างความว่างกับทำงาน ทำงานแค่ 10 % หนูตั้งคำถามกับตัวเองทุกวันว่า มาทำไม เรามาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร ช่วงที่ไปอยู่มาเลเซียปีแรก มีงานติดต่อเข้ามาเยอะมาก แต่หนูตัดสินใจรับงานเองไม่ได้ เราต้องส่งให้ค่ายตัดสินใจด้วย ต้องบอกว่าหลายครั้งเราก็พลาดโอกาสดีๆ ไป ไม่รู้ว่าที่เราส่งเรื่องไปได้มีการสื่อสารกันต่ออย่างไรบ้าง สรุปคือ หนูไปอยู่ที่นั่นเกือบ 2 ปี มีซิงเกิ้ลออกมาเพลงเดียว ซึ่งตามสัญญาต้องทำอัลบั้มจำนวน 5 เพลง ช่วงต้นปี 2020 เขาพาไปอเมริกาเพื่อทำเพลง ทำได้ 4 เพลง แต่เขาไม่ชอบสักเพลง หนูมีเพลงที่ทำก่อนเข้าค่าย ก็ลองนำเสนอเป็นสิบกว่าเพลง ก็ไม่มีการตอบรับที่ชัดเจน หนูถามตลอดว่าเมื่อไรจะได้ทำเพลงๆ ก็ยังเงียบ

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าพอดีกว่า

หนูอยากออกจากค่ายเลยตั้งแต่ช่วงแรกๆ เลย แต่ทำไม่ได้ เพราะหนูไม่อยากทำให้ผิดสัญญา ความรู้สึกค่อยๆ ก่อจากจุดเล็กๆ จนเริ่มใหญ่ขึ้น เรารู้สึกไม่ไหวเลยค่ะ มันแย่กว่าตอนเป็นศิลปินอิสระอีกค่ะ ตอนอยู่เมืองไทย หนูรับงานชิ้นเดียวอยู่ได้ทั้งเดือน แต่ตอนนั้นเราไม่มีรายได้มีแต่รายได้ จากที่เคยดูแลครอบครัวได้ แต่ตอนนี้แม้ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย ต้องหยุดส่งเงินให้ครอบครัว รู้สึกว่าเราพาตัวเองลำบากแล้วยังพาครอบครัวลำบากด้วยอีก ทำไมเราถึงพาทุกคนลำบากไปด้วยจากการเซ็นสัญญากับเขาครั้งนี้ หนูก็รอจนอายุสัญญาหมดไป แล้วกลับเมืองไทย

 

ถึงขึ้นส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจไม่น้อยเลยใช่มั้ยคะ

สุขภาพจิตแย่มาก ถึงจุดที่ต้องไปหาหมอ เพราะหนูเป็นแพนิกและเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า มีหลายองค์ประกอบมากที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ เรื่องงาน เรื่องโควิดด้วย เครียดไปหมด คิดตลอดว่า อีกกี่เดือนเพลงจะได้ออก บวกกับอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน ทุกคน wfh กันหมด เราอยู่ในห้องคนเดียว 3 เดือนแบบไม่ได้เจอใคร มันยิ่งทำให้เราจิตตก

หนูได้แต่บอกกับตัวเองให้อดทน อย่ายอมแพ้ จนกว่าจะได้กลับเมืองไทย พอกลับเมืองไทยก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ไม่ดี หนูไปหาหมอเพื่อวินิจฉัยว่าเราเป็นใช่มั้ย ก็คือเราเป็นซึมเศร้าจริงๆ จุดพีคที่ทำให้หนูตัดสินใจไปหาหมอคือ หนูทำร้ายตัวเอง หนูนอนไม่ได้สองวันติดกัน มาเป็นอาทิตย์ๆ ทรมานมากค่ะ ร่างกายง่วงนะคะ แต่ก็สะดุ้งตื่น อยากนอนก็นอนไมได้ ร่างกายอยู่ในโหมดเซอร์ไวเวอร์ตลอดเวลา ห้ามนอนนะ ห้ามหลับนะ ร่างกายกล้ามเนื้อเกร็งตลอด พอจะหลับก็หยุดหายใจ มีอากาสสะดุ้งเพราะร่างกายเราตกใจ

ต้องบอกก่อนว่าเรื่องทำร้ายตัว หนูไม่ได้ทำทุกวันนะคะ คือมันสุดมากจริงๆ ถึงทำแบบนั้น คือเราหาทางออกไม่ได้ ไม่มีที่ระบาย คือแพชชั่นของหนูคือการทำงาน ไม่มีอะไรที่หนูรักไปกว่าการทำงานเพลงและเสียงดนตรีแล้ว  พอไม่มีตรงนั้น เราเกิดอาการกังวล เหมือนเราไม่มีจุดยึดเหนี่ยว

ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ

โชคดีว่าช่วงนั้นที่ป่วย หนูเดินทางไปเยอรมันเพื่อฉีดวัคซีนพอดีเลยค่ะ พอเราห่างจากสังคมเดิมๆ ได้ไปเจอโลกใบใหม่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเดิมๆ มันช่วยคลายเครียดมากขึ้น แล้วหนูก็ไปหาหมอต่อที่เยอรมันด้วย พอจิตใจเราดีขึ้น อาการต่างๆ ลดลง หนูก็ค่อยๆ ลดยาตาม จะกินเฉพาะที่จำเป็น

หนูไม่เป็นซึมเศร้าแล้วค่ะ มีแค่อาการวิตกกังวล เครียด หนูไม่อยากอยากทำร้ายตัวเองแล้ว ไม่นอนสะดุ้งแล้ว ตอนนี้หนูแฮปปี้แล้วค่ะ ตอนนี้ในแต่ละวัน มีอะไรให้เราทำตลอด เราได้ทำงานตามแพชชั่น ได้สร้างแรงบันดาลใจดีๆ ได้แบ่งปันแรงบันดาล มันคือความสุขของเรา แม้แต่การที่ได้ออกเดินสายสัมภาษณ์สื่อ มาเจอทีมสุดสัปดาห์ ได้พูดคุยกัน หนูมีความสุขมากค่ะ

 

แล้วอะไรที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการฟ้องร้องขึ้นมา

ประเด็นคือ หนูหมดสัญญาแล้ว แต่เขายังตามขัดขวาง ตามปิดเพลง หนูปล่อยเพลงเขาก็เคลม หนูเลยมีการปรึกษาทนาย ทั้งไทยและต่างประเทศ เราต้องชัวร์ที่สุด เพราะเป็นเรื่องสัญญาและกฏหมาย คือถ้าไม่เข้ามาละลาน หนูจะไม่ฟ้องเลยค่ะ แต่เขาไม่จบ เขาบอกว่าหนูยังไม่หมดสัญญา เพราะยังทำเพลงไม่ครบ หนูก็งงแล้วว่าที่ผ่านมาคืออะไร แล้วตลอดเวลาที่หนูอยู่ที่นั่น เขาไม่ทำเอง หนูถามตลอดเมื่อไรจะทำเพลงๆ จนกระทั่งหมดสัญญา หนูรวบรวมหลักฐานไว้หมดค่ะ ทุกอย่างหนูทำอย่างละเอียดรอบคอบที่สุดค่ะ

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

แพลนงานปีนี้วางไว้อย่างไรบ้างคะ

บอกตรงๆ ว่าหนูเข็ดกับการมีค่าย เราไม่ค่อยมีประสบการที่ดีเท่าไร มีปัญหาตลอดเลยค่ะ หนูคิดว่าตัวเองเหมาะกับการเป็นศิลปินอิสระ  ถึงจะเหนื่อยมากกว่าการ แต่เราได้เป็นตัวเองเต็มที่ ไม่ได้ถูกวางในกรอบ ไม่ต้องอยู่ในข้อบังคับว่าเดือนนี้ต้องปล่อยเพลง ปีนี้ต้องปล่อยให้ได้เท่านี้เพลงนะ ถ้าในอนาคตจะทำงานกับค่าย หนูอาจจะดูเป็นโปรเจ็กต์ไปดีกว่า

ปีนี้ตั้งใจรับทำงานเต็มที่ค่ะ เป็นการวางแผนระยะสั้นๆ ดูงานที่เหมาะกับเรา ที่สำคัญอยากทำอัลบั้มไทยอัลบั้มแรก งานแสดงก็สนใจนะคะ ถ้าบทนั้นเราสามารถทำได้หนูก็รับ

ขอบคุณกำลังใจสำหรับทุกคนมากค่ะ  เดือนสองสามเดือนที่ผ่านมา หนูก็เจอะอะไรมาเยอะ แต่แฟนๆ ไม่ลืม ขอบคุณที่ยังติดตามผลงานของหนู ปีนี้หนูจะลุยงานเต็มที่เพื่อแฟนๆ ที่รอซัพพอร์ต ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

 

สุดฯแยกพัฒนาการ พลอยชมพู

Text: AuAi 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อิ้งค์ วรันธร เปานิล นักร้องหญิงขวัญใจแฟนบอยและแฟนเกิร์ลทุกเพศทุกวัย

New Normal, New Peck เมื่อเป๊ก ผลิตโชค เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up