เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ ทำความรู้จัก สาวผมสั้นม้าเต่อ ที่มีดีมากกว่าความแซ่บ

account_circle
event

เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ สาวผมสั้นม้าเต่อ เจ้าของเพจ Supanaree story ที่แชร์คอนเทนต์น่ารักๆ กับคุณแม่ และน้องสาวจนได้ใจชาวโซเชียล ล่าสุดเธอกำลังมีผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต Deep…โปรเจกต์ลับ หลับเป็นตาย  ซึ่งเธอทำได้ดีทีเดียวกับการเป็นนักแสดง มาทำความรู้จักเฟิร์นผ่านสัมภาษณ์ไม่สั้นไม่ยาวนี้ จะสัมผัสได้กับความน่ารัก เรียบง่าย ของผู้หญิงคนนี้ ที่มีดีมากกว่าความแซ่บที่คุณคุ้นเคยในโซเชียล 

เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ ทำความรู้จัก สาวผมสั้นม้าเต่อ ที่มีดีมากกว่าความแซ่บ

จุดเริ่มการทำงานในวงการของเฟิร์น-ศุภนารีเริ่มต้นเมื่อไรคะ

สวัสดีค่ะ เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์ นะคะ เฟิร์นเข้าวงการตอนประมาณ ม.ปลาย เริ่มจากถ่ายงานโฆษณา ซึ่งเราก็แคสต์งานมาเรื่อยๆ เป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลยค่ะ กว่าจะได้แต่ละงาน ต้องเตรียมตัว ต้องไปรอทั้งวัน แม้จะไปถึงคิวแรกก็ต้องรอ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ ตอนนั้นเราก็พยายามไปแคสต์งานบ่อยๆ ครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งหน้าไปใหม่ ไปจนกว่าจะได้ ถ้างานไหนเราตรงคาแร็กเตอร์ เขาก็จะเรียกเราให้ไปแคสต์ เพราะงานนี้เหมาะกับเรา คาแร็คเตอร์เราได้ การแคสต์งานเป็นการแข่งขันค่อนข้างสูง บางงานไปแคสต์กันเป็นพัน เพราะได้เงินเป็นหลักแสน

เหตุผลที่อยากเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงคืออะไรคะ

เฟิร์นชอบการแสดงด้วยค่ะ แล้วก็อยากหารายได้ เพราะเราทำงานหาเงินดูแลตัวเองตั้งแต่ ม.ปลาย เฟิร์นแคสต์โฆษณามาตลอด เริ่มมีงานมาเรื่อยๆ ตั้งแต่มหาวิทยาลัย ปี 1 ก็ส่งตัวเองเรียนโดยที่ไม่ขอเงินพ่อแม่เลย และก็ยังให้เงินพ่อแม่ด้วย เป็นความภูมิใจของเราอย่างหนึ่งเลยค่ะ

แล้วจุดเริ่มต้นของการทำเพจ Supanaree story ล่ะคะ

จุดเริ่มต้นคือ แค่อยากบอกว่าเรามีแม่กับมีน้องที่ตัดผมสั้นเหมือนกัน (หัวเราะ) คือทุกคนไม่ค่อยรู้ว่าเฟิร์นมีน้อง เพราะเป็นน้องคนละพ่อ ทำคลิปแรกก็ฟีดแบ็กดีเลยค่ะ เราไม่ได้มีคอนเซปต์อะไรมากมาย วันนี้อยากกินอะไรก็กิน อยากไปเที่ยวไหนก็ไป หลักๆ คือเฟิร์นอยากพาแม่ไปทำอะไรที่แม่ยังไม่เคยทำ ด้วยความที่ครอบครัวแม่เป็นคนจีน สมัยสาวๆ แม่จะถูกห้ามไม่ให้แต่งตัวโป๊ ต้องแต่งตัวเรียบร้อย บิกินีไม่ได้เลย แต่มายุคเรา เราก็บอกแม่ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต เซ็กซี่สิแม่ เราก็พาแม่แต่งตัว พาแม่ไปดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ ทำในสิ่งที่แม่ไม่เคยทำ

 เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์

พูดยังไงให้แม่ยอมใส่ชุดว่ายน้ำ

คือตอนแรกเขาก็บอกว่าจะดีเหรอ แม่อายุเยอะแล้ว คนจะว่าหรือเปล่าว่าแต่งตัวไม่ดี เราก็บอกแม่ว่า นี่เราไปทะเลนะ การใส่บิกินีไปทะเลคือเรื่องปกติ เราไม่ได้ใส่ไปเดินตลาด แม่ก็บอกว่าลองดู ปรากฎว่าใส่แล้วแม่แฮปปี้ แม่รู้สึกว่า มันก็โอเคนะ 3 แม่ลูกได้ทำอะไรด้วยกัน น่ารักดี

ตอนนั้นแม่ก็ยังอ้วนๆ อยู่ แต่ตอนนี้แม่หันมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพมากขึ้น นอกจากแม่จะได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำแล้ว ยังทำให้ความสัมพันธ์ของแม่ เฟิร์น และน้อง สนิทกันมากขึ้นด้วย ซึ่งตอนนี้แม่แฟนคลับเยอะกว่าลูกอีก (ยิ้ม)

ฟิร์น-ศุภนารี ดูเป็นคนที่มั่นใจและเป็นตัวเองมาก แม่เลี้ยงลูกสไตล์ไหน 

แม่ไม่สตริกต์เลย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเที่ยว ขอแค่จะไปทำอะไรก็บอก อยากไปเรียนพิเศษเสริมก็บอก แม่ไม่เคยบอกลูกว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันเลยทำให้เราไม่เครียดและเกรงใจแม่ไปเอง เพราะเขาตามใจเราขนาดนี้แล้ว เราจะต้องไม่ไปทำอะไรที่เสียหาย

คือเอาจริงเราก็เป็นเด็กเฟี้ยวประมาณหนึ่งค่ะ ค่อนข้างดื้อ เป็นเด็กหลังห้อง เด็กกระโปรงสั้น ก็โดนเชิญผู้ปกครองประจำ ตอน ม. 1 ต้องตัดผมสั้นทรงนักเรียนใช่มั้ยคะ แต่เราก็คือผมซอยเลย เพื่อนทำหมด เราไม่ทำก็เชย (หัวเราะ) นี่แหละเราก็เฟี้ยวประมาณนี้เอง

 

กับน้องเราสองคนสนิทกันนะ แม้จะอายุห่างกันมาก น้องเพิ่งอายุ 15 ปี ซึ่งเราก็คุยกับน้องทุกเรื่องเลยนะ น้องมีปัญหาอะไรก็มาปรึกษา อกหักทำไงดี เราห่วงเขานะ แต่เราคิดว่าเขาดูแลตัวเองได้ดี ตั้งแต่ทำเพจด้วยกัน ตอนนี้ น้องก็มีรายได้เป็นของตัวเอง ทำงานไปด้วย และส่งตัวเองเรียนแล้ว ด้วยวัยเพียงเท่านี้เราก็ภูมิใจกับเขานะ (ยิ้ม)

 เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์

เป้าหมายชีวิตของเฟิร์น-ศุภนารีในอนาคตที่วางเอาไว้เป็นอย่างไรคะ 

คือเฟิร์นก็ยังไม่คิดอะไรมากนะ ก็ทำงานที่โอกาสเข้ามาให้เราได้ทำแบบนี้ไปก่อน ก็มีความสุขดีค่ะ ในอนาคตอาจจะไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่ อยู่บ้าน เลี้ยงหมา ทำกับข้าว ทำสวน ชอบชีวิตง่ายๆ ไม่ชอบอะไรประดิษฐ์

ด้วยความที่ทำเพจเฟซบุ๊ก Supanaree story และช่องยูทูบมีมุมมองอย่างไรกับโลกโซเชียลปัจจุบัน 

ถ้านำไปใช้ในทางที่ดี ก็จะดีมากๆ แต่ทางเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดี จะแย่มากๆ เลยค่ะ อยู่ที่เราเลยว่าจะใช้มันอย่างไร เฟิร์นทำเพจมีคนชอบเราเยอะ แต่ก็โดนด่าเยอะเช่นกัน คอมเมนต์แย่ๆ เต็มไปหมด ด่าแม่เราด้วย ด่าครอบครัวด้วย  ด่าเฟิร์นว่า “ขาใหญ่ นมเล็ก” เราไม่เถียงนะที่คุณพูดก็ถูก เราเป็นแบบนี้จริงๆ แล้วทำไมเหรอ ขาใหญ่ นมเล็ก แต่เรามีความสุขนะ

คือเราห้ามคอมเมนต์ในโซเชียลไม่ได้หรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับเราที่จะเลือกสนใจหรือไม่สนใจ เราก็แค่จัดสรรความคิด ความรู้สึกของเรา อย่างไปเครียดกับคำพูดคนอื่น สิ่งสำคัญสำหรับเฟิร์นคือใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ ให้ความสุข ให้ความรู้กับคนดู ร้านนี้อร่อยนะ เราบอกต่อ เราแชร์เรื่องการออกกำลังกาย การวิ่ง

 เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์

เฟิร์นมีแชร์คอนเทนต์เรื่องการพูดเกี่ยวกับเรื่อง body shaming ลงไปในเพจ ซึ่งหลายคนคิดเห็นเหมือนเรา  คือคนเรามักจะชอบทักทาย หรือใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม เช่น “ดำขึ้นป่ะ” “อ้วนขึ้นป่ะ” เป็นเรื่องไม่สมควรที่เราทักทายใครด้วยประโยคแบบนี้ “แต่งงานหรือยัง” บางคนพูดโดยไม่รู้ตัวว่ามันไม่ควร เพราะเขาใช้คำพวกนี้จนชิน

เฟิร์นไม่อยากให้การพูดในลักษณะนี้ เป็นคำพูดปกติ คือจะพูดกับใครก็ต้องพิจารณาก่อนนะ ว่าสนิทกันหรือเปล่า มากน้อยแค่ไหน ถึงจะสนิทก็ไม่ควรพูด (เคยเจอคำทักทายแบบไหนที่รู้สึกอึ้ง?) หัวล้านขึ้นป่ะเนี่ย… สังเกตหัวเราอะไรเบอร์นั้น ต้องส่องขนาดไหนถึงทักทายกันแบบนี้ ฟังแล้วก็แบบ… อิหยั่งวะ เลยค่ะ แต่ถ้ามากระซิบบอกเราว่า หน้ากับคอ ไม่เท่ากันนะ เฟิร์นว่าอันนี้เรียกว่าเตือน เพื่อให้เรารู้ตัวและแก้ไข

 

เล่าถึงงานแสดงภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ทำไมถึงรับเล่นเรื่อง Deep…โปรเจกต์ลับ หลับเป็นตาย

เฟิร์นดูบทก่อน คือบทน่าสนใจ  เฟิร์นอยากลองด้วยว่าเล่นหนังเรื่องแรกในชีวิตจะเป็นอย่างไร บท “ซิน” มีความขัดแย้งในตัวเอง มันน่าค้นหามาก ซินเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ไม่ได้อยากเรียนหมอ แต่ทำเพราะความต้องการของที่บ้าน จริง ๆ แล้วอยากเป็น บิวตี้บล็อกเกอร์ คือเป็นคนชอบโซเชียล ชอบถ่ายรีวิว ซินเลยมาร่วมทำมิสชั่นเพื่อต้องการเงิน มาสนองความต้องการของตัวเอง ซินอยากเอาเงินไปทำตามความฝันของตัวเอง อยากเอาไปทำสวย อยากไปเรียนนิเทศศาสตร์

เตรียมตัวรับบท “ซิน” อย่างไร 

ต้องเรียนการแสดง ครูร่มก็จะบอกว่าตรงนี้ต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง ตอนเรียนแอ็คติ้งเขาก็จะเอาบทที่ยาก ๆ มาให้ลองเล่นดู  แต่เขาจะให้เราลองจินตนาการเล่นเองก่อนนะว่าอารมณ์ประมาณไหน ถามว่าตีความบท “ซิน” ยังไง ก็ไม่ยากนะคะ แค่คนที่อยากเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ ที่จำใจต้องมาเรียนหมอ เราก็ต้องเล่นให้คนรู้สึกว่าเรามีความเป็นหมอที่เก๋ๆ หน่อย โชคดีที่เรื่องนี้ไม่ต้องมานั่งท่องศัพท์แพทย์ เพราะไม่ได้เจาะลึกมากเท่าไหร่  แต่ก็ต้องดู Keep look ให้ดูเป็นหมอด้วย

 เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์

บทซินท้าทายอย่างไรคะ

ท้าทายมากค่ะ พอรู้ว่าต้องเล่นเป็นสาวหวาน จะยังไงดี แรกๆ เฟิร์นทำไม่ได้ รู้สึกว่ายาก ผู้กำกับก็ปรับให้เป็นเรามากขึ้น คือซินเป็นผู้หญิงสีชมพู เป็นผู้หญิงแบ๊วๆ กุ๊กกิ๊กมาก เสียงสูง เสียงเล็กๆ น่ารักๆ แต่ชีวิตจริงเราไม่ใช่คนเแบบนั้น เราเป็นคนบ้านๆ ค่ะ (หัวเราะ)

 เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์

พอได้มาชิมลางงานภาพยนตร์ แตกต่างจากซิทคอมที่เราเคยเล่นไหม

ก็น่าจะแตกต่าง ซิทคอมเป็นอะไรที่ง่าย โยนมุกเล่นอะไรก็ได้ แต่เรื่องนี้บทค่อนข้างหนัก แอ็คติ้งจะเข้มกว่า เราก็ต้องทำการบ้านมากขึ้น เราต้องเล่นกับหลายๆ คน อารมณ์ก็ต้องส่งหากัน เรื่องนี้มีความจริงจังกว่า ถามว่ามีกดดันอะไรบ้างไหม ไม่เลย ชิลล์ๆ เล่นในสิ่งที่เราเชื่อ

ได้ร่วมงานกับผู้กำกับรุ่นใหม่ เฟิร์นรู้สึกอย่างไรบ้าง

ก็โอเคนะคะ เหมือนเป็นเพื่อนกัน เราสามารถแชร์ไอเดียได้ ไม่ชอบอะไรก็พูดเลย เขาก็พร้อมรับฟังเรา ต่างคนต่างใหม่กับงานหนัง ก็ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปกัน เขามีการทำงานที่ละเมียด อย่างเล่น 1 ซีน แต่มีผู้กำกับหลายคน เขาก็มีหลายความคิด มีขัดแย้งกันเองบ้าง แต่เราไม่หงุดหงิดนะ เราเข้าใจว่าเขาเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ เขาเลยต้องเพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน และเขาทำงานกันเป็นทีม เขาก็ต้องตัดสินใจเน้นความเห็นส่วนรวม

 เฟิร์น-ศุภนารี สุทธิวิจิตรวงษ์

ซีนเด็ดประทับใจ 

น่าจะป็นตอนที่ซินเห็นรูปตัวเองเยอะแยะในห้อง คือมีโรคจิตตามถ่ายรูปเราเก็บไว้ เราไปเจอในห้องเขา ตกใจจนเป็นลม ก็ต้องไปดูว่าซีนเต็มๆ เป็นอย่างไร

ฝากผลงานหนังเรื่องแรกในชีวิต

เฟิร์นไม่ค่อยเห็นคนไทยทำหนังแนวนี้ น่าตื่นเต้นดีค่ะ มีทริลเลอร์ผสม ทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจกันมากๆ ค่ะ อยากให้เป็นกำลังใจให้พวกเรา รับชมกันได้ทาง Netflix นะคะ

 

Text: AuAi Photo: เนาวพจน์ 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เค เลิศสิทธิชัย จากบัณฑิตเกียรตินิยมสู่เส้นทางในวงการบันเทิงที่พร้อมจะเรียนรู้

BNK48 ชวนฟังเพลงใหม่ Sukida Sukida Sukida ชอบเธอนะ

BNK48 กับออริจินัลเพลงแรก และความลับในวงที่แอบมาเล่าสู่กันฟัง

 

 

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up