สุดสัปดาห์มีโอกาสได้สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ 2 นักแสดงจาก Move to Heaven อย่างอีเจฮุนและทังจุนซัง บอกเลยว่าตั้งแต่งานแถลงข่าวยันช่วงสัมภาษณ์ บรรยากาศน่ารักสุดๆ อีเจฮุนก็แสนขี้เล่น ทังจุนซังก็สดใส เฮฮา เรียกว่าเคมีนอกจอลงตัวมาก ซึ่งทั้งสองคนก็ได้เล่าถึงการทำงานร่วมกัน และการแสดงเรื่องนี้ เป็นซีรี่ย์เกาหลีงานคุณภาพอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดจริงๆ
Move to Heaven ซีรี่ย์เกาหลีสุดแปลกใหม่จาก Netflix
ในเรื่องนี้คุณทังจุนซังต้องรับบทเป็นตัวละครที่มีอาการแอสเพอร์เกอร์ ผู้ชมหลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักกับอาการแอสเพอร์เกอร์ คุณอยากจะแนะนำอะไรเพื่อให้คนเข้าใจอาการแอสเพอร์เกอร์มากขึ้นไหมคะ
ทังจุนซัง : อาการแอสเพอร์เกอร์จะทำให้แสดงออกความรู้สึกได้น้อย เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทำให้สื่อสารกับอีกฝ่ายได้ยาก เช่น เวลาได้ยินใครพูดอะไร ก็จะเข้าใจตามคำพูดนั้นตรงๆ เลย หรือถ้ามีสิ่งที่คิดว่าจะต้องทำ ก็จะต้องทำให้ได้เท่านั้น แต่ในมุมกลับกันจะมีพัฒนาการที่ดีในเรื่องของความจำที่เป็นเลิศ อย่างตัวกือรูเอง ถ้าได้เห็นคู่มือสินค้าหรือรายชื่อชนิดปลาแค่ครั้งเดียว ก็สามารถท่องสิ่งที่เห็นออกมาได้ยาวๆ เลยครับ
ในซีรี่ย์เรื่องMove to Heaven คุณอีเจฮุนต้องเรียนศิลปะต่อสู้ป้องกันตัว (MMA) ก่อนหรือไม่ และมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนแสดงเรื่องนี้
อีเจฮุน : มีฉากที่ต้องแสดงออกมาให้ร่างกายดูแข็งแรงและมีแนวแอ๊กชั่นเยอะมาก เลยต้องฝึกกับทีมศิลปะป้องกันตัวเยอะหน่อย แต่ก็แอบเสียดายที่ช่วงเวลาฝึกนั้นไม่ได้ยาวมาก ผมอยากแสดงออกมาให้ดูแข็งแรงและเท่ ก็เลยทุ่มสุดตัว ทำให้มีการบาดเจ็บเกิดขึ้น อย่างตอนถ่ายฉากต่อยมวย ต่อยกระสอบทราย ผมหักโหมไปหน่อย ทำให้เจ็บข้อมือ ต้องใส่เฝือกที่มืออยู่เดือนนึงเลย ช่วงนั้นก็ลำบากอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกพึงพอใจมากครับที่ได้ลองแสดงฉากต่อยมวยหรือศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวต่างๆ ด้วยตัวเองผ่านผลงานชิ้นนี้
อาชีพแบบในMove To Heaven เป็นความแปลกใหม่ของซีรี่ย์เกาหลี คุณมีมุมมองอย่างไรบ้างกับอาชีพลักษณะนี้
อีเจฮุน : การมีอยู่ของอาชีพนี้เป็นอะไรที่มีค่าและสมควรได้รับความเคารพ เป็นงานที่ไม่ได้ทำง่ายๆ ผมคิดว่าความเคารพที่มีต่อผู้ที่ล่วงลับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ใช่งานที่จะทำแค่เพื่อหาเงินเท่านั้น ผมหวังว่าถ้าหลังจากนี้คนได้รู้จักและเลือกที่จะประกอบอาชีพนี้มากขึ้น จะได้รู้ว่าเป็นอาชีพที่ต้องมีจิตใจอันยิ่งใหญ่ที่เคารพผู้ล่วงลับและสามารถสื่อสารสิ่งต่างๆ ให้กับครอบครัวของเขาได้
ทังจุนซัง : ผมคิดว่าถ้าวันหนึ่งต้องจากไป ก็คงสามารถฝากเรื่องไว้กับบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุหลังความตายได้ รู้สึกว่าตอนที่ยังมีลมหายใจอยู่ ต้องใช้ชีวิตอย่างดี เพื่อที่เวลาพนักงานมาเก็บกวาดจะไม่ได้เหนื่อยเกินไป ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับเขา รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยมและไม่ใช่งานธรรมดา ๆ เลย
Move to Heaven สะท้อนให้เห็นสังคมตัวคนเดียวของเกาหลี ซึ่งจริงๆ แล้วสะท้อนสังคมโลกที่มนุษย์ต่างอยู่โดดเดี่ยวมากขึ้นด้วย อยากรู้ว่าหลังจากทำงานในเรื่องนี้ ตัวคุณเองใช้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม ทั้งกับคนรอบข้าง ครอบครัว ฯลฯ
อีเจฮุน : ตัวผมเองยังอาศัยอยู่กับครอบครัว ไม่ได้แยกออกมาอยู่คนเดียว ก็เลยยังไม่เคยรู้สึกว่าโดดเดี่ยวหรือเหงา แต่พอได้มาแสดงเรื่องนี้เลยได้รู้ว่า “ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน มันไม่ได้อยู่ตลอดไปสินะ” สักวันหนึ่งก็ต้องเจอกับวินาทีที่แยกจากกัน แล้วตัวเราจะรับมือกับมันยังไง ทำให้ผมคิดถึงจุดนี้เยอะมาก ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้คิดถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดลึกซึ้งเท่าไหร่ ทำให้รู้สึกขอบคุณการที่ผมได้มีชีวิตและหายใจอยู่ ณ ตอนนี้ และอยากจะพูดคำดีๆ ให้กับคนรอบตัวที่ผมรักได้ฟัง ทำให้รู้ว่าถึงแม้จะไม่ได้เจอกันบ่อย แต่การติดต่อไปหาและพูดคุยกันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ
ทังจุนซัง : ผมโทรหาคนรอบตัว เพื่อนหรือคนรู้จักที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ผมก็มีช่วงที่เหงาหรือรอการติดต่อจากเพื่อนๆ เหมือนกัน เลยลองเปลี่ยนเป็นฝ่ายที่เริ่มติดต่อไปหาก่อนแทนครับ
อยากรู้ว่ามุมมองของนักแสดงที่มีต่อ “ชีวิตและความตาย” ในซีรี่ย์เป็นอย่างไร
ทังจุนซัง : ที่จริงผมยังเพิ่งอายุ 19 ปี แต่เอาจริงๆ แล้ว มันก็เป็นเรื่องที่คนอายุเท่านี้สามารถจะนึกถึงได้ แต่ผมไม่เคยคิดเรื่องของ “ชีวิตและความตาย” มากขนาดนั้น แต่พอได้แสดงเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับการจัดของให้คนที่จากไป ทำให้ได้ย้อนคิดว่ามีสิ่งของอะไรที่สื่อถึงตัวเราบ้างนะ หรือคิดว่าถ้าเราตายไปแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นยังไงนะ คิดแค่อะไรแบบนี้ ไม่ได้คิดถึง “ชีวิตและความตาย” ในเชิงปรัชญาหรือคิดถึงเรื่องชีวิตและความตายอย่างจริงจังขนาดนั้นครับ
อีเจฮุน : ผมพยายามคิดและรู้สึกถึงคีย์เวิร์ดคำว่า “ชีวิตและความตาย” ผ่านผลงานชิ้นนี้ การใช้ชีวิตมีทั้งดีใจ โกรธ เศร้า สุข ผมหวังว่าตอนที่เผชิญหน้ากับความตายผมจะไม่เหงา และได้คิดว่าช่วงเวลาที่คนที่ผมสนิทกำลังจะจากไป ผมอยากจะคอยอยู่เคียงข้างเขาครับ
ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตบ้างไหม หลังจากที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับของสำคัญในชีวิตและการจากไป
อีเจฮุน : ผมรู้สึกว่าต้องคอยดูแลคนรอบตัวให้ดี สังคมเราให้ความสำคัญกับความฝัน ความมั่งคั่ง การหาเงินของตัวเอง ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่สำคัญแต่มันก็ช่าง…(หยุดพูดไป แต่สื่อความหมายในสีหน้าและน้ำเสียงได้ว่า น่าเสียดาย/น่าเศร้า) ผมคิดว่าสุขภาพและคนที่อยู่รอบตัวเรา คือผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตมายังไงบ้าง ท้ายที่สุดแล้ว “คน” ก็คือสิ่งสำคัญ รู้สึกว่าต้องดีกับคนรอบตัวให้มากกว่านี้ผ่านผลงานชิ้นนี้ครับ
ทังจุนซัง : ผมก็เหมือนกันครับ ได้รู้สึกว่าคนรอบตัวนั้นสำคัญมาก ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องเคยรู้สึกเหงาอยู่แล้ว ผมเองก็เช่นกัน ผมเลยได้เรียนรู้ว่าคนรอบตัวนั้นเป็นบุคคลที่สำคัญต่อตัวผมมาก
ระหว่างถ่ายทำ มีอะไรที่พวกคุณประทับใจกันและกันบ้าง
อีเจฮุน : สิ่งที่นึกออกตอนนี้เลยคือ ตอนถ่ายทำคุณแม่ของจุนซังทำอาหารมาให้สต๊าฟและนักแสดงทานด้วยตัวเองเลยครับ (หันไปถามคุณจุนซัง) “ใช่กุ้งทอดไหมนะครับ” อร่อยมากๆ เลยครับ เมนูนี้เนี่ยถ้าจะทำก็ต้องเตรียมตัวตั้งแต่วันก่อนหน้า ทำละเอียดทีละอันๆ (คุณจุนซังน่าจะหันมาตอบว่า คือ สปริงโรล) คุณแม่เตรียมสปริงโรลมาให้ อร่อยและประทับใจมาก อยากทานอีกครับ
ทังจุนซัง: (หัวเราะ พูดกับคุณอีเจฮุนว่า “ประทับใจเรื่องนั้นเหรอครับ 555”) สำหรับผม ในฐานะที่พี่เจฮุนเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์เยอะมาก เวลาพักในกอง ผมก็จะถามสิ่งที่ผมสงสัย สิ่งที่ผมควรจะต้องทำต่อไปในฐานะนักแสดง ความคิดและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตต่างๆ เวลาถามหรือขอความช่วยเหลือจากพี่เจฮุนทีไร พี่เจฮุนก็จะให้คำตอบอย่างใจดีและคอยนึกถึงมุมของผมตลอด ได้เรียนรู้จากพี่เจฮุนเยอะมาก ประทับใจมากครับ
มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ ไหมคะ
อีเจฮุน : ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่เรื่องMove to Heaven จะได้ฉายผ่าน Netflix อยากให้ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม แฟนๆ จะได้ชมผลงานชิ้นนี้ ได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้น เป็นผลงานที่สามารถแนะนำให้กับคนรอบตัวได้อย่างภาคภูมิใจ รู้สึกดีมากๆ ฝากทุกคนติดตามซีรี่ย์เรื่องนี้กันมากๆ ด้วยนะครับ
ทังจุนซัง : ผมตั้งใจถ่ายผลงานชิ้นนี้ด้วยใจที่อยากจะสื่อความรู้สึกของผมหลังจากได้อ่านบท อยากให้ชมเรื่องนี้แบบสบายๆ รับความสนุกสนานและความประทับใจไป และฝากไปโปรโมตให้กับคนรอบตัวด้วยนะครับ หวังว่าจะชมเรื่องนี้อย่างสนุกกัน ถึงจะรู้สึกว่าอีกนานกว่าจะถึงวันที่ 14 พฤษภาคม แต่รออีกแค่แป๊บเดียวก็จะได้ชมแล้วครับ ฝากตั้งตารอด้วยครับ
บอกเลยว่ารอแน่นอนค่ะ อยากชมการแสดงของอีเจฮุนและทังจุนซังมากๆ เพราะทั้งคู่เป็นนักแสดงที่ฝีมือการแสดงดีมากจริงๆ ซึ่งอีเจฮุนก็กำลังมีผลงานการแสดงที่กำลังออนแอร์อยู่ด้วย ซึ่งในงานแถลงข่าวอีเจฮุนก็ได้พูดถึงความแตกต่างระหว่าง 2 เรื่องว่า “ใน Taxi Driver เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแก้แค้นให้กับเหยื่อ แต่ในเรื่องMove to Heaven ผมรับบทเป็น Trauma Cleaner ซึ่งมีหน้าที่จัดการและส่งมอบสมบัติล้ำค่าต่างๆ ให้กับญาติพี่น้องของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้มันค่อนข้างไปแตะในประเด็นสังคมมากๆ ในขณะเดียวกันตัวละครซังกูก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย ไม่เชื่อใจคน คิดว่าทุกคนทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น แต่ตัวเขาจะค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงทีละน้อยในแต่ละเอพิโสด เป็นคาแร็กเตอร์ที่น่าสนใจครับ”
ส่วนทังจุนซังที่ก่อนหน้านี้ได้ฝากผลงานการแสดงไว้ในซีรี่ย์เกาหลีเรื่องดัง Crash Landing on you และได้มารับบทนำในเรื่องMove to Heaven ได้พูดถึงความกดดันและความรู้สึกว่า “ในเรื่อง Crash Landing on you เท่าที่ผมดูฟีดแบ็กจากโซเชียลมีเดียต่างๆ มีแฟนๆ ทั่วโลกที่ชอบเรื่องนี้ พอได้มารับบทเป็นนักแสดงหลักในเรื่องMove to heaven ผมก็รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากครับที่ได้ร่วมงานกับทาง Netflix อีกครั้ง สำหรับการแสดง คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้เป็นคาแร็กเตอร์ที่ค่อนข้างยาก ผมรู้สึกค่อนข้างกดดัน ผมได้ปรึกษาและพูดคุยกับคนเขียนบทและผู้กำกับค่อนข้างมาก นอกจากนี้ทั้งรุ่นพี่อีเจฮุนและคุณฮงซึงฮีก็ช่วยทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และลดความกดดันได้มากเลยในตอนที่เข้าฉากกับทั้งคู่ครับ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างและรู้สึกโตขึ้นมากหลังจากแสดงเรื่องนี้ครับ”
มารอติดตามการแสดงของอีเจฮุนและทังจุนซังกับเคมีความเป็นอาหลานในMove to Heavenได้ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ทาง Netflix นะคะ
TEXT : ImJinah
PHOTO : Netflix
เรื่องซีรี่ย์เกาหลีต้องที่สุดสัปดาห์
ผู้กำกับเผยทีมนักแสดง Move to Heaven รวม Avengers นำโดย อีเจฮุน – ทังจุนซัง!!!
อีเจฮุน พระเอก Taxi Driver ระดับนักแสดงยอดฝีมือ ผู้ฟาดความเปรี้ยงทั้งหนังและซีรี่ย์!
เปิดวาร์ปบรรดาลูกสมุนสหายผู้กองจาก Crash Landing on You แย่งซีนสุดฤทธิ์ สร้างสีสันไม่หยุด
ไลน์อัพออริจินัลคอนเทนต์ Netflix ปี 2021 มาเต็ม จัดครบซีรี่ย์ หนัง และรายการ!
รวมออริจินัลซีรี่ย์เกาหลีจาก Netflix ปี 2020 ก่อน Sweet Home เตรียมออนแอร์! พร้อมด้วยรายการและสารคดี
Kingdom 3 ไม่มาในปี 2021 แต่ได้เจอแบดูนาบนจอ Netflix ประกบกงยู พร้อมซูมดู 4 เรื่องบิ๊กที่ไม่ควรพลาด!
ซงคังลงทุนเรียนบัลเล่ต์ก่อนถ่ายทำถึงครึ่งปีเพื่อแสดงใน Navillera #เรื่องย่อNavilleraก็มา
22 มีนา วันแฟนเด็กแห่งชาติ! ซงคัง VS จางดงยุน ลงซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคปะทะปัจจุบัน!
Netflix ส่งสัญญาณ ปี 2021 จัดเต็มแน่ เตรียมปล่อยออริจินัลซีรี่ย์เกาหลีแน่นทั้งปี
7 ซีรี่ย์เกาหลีใน Netflix ที่ยืนทนอยู่นานบน TOP10 ประจำวันของไทย!
Kingdom 2 นำทัพคอนเทนต์เกาหลีติดอันดับคนไทยชมใน Netflix มากที่สุดของปี 2020!