บอย โลโมโซนิก จากเด็กแม่เมาะหลังเขา เดินตามฝันสู่เส้นทางสายดนตรีที่ต้องฝ่าฟัน

Alternative Textaccount_circle
event

เส้นทางดนตรีที่ต้องดนตรีที่ต้องพิสูจน์

หลังเรียนจบ มีงานที่ดีมารอให้เข้าไปทำเลย เรียกว่าเป็นโอกาสที่ดีในสายอาชีพที่เราจบมาเลยแหละ เรียนจบผมก็มีเฉี่ยวๆ ไปทำงานด้านสถาปัตยกรรมมาบ้าง อืม… แต่ใจลึกๆ เราไม่อยากทำ สุดท้ายเมื่อเราเลือกที่จะไม่ทำงานตามที่เรียนจบมา คือทางบ้านผมก็ไม่ว่านะ จะทิ้งหน้าที่การงานที่ดีที่มั่นก็ได้นะ อยากลองก็ลองเลย แต่ไม่ให้เงินนะ เรียนจบแล้วห้ามมาขอนะ ซึ่งตอนที่ผมตัดสินใจเลิกทำงานด้านสถาปัตย์ ตอนนั้นเราเป็นโลโมโซนิกแล้ว แต่ชุดแรกก็ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมาก

ในเมื่อเราทิ้งงานที่มั่นคงมาเพื่อเล่นดนตรี ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองแล้วแหละว่าจะอยู่อย่างไร ความจริงมันก็อยู่ไม่ได้ครับ ผมเลยต้องมาปั่นจักรยาน ในเมื่อเราไม่มี เราก็ลดเพดานความต้องการลง ยุคนั้นเรียกว่าเป็นยุคจักรยานผี (หัวเราะ) ตอนนั้นผมเขามาอยู่ที่ค่ายสมอลล์รูม คนที่ค่ายจะรู้ว่าผมปั่นจักรยานจากแถวคลองสามวามาสมอลล์รูม ถ้านั่งรถเมล์ ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง  รู้สึกว่าเหนื่อยกับการเดินทาง เหนื่อยกับรถติดมาก

ผมเชื่อในเรื่องคุณภาพของเวลา เสียเวลารถติด 2-3 ชั่วโมง เอาเวลาไปวิ่ง หรือออกกำลังกายดีกว่า จนไปเจอร้านขายจักรยานเก่าราคา 5 พัน แต่มีเงิน 3 พัน ขอต่อราคาเจ้าของร้านก็ลดให้ ผมขี่จักรยานไปกลับคลองสามวา-เอกมัยซอย 10 เป็นระยะทาง 60 กิโลเมตรทุกวัน เพื่อไปทำเพลงที่ค่าย

 

ช่วงชุด1 ต่อ ชุด 2 ผมไม่ได้มองว่าลำบากนะ มันเป็นจังหวะ คือรายได้จากดนตรีไม่ได้ตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตประจำวัน มันก็ถอยหลังๆ ผมเคยเหลือเงินแค่ 5-6 บาท มีเงินซื้อมาม่า 5 บาทกับน้ำหนึ่งขวด แล้วก็ออกไปเล่นดนตรีได้เงินกลับมา

โลโมโซนิก เริ่มประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักตอนเพลง “ความรู้สึกของวันนี้” เริ่มมีงานจ้าง งานทัวร์คอนเสิร์ต เริ่มมีแฟนเพลง เลยได้ทัวร์ต่างจังหวัดมากขึ้น ตอนอัลบั้มแรก นับว่าโชคดีที่พี่รุ่ง (ผู้บริหารค่ายสมอลล์รูม) คอยผลักดันให้เราไปทัวร์โดยให้เล่นเป็นวงเปิด จึงทำให้พอมีรายได้เลี้ยงตัวได้เรื่อยๆ จากนั้นความสำเร็จของวงชัดที่สุด เหมือนระเบิดพลุบนท้องฟ้าสว่างไสว ก็ต้องช่วงเพลง “ขอ” เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนจนเรางง ไปไหนมาไหนก็มีคนเปิดเพลง เริ่มมีตารางทัวร์ถี่ขึ้น เส้นทางดนตรีใกล้กับเส้นทางชีวิตที่เราอยากจะเป็นแล้ว นั่นก็คือการเล่นดนตรีโดยที่สามารถเลี้ยงชีพได้ 100% จริงๆ

บอย โลโมโซนิก

แรงกระแทกจากการรอคอย

จากวันแรกที่เป็นโลโมโซนิค จนมาถึงวันที่ประสบความสำเร็จมากในช่วงเพลง “ขอ” เรารอกันมา 5 ปี ห้าปีที่ขี่จักรยานมาทำงาน ซึ่งการรอคอยนี้ผมเรียกมันว่าเป็น “แรงกระแทก” มันคล้ายกับเวลาเราเล่นกล้าม ซึ่งกล้ามเนื้อมันเกิดขึ้นได้ และความแข็งแรงมันเกิดขึ้นได้ เพราะเราทำร้ายมัน เรากระแทกมัน มันค่อนข้างทำให้ผมเสถียร ทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จากเด็กที่มีอีโก้สูงมากก็ลดลง ขวบปีเหล่านี้มันทำให้เรามองไปรอบๆแล้ว ทำให้เรารู้ว่าคำนิยาม หรือว่าสิ่งที่เราต้องการอยากจะได้จากการใช้ชีวิตของเราคืออะไร และเป้าหมายผมมันชัดเจนที่สุด นั่นก็คือการร้องเพลงนำทางผมมาตั้งแต่เกิด ผมรักในการร้องเพลงมาก

เฟรชชี่น้องใหม่ค่าย Genie Records

ผมอยากร่วมงานกับหลายคนมาก วันหนึ่งมีจังหวะได้เจอกับพี่อ๊อฟ บิ๊กแอส จากนั้นก็ต่อสายคุยแบบชัดเจนเลยว่า อยากมาทำงานด้วย พี่เขาก็เออๆ น่าสนใจเลยไปคุยกับทางผู้ใหญ่ ผมจึงได้เริ่มทำงานกับ Genie Records ปลายพฤศจิกายน 2562 เป็นน้องใหม่ครับ (หัวเราะ)

SWEET BROS. เป็นอีพีอัลบั้มครั้งแรกในชีวิต คอนเซ็ปต์ของอัลบั้มครับมาจากประสบการณ์ชีวิต ตั้งแต่ตอน 23 ปี ถึงวันนี้ในอายุ 34 ปี  ชีวิตผมผ่านอะไรมาหลายอย่าง มันมีภาพที่เราไม่กล้าคิดว่ามันจะเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้น เช่น เริ่มมีน้องๆ มาร้องไห้ในคอนเสิร์ตของเรา เริ่มมีแฟนเพลงเยอะขึ้น มีแฟนเพลงให้การสนับสนุนในวงกว้าง และสิ่งที่ผมได้มาโดยไม่รู้ตัวคือ ความเป็นพี่ พอเริ่มแก่ เฮ้ย! เราเป็นพี่คนแล้วนะ แล้วแฟนเพลงของเราก็เหมือนน้อง ดังนั้นวิธีในการนำเสนอ เราไม่ได้ยึดทำตามใจตัวเองเพราะเรามีน้องเพิ่ม ความเป็นพี่มาโดยไม่รู้ตัว เราอาจจะไม่ใช่คนที่พูดเพราะที่สุด แต่เราเป็นคนพูดตรงด้วยความเป็นห่วงครับ

ดังนั้นอะไรแบบนี้จะถูกสอดแทรกในเนื้อหาในโชว์  เราก็เลยเหมือนเป็น Bro ย่อมาจากครับว่า Brother อัลบั้มนี้เลยต้องการสีสัน ต้องการความสนุกครับ Sweet Bros. คือชีวิตที่เราได้ตกตะกอนจากมัน ส่วนคำว่า Sweet มันมีความขี้เล่น ในที่นี้แปลว่า มีสีสันมากขึ้น เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าเราจะมีสีสันมากขึ้นนะ ภาพรวมอัลบั้มนี้จับต้องได้มากขึ้น

บอย โลโมโซนิก

ยังไม่ถึงเวลา เพลงในอัลบั้มที่ปล่อยออกไป ทำให้คิดถึงช่วงเวลาของความอ่อนแอ ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนนั่งอยู่ที่หน้าบาร์เคลิ้มๆ แล้วมีความคิดว่าขึ้นมาว่า ไม่ว่าเราจะผิดหวังเรื่องงาน หรือ ความรัก ก็มักจะมีคนมาคอยปลอบใจเสมอ แต่บางทีเราก็ต้องให้เวลากับความเสียใจบ้าง ซึ่งเรารู้ดีว่ามันจะดีขึ้น เรารู้ว่ามันจะหาย แต่ว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อม เราแค่อยากจะร้องไห้ แค่อยากจะระบายมันออกมา ซึ่งการปลอบใจไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องให้เวลากับมันครับ โดยเรื่องราวในเพลงพูดจากมุมมองของคนกำลังเสียใจที่ยังไม่ถึงเวลากลับมาแข็งแรง

ล่าสุดผมยังได้ทำโปรเจ็กต์พิเศษ My Hero ร่วมกับ พี่โป่ง หิน เหล็ก ไฟ ได้ร้องเพลงด้วยกันชื่อว่า “ไม่ใช่ความรัก” เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจในการแต่งเนื้อเพลงมาจากเพลง เพื่อเธอ ของวง หิน เหล็ก ไฟ พี่โป่งคือไอดอลในการทำเพลงในการร้องเพลงของผม ปฏิกิริยาของผมที่มีต่อหินเหล็กไฟคือมันใจสั่น มันดูอันตราย ดูมีเรื่องของเซ็กส์แอพพีล

เรื่องที่ฝังอยู่ในใจผมมาตลอดก็คือวงหิน เหล็ก ไฟมาเปิดคอนเสิร์ตที่จ.ลำปาง ตอนผมประมาณ ป.2 ผมทำได้แค่เดินอาลัยอาวรณ์แง้มรั้วดู ขอเห็นแค่เวทีก็พอ แต่ ณ วันนี้เราได้ทำงานกับฮีโร่ในดวงใจอย่าง พี่โป่ง มันเกินฝันจริง ๆ ครับ รู้สึกเหมือนความฝันของนักดนตรีคนหนึ่งถูกเติมเต็มด้วยการนั่งอยู่ตรงหน้าพี่เขา เพลงของหิน เหล็ก ไฟ อยู่ในชีวิตของใครหลาย ๆ คน อย่างเพลง เพื่อเธอ  ผมพูดแล้วยังขนลุกเลยครับ เพราะเพลงนี้มันได้ช่วยชีวิตของใครไว้หลาย ๆ คน และมันก็เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงของผมด้วย ทุกครั้งที่ผมถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มันจะยิ้มออกมาไม่รู้ตัว มันจะรู้สึกว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่มีความสุขที่ได้ทำ อย่างน้อยความรักหรือสิ่งที่เราชอบตอนเด็ก ๆ มันได้ทำให้เราเดินทางมานั่งอยู่ตรงนี้ พาเราไปในสิ่งที่เราคาดไม่ถึง ผมรู้สึกว่าพี่โป่งเป็นหนังสือ เป็นครู เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นนักอ่าน เป็นกวี ถ้าไม่มี โป่ง หินเหล็ก ไฟ อาจไม่มี บอย โลโมโซนิก

และสุดท้ายผมอยากจะขอบคุณแฟนเพลง ที่คอยติดตามกันมาตลอด ขอบคุณการยอมรับที่ทุกคนมอบให้ มันมหัศจรรย์มาก และอีกหนึ่งความมหัศจรรย์คือ ผมได้พบคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เป็นญาติมิตร แต่ยอมรับและรักเรา ขอบคุณจริงๆ ครับ

บอย โลโมโซนิก

เรื่อง AuAi Photo: สุดสัปดาห์แฟนคลับ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ 

สุดฯ แยกพัฒนาการ หมาก ปริญ สุภารัตน์ จากนักกีฬายูโดระดับประเทศ สู่สามีแห่งชาติที่มีแต่คนแอบรัก

ไบร์ท วชิรวิชญ์ จากตัวประกอบส่งตัวเองเรียน สู่นักแสดงดาวรุ่งดังไกลทั่วเอเชีย

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up