ในช่วงเดือนของวันแม่นี้ สุดสัปดาห์มีนัดสัมภาษณ์พิเศษ กับคุณแม่คนเก่งสุดสตรอง แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ที่จะมาเล่าเรื่องราวบทบาทและรสชาติความเป็นแม่ในแบบฉบับของตัวเอง รวมถีงธุรกิจส่วนตัวของเธอที่กำลังไปได้ดีทุกแบรนด์
รักวัวให้ผูก รักลูกยังต้องตี วิถีแม่แบบ แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ
สไตล์การเลี้ยงลูกของแอฟเป็นอย่างไรคะ
เริ่มแรกที่คิดเลยอยากเป็นแม่ในแบบคุณแม่ของเรา ตอนนั้นคิดว่าจะเลี้ยงลูกแบบคุณแม่เรานี่แหละ สบายๆ เป็นทั้งเพื่อน พี่สาว แม่ และครู จะสอนผ่านการทำให้ดู ตอนแรกที่คิดเราก็ดูว่ามันก็ง่าย ไม่เห็นต้องทำอะไรมาก เราอยากให้ลูกเป็นยังไง เราก็ใช้ชีวิตแบบนั้น สอนเขาแบบนั้น
แต่พอมีลูกจริงๆ ก็มีทั้งเรื่องที่ง่ายและยาก บางเรื่องเขาเรียนรู้ผ่านที่เราทำให้ดูเป็นตัวอย่างได้ แต่บางเรื่องมันก็ไม่ได้เสมอไป บางเรื่องเกิดจากการสอนหลายเลเวล ทั้งเล่านิทานให้ฟัง การบ่น การดุ การตี ขึ้นอยู่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แล้วแอฟค้นพบว่า เลี้ยงลูกไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราเคยคิดไว้ เพราะว่าการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน เขาจะมีอะไรที่ติดตัวมาไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเรียนรู้และวิธีการสื่อสารกับเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
สำหรับปีใหม่ เขามีความเป็นตัวเองสูง อย่างที่บอกว่าเด็กแต่ละคนก็จะมีลักษณะเฉพาะบางอย่างติดตัวมาแต่เกิด บวกกับเด็กเจนฯใหม่ก็ไม่เหมือนเรา เป็นเจนฯ แอลฟ่าแล้วค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งเจนฯ นี้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก จะไม่ได้เชื่อหรือทำตามอะไรง่ายๆ บอกให้ไปซ้ายหรือขวา ก็ต้องมีเหตุผลให้เขาด้วย
แอฟเป็นแม่สไตล์ไหน ดุมั้ยคะ หรือตีลูกหรือเปล่า
แอฟมีทุกพาร์ท มาหมดจัดเต็ม (ยิ้ม) โบราณเขาก็จะบอกว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” แต่เดี๋ยวนี้ครอบครัวยุคใหม่หลายๆ ครอบครัว จะมีแนวคิดว่า จะไม่ตีลูก การตีลูกไม่ใช่วิธีที่ยุติอะไรบางอย่างที่ดี ซึ่งจริงๆ ควรจะเป็นแบบนั้นค่ะ แต่แอฟทำไม่ได้ แอฟยอมรับว่าเราก็มีตีบ้าง ซึ่งแอฟรู้นะคะว่า ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป และไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์นัก หมายถึงว่ามันเป็นการหยุดพฤติกรรมที่แบบเฉียบพลันชั่วคราว ตีปุ๊บหยุดปั๊บ หยุดชะงักเลยแหละ แต่ลูกจะไม่เรียนรู้อะไรกับการที่แม่ตี
บางจังหวะอาจทำให้ลูกมีแผลในใจ หรือว่ากลับไปคิดอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วคนเป็นแม่ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าอยากหยุดพฤติกรรมไม่เหมาะ อยากให้รู้ว่าสิ่งที่ลูกทำไม่ถูกต้อง แต่บางทีเราทนไม่ได้กับพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ไม่เหมาะสมเราก็ต้องตีค่ะ แต่ตอนนี้ตีน้อยมากค่ะ เพราะตอนนี้เขาเริ่มโตขึ้นแล้ว มีการสื่อสารที่เข้าใจกันมากขึ้น ถ้าถึงขีดสุดจริงๆ ถึงตีบ้าง
การเตือน การดุของแอฟจะมีหลายเลเวล (หัวเราะ) เลเวลแรกถ้าเป็นเรื่องที่เขาไม่ทราบมาก่อน 3 ครั้งแรกเราจะพูดกันดีๆ ก่อน ก็เล่าปกติค่ะ เช่น เราไม่เหยียบหนังสือเรียนนะลูก พูดไปครั้งแรกสองครั้งจะลืม พูดได้ 3 รอบนะ แต่ถ้า 4 ครั้งจะกดเสียงต่ำแล้วจะดุ ถ้าดุแล้วยังไม่ได้ เราก็จะชี้ให้แก้ไข คือนอกจากเราบอกแล้ว เราก็ต้องให้เขาทำด้วย ใช้อะไรแล้วก็ต้องเก็บ เตือนถึงครั้งที่ 3 ยังไม่เก็บอีก ครั้งที่ 4 แอฟจับมือเขาเก็บเลย ทำด้วยกัน ต้องเป็นมือเขาที่จับ ถ้าปีใหม่ไม่จับ เราก็เอามือเขาจับเราอีกทีแล้วเก็บด้วยกัน
คือความเป็นเด็ก แอฟว่าเขาชอบลองค่ะ หมายถึงลองดูว่าแม่จะมีปฏิกิริยายังไง ไม่ฟังแม่จะยังไง เถียงแล้วจะเป็นยังไง ให้เก็บแล้วไม่เก็บจะเป็นยังไง ปีใหม่เขามีทุกอารมณ์ ถ้ารู้ตัวว่าขั้นวิกฤต บางทีก็จะมีเสียงอ้อนใส่แม่ เขารู้ทางแม่ ทำยังไงแม่จะใจอ่อน แต่เราก็ต้องเอาเหตุผลเข้าสู้ ตอนหลังเราก็จะพูดกันให้เข้าใจกันง่ายๆ ว่าเป็นมอนสเตอร์ เวลาเขาเริ่มหงุดหงิดกับตัวเองหรือคนอื่น หรือบางทีทำงานศิลปะ แล้วปะติดไม่ได้ ก็จะใส่อารมณ์ มันต้องได้ๆ ถ้าไม่ได้ดั่งใจเขาจะทุบโต๊ะๆ เราก็จะบอกว่า ทุบไปทั้งวันมันก็ติดไม่ได้ ลูกหันมาถามแม่ว่า อันนี้ต้องใช้ยังไงดีกว่ามั้ยคะ ไม่ใช่ความผิดของลูกที่ลูกไม่รู้ เพราะลูกไม่เคยใช้อะไรแบบนี้ค่ะ
เแอฟเลยบอกเขาว่ามีอะไรหันมาถาม มีอะไรพูดกันดีๆ ประโยคที่ติดปากคือ “มีอะไรไม่สบายใจ หงุดหงิด รู้สึกยังไงบอกแม่ได้หมดทุกอย่าง” ถ้ารู้ว่ามอนสเตอร์จะมาให้มาปรึกษาแม่ อาจจะได้ไม่ได้ผลเต็ม100% เพราะบางทีเด็กก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ก็ช่วยได้ค่ะ บางทีปีใหม่จะวิ่งมาขอกอดหน่อย เอามอนสเตอร์ออกหน่อย เราจะถามว่ารู้สึกยังไงคะ หนูหงุดหงิดใช่มั้ย หงุดหงิดเรื่องอะไร แม่จะช่วยได้ยังไง ประมาณนี้ค่ะ คือถ้ายังไม่ได้อีก ต้องใช้เวลา ขอเชิญเข้าห้องพระเลยค่ะลูก (หัวเราะ)
แอบอยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่แอฟซีเรียสจนตัดสินใจว่าต้องตี
ทำร้ายคนอื่นค่ะ ทำร้ายคนอื่นในที่นี้ หมายความว่าทำร้ายคนอื่นทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าเด็กหงุดหงิด เขาจะปัดของ โยนของกับคนที่ใกล้ชิดแน่นอน อย่างพี่เลี้ยง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เพราะเขาใกล้ชิดกัน เขาเลี้ยงกันมาก มือเท้าจะไปหมด อันนี้ไม่ได้เลย แอฟซีเรียสมากเรื่องนี้ก็ต้องตี ตีเพื่อให้รู้ว่านี่เป็นเรื่องที่แม่ซีเรียส ลูกห้ามทำ แต่อย่างที่บอก การตีไม่ทำให้เกิดการเรียนรู้ เพราะเขาจะคิดว่าแม่ยังดีได้ เขาก็ตีคนอื่นได้สิ ดังนั้นเราก็ต้องอธิบายว่าสิ่งที่ลูกทำไม่เหมาะสมอย่างไร
ปีใหม่มีอะไรที่เหมือนแอฟบ้างคะ
(ความเป็นอาร์ติสท์ ฟังเหมือนจะดี (หัวเราะ) คุณเปิ้ล ผู้จัดการส่วนตัวตอบกึ่งแซว)
ค่ะ เขามีความเป็นอาร์ติส ถ้าชอบด้านไหนก็จะมุ่งมั่น ตั้งใจมาก แม้บางเรื่องอาจจะยากไปสำหรับวัยของเขา แต่ถ้าชอบทางนี้เขาจะโฟกัสแล้วก็มุ่งไปเลย จะมีสมาธิเกินกว่าวัย ตอนนี้ชอบทุกอย่างที่เป็นศิลปะ วาดรูป ระบายสี ประดิษฐ์ของรีไซเคิล วันหนึ่งทำได้ 1-5 ชิ้น แล้วก็จะพรีเซนต์ให้แม่ฟังด้วยความภูมิใจด้วยค่ะ
คนเป็นแม่ก็ชอบนะคะ ภูมิใจค่ะ คือเขาได้ซึมซับการรักธรรมชาติ รักโลกมาจากที่โรงเรียน และได้ใช้ความครีเอทีฟต่างๆ ผลิตชิ้นงานทุกวัน ตอนนี้คือไปแตะของเขาไม่ได้นะ ถ้าทำพังร้องไห้เลยค่ะ เป็นของรักของหวงของปีใหม่เลย เขาเหมือนแม่ตรงที่ชอบงานศิลปะ แต่ไม่เหมือนตรงที่ชอบพรีเซนต์ เพราะแม่ไม่ชอบพูดให้ใครฟัง (หัวเราะ)
ได้วางแผนให้น้องปีใหม่ไว้อย่างไรบ้างคะ
แอฟไม่ค่อยกล้าวางเลยละค่ะ (หัวเราะ) ปีใหม่เพิ่ง 5 ขวบเอง ถ้าเป็นการวางแผนระยะใกล้ๆ เราพยายามให้เขาได้มีโอกาสในการเปิดมุมมองตัวเองให้ได้มากที่สุด ในที่นี้คือ ให้ลูกลองเรียนอะไรที่เขาอยากลอง ให้เขาไปมีประสบการณ์ที่ชอบ เรียนเปียโน เรียนไวโอลิน เรียนบัลเล่ต์ เรียนกีฬา เข้าคลาสเรียนออนไลน์และแบบไม่ออนไลน์ ปีใหม่จะมีไปเรียนคอร์ส Creative Thinking ด้วย
เรื่องการเรียนรู้แอฟจะบอกลูกเสมอว่า เรียนอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะดนตรี กีฬา วิชาการ หรือบันเทิงก็แล้วแต่ลูกเลย แต่ขอให้ลูกมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงๆ ไปให้สุดในสายนั้น เพราะแอฟไม่ได้โตมาด้วยการถูกบังคับ ดังนั้นชีวิตของเขา ลูกมีอิสระ มีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่ตัวเองรัก ทำอะไรแล้วมีความสุข ทำเลยเต็มที่ แต่สิ่งที่แม่จะเคี่ยวคือ ต้องทำมันอย่างตั้งใจ และอยู่ในกรอบระเบียบที่ดีงาม เหมาะสม
ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับน้องปีใหม่อย่างไรบ้างคะ
แอฟไม่นอยด์อะไรมาก เพราะเราให้เขาอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหนเลยค่ะ มีแต่เราที่ออกไปทำงานเพราะยังต้องจัดรายการสด เราเองต้องดูแลตัวเองให้มากที่สุด พ่นแอลกอฮอล์ตลอดเวลาจนมือเหี่ยวไปหมดเลย แต่งหน้า ทำผมแต่งตัวเองไปจากบ้าน เพื่อลดการสัมผัส สำหรับปีใหม่เราก็สอนเขาจนเคยชิน ถ้าออกไปไหนต้องใส่แมสก์ พกเจลล้างมือด้วย
ช่วงล็อกดาวน์แม่แอฟทำกิจกรรมอะไรกับปีใหม่บ้างคะ
โห… ก็สารพัดเลยค่ะ ก็จะมีสอนหนังสือกัน ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เล่นเกม ประดิษฐ์ของ หลังๆ ก็มีเรียนคอร์สออนไลน์ คอร์ส Creative Thinking ล็อกดาวน์ 2-3 เดือน หลายคนอาจจะเบื่อ เหงา แต่แอฟไม่เหงาเลย แอฟเชื่อว่าแม่ทุกคนรู้สึกเหมือนกัน เพราะลูกไม่ไปโรงเรียน ต้องอยู่ด้วยกันทั้งวัน คนเป็นแม่วันๆ หนึ่งเวลาหมดไปกับลูกเลยค่ะ จัดสรรเวลาเรียนออนไลน์ จัดสรรเรื่องกิน เรื่องเล่น แม่ๆ จะบ่นกัน เมื่อไรจะเปิดเทอม (หัวเราะ) บางทีแม่ก็สับสนตัวเองเล็กน้อย ลูกอยู่บ้านเมื่อไรฉันจะไม่มีเวลาได้เหงาเลย แต่พอลูกไม่อยู่ ไปโรงเรียน เดินงุ่นง่าน ไม่มีกะจิตกะใจจะดูซีรีส์เกาหลี คิดถึงลูก
ช่วงล็อกดาวน์ นอกจากทำกิจกรรมกับลูก มีช้อปปิ้งออนไลน์แก้เหงาบ้างมั้ยคะ
จริงๆ ปกติแอฟเป็นคนที่ช้อปปิ้งน้อย คิดว่าตัวเองสายแข็งแล้วนะ ไม่ค่อยอยากได้อะไร พอช่วงโควิดมันทำให้แอฟเปิดแอพช้อปปิ้งบ่อยขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน และของใช้ลูก หม้อทอดไร้น้ำมัน เครื่องปั่น พอสั่งมา อ้าว ที่บ้านก็มีเครื่องปั่นอยู่แล้ว แต่พี่ผ่านมาเราจำไม่ได้ว่ามี เพราะทำงานตลอดไม่ค่อยอยู่บ้าน ล่าสุดได้ไฟเอาไว้ถ่ายงาน เพราะเราต้องถ่ายของ ถ่ายคลิป
ที่ผ่านมาแอฟน่าจะเป็นหนึ่งในนักแสดง ที่มีอุปกรณ์ในการถ่ายรูปน้อยมาก ไม่ใด้ใช้ไฟ ใช้กล้อง ใช้มือถือนี่แหละถ่ายกันง่ายๆ รอแสงธรรมชาติ ถ้ามืดก็ไม่ได้ถ่าย ไม่มีอุปกรณ์ช่วย ช่วงโควิดมีหลายงานที่ทำคลิปงานให้ลูกค้าเอง พี่เปิ้ลถ่าย แอฟจัดพร็อพส์ จัดห้อง ตัดต่อเอง
นอกจากงานในวงการแล้ว ทราบว่าแอฟยังมีธุรกิจส่วนตัวด้วย ตอนนี้มีอะไรบ้างคะ
แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก Pily by Little P ค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากความรักของแม่ที่มีต่อลูก แอฟมีไอเดียมาตั้งแต่ท้องว่า เราอยากทำโปรดักส์ที่เราอิน คือแม่ทุกคนจะรู้สึกว่าลูกสาวก็เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยๆของแม่ เราอยากมีชุดที่เราดีไซน์เอง มาจากไลฟ์สไตล์และแบบที่เราชอบ ซึ่งออกแนวเจ้าหญิงเบาๆ แต่ไม่ได้ฟรุ้งฟริ้งมากเกินไป
“Pily ย่อมาจาก Princess I Love You” แอฟตั้งใจทำขึ้น เพราะแอฟอยากเห็นลูกสาวของแม่ทุกคน ได้ใส่ชุดที่เกิดจากความรัก ความตั้งใจ และตัดเย็บด้วยความปราณีต เราเลือกผ้า วัสดุคุณภาพ คัตติ้งสวย ทุกฝีเข็มเรียกว่าพิถีพีถันมาก เก็บตะเข็บ เก็บซิปไม่ให้บาดผิวหรือคันขณะสวมใส่ เนื้อผ้าดีใส่แล้วสบายผิว ไม่ระคายเคือง
เราเข้าใจจุดนี้เพราะมีหลานสาวและลูกสาว อย่างปีใหม่เสื้อผ้าต้องตัดป้ายออกหมด โดนนิดนึงเขาจะคันและแดง พอเรามาทำเสื้อผ้าเด็กเราต้องเก็บรายละเอียดทุกจุด แอฟไปเดินเลือกผ้าเอง เลือกลูกไม้เอง ทุกอย่างดูเองหมด ทุกชุดเรียกว่าเป็นงานฝีมือจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องการตัดเย็บ และการปัก เราตั้งใจทำให้เป็นชุดพิเศษให้ลูกสาวของคุณแม่ทุกคน เป็นชุดพิเศษใส่ออกงานพิเศษของเขา
ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้างคะ
งานนี้แอฟทุ่มเททำด้วยใจรัก ทำแบบไม่ได้หวังรวยเลย ทำด้วยอารมณ์แม่ล้วนๆ เราอยากให้ลูกใส่ชุดอย่างไร เราก็อยากให้ลูกเพื่อนลูกคนอื่นใส่ด้วย ส่งไปเป็นของขวัญให้ลูกเพื่อนๆ ทุกคนชอบมาก ปีใหม่เองก็ใส่แบบไม่ถอด คุณแม่ที่ซื้อให้ลูกๆ ชอบกันทั้งแม่และลูก บอกว่าชุดสวย ใส่สบาย ลูกสาวชอบมาก เห็นลูกค้าซื้อไปให้ลูกๆ ใส่แล้วเราชื่นใจ ใส่ไปงานแต่งงาน ใส่ไปงานโรงเรียน มีน้องที่เชียงใหม่ใส่ Pily by Little P ไปประกวด รู้สึกว่าการที่เลือกชุดเรา เขาต้องมั่นใจที่จะออกไปโชว์ แล้วน้องก็ได้รางวัลด้วย
ตอนนี้เข้าไปดูชุดได้ที่ ไอจี @pilybylittlep www.pilybylittlep.com และสามารถเข้าไปช้อปปิ้งให้ลูกสาวได้ที่ แอพ Shopee ได้แล้วนะคะ มีโปรโมชั่นและส่วนลดออกมาเรื่อยๆ สวนลดเยอะมากๆ ค่ะ ขอฝากธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าเด็กของแอฟด้วยนะคะ Pily by Little P รับรองเรื่องคุณภาพและความประณีตในการตัดเย็บทุกจุดค่ะ (ยิ้มหวาน)
ดูแลลูกแล้วก็ต้องดูแลตัวเองด้วย แอฟจึงมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แบรนด์ Inneri ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากตัวเราเองอีกเช่นกันที่อยากบำรุงผิวพรรณและดูแลสุขภาพ เราพัฒนาสูตรกันมาเป็นปี ก็คือ อินเนอริ นูทริโอ้ (Inneri Nutrio) เป็นอาหารเสริมที่รวม 3 คุณสมบัติเพื่อความอ่อนเยาว์ ช่วยให้หลับสบาย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และบู๊สท์ผิวให้ชุ่มชื้น สุขภาพดีจากภายใน และล่าสุดไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ อาซาอิ บี-มิกซ์ (Inneri Acai B-Mix) เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดูแลผิว มีส่วนผสมของ อาซาอิ ออร์แกนิก อุดมด้วยพรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย ผิวกระจ่างใส ชงดื่มหลังมื้อเช้าหรือกลางวัน ช่วยเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ shopee และเฟซบุ๊ก Inneri ค่ะ
ส่วนเรื่องละครที่แฟนๆ ถามกันมาตลอดว่าเมื่อไรจะได้ดู อีกไม่นานเกินรอค่ะ เรื่องขอเกิดใหม่ไกล้ๆ เธอ เป็นอีกเรื่องที่แอฟเต็มที่มาก ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำหลายอย่าง เป็นอีกเรื่องที่เราได้พลิกคาแร็คเตอร์ ฝากติดตามด้วยนะคะ (ยิ้ม)
เรื่อง AuAi Photo: Sudsapda
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ว้าวๆๆ หรือแอฟ-ทักษอร จะรับบทนักบินหญิงใน ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ
เตรียมสร้างปรากฎการณ์คู่จิ้นต่างวัย ต่อ ไม่ลังเลรับเล่นละครคู่ แอฟ