Dance Dance Dance Thailand

OUTSTANDING : Dance Dance Dance Thailand

Alternative Textaccount_circle
event
Dance Dance Dance Thailand
Dance Dance Dance Thailand

ครั้งแรกกับการรวมตัวของเซเลบไทย 6 ทีมมาเต้นแบตเทิลจนเวทีลุกเป็นไฟในรายการ Dance Dance Dance Thailand ต้องบอกว่า กว่าที่เบื้องหน้าจะออกสเต็ปกันเป๊ะเว่อร์ขนาดนี้ คู่ซี้ คู่แม่ลูก คู่คนรักเก่า คู่รัก เขาซ้อมกันอย่างหนักตลอด 10 สัปดาห์ ผ่านบททดสอบทั้งร่างกายและจิตใจชนิดที่ไม่เคยได้เจอกันมาก่อนในชีวิต

 

ทีม ชิน – ชินวุฒ & เอเลน อินทรคูสิน (คุณแม่ชิน)

ไม่ใช่แค่เป็นลูกชายที่ดี ครั้งนี้ชิน – ชินวุฒ ยังอาสาพาคุณแม่มาทำตามความฝันที่เคยมีตั้งแต่วัยเด็กอีกครั้ง เห็นลีลาการเต้นสุดเฟี้ยวจนลืมอายุของคุณแม่แล้ว ไม่สงสัยเลยว่าทำไมลูกชายจึงเป็นศิลปินที่เต้นเก่งระดับแถวหน้าของเมืองไทย

ชิน : ตอนแรกรายการติดต่อให้ผมเป็นกรรมการ ผมบอกว่าไม่เอาครับ ไม่อยากเป็นกรรมการ ขอเต้นแทนได้มั้ย เขาบอกว่าได้ แต่ต้องมาเป็นคู่นะ ที่แรกผมจะชวนน้องสาว แต่น้องติดอีกรายการหนึ่ง เลยคุยกับคุณแม่ว่ามาแข่งรายการ Dance Dance Dance Thailand ด้วยกันมั้ย แม่บอก “ เอาดิ! ” ตอบมาแบบไม่คิดอะไร เพราะยังไม่รู้รายละเอียดว่าซ้อมหนักขนาดไหน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การที่ผมได้เต้นอยู่บนเวทีมันคือความฝันของผม และมันก็เป็นความฝันของแม่เช่นกัน ผมโชคดีที่แม่ให้ทำในสิ่งที่ผมรัก ที่ผมเต้นได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะมีแม่เป็นต้นแบบ

แม่ : พอเห็นตารางซ้อมแล้ว โอ้…มายก๊อด ซ้อมหนักมาก จริงๆ แม่ไม่ได้กลัวการซ้อม แต่กลัวเรื่องอายุ ไหนจะสุขภาพ เรื่องที่สองคือความจำ การเต้นในรายการนี้มันท้าทายและกดดันจนแม่ร้องไห้มาหลายรอบมาก ด้วยความที่เราชอบความเพอร์เฟ็กต์ มันยิ่งกดดัน ลูกก็ทั้งดุและแนะนำแม่หลายๆ อย่าง  การร่วมรายการนี้ทำให้แม่ได้ฟื้น ได้ตื่นจากอุปสรรคหลายอย่าง แต่เพราะได้แรงสนับสนุนจากลูก เขาเชื่อว่าแม่ทำได้ เชื่อมั่นในตัวเราขนาดนี้ เราต้องทำได้สิ เรามองตัวเองในกระจก เรารู้ว่าเราเป็นคนมีความรับผิดชอบ เราต้องชนะตัวเองให้ได้

 

Dance Dance Dance Thailand
ทีม ชิน – ชินวุฒ & เอเลน อินทรคูสิน (คุณแม่ของชิน)

 

ทีม เชียร์ – ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ & โอ – อนุชิต สพันธุ์พงษ์

เป็นครั้งแรกที่แฟนๆ ละครจะได้เห็นลีลาการเต้นของคู่หูนักแสดงที่จับมือกันมาแด๊นซ์เฉพาะกิจ ระหว่างนางเอกสาวสวย เชียร์ – ฑิฆัมพร ที่ไม่เคยจริงจังเรื่องการเต้น และนักแสดงเจ้าบทบาท โอ – อนุชิต ที่น้อยคนจะรู้ว่าเขาคือสายแด๊นซ์ตัวจริง

เชียร์ : เชียร์เป็นคนชอบเต้นสนุกๆ ฮาๆ รำหน้านาคเนี่ยชอบมาก แต่ไม่เคยต้องทำโชว์จริงจังแบบนี้มาก่อน ตอนแรกคิดจะถอนตัวขอเป็นพิธีกรแทนได้มั้ย แต่พอต้องหาคู่เต้นเชียร์นึกถึงพี่โอคนเดียวแบบไม่มีช้อยส์สองด้วย ชื่นชมในเรื่องการเต้นของพี่โอมาก เขาเก่งและรักในการเต้น เวลาที่พี่โอเต้นแววตาเขาจะมีประกายบางอย่าง รู้เลยว่ามีความสุข ทุกโจทย์ทุกวีคยากหมด “ไม่มั่นใจ แต่มั่นหน้า” คำนี้ใช้กับเชียร์ได้เลยจริงๆ (หัวเราะ) ซ้อมแรกๆ มีน้ำตาคลอ สู้นะ แต่มันกังวล สุดท้ายการเต้นสำหรับเชียร์ เราแค่สนุกก็พอ เชียร์บอกกับตัวเองว่า ถ้าเราจะแข่งกับใคร พูดตรงๆ ว่าไม่ชนะหรอก เชียร์จึงถือว่านี่คืองานอาร์ตอย่างหนึ่งที่คล้ายๆ กับการแสดง เป้าหมายของเชียร์คือ สนุก จบ!! แค่นี้ถือว่าเป็นชัยชนะของเราแล้วค่ะ

โอ : ดีใจครับที่เชียร์คิดถึงเรา การที่เชียร์ไม่มีทักษะมาก่อนเลยมันเหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้ว รินน้ำใส่ก็รับได้หมด 3 – 4 เดือนจะเห็นพัฒนาการชัดมาก เวลาที่โอเห็นเขาเก่งขึ้นเรื่อยๆ เรานั่งตบมือ โห…เชียร์เท่มาก เชียร์ไม่รู้หรอก ตอนนั้นเชียร์ก็เป็นแรงบันดาลใจให้โอ คู่เราต่างฝากความหวังไว้ซึ่งกันและกัน เป็นแรงผลักดันซึ่งกันและกัน เมื่อก่อนอาจจะเข้าใจว่าเราเต้นเก่ง ต่อให้หยุดไปแล้วกลับมาเต้นใหม่ก็ยังเต้นได้ แต่ไม่ใช่ครับ สมองที่เคยจำได้เวลาไม่ได้ใช้มันจะช้าลง ทำให้เรารับตัวเองไม่ได้ มันมีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทั้งกดดันทั้งเครียด ท้อและเสียความรู้สึก แต่ข้ามผ่านจุดนี้ไปได้เพราะครูอู๋สอนให้คิดคือ สนุกกับมัน เมื่อหันกลับไปมองเชียร์ เขาเป็นคนที่เต้นแล้วสนุกมาก บนสเตจเชียร์ดูไม่ค่อยกังวล เรื่องผิดถูกหรือเรื่องแพ้ชนะ ครูอู๋บอกว่า นี่ไง เชียร์คือเอนเตอร์เทนเนอร์ แค่สนุกกับสิ่งที่ทำ การเต้นต้องทำแบบนี้

 

Dance Dance Dance Thailand
ทีม เชียร์ – ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ & โอ – อนุชิต สพันธุ์พงษ์

 

ทีม ไอซ์ – ปรีชญา พงษ์ธนานิกร & ฮั่น – อิสริยะ ภัทรมานพ

อดีตคู่รักที่ถูกจับตามองในการโคจรกลับมาเจออีกครั้ง งานนี้ พี่หมีฮั่น และ น้องหมูไอซ์ ยืนยันว่า บนเวที Dance Dance Dance Thailand ของทั้งคู่นั้นเต็มไปด้วยมิตรภาพของพี่น้องและการได้ทำเพื่อคนอื่น

ไอซ์ : ไอซ์เป็นคนที่ชอบเต้นอยู่แล้วค่ะ ตอนที่รายการติดต่อมาคิดหนักเหมือนกันว่าจะรับมั้ย พอรู้ว่าคนชนะในรายการนี้จะได้เงิน 1 ล้านบาท เพื่อนำไปให้องค์กรหรือมูลนิธิใดก็ได้ที่เราอยากช่วยเหลือ ได้เต้นแล้วยังได้ทำบุญด้วย จุดนี้ที่ทำให้เราอยากมา จากนั้นก็ต้องมีคู่เต้นด้วยก็คิดหนักไปอีก จะชวนคนในครอบครัวก็คงไม่ไหว พอนึกถึงคนที่จะมาเต้นกับเราได้จริงๆ คนแรกและคนเดียวเลยคือพี่ฮั่น เราสองคนเคยเต้นกันในคอนเสิร์ตมาแล้ว ครั้งนี้ไอซ์เลยชวนพี่ฮั่นมาเต้นด้วยกันบ้าง ยิ่งซ้อมเราก็ยิ่งรู้ว่ามันใช้พลังเยอะมาก เราต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรงตลอดไม่งั้นจะไม่มีแรงซ้อม งานนี้เราเรียนรู้ถึงความเป็นทีมเวิร์ค การเต้นคู่ต้องทำงานบนความเข้าใจของกันและกัน ทั้งทัศนคติ มุมมองต่างๆ เมื่อความตั้งใจเราเหมือนกัน งานมันก็ออกมาดี

ฮั่น : ตอนน้องมาชวนก็คิดก่อน ผมก็ถามไอซ์แทบจะวันละรอบถึงความตั้งใจที่อยากทำ เพราะเรารู้ว่าการทำโชว์เหนื่อยมาก ไม่ใช่ว่าเขาไม่สู้งานหนักนะ แต่ร่างกายไอซ์บอบบางมากจริงๆ แต่ความมุ่งมั่นของเขาคือ ถ้าชนะเงินล้านที่ไม่ได้เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่จะนำไปทำเพื่อคนอื่น เขายืนยันว่านี่เป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่งในการทำงาน และยังเป็นการท้าทายตัวเองด้วย ผมเองก็รู้สึกแบบน้องเลยจับมือกันทำมิชชั่นนี้ให้ดีที่สุด หลายคนมองผมเป็นเพอร์เฟ็กต์แมนบนเวที ไม่น่าห่วง แต่นั่นมันยิ่งเป็นดาบสองคมของตัวเอง ผมเคยเป็นคณะกรรมการในรายการเต้น ได้อยู่ในจุดที่คอมเมนต์คนอื่น อยู่ในจุดที่ได้รับคำชม ซึ่งมันทำให้บางทีไม่รู้ว่าเราหลงลืมในการพัฒนาตัวเองไปมั้ย เวทีนี้มีคนมาคอมเมนต์ มาติข้อบกพร่อง มันดีกับตัวเองนะ ต้องบอกว่าบนเวทีไม่มีใครเก่งกว่าใครเลย ความตั้งใจมันวัดกันไม่ได้ว่าใครมีเยอะกว่า ตัวผมเองก็ได้แรงผลักดันจากทุกคนบนเวทีด้วย

 

Dance Dance Dance Thailand
ทีม ไอซ์ – ปรีชญา พงษ์ธนานิกร & ฮั่น – อิสริยะ ภัทรมานพ

 

ทีม ลุค แอนดรูว์ แคสซาดี ดอเรียน & เต้ – ฐปนนท พิทักษ์รัตนโยธิน

คู่สมรสชายชายที่มีผู้ติดตามมากมายบนโลกออนไลน์ ทั้งคู่ตัดสินใจจับมือกันมาเต้นในรายการ Dance Dance Dance Thailand ไม่เพียงแต่คนดูจะได้ความมัน แต่การเต้นครั้งนี้ยังพาคู่รักคู่นี้ก้าวผ่านความกลัวและชนะใจตัวเองอีกด้วย

เต้ : ทีมงานชวนมาร่วมรายการ เราตอบตกลงก่อนเลย แล้วกลับไปคุยกัน ผมเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของ ม.กรุงเทพที่ไปคว้าแชมป์โลกมาแล้ว ฟังเหมือนจะง่ายเพราะผ่านการเต้นมา แต่ความจริงไม่เหมือนกันเลยครับ การเต้นในรายการนี้มันต้องพลิ้ว ต้องเป็นตัวเอง ต้องครีเอตได้ แต่การเต้นเชียร์จะมีท่ามีสเต็ปของมัน ผมกับลุคเรารู้จักกันมา 8 ปี แต่งงานกันมา 4 ปีแล้ว แต่ไม่เคยทำอะไรด้วยกันแบบนี้มาก่อน เหมือนได้จูนกันอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ลุคไม่ใช่คนเครียดเลยพอเครียดแล้วเขาจะใจร้อน ที่ผ่านมามีอะไรก็จะบอกเรา แนะนำเราตลอด แต่พอมาเจอเคสเต้นด้วยกัน ลุคเครียดมาก เต้ดูแลเขาไม่เป็น ไม่รู้จะทำยังไงดี เกือบจะต้องไปปรึกษาแม่เขาเป็นการส่วนตัวว่าต้องดูแลยังไง พอข้ามปัญหานี้ได้รู้สึกว่า ในอนาคตไม่ว่าคู่เราจะต้องเจอปัญหาอะไร เราจะผ่านไปได้ เพราะเราได้เรียนรู้แล้วว่าจะตั้งรับยังไง ช่วยเขายังไง มารายการนี้เราได้เต้นคู่กัน เหมือนเป็นความฝันที่อยากเต้นกับแฟนแล้วมันเกิดขึ้นจริง เราทำได้แล้ว นอกจากการที่เราชนะความกลัว ชนะตัวเองแล้ว อีกอย่างคือ เราเข้าใจคนรักของเรามากขึ้น ความรักของคู่เราคือ อย่าทวนกระแส ต้องปล่อยไหล ไม่ต้องคาดหวังกะเกณฑ์

ลุค : ของผมยิ่งยากกว่าเต้ เพราะ ผมเรียนจบด้านวิศวะ เราเป็นเด็กเนิร์ด กลัววิชาพละ กลัวกีฬา พอเข้าร่วมโปรเจ็กต์ช่วงแรกเละเลย ทะเลาะกันด้วย ไม่สนุกเลย เครียดและกดดันจริงๆ ครับผมอายุ 41 ปีแล้วนะ เราชินกับงานเดิมๆ เพราะทำในสิ่งที่ถนัด พูดง่ายๆ คือ ไม่เคยออกนอกคอมฟอร์ตโซน ไม่ใช่แค่เราได้เต้น สิ่งที่ได้มันคือ เราเอาชนะความกลัว มันยิ่งใหญ่ เรามีความมั่นใจในตัวเองมาก คือจากนี้เราจะกล้าทำทุกสิ่งทุกอย่าง เราไม่กลัวอะไรแล้ว

 

Dance Dance Dance Thailand
ทีม ลุค แอนดรูว์ แคสซาดี ดอเรียน & เต้ – ฐปนนท พิทักษ์รัตนโยธิน

ทีม เอม – สาธิดา ปิ่นสินชัย & ธามไท แพลงศิลป์

คู่หูคู่ซี้ปึ้กที่จับมือกันมาเต้นด้วยกันแบบจริงจังเป็นครั้งแรก ด้วยโจทย์ที่ท้าทายความสามารถ ถึงจะยากแต่ทั้งคู่จะไม่ยอมแพ้ บอกเลยว่าไม่ยอมเป็นที่โหล่แน่ๆ

เอม : คุณแม่เราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน ไปไหนก็ลากลูกไปด้วย จึงทำให้เราสนิทกันมานานเป็นสิบๆ ปีแล้ว พอเราโตขึ้น ต่างคนต่างทำงานก็เริ่มห่าง กลับมาสนิทกันอีกครั้งก็เพราะเรื่องเต้นเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งน้องก็เป็นนักร้องแล้ว แต่เอมยังไม่ได้เป็น เรียนจบแล้วแต่ยังตามหาความฝัน อยากเรียนเต้นสักครั้งเลยชวนกันไปเรียนเต้นที่แอลเอด้วยกัน ตอนที่พี่เขาชวนมารายการก็บอกพี่เขาว่า ถ้าชวนแล้วน้องยังไม่ตกลง เอมขอคิดอีกทีนะ การเต้นคู่มันต้องช่วยกัน ต้องซ้อมกันเป็นทีมเวิร์ค ระหว่างซ้อมแม้จะได้แผล แต่เราฟินนะ ฟินที่ได้เต้น เพราะมันเป็นแพสชั่นของเราสองคน ได้ทำก็มีความสุขแล้วค่ะ

ธามไท : จริงๆ ผมคิดเหมือนกันนะว่าเรามาทำอะไรกันแน่ในรายการนี้ เพราะหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้เต้น ตอนเป็นนักร้องก็ไม่ได้เต้นขนาดนี้ แต่มันก็สนุกดีนะ อย่างที่บอกว่าเราห่างการเต้นไปพักใหญ่ บางอย่างมันยากสำหรับเรามากเช่น อินเนอร์ ฟีลมันต้องได้ ต้องแยกประสาท ได้แผลทุกวีคจนรู้สึกว่าได้กลับมาฟิตอีกรอบ แต่สิ่งที่แปลกในรายการนี้คือ ถึงจะเหนื่อย แต่ไม่ขี้เกียจ มันมีแรงไปต่อ ถึงคู่เราจะแผ่วๆ แต่ไม่ยอมใครนะ

 

Dance Dance Dance Thailand
ทีม เอม – สาธิดา ปิ่นสินชัย & ธามไท แพลงศิลป์

 

ทีม ซาร่า – นลิน โฮเลอร์ & เต้ย – ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์

คู่หมั้นคู่หมายที่เตรียมตัวลั่นระฆังวิวาห์ ต้องบอกว่าการเต้นคือสื่อกลางทำให้ทั้งคู่รักกัน และเหตุผลที่ทั้งคู่จับมือมาเต้นด้วยกันอีกครั้งหลังจากห่างหายการออกสเต็ปไปนานเพราะ อยากให้การเต้นกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขาทั้งคู่

ซาร่า : ตอนที่รายการติดต่อมา ในใจไม่อยากมาเลย เพราะเป็นการแข่งขัน ต้องซ้อมเยอะ ใช้เวลาเยอะ สำหรับหนูเองคนจะรู้จักในด้านไร้สาระ ฮาๆ รายการจึงอยากเอาความสามารถเรื่องเต้นออกมาโชว์ให้คนเห็น ถึงจะมีพื้นฐานด้วยกันทั้งคู่ แต่ไม่ง่ายเลยค่ะ ช่วงแรกๆ โห…ลุกจากเตียงไม่ไหวเลย เต้นหนักเหรอ ป่าว! นอนตกหมอน (หัวเราะ) เต้นหนักจริงๆ ค่ะ แล้วทุกคนสะบักสะบอมเหมือนกัน แต่พอร่างกายอยู่ตัว เราน่าจะแข็งแรงขึ้น รายการนี้ช่วยให้ออกกำลังกายไปในตัว สำหรับการเต้นก็เหมือนความรักของคู่เราค่ะ ท่าเต้นต้องคิดและออกแบบให้เข้ากับตัวเรามากที่สุด ความรักก็เช่นกัน เราทั้งคู่ต้องเต้นให้เข้ากับความรักที่เรามีให้กัน

เต้ย : ผมกับซาร่าเต้นคนละแนว ผมถนัดเต้นท่าล่าง ซาร่าเน้นเต้นช่วงบน มูฟเมนต์ต่างกัน ต้องบอกว่า ผมเริ่มเต้นที่ฮิปฮ็อป บีบอย เมื่อก่อนผมจะเต้นกับน้องๆ ในทีม จะคอยหางานให้ ตัดเพลงเลือกเพลงให้ คิดท่าให้ จนถึงจุดหนึ่งน้องๆ ในทีมเริ่มแยกย้าย ทุกคนแยกย้ายจนผมรู้สึกว่าเราไม่มีเหตุผลในการเต้นแล้ว ก็เลยเลิกเต้น แล้วมุ่งไปทำงานเบื้องหลัง จนมาร่วมงานเต้นในรายการ Dance Dance Dance Thailand ทำให้ผมรู้สึกว่าการเต้นมันโครตเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเราเลย รายการนี้ทำให้ผมตั้ง Mind Set ใหม่ว่า “เราไม่จำเป็นต้องเป็นนักเต้นก็ได้นี่หว่า เราแค่รักในการเต้นและการเต้นไม่จำเป็นต้องเป็นทั้งหมดของชีวิต แต่ขอให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา เราก็มีความสุขแล้วนะ

Dance Dance Dance Thailand
ทีม ซาร่า – นลิน โฮเลอร์ & เต้ย – ธโนทัย เอื้ออมรรัตน์

 

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่นี่ค่ะ

ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด! ไอดอลเกาหลีเดบิวท์ตอนอายุเยอะ แต่เต้นเป๊ะ ร้องปัง ไขข้อยังดีอยู่

พี่เคราของน้อง! รวม 10 โอปป้าเกาหลีกับหนวดเคราเฟิ้มๆ พังหรือ

ฟินให้สุดกับมินิคอนเสิร์ตจาก เอริค นัม ในงาน Galaxy Fan

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up