เราผ่านจุดนั้นมาแล้วแกร!แฟนคลับไทยกว่าจะมี(โซเชียล)ทุกวันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง #รักทางไกลส่งใจไปเกาหลี

สมัยนี้ชีวิตการเป็นแฟนคลับ K-POP ค่อนข้างสะดวกสบายในการตามข่าวของเหล่าไอดอล ไม่ว่าเวลาไหนก็สามารถเข้าไปส่องได้ตลอด แต่…กว่าจะมาถึงจุดนี้ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว การจะตามข่าวหรือดูเอ็มวีศิลปินแต่ละที เลือดตาแทบกระเด็น บอกเลยว่า แฟนคลับไทย ผ่านมาเยอะเจ็บมาเยอะ!

กว่าจะมีวันนี้ของ แฟนคลับไทย

ไม่ใช่แค่ชีวิตของศิลปินที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ชีวิตแฟนคลับก็เช่นกัน ต้องฝ่าฟันความยากลำบากในการรักและสนับสนุนใครสักคน ยิ่งเป็นรักทางไกล ก็ยิ่งลำบากยากเข็ญขึ้นไปอีก ยุคนี้จะง่ายหน่อย ตรงที่เราสามารถตามข่าวของพวกเขาได้ง่ายขึ้น มีช่องทางและเทคโนโลยีช่วยค่อนข้างมาก ไม่ว่าเวลาไหนก็สามารถเสพข่าวได้ตลอด แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สมัย K-POP เพิ่งเข้ามาบูมในประเทศไทย โห!บอกได้คำเดียวว่า จะได้เห็นอปป้าแต่ละที ต้องมีการวางแผนเวลาในการตามอะค่ะ

ช่วงยุคบุกเบิกของ Korean Wave เกิดขึ้นราวๆ ประมาณปี 2551 ซึ่งตอนนั้นก็มีอินเทอร์เน็ตแล้วแหละ แต่จะหนักไปทางใช้ในการสืบค้นข้อมูล หรือเข้าเว็บไซต์สังคมสำหรับคนที่มีความชอบในด้านต่างๆ ซะมากกว่า ช่องทางสำหรับสื่อสารในโซเชียลก็มีแค่พวกอีเมล, MSN, HI5 ซึ่งหนักไปทางเอาไว้คุยกับเพื่อนๆ ไม่มีข่าวสารให้อัพเดตแบบ Facebook หรือ Twitter ทุกวันนี้

ขอบคุณภาพจาก Getty Images

ส่วนยูทูป ช่องทางการชมวีดีโอออนไลน์ก็ยังไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ ตอนนั้นคนไทยชอบดูทีวีมากกว่า หลายๆ คนที่ไม่ทันยุคนั้น สงสัยใช่มั้ยล่ะว่า แล้วตามเหล่าอปป้าออนนี่กันทางไหน มาค่ะ ป้า เอ้ย สุดฯ จะไขให้ฟัง

สุดฯ เริ่มด้วยช่องทางออนไลน์ก่อนแล้วกันเนอะ สมัยนั้นช่องทางที่ฮิตมาก จะเรียกว่า เป็นแหล่งรวมคนรักเกาหลีอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ นั่นคือ เว็บไซต์สยามโซน (siamzone) ที่จะมีเว็บบอร์ดสำหรับให้แฟนๆ เข้าไปโพสต์อัพเดตข่าวสารหรือรูปกันเองได้ โดยจะมีการแบ่งห้องตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น ห้องบันเทิงเอเชีย ห้องบันเทิงไทย ห้องบันเทิงตะวันตก ห้องหาเพื่อน ห้องความรัก เป็นต้น

ขอบคุณภาพจาก Getty Images

แน่นอนว่า ใครรักเกาหลีเชิญไปรวมตัวกันที่ห้องบันเทิงเอเชียเลยจ้า ไม่ต้องบอกก็เดากันได้ใช่ไหมว่าในห้องบันเทิงเอเชียจะเต็มไปด้วยอะไร ใช่ค่ะ เกาหลียึดครอง 555+ #ทุกพื้นที่คือK-pop

ปัจจุบันเราจะเห็นว่าแฟนคลับโพสต์เรื่องเกาหลีกันเรียลไทม์สุดๆ ถ้านับโพสต์ก็คือนับไม่หวาดไม่ไหว อาจต้องใช้เวลาเป็นปี (ซึ่งไม่มีทางนับเสร็จ เพราะระหว่างที่นับ โพสต์ก็เพิ่มตลอด 555+) ไม่ต่างจากอดีตจ้า ห้องบันเทิงเอเชีย มีกระทู้ขึ้นทั้งวัน คิดดูว่าไอดอลเกาหลีมีกี่วง ก็ไปกองรวมกันอยู่ในนั้นอะค่ะ ก็จะเยอะเป็นธรรมดา บางทีนั่งๆ ตามอยู่ ดูเท่าไหร่ก็ดูไม่หมดเยอะเหลือเกิน

ซึ่งการอัพเดทข่าวสารก็ไม่ต่างจากตอนนี้มากนัก มีตั้งแต่รูป ข่าวล่ามาแรง ฟิค (เรื่องแต่งที่แฟนคลับแต่งขึ้น อารมณ์นิยายนั่นแหละ) ไปยันกระทู้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรักที่มีต่อศิลปิน

และไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย ก็ต้องมีดราม่าแฟนคลับตีกัน สมัยนี้ดีหน่อยตรงเครือข่ายออนไลน์ค่อนข้างกว้าง บางทีดราม่าก็จะมีคนไม่เห็นและข้ามๆ ไปบ้าง แต่ขอให้คิดสภาพตอนนั้นค่ะ แหล่งเสพข่าวน้อย ส่วนใหญ่จึงมาตามในสยามโซนเป็นหลัก พอดราม่าที มันก็วนๆ อยู่ในนั้น เรียกว่า บอร์ดแทบแตก ใครเคยเห็นโพสต์ที่แฟนๆ แซวกัน เวลาสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปกับบอยแบนด์ถ่ายรูปคู่กันแล้วโพสต์ลงไอจี แฟนคลับจะแคปพร้อมข้อความว่า สยามโซนต้องแตก นั่นละค่ะ 555+ เรื่องจริงไม่ติงนัง มันเคยเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งเป็นประเด็นที่เซ็นซิทีฟมากๆ

ส่วนถ้าถามถึงวงที่ฮ็อตที่สุด มีกระทู้เยอะแทบจะตลอดเวลา ก็ต้องยกให้ Super Junior เลยจ้า แฟนคลับเยอะมาก-ก-ก-ก แต่วงอื่นก็ดังไม่แพ้กันนั้น ทั้ง TVXQ, Girl’s Generation, Bigbang, SHINee ถ้ายุคหลังๆ ก็จะเป็น EXO เรียกว่ารายนามที่กล่าวมา เป็นขาใหญ่ประจำสยามโซนก็ว่าได้

รักทางไกลส่งใจไปเกาหลี

อย่างที่สุดฯ เปรยๆ ไว้ในตอนต้นว่า สมัยนั้นยูทูปยังไม่ค่อยบูมเท่าไหร่ แล้วอย่างนี้เราจะตามดูเอ็มวีอปป้าออนนี่กันทางไหนน่ะเหรอ ไม่ใช่อะไรอื่นไกล โทรทัศน์นั่นไง คือ แหล่งดูเอ็มวีของเหล่าแฟนคลับ เพราะต้องดูผ่านทีวี ก็จะเกิดความลำบากขึ้นมา สมัยนี้อยากดูเพลงอะไร แค่เสิร์ชก็ได้ดูแระ

แต่ตอนนั้นเหรอคะ รอ รอ รอเท่านั้น ไม่สามารถคลิกแล้วได้ดูเลย กว่าจะได้ดูแต่ละที นั่งสวดมนต์แล้ว นั่งสวดมนต์อีก (ไม่ใช่แค่เกาหลี ดาราไทยก็เป็นจ้า) ถ้าชอบดาราไทย อาจจะได้ดูบ่อยหน่อย แต่ไม่ใช่ไง ดันมีรักทางไกล ช่องทางดูเอ็มวีมันเลยน้อยกว่า #ร้องไห้

รายการเพลงที่เอาใจแฟนคลับเกาหลีในไทย และถือว่าเป็นช่องทางหลักในการดูเอ็มวีก็ต้องกดสองช่องนี้เท่านั้น ก็คือ True Music และ Channel V แต่ใดๆ ล้วนเป็นช่องเพลง ฉะนั้นก็จะผสมปนเปทุกเชื้อชาติค่ะ ซึ่งทางช่องก็พยายามสุดๆ มีรายการสำหรับเกาหลีโดยเฉพาะ ทุกๆ วันต้องนั่งดูนาฬิการอเวลารายการออนแอร์ จะได้ไปรอดูเอ็มวี (จริงๆ รายการอื่นก็มีเปิดบ้างนะ แต่มันแล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำร่วมกับอปป้าออนนี่มาถึงจะได้ดู)

นอกจากจะต้องแล้วแต่บุญแต่กรรมที่จะได้ดูวงที่ชอบแล้ว ยังมีระบบโหวตด้วยจ้า ถึงจะได้ดูเอ็มวี ตอนนั้นในแต่ละช่วงรายการ จะมีลิสต์เพลงที่จะให้โหวต ถ้าได้อันดับ 1 ถึงจะเปิดเพลงให้ ไม่ต้องทำอะไรค่ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโหวตโล้ด #ชีวิตแฟนคลับมันก็ยากอย่างนี้แหละ

หากเจาะไปที่รายการเกาหลีที่ต้องดู ก็มี Asian Lover ทางช่อง True Music, Asian Hero ทาง Channel V และ Sat Zone โซนมันวันเสาร์ แหล่งหากินของแฟนคลับ ได้ทั้งอัพเดทข่าวและฟังเพลง นอกจากนี้ยังมีอีกรายการที่มีการเปิดเพลงเกาหลีเยอะมากๆ ทางช่องทีวีพูล เวลา 4 ทุ่ม ก็เป็นช่องทางที่ทำให้เราได้เห็นหน้าอปป้าออนนี่ให้หายคิดถึงได้บ้าง

ยังไม่หมด!อีกหนึ่งแหล่งยอดฮิตสำหรับแฟนคลับเกาหลี นั่นคือ นิตยสารจ้า เมื่อก่อนสมัยหนังสือยังรุ่งเรือง จะมีนิตยสารเกี่ยวกับเกาหลีหรือบันเทิงเอเชียที่มีทั้งข่าว และบทสัมภาษณ์สุดเอ็กคลูซีฟเวลาศิลปินมาไทย พร้อมกับรูปสวยๆ ให้ไปเก็บสะสม บอกเลยว่า ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น Astar, Asain Plus, Seoul Star และ The Boy Kimchi ตอนนั้นคือแค่ดูรูปในนิตยสารก็ฟินแล้ว

นิตยสาร Astar นิตยสารยอดฮิตของสาวกเกาหลี

หลังจากนั้น Twitter Facebook และ Youtube ก็เริ่มบูมขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นช่องทางในการติดตามข่าวสารได้อย่างเต็มที่ ทำให้การเสพข่าวง่ายขึ้นมาก แถมเหล่าแฟนคลับไทยก็เริ่มมีความรู้ความสามารถทางด้านภาษาเกาหลีกันเยอะขึ้น เราจึงตามอปป้าออนนี่ได้ประหนึ่งอยู่เกาหลี

พอมาย้อนคิดดู ก็แอบคิดถึงสมัยนั้นเนอะ นับว่าเป็นความทรงจำและประสบการณ์ที่มีค่ามากๆ กาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน แต่ไม่ว่ายุคไหนความรักที่แฟนคลับไทยมีต่อไอดอลเกาหลียังไม่เคยเปลี่ยนแปลงจริงๆ #เราผ่านกันมาหมดแล้วเนอะ

เรื่อง ImJinah

ภาพ Getty Images

มีเรื่องที่คุณห้ามพลาดอีกนะจ๊ะ

ฟาดมง!ดาราชายเกาหลีไม่ยอมน้อยหน้าติด อันดับผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกประจำปีเพียบ

เกาหลีเลี้ยงลูกก็จะประมาณนี้! วิธีเลี้ยงลูกแบบเกาหลีจาก The Return of Superman

เกาหลีเอาจริง!จากกระแส K-POP สู่ปรากฏการณ์ Korean Wave ไปทั่วโลก

ทำผมให้เด็กมันดู!ย้อนดูทรงผมไอดอลชายสุดฮิตในอดีต #พี่ผ่านมาหมดแล้วน้อง

หน้าตาแบบ SM ก็จะประมาณนี้!ส่งต่อความสวยหล่อจากรุ่นสู่รุ่นของไอดอลค่าย SM #แหล่งผลิตวิชวลของ