โอ๊ต ปราโมทย์ , The Uncensored

คุยแบบ UNCENSORED กับ โอ๊ต ปราโมทย์ ต่ำตมแต่กลมกล่อมเหลือเกิน

Alternative Textaccount_circle
event
โอ๊ต ปราโมทย์ , The Uncensored
โอ๊ต ปราโมทย์ , The Uncensored

เรียกว่าเป็นผู้ชายหุ่นหมีคิวฮ็อตที่สุดของวงการก็คงจะได้ แต่กว่าชีวิตจะปังอย่างทุกวันนี้ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ก็ได้ผ่านจุดที่เข้าวงการมา 10 ปีแต่ ไม่มีใครรู้จัก!! มาแล้ว

ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาที่ศิลปินอารมณ์ดี นิสัยน่ารัก เขาจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นครั้งแรก ทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่มิตรรักแฟนเพลงต่างก็เฮกันดังลั่น กับ “Chang Music Connection  Presents  OAT  Pramote Show “The Uncensored”  โชว์ที่ทุกคนจะได้ชมการพูดพล่าม-ฮัมเพลง  ต่ำตมแต่กลมกล่อม หัวเราะจนตีนกาย่น และแน่นอนว่าฟินกับเพลงเพราะๆ จนตัวลอยแบบไม่แคร์น้ำหนักกันเลยทีเดียว

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ที่ทำให้เป็นโอ๊ต-ปราโมทย์ในวันนี้

“จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของผมมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ ตัดสินใจเลือกเรียนดนตรี ต้องเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กเกเร ไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไร แม่เลยส่งไปเรียนภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลีย แต่ผมก็ดันหนีกลับเมืองไทยโดยที่ไม่ได้บอกแม่ มาถึงก็เดินเข้าบ้านเฉยๆ แม่ทั้งโกรธและเสียใจ ไม่คุยกับผมครึ่งปีจนผมต้องเขียนจดหมายขอโทษแล้วไปวางไว้ในห้องแต่งตัว แล้วไปวางไว้ในห้องแต่งตัว จากนั้น 4-5 วันแม่ค่อยเริ่มพูดด้วย ที่ผมตัดสินใจแบบนั้นคือ ผมรู้ว่าผมเรียนจบไปก็ไม่อยากใช้ชีวิตตื่นเช้าไปทำงานเย็นกลับบ้าน ผมรักอิสระ ไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์

“พอกลับเมืองไทยก็ตัดสินใจเรียนต่อด้านดนตรีอย่างจริงจัง ตอนที่เรียนก็ยังไม่ชอบ แค่รู้สึกว่าเราโง่ เราเกลียดคณิตศาสตร์ และรู้สึกดนตรีน่าจะไปไหว เพราะตอนไปเรียนเมืองนอก ได้ไปร้องเพลงตามร้านอาหาร รู้สึกว่าเออ… ทำเป็นอาชีพได้นิ ได้เงินดีด้วย แต่พอเรียนจริงๆ คือสุดๆ ไปเลย ใครบอกดนตรีเรียนง่ายผมตีปากเลยนะ จริงๆ มันยากมาก ต้องเรียนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ต้องรู้โน้ต รู้จังหวะ สมมติว่านิ้วทั้ง 5 นิ้วกดลงไปที่เปียโนพร้อมกัน ต้องฟังให้ออกนะ ว่าแต่ละนิ้วที่กดลงไปมีโน้ตตัวไหนบ้าง ตบมือก็ต้องตบให้เป็นจังหวะ ตามโน้ตให้ได้

“จุดเปลี่ยนที่สองคือ ได้เข้ามาทำรายการ Paloy’s Diary กับพลอย หอวัง และพิชญ์ กาไชย ก่อนจะทำรายการ ผมตั้งใจจะออกจากวงการแล้ว  เพราะ10 ปีที่ผ่านมาพเนจรในวงการอย่างทุลักทุเล เราไม่ประสบความสำเร็จเลย ปีที่เริ่มทำ Paloy’s Diary ผมก็คุยกับเป๊ก-เปรมณัช พิชญ์ พลอยนะว่า ถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จอีกก็ไม่ทำแล้ว จะกลับไปทำธุรกิจที่บ้าน ดูแลธุรกิจอสังหาฯ ดูแลร้านหมูกะทะ แต่งงานมีลูก เลี้ยงหมา แต่แล้วรายการทางโซเชียลมันก็พีคมาก ส่งผลให้เรายังทำงานในวงการจนวันนี้”

 

ได้ดีเพราะมีเพื่อน

“ผมยังจำช่วงชีวิตที่ปีหนึ่ง มี 5 งานได้ไม่ลืม เราผ่านช่วงยากลำบากมาได้เพราะเพื่อนๆ ทำให้ในความลำบากมันก็ยังมีความสุข เราได้เรียนรู้ชีวิต รู้จักอดทน มีครั้งหนึ่งผมไปทัวร์คอนเสิร์ตกับ เป๊ก-ผลิตโชค โบว์ลิ่ง-มานิดา ที่บุรีรัมย์ มีคนดู 2 โต๊ะ แค่ 15 คน ณ วันนั้นไม่เอฟเฟ็คต์ท์กับผมนะ เพราะคนไม่รู้จักเรา เขาไม่ได้คาดหวังมาดูเรา แต่ก็โชคดีวันนั้นเรา 3 คนต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน “ไม่เป็นไร เราโชว์ให้เต็มที่ ให้เขารู้สึกว่าเป็น 15 คนที่โชคดีที่ได้ออกมาดูเรา”กลายเป็นว่าวันนั้นสนุกมาก คนดูก็สนุกไปกับเรา

“ต้องบอกเลยว่าเพื่อนรอบตัวในชีวิตของผมเป็นคนดีหมดเลย ผมบอกทุกคนเสมอว่า เราไม่มีทางเก่งได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ดีด้วย มีเพื่อนดี มีสังคมดี เราถึงจะประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ผมกล้าพูดได้เลยว่า ผมได้ดีเพราะเพื่อน เพื่อนนำมาผมมาอยู่จุดนี้ ถ้าต้องพูดถึงสักคนที่ผลักดันผมมากคือ เป๊ก-เปรมณัช มีคอนเสิร์ตอะไรก็จะชวนไปเล่น นิวจิ๋วมีคอนเสิร์ตก็ชวนผมไปเป็นแขกรับเชิญ ซึ่งทำให้ได้รู้จักพิชญ์กับพลอย ทุกคนที่เคยได้ร่วมงานกัน หรือแม้จะไม่ได้อยู่รอบข้าง ทุกคนสำคัญหมดครับ”

โอ๊ต ปราโมทย์ , The Uncensored

ประสบการณ์ออนทัวร์สุดสนุก

“พอโอ๊ต-ปราโมทย์ เป็นที่รู้จัก ไปเล่นที่ไหนไม่รู้ทำไมผมโดนจับไข่ตลอด แล้วคนที่จับคือผู้หญิง สวยด้วยนะ ครั้งหนึ่งไปเล่นที่โคราช ลูกค้าก็มักจะยื่นแก้วให้ อีกมือถือไมค์ เราจะไม่มีมือปัดป้อง แล้วมีผู้หญิงสวยมาก น่ารักมากอยู่ข้างเวที เขาก็แต้แว้บๆ มาที่เป้า สักพักแต้แว้บอีกแล้ว คือจับคนหนึ่ง อีกคนก็เล่นด้วย เดินไปหน้าเวทีปาดกันโกยกันเป็นที่โกยขยะเลย แต่ผมก็รู้ว่าเขาอยากเล่นด้วย เลยมองเป็นเรื่องขำๆ ไม่ถือสา

“เรื่องเจ็บตัวก็มีนะ ตอนเพิ่งเป็นศิลปินใหม่ๆ ผมเคยตกเวทีร้านแถวมหา’ลัย ตอนร้องเพลงเล่นของสูง ของบิ๊กแอส เพลงมันส์มาก จัดเต็มมาก “ขอมือคนเล่นของสูงหน่อย…” ยังไม่ทันร้องหล่นตุบ ร่วงหายลงไปข้างล่างเวที คนต้องมาช่วยดึง อายฉิบ… (หัวเราะ) ข้อศอกถลอก หัวไมค์บุบ ขึ้นอย่างสิงห์ลงอย่างหมาเลย สาวเพียบ น่ารักๆ ทั้งนั้น จบข่าว หมดกัน”

 

คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต เปิดหมดเปลือก ต่ำตมแต่กลมกล่อม

อยู่วงการเพลงมา 10 ปี ไม่มีคนรู้จัก เพลงดังแต่คนไม่รู้จักนักร้อง จนวันนี้เดินทางมาถึงวันที่ผมมีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองมันไกลเกินความฝันมาก ตอนนี้เกิดความรู้สึกหลากหลายมากครับ ทั้งตื่นเต้น เครียด และแฮปปี้มาก มันมวนท้องไปหมด บอกไม่ถูก

“ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนเวที มีทุกรูปแบบ ทุกอารมณ์ ผมยกชีวิตตัวเองไปไว้บนเวทีเลย อย่างที่บอก ชีวิตผมมีทั้งสมหวัง ผิดหวัง สุข เศร้า ซึ่งผมพยายามเล่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดในมุมของเราให้คนเห็นว่า ที่จริงๆแล้วในเรื่องที่ไม่ดี มันมีความสนุก และความตลกซ่อนอยู่

“ส่วนแขกรับเชิญ จะเป็นคนที่เรารักทั้งหมด หรือบางคนที่อาจจะไม่ได้ใกล้ตัวเรา แต่อยากร่วมงานกับเรา โดยมากเป็นคนที่อยู่ในวงโคจรใกล้ๆกัน ที่เคยร่วมงานกันแล้วสนุกสนานครับ คราวนี้เราเป็นโฮสต์คนเดียวเลย คิดว่าความยาก คือต้องนำพาบรรยากาศให้สนุก ผมต้องพาแขกรับเชิญปลดล็อกความเป็นตัวเขา ให้รู้สึกว่าสบายใจที่มาแสดงกับเรา  แล้วก็วาทศิลป์ในการพูด… พูดยังไงให้เรื่องเศร้ามองกลายเป็นเรื่องในแง่ดี และเรื่องตลก แล้วเราต้องยืนคนเดียวต่อหน้าคนเป็นพันๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะขำกับเราหรือเปล่า การทำให้ทุกคนสนุกเนี่ยเป็นเรื่องยากครับ

“ยังไงก็ต้องฝากคอนเสิร์ตด้วยนะครับ วันเสาร์ที่ 1 และอาทิตย์ที่  2 กันยายน 2561 นี้  ที่ GMM LIVE HOUSE ชั้น 8 รับรองว่าจะเป็นโชว์ที่ดีที่สุดในชีวิตผมแน่นอนครับ ผมจะทำให้ทุกคนเห็นว่า ผมตั้งใจกับมันมากขนาดไหน อยากให้ทุกคนมารับความสุขความสนุก ไปด้วยกัน มาแบบหัวโล่งๆ ไม่ต้องคิดเยอะ เอาจริงนะ ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีอยากฟังผมร้องเพลงหรอก ทุกคนอยากมาฟังผมพูดเหี้ย พูดห่าอะไรไปเรื่อย แต่งานนี้ผมก็ยังจะร้องเพลงนะครับ (หัวเราะ) เพราะเป็นสิ่งที่ผมรักที่สุด”

 

หมายเหตุ : ตัดทอนจากบทสัมภาษณ์ คอลัมน์ Entertainment Complex นิตยสาร สุดสัปดาห์ ฉบับ สิงหาคม 2561

Text : AuAi

Photo : JoJoJae

 

อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจของโอ๊ต ปราโมทย์ ได้ที่นี่ค่ะ

ผู้ชายหลากมุมชื่อ โอ๊ต ปราโมทย์ #ผมไม่ได้เอะอะก็หยาบคาย

เห็นต่ำตมอย่างนี้ โอ๊ต ปราโมทย์ มีดีที่เสียงคุณภาพ

โอ๊ต ปราโมทย์ เมื่อก่อนใสๆ เดี๋ยวนี้… (กลับมาได้ไหม เลยแยกพัฒนาการไปไกลมาก)

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up