หลังจากเพอร์ซีย์ แจ็กสันภาคแรกประสบความสำเร็จล้นหลาม ทั้งในเวอร์ชั่นหนังสือและภาพยนตร์ จนต้องมีภาคต่อ วีรบุรุษแห่งโอลิมปัส (The Heroes of Olympus) ตามมาติดๆ แล้วก็มาถึงภาคล่าสุด The Trials of Apollo ที่เราขอบอกว่าสนุกไม่แพ้กัน
The Trials of Apollo มีทั้งหมดห้าเล่มจบ ได้แก่ เล่มแรก เทพพยากรณ์ผู้ซ่อนเร้น ( The Hidden Oracle ) เล่มสอง เล่มสอง เทพพยากรณ์ทมิฬ ( The Dark Prophecy ) เล่มสาม วงกตเพลิง ( The Burning Maze ) เล่มสี่ สุสานทรราช ( The Tyrant’s Tomb ) และเล่มสุดท้าย หอคอยแห่งเนโร ( The Tower of Nero ) แต่ละเล่มจะเป็นยังไง เดี๋ยวเรารีวิวรายเล่มให้ฟังไปเลยละกัน
เล่มแรกของชุดThe Trials of Apollo เทพพยากรณ์ผู้ซ่อนเร้น หรือ The Hidden Oracle
เรื่องย่อจากปกหลัง
ความผิดเจ้า จงรับการลงทัณฑ์ ซุสหาว่าเขาเป็นชนวนเหตุของสงครามกับพวกยักษ์ และเขาต้องรับการลงโทษ เทพที่ร้อนแรงที่สุดในโอลิมปัสจึงถูกเตะโด่งจากสวรรค์ลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดา อันที่จริงไม่ใช่ครั้งแรกที่อะพอลโลโดนแบบนี้ แต่หนนี้หายนะที่สุด เพราะร่างอวตารของเขาไม่มีผิวสีแทนแสนเซ็กซี่ กล้ามซิกส์แพ็ค พลังเทพ เป็นแค่วัยรุ่นอายุสิบหกสิวเขรอะ และมีห่วงยางรอบเอว ชื่อ เลสเตอร์ พาพาโดพูลอส และต้องหาที่ตั้งหลัก ซึ่งจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากค่ายฮาล์ฟบลัด แต่ในนิวยอร์นี้จะไหว้วานใครไปส่งได้ล่ะ อ๊ะ เพอร์ซีย์ แจ็กสันไงล่ะ
อ่านเท่านี้ก็คงพอนึกภาพออก นี่คือสถานการณ์เทพอะพอลโลตกสวรรค์ มาเป็นเด็กวัยรุ่นอ้วน สิวเขลอะ และที่หนักกว่านั้นคือ ต้องคำสาปให้ตกเป็นทาสของบุตรีเทพีดีมิเทอร์ซึ่งเป็นเด็กหญิงนามว่า เม็ก แม็กคัฟฟรีย์ ไปอี๊กกก
แล้วเหมือนชีวิตจะแย่ย่ำไม่หนำใจ การจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเทพๆ ได้อีกครั้งนั้น อะพอลโล AKA เลสเตอร์จะต้องปฏิบัติภารกิจปลดปล่อยเทพพยากรณ์ทุกองค์จากการจองจำกักขังให้สำเร็จซะก่อน ทั้งๆ ที่อยู่ในร่างใหม่ ไม่มีความสามารถ แสนจะธรรมด๊า ธรรมดานี่แหละ
รีวิวหลังอ่าน
พูดกันแบบไม่อวย เล่มนี้ออกจะอืดๆหน่อย ลำไยกับการพร่ำบ่นของอะพอลโลอยู่มาก ตัวละครเอกอื่นๆ ที่ทยอยเปิดตัวมาก็ยังไม่ได้ทำให้เราว้าวมากนัก ( อันนี้เป็นเสน่ห์ของจักรวาลเพอร์ซีย์มาแต่ไหนแต่ไรนะ และทำให้เรื่องพลอยสนุกน่าติดตามขึ้นด้วย) ตัวละครจากภาคเก่าเข้ามาช่วยมีบทบาทนิดหน่อยแค่พอหอมปากหอมคอ เรียกว่าเล่มแรกนี่เป็นด่านที่ต้องผ่านไปให้ได้ แต่ไม่ต้องกังวล เล่มถัดๆ จะไปสนุกขึ้นเรื่อยๆ
เล่มสอง เทพพยากรณ์ทมิฬ หรือ The Dark Prophecy 389.- Rick Riordan ปัทมวรรณ บูรณมาตร์
เรื่องย่อจากปกหลัง
ด้วยความช่วยเหลือจากลีโอ คาลิปโซ และเจ้ามังกรเฟสตัส อะพอลโลก็มาถึงแถบมิดเวสต์ของอเมริกา ที่ซึ่งเทพพยากรณ์โบราณองค์ต่อไปน่าจะอยู่แถวๆนี้แหละ “โทรโฟเนียส” ได้ชื่อว่าเป็นเทพพยากรณ์ทมิฬ เพราะใครก็ตามที่ล่วงล้ำเข้าไปในถ้ำแห่งโทรโฟเนียสจะถูกทำให้เสียสติ นอกจากนี้สมาชิกไทรอัมวิเรตอีกคนก็กำลังรออยู่ จักรพรรดิผู้บ้าการต่อสู้นองเลือดทุกรูปแบบ งานนี้กลุ่มพันธมิตรใหม่เป็นที่ต้องการอย่างเร่งด่วน ฮัลโหลน้องสาวที่รัก ขอพี่ชายยืมเหล่าพรานแห่งอาร์เทมีสมาใช้สักกองทัพได้ปะ
รีวิวหลังอ่าน
อย่างที่บอกว่าผ่านเล่มแรกมาได้ อะไรๆจะเริ่มดีขึ้น อะพอลโลเริ่มออกเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจปลดปล่อยเทพพยากรณ์องค์แรกจากไทรอัมวิเรต หรือกลุ่มจักรพรรดิอมตะที่รวมตัวกันขึ้นมาเพื่อล้างแค้นและครองโลก
เรื่องราวในเล่มนี้เริ่มสนุกละ มีตัวละครหลักจากภาคเก่าคือ ลีโอ วัลเดซ กับแฟนสาวคาลิปโซ และเจ้ามังกรเฟสตัสมาสร้างสีสัน ตัวละครใหม่ในเล่มนี้ก็น่าสนใจทั้งกลุ่มพรานของอาร์เทมีส เจ้ากริฟฟินทั้งสองตัว ฯลฯ กว่าจะฝ่าฟันกันมาจนถึงท้ายเล่มได้เรียกว่า เลสเตอร์ AKA อะพอลโล นี่น่าสงสารใช้ได้เลย และทิ้งท้ายตอนจบเล่มนี้ไว้ได้น่าสนใจมาก แฟนจักรวาลเพอร์ซีย์ต้องมีกรี๊ดอะบอกเลย
เล่มสาม วงกตเพลิง หรือ The Burning Maze
เรื่องย่อจากปกหลัง
คำพยากรณ์บอกว่าค่ายจูปิเตอร์กำลังจะเกิดภัย ลีโอจึงล่วงหน้าไปเตือน คำพยากรณ์ทมิฬยังบอกอีกว่า อะพอลโลจะต้องลงไปในเขาวงกต เพื่อเผชิญกับจักรพรรดิคนสุดท้ายที่โหดเหี้ยมและชั่วร้ายที่สุดในไทรอัมวิเรต และเพื่อปลดปล่อยเทพพยากรณ์อีกกองค์ที่เป็นแต่พูจาภาษาอักษรไขว้ การเดินทางในวงกตเดิมก็อันตรายอยู่แล้ว แต่วงกตคราวนี้ผิดปกติไปเมื่อบางส่วนของมันมีเพลิงประหลาดลุกไหม้ ทำให้แคลิฟอร์เนียร์ระอุร้อนไปครึ่งรัฐ เป็นอีกครั้งที่อะพอลโลต้องการผู้ช่วย นอกจากธิดาแห่งดีมิเทอร์ขาประจำ จ้าวแห่งธรรมชาติ โกรเวอร์ อันเดอร์วู้ด พร้อมให้บริการแล้วเช่นกัน
รีวิวหลังอ่าน
ถ้าบอกว่าเล่มสองเริ่มสนุกขึ้น เล่มสามนี่ก็เรียกว่าคนเขียนเครื่องติดแล้วละ เริ่มมันส์จนวางไม่ลง ที่สำคัญเล่มนี้มีตัวละครจากภาคก่อนๆ มาแจมเพียบ โกรเวอร์ ไพเพอร์ เจสัน โค้ชเฮดจ์ ฯลฯ เอาให้หายคิดถึงกันไปเลย ส่วนตัวละครใหม่ก็น่าสนใจ ทั้งเหล่าไดรแอดแห่งทะเลทราย และจักรพรรดิตัวร้ายของเล่มนี้ที่ร้ายกาจยิ่งกว่าเล่มที่แล้ว พร้อมลูกน้องเพียบ
เล่มนี้มีเรื่องที่ทำให้เสียน้ำตา แนะนำให้คนอ่อนไหวเกียมทิชชูไว้สักหน่อยก็ดี ฮืออออ
เล่มสี่ สุสานทรราช หรือ The Tyrant’s Tomb
เรื่องย่อจากปกหลัง
อะพอลโลมุ่งหน้าสู่ซานฟรานซิสโก เพื่อไปพบกับลูกสาวของเบลโลนา เทพีหญิงแห่งค่ายจูปิเตอร์ นอกจากอสุรกายที่ต้องเจอ ก็ยังมีแผลที่พุงน้อยๆ ของเลสเตอร์ จากเจ้าผีกูลที่ทำให้ติดเชื้อ ไม่พ้นคืนจันทร์สีเลือด (ซึ่งก็อีกแค่ไม่กี่วัน) เขาจะต้องกลายเป็นทาสของกษัตริย์ทรราช พันธมิตรของไทรอัมวิเรต จากเทพ กลายเป็นมนุษย์ และกำลังจะกลายเป็นซอมบี้เนี่ยนะ
รีวิวหลังอ่าน
บอกตรงๆว่า อ่านไปก็สงสาร เลสเตอร์ / อะพอลโล ที่สะบักสะบอมมาตลอดเส้นทาง ถ้าให้อธิบายขอใช้แค่คำเดียวคือ สภาพ!!! นอกจากสิวกับห่วงยางรอบเอวที่เยอะเป็นพิเศษแล้ว ชีวิตก็ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชเพิ่มเติมอะไรกะเขาเล้ย แล้วเล่มนี้ยังติดเชื้อซอมบี้ผีดิบโบราณเข้าไปอีก
บรรยากาศของเล่มนี้จะเป็นภาพของค่ายทหารโรมัน ( บรรยากาศจากภาควีรบุรุษแห่งโอลิมปัสที่เราคิดถึง ) เพื่อนเก่าอย่าง ไซคลอปส์ไทสันผู้น่ารัก ฮาปี แฟรงก์ จาง เฮเซล เลอเวสก์ ฯลฯ จะได้มาเจอกันอีกครั้งในเล่มนี้ ร่วมผจญภัย ร่วมรบ เพื่อปกป้องค่าย พร้อมกับรับมือสองจักรพรรดิผู้ชั่วร้ายแห่งไทรอัมวิเรต
และเล่มสี่นี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่ามีการยกระดับจากวรรณกรรมผจญภัยแฟนตาซี กลายเป็นวรรณกรรมบู๊ล้างผลาญอ่อนๆ ที่มีการสู้รบและการตายแบบไม่มีวันฟื้นคืน เรียกว่าเข้มข้นสมกับที่ใกล้เข้าสู่เล่มจบเข้าไปทุกที
เล่มสุดท้ายของชุด เล่มห้า หอคอยแห่งเนโร หรือ The Tower of Nero
เรื่องย่อจากปกหลัง
เพื่อเบิกหนทางสู่ความเป็นเทพ อะพอลโล (เลสเตอร์)ต้องมุ่งสู่นิวยอร์ก เจอกับ เนโร จักรพรรดิจอมปล้ินปล้อน หัวหน้าของไทรอัมวิเรต ที่ครอบครองตึกที่เต็มไปด้วยเพลิงกรีก และรีโมทที่พร้อมกดแล้วระเบิดนิวยอร์กทั้งเมืองในพริบตา ครั้งนี้ นิโค ดิแองเจโล วิล โซเลซ คู่รักที่น่ารักที่สุด ทรอโกไลต์ นักวิ่งเงาที่เทิดทูนหมวกเป็นชีวิตจิตใจ เม็กจะเผชิญกับฝันร้ายในอดีตอย่างไร ล้มเนโรแล้วช่วยนิวยอร์กได้ไหม ยังไม่นับว่า ไพธอน ตัวร้าย ยังรออยู่อีก บทสรุปของการลงทัณฑ์ครั้งนี้จะมีอะไรที่ต้องสูญเสียไปอีกหรือไม่
รีวิวหลังอ่าน
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเล่มสุดท้าย ปมทุกอย่างก็จะได้รับการคลี่คลาย ในขณะที่ภารกิจฆ่าบอสก็จะยิ่งต้องหนักหนากว่าทุกเล่มที่ผ่านมา เล่าเยอะไม่ได้ เพราะตรงไหนก็จะกลายเป็นสปอยล์ไปหมด เอาเป็นว่าดีกรีความสนุกเล่มนี้ไม่แผ่ว จบดี (เท่าที่จะดีได้) แฮปปี้ (เท่าที่จะแฮปปี้ได้)
เพิ่มเติมสำหรับหลายคนที่คงจะสงสัยว่า ความภาคต่อนี้ถ้าไม่อ่านสองภาคแรก (ชุดเพอร์ซีย์ แจ็กสันกับ ชุดวีรบุรุษแห่งโอลิมปัส ) มาก่อนจะรู้เรื่องไหม ถ้าตอบตรงๆ ก็คือรู้เรื่องแหละ แต่อรรถรสจะหย่อนลงไปพอสมควร เพราะแบคกราวนด์ของเรื่องราวทั้งหมดนั้นมันเชื่อมถึงกัน ตัวละครจากภาคก่อนๆ ก็เข้ามามีบทบาทในภาคนี้อยู่เป็นระยะ
ฉะนั้นถ้าเป็นแฟนของจักรวาลเพอร์ซีย์ แจ็สันก็ควรจะตามเก็บภาคนี้เป็นอย่างยิ่ง ส่วนใครที่ยังไม่เคยลอง ขอแนะนำว่าควรเริ่มตั้งแต่ชุดเพอร์ซีย์ แจ็กสันก่อน แล้วไล่มาเรื่อยๆ จะได้จับทางถูกว่าชอบแนวนี้ไหม
จักรวาลเพอร์ซีย์ แจ็กสัน ตั้งแต่เล่มแรกจนถึงปัจจุบัน จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Enter Books เรียงลำดับดังนี้
ชุดแรก เพอร์ซีย์ แจ็กสัน และเหล่าเทพโอลิมปัส มีห้าเล่มจบ ได้แก่ เพอร์ซีย์ แจ็กสันกับสายฟ้าที่หายไป , เพอร์ซีย์ แจ็กสันกับอาถรรพ์ทะเลปีศาจ ,เพอร์ซีย์ แจ็กสันกับคำสาปแห่งไททัน ,เพอร์ซีย์ แจ็กสันกับปริศนาเขาวงกต และ เพอร์ซีย์ แจ็กสันกับเทพองค์สุดท้าย สนุกทุกเล่ม อารมณ์ขันแบบจิกกัดของริก ไรออร์แดนมีเสน่ห์มาก สำหรับเราเป็นชุดที่สนุกที่สุดในจักรวาลเพอร์ซีย์ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเพราะความสดใหม่ พอเป็นภาคแรก ทุกอย่างก็น่าตื่นตาตื่นใจไปหมด
ภาคต่อมา ชุดวีรบุรุษแห่งโอลิมปัส มีหกเล่มจบ ได้แก่ วีรบุรุษแห่งโอลิมปัส , วีรบุรุษผู้สาบสูญ , บุตรแห่งสมุทรเทพ , รอยตราอาธีนา , เคหาสน์แห่งฮาเดส และเล่มสุดท้าย โลหิตแห่งโอลิมปัส ชุดนี้ก็ต้องยกนิ้วให้กับความสามารถของริก ริออร์แดน จริงๆ ที่ไม่หมดมุก สามารถผูกเรื่องความเทพกรีกกับโรมันเข้าด้วยกัน แล้วยังสร้างตัวละครใหม่ๆ ให้เรารักได้อีกถึงหกเล่ม ถ้าบอกว่าภาคแรกของเพอร์ซีย์คือสนุกที่สุด ภาคนี้จะเรียกว่าไม่มีแผ่วก็น่าจะได้เช่นกัน
กล่าวโดยสรุปคือ เชียร์นะจ๊ะซีรีส์นี้ ของเขาสนุกจริง!
ติดตามรีวิวหนังสืออื่นๆ ที่น่าสนใจ
เก็บให้ครบ 2 เวอร์ชั่นของฮวาปู๋ชี่ ทั้งนิยายและซีรี่ย์จีนที่ได้จางปินปิน-หลินอีเฉิง ส่งต่อความปัง
ต้องตาม เทียบท้าปฐพี จากนิยายขายดีจนต้องพิมพ์ซ้ำสู่ซีรี่ย์จีนของหยางหยาง-จ้าวลู่ซือ
ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ ไม่เก่ง ไม่ดี แต่บังเอิญเกิดมาสวย และรวยมากค่ะ!
ระยะแอบรัก จากนิยายสู่ซีรี่ย์จีนแนวรักข้างเดียว ชวนซึ้งตั้งแต่ต้นจนจบ
ทำความรู้จัก ฉางอันสิบสองชั่วยาม ซีรี่ย์จีนขึ้นหิ้งกวาดรางวัลนับสิบ
Count Your Lucky Stars จากนิยายรักสู่ซีรี่ย์จีนของสองพระนาง F4