นำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทย 8 รสชาติผ่านอาหารจานเด่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหาร “รสมือแม่”
ภาพจากซ้าย ทีมเชฟห้องอาหารฟร้อนท์ รูม นำโดยเชฟบัว สโรชา รัชตะนาวิน รองหัวหน้าเชฟ ปฏิบัติการแทนหัวหน้าเชฟห้องอาหาร (แถวยืน ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วยที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและวัฒนธรรมไทย ดร. หนิง นิพัทธ์ชนก นาจพินิจ และเชฟแอน ศุภณัฐ คณารักษ์ (แถวนั่ง บนเก้าอี้ ฝั่งขวา และซ้ายตามลำดับ) อาหารจานเด่นของห้องอาหาร อาทิ ทะเลกับสะตอคั่วซอสเค็ม พล่าไหลบัวในรูปแบบพืชและผัก (Plant-Based) และ มะพร้าวชีสเค้ก
กรุงเทพฯ – ห้องอาหารฟร้อนท์ รูม (Front Room) โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ (Waldorf Astoria Bangkok) พร้อมเปิดให้บริการด้วยรูปแบบอาหารไทย โดยนำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทย 8 รสชาติผ่านอาหารจานเด่นที่ได้รับการปรุงอย่างใส่ใจ ปราณีต และพิถีพิถันด้วยแรงบันดาลใจของอาหาร “รสมือแม่”
“พวกเรามีความเห็นร่วมกันว่า ฟร้อนท์ รูม ในรูปแบบใหม่นี้หมายเป็นที่รู้จักในเรื่องอาหารไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติไทยแท้ อาหารหลายจานมีรากฐานมาจากความทรงจำวัยเด็กของเชฟจากอาหารที่บ้านของพวกเขา” เชฟอเลสซานโดร ซานติ หัวหน้าเชฟใหญ่ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ กล่าว “พวกเราโชคดีที่ได้รู้จักกับเชฟแอนและอาจารย์หนิง ทั้งสองท่านมีแนวคิดสอดคล้องกับพวกเราที่ว่าอาหารไทยที่ดีที่สุดคืออาหารที่ได้รับการปรุงด้วยความใส่ใจอย่างปราณีต พิถีพิถัน โดยอาจารย์หนิงและเชฟแอนตกลงร่วมมือกับพวกเรานำประสบการณ์ และความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับอาหารไทยมาร่วมเปิดห้องอาหารฟร้อนท์ รูมในครั้งนี้”
จากความร่วมมือด้านอาหารดังกล่าว ดร. นิพัทธ์ชนก นาจพินิจ หรืออาจารย์หนิง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและวัฒนธรรมไทย ได้นำความรู้ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากมารดา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กอบแก้ว นาจพินิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย และอาหารไทยชาววัง หนึ่งในบรมครูด้านอาหารไทยที่เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการค้นคว้าวิจัยด้านอาหารไทยที่อาจารย์ หนิงได้ศึกษามาอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งรูปแบบของเมนูของห้องอาหารฟร้อนท์ รูม โดยมีเชฟที่ปรึกษา เชฟแอน ศุภณัฐ คณารักษ์ และทีมเชฟของห้องอาหารนำโดยเชฟบัว สโรชา รัชตะนาวิน หัวหน้าเชฟห้องอาหาร ร่วมออกแบบเมนู และสูตรอาหารนำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทย 8 รสชาติ ได้แก่ เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม มัน ปร่า (ฝาด) และจืด
ห้องอาหารฟร้อนท์ รูม โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เปิดให้บริการในรูปแบบใหม่
พลาดไม่ได้กับอาหารจานแนะนำ อาทิ พล่าไหลบัวหอยเชลล์ ทะเลกับสะตอคั่วซอสเค็ม เนื้อเค็มต้มกะทิ ปลาเก๋านึ่งพริกลาบคั่ว หมูสามชั้นผัดกระเทียมดอง และมะพร้าวชีสเค้ก เป็นต้น
อาจารย์หนิงกล่าวว่า “เชฟแอนและดิฉันมีความเชื่อเหมือนกันว่า ความเรียบง่ายที่เปี่ยมด้วยคุณภาพจะทำให้เกิดความเปล่งประกาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราให้ความสำคัญกับการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีที่สุด ตลอดจนเทคนิคการปรุงอาหาร การนำเสนอเมนู และความสร้างความน่าสนใจต่อประสาทสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นรูป รส และกลิ่น ผู้คนมักพูดว่าอาหารแบบปรุงรับประทานที่บ้านคืออาหารที่ดีที่สุด เพราะความเอาใจใส่ของมารดาในการคิดวางแผนเมนูอาหาร การตระเตรียมในทุกขั้นตอน และการปรุงอาหารแบบเอาใจใส่ ทำให้เกิดเป็นอาหารอร่อยถูกปากที่เราจำได้เป็นอย่างดี โดยอาหารที่ปรุงรับประทานที่บ้านหลายรายการเป็นอาหารที่เรียบง่าย อร่อย โดยผู้รับประทานสามารถรู้สึกได้ถึงความรัก และความใส่ใจผ่านอาหารในแต่ละคำ นี่คือสิ่งที่เชฟแอนและดิฉันต้องการนำเสนอที่ห้องอาหาร ฟร้อนท์ รูม เราตั้งใจและใส่ใจในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร และการฝึกทีมเชฟที่ชำนาญด้านการทำอาหารอยู่แล้วให้รู้จักและเข้าใจอาหารไทยอย่างลึกซึ้ง พร้อมปรุงอาหารไทยแบบมืออาชีพ”
ด้วยความต้องการรับประทานอาหารประเภทพืชและผัก (Plant-based) ที่มากขึ้น ทีมเชฟห้องอาหารฟร้อนท์ รูมได้นำทักษะการปรุงอาหารและความคิดสร้างสรรค์มารังสรรค์เมนูอาหารไทยรสกลมกล่อม ที่ทำมาจากพืชและผัก (plant-based) อาทิ พล่าไหลบัว ฟองเต้าหู้ห่อหัวไช้เท้าทอด แกงเขียวหวาน และซอร์เบต์ส้มซ่า เป็นต้น
“ดิฉันสามารถพูดแทนเชฟแอนได้เลยว่า เราสองคนสนุกที่ได้ร่วมงานกับทีมเชฟของโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ เราได้แบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านอาหารไทยให้พวกเขา และในขณะเดียวกันเรารู้สึกมีพลังมากขึ้นที่ได้เห็นความหลงใหลด้านอาหาร ความเป็นมืออาชีพ และความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา โดยรูปแบบและการตกแต่งอาหารแต่ละจานในเมนูนี้ ล้วนเป็นความคิดต่อยอดของพวกเขาโดยทั้งสิ้น” อาจารย์หนิงสรุป
ห้องอาหารฟร้อนท์ รูม โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ตั้งอยู่ล็อบบี้ชั้นล่าง (Lower Lobby) เปิดให้บริการวันพุธ ถึง วันอาทิตย์ (ปิดทำการวันจันทร์ และวันอังคาร) โดยพร้อมให้บริการอาหารมื้อกลางวันระหว่างเวลา 11:30 น. – 14:00 น. และมื้อค่ำระหว่างเวลา 17:30 น. – 21:30 น. อาหารชุดมื้อกลางวันและมื้อค่ำราคา 1,200++ บาท และอาหารจานเดี่ยวราคาจานละ 280++ ถึง 980++ บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสำรองที่นั่ง กรุณาติดต่อ 02 846 8888 หรือ [email protected]
หมายเหตุ: ราคาอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%