โครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ส่งเสริมการอ่าน มอบหนังสือพระราชกรณียกิจ/การ์ตูนศาสนา

โครงการ The Happy Read ส่งความรู้สร้างความสุข โครงการดีๆ ที่ทางบริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด มหาชน และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งมอบความรู้และมีส่วนในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ผ่านการอ่านหนังสือ โดยจะมีการคัดเลือกหนังสือไปมอบให้กับโรงเรียน ซึ่งหนังสือแต่ละเล่มถูกคัดสรรมาอย่างดีว่าเหมาะสมแก่การพัฒนาความรู้ของเด็กๆ แต่ละช่วงวัย และยังเป็นการสนับสนุนให้น้องๆ รักการอ่านหนังสือ โดยโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 – 2562

โครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข มอบหนังสือหมวดพระราชกรณียกิจ/การ์ตูนศาสนา

สำหรับหนังสือความรู้ด้านพระราชกรณียกิจและการ์ตูนศาสนานั้น ทางโครงการได้มีการนำไปมอบให้กับเด็กๆ มากถึง 35 เล่ม แบ่งออกเป็นภาษาไทย 24 เล่มและภาษาอังกฤษ 11 เล่ม แต่ละเรื่องสอดแทรกความรู้และคำสอนให้เด็กๆ สามารถนำไปใช้ในการศึกษาและการใช้ชีวิตได้

The Happy Read, ส่งความรู้สร้างความสุข, บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด มหาชน, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), หมวดพระราชกรณียกิจ, การ์ตูนศาสนา

เริ่มต้นด้วยหนังสือพระราชกรณียกิจ มีด้วยกันทั้งหมด 13 เล่ม ถ้าแบ่งออกมาเป็นประเภท ก็จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 และหนังสือพระราชนิพนธ์

ในส่วนของหนังสือบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ได้มีการคัดมาแล้วว่า เนื้อหาเข้าใจง่ายเหมาะสำหรับเด็กประถม มีข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียด เหมาะสำหรับเสริมความรู้ให้เด็กๆ อีกด้วย

คนดังเก่ง ธยช ร่วมสร้างแรงบันดาลใจการอ่านหนังสือให้กับเด็กๆ

เซ็ตแรกที่ทางโครงการได้มีคัดเลือกมา คือ ชุดศาสตร์พระราชา ในเซ็ตจะมีทั้งหมด 5 เล่ม ประกอบไปด้วย แผ่นดินของพระราชา, ใต้ร่มพระบารมี, งานของพระราชา, บ้านของพระราชา และ พระอัจฉริยภาพของพระราชา เซ็ตนี้จะพูดถึงอัจฉริยะภาพด้านต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเขียนออกมาเป็นข้อสั้นๆ 100 ข้อ พร้อมมีภาพประกอบ เด็กๆ จะได้รับความรู้อย่างง่ายๆ ไปพร้อมภาพประกอบสวยงามที่ดึงดูดใจ และยังสามารถไปค้นคว้าต่อจากข้อมูลที่ได้รับในหนังสือได้อีก

ส่วนพระราชนิพนธ์ มีทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน คือ นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ, พระมหาชนก และทองแดง ซึ่ง2 เรื่องหลังเป็นพระราชนิพนธ์ชื่อดังของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านการ์ตูน ทำให้เข้าใจได้ง่าย ในขณะที่นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ จะเหมาะกับเด็กชั้นมัธยม ทั้งนี้แต่ละเรื่องมีข้อคิดที่สอดแทรกให้เด็กๆ นำไปใช้

ฌอห์น จินดาโชติ ร่วมสร้างแรงบันดาลใจการอ่านหนังสือให้กับเด็กๆ

นอกจากข้อคิดผ่านพระราชนิพนธ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว การ์ตูนศาสนายังเป็นอีกหนึ่งขุมทรัพย์ความรู้ชั้นดีที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้รับคำสอนดีๆ ซึ่งทางโครงการได้มีคัดเลือกหนังสือคลาสสิกให้เหมาะแก่น้องๆ ประถม จำนวน 11 เล่ม และยังมีภาษาอังกฤษอีก 11 เล่ม ที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถทางภาษาที่สองของเด็กๆ ให้แข็งแกร่งมากขึ้น

หนังสือในหมวดนี้มีทั้งการ์ตูนพุทธประวัติ นิทานชาดก และหนังสือนิทานที่มีการนำคำสอนทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ให้ออกมาเป็นเรื่องราวสนุกๆ

แพรว เฌอมาวีร์ ร่วมสร้างแรงบันดาลใจการอ่านหนังสือให้กับเด็กๆ

เซ็ตแรกที่จะพูดถึง คือ เซ็ตเด็กดี ของท่านว.วชิรเมธี เป็นเซ็ตที่นำเสนอนิทานซ้อนนิทาน บอกเล่าเรื่องราวหลักธรรมทางศาสนาแบบเข้าใจง่าย พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติตนให้กับเด็กๆ อย่างน่ารัก เรื่องนี้จะช่วยทำให้เด็กๆ เข้าใจหลักธรรมทางศาสนา เพื่อจะใช้ในการเรียน รวมไปถึงเป็นแนวทางการใช้ชีวิต

ยังมีหนังสือพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ซึ่งโครงการเล็งเห็นว่า เล่มนี้มีการให้ข้อมูลครบถ้วน รวมไปถึงมีลูกเล่นในการช่วยให้อ่านแล้วเกิดความเพลิดเพลินและเข้าใจได้ถ่องแท้ เหมาะกับเด็กประถมขึ้นไป โดยเนื้อหาภายในเล่มจะเล่าเรื่องราวของพระพุทธเจ้าออกมาทั้งหมด 32 หน้า พร้อมกับนำเทคโนโลยี AR + interactive มาใช้ เพื่อให้สามารถเปิดอ่านในแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์ได้อีกด้วย พร้อมกับมีบทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยทำนองสรภัญญะเป็นฟิวเจอร์พิเศษอีก

บิ๊ก ทองภูมิ ร่วมสร้างแรงบันดาลใจการอ่านหนังสือให้กับเด็กๆ

เรียกว่า แต่ละเล่มเหมาะสำหรับการเรียนรู้มากๆ ช่วยทำให้เด็กๆ มีความสนใจในการอ่านหนังสือมากขึ้น ต้องขอขอบคุณทาง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่สนับสนุนโครงการดีๆ แบบนี้ ทำให้เด็กไทยได้มีหนังสือดีๆ อ่านเยอะขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพความรู้ให้มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปต่อยอดทางการศึกษาได้ในอนาคต

อนึ่ง โครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ของ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การสนับสนุนจากก.ศึกษาฯ และสพฐ. เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2562 และเพจสุดสัปดาห์แฟนคลับจะติดตามข่าวคราวมาอัพเดทกันเรื่อยๆ หรือผู้ที่สนใจสามารถอัพเดทโดยตรงได้ที่ thehappyread.com หรือ facebook.com/The-Happy-Read