ซอกแซกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนสบายๆ สไตล์ #ฟรอยด์ซอยเปลี่ยว

ภารกิจฟรอยด์พาเที่ยวกับI Love Sudsapdaกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ฟรอยด์นัดให้ไปเจอกันในเย็นวันศุกร์ที่ซอยสมคิด ย่านชิดลม ใจกลางรถติดของกทม.!! แค่เห็นพิกัดก็ทำเอาสุดฯ หนาวแล้ว #ILoveSudsapda #ฟรอยด์ซอยเปลี่ยว #BMWMotorrad #C400X #C400GT #MakeLifeARideTH #MakeMoreOfYourCity

แต่ฟรอยด์บอกว่าชิลๆ เพราะเขามากับบัดดี้คู่ใจ BMW C 400 X ล้ำสมัยในแบบของมอเตอร์ไซค์ตระกูล Urban Mobility ที่ผสมผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมจะพาซอกแซกไม่แคร์การจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนแถมจุดเช็คอินอื่นๆ ที่ล้วนอยู่ลึกลับในตรอกแคบซอยเปลี่ยว ฟรอยด์ก็ยังคอนเฟิร์มว่าสบายๆ แถมการพาสุดฯ เที่ยวครั้งนี้ จะต้องเด็ดไม่ซ้ำใครแน่นอน

Siri House เปิดใหม่ต้องรีบมา!

‘Siri House’ Lifestyle Hubที่เหล่า‘เออร์เบินนิสต้า’กำลังอิน คือจุดเช็คอินแรกของทริปนี้ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คท์ของ“แสนสิริ”ใช้บ้านเก่าคลาสสิค ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี ในบรรยากาศสุดร่มรื่น มาปรับโฉมใหม่ให้เป็นจุดนัดพบของคนรักเสียงเพลง ศิลปะ วัฒนธรรม และอาหารการกิน

สุดฯ ไปแอบส่องช่องเก็บของใต้เบาะของพาหนะคู่ใจฟรอยด์ แล้วก็เซอร์ไพรส์ว่าใส่ของได้เยอะม้ากกกในช่องเก็บหมวกกันน๊อกFlexcase มีทั้งช่องเก็บหมวกกันน็อก และยังเก็บเป้ที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าของฟรอยด์ได้แบบสบายๆ ช่างเป็นบัดดี้ที่ตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวันสุดๆ นี่ถ้าไม่กลับบ้านก็อยู่ได้ไม่ลำบากเลยนะฟรอยด์

ฟรอยด์พาเดินเล่นภายในโครงการ พบว่ามี2โซนที่ต้องมาอย่าได้พลาดโซนแรกคือ café &diningที่หากใครอยากตามรอย ก็สามารถมานั่งชิลยามเช้าหรือนัดคุยงานในช่วงบ่ายได้ที่ Luka café คาเฟ่ชื่อดังจากถนนปั้นเสิร์ฟกาแฟ – อาหารเช้า และอาหารสไตล์ยุโรป พร้อมมีเมนูพิเศษมาชิมได้เฉพาะสาขานี้เท่านั้น แต่ถ้าใครสะดวกมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในช่วงเย็นแนะนำร้าน Quince ที่จัดจ้านเรื่องเนื้อและซีฟู้ด ปรุงแบบอบ ย่าง และรมควัน หรือถ้าอยากอยู่ปาร์ตี้ต่อ ขอให้ขึ้นไปที่ Jacqueline ค็อกเทลบาร์ที่มีกลิ่นอายอเมริกันและความโมเดิร์นผสมเฟมินิสต์แสนเก๋

อีกโซนคือ Collective Market ที่อยู่ในบริเวณ Luka café มีมุมหนังสือของร้าน The Booksmithร้านดอกไม้ Heart of Siri และร้านขายแผ่นเสียง Olympic Digger ใครถูกจริตงานอดิเรกแบบไหน ก็เข้าไปเยี่ยมชมตามชอบได้เลย ส่วนฟรอยด์สุดฯ พูดเลยว่าดูจะอินกับทุกมุม!

แต่ที่เห็นได้ชัดว่าถูกใจเป็นพิเศษ คือมีการจัดที่จอดรถพิเศษสำหรับบิ๊กไบค์ให้ด้วย ใครมีคุณแฟนเป็นสายไบค์เกอร์ มาแล้วไม่ต้องกังวลทั้งเรื่องจะหาที่จอดยากหรือเรื่องความปลอดภัย แวะจอดแล้วชิลได้สบายเช้าจรดค่ำกันไปเลย

ผ่านเยาวราชทั้งที ไม่แวะหาของอร่อยกินได้ไง

แดดร่มลมตก มองนาฬิกาคือเกือบหกโมงเย็น(ของวันศุกร์ลองวีคเอนท์ที่รถติดหนัก!!) แต่ฟรอยด์ยังคงชิลกับการมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไป เพราะบัดดี้คันนี้มีฟังก์ชั่นพิเศษ BMW ConnectedRideที่แสดงผลผ่านหน้าจอ TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อกผ่านบลูทูธได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย งานนี้เดินทางด้วยมอเตอร์ไซด์ดีๆ สะดวกกว่าวิธีอื่นๆ เห็นๆ

นี่ขนาดเพิ่งหัวค่ำ แต่โซนสตรีทฟู้ดย่านเยาวราชก็เต็มไปด้วยสีสันทั้งจากเหล่านักชิมและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเจ้าอร่อย ฟรอยด์ตรงไปที่ร้านหอยนางรมเจ้าเด็ดSea Bah Barที่เพื่อนเคยมากินแล้วกลับไปเพ้อให้ฟังว่าสดใหญ่ราคาเป็นมิตรติดใจสุดๆ ต่อด้วย เต้าทึงเย็น น้ำส้มคั้นสด และอีกสารพัดสตรีทฟู้ดรายทาง พร้อมกับความมุ่งมั่นจะไปต่อแถวซื้อ “ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช”จนสุดฯ ต้องเตือนให้ดูนาฬิกาอีกครั้ง สรุปว่าแฟนคลับที่ต่อแถวอยู่ด้วยคงสงสาร แบ่งขนมที่ซื้อมาให้ฟรอยด์ชิมบ้าง น่าเอ็นดู๊วว์

อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว @ Ba Hao

เหมือนจะเดินกินเล่นๆ แต่ในที่สุดก็ดูจะอิ่มจริงจัง!!ฟรอยด์กลับมาสตาร์ทรถ ขี่ลัดเลาะไปในซอยผดุงด้าว มุ่งหน้าสู่ซอยนานา ซอยเล็ก ๆ ในย่านเก่าของเยาวราช ส่วนใหญ่ตึกรามบ้านช่องแถวนี้ยังคงความคลาสสิคแบบดั้งเดิม แต่ก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นบาร์ – คาเฟ่สไตล์โมเดิร์นวินเทจอยู่หลายแห่ง ฟรอยด์เลือกมาเช็คอินที่ Ba Hao (อ่านว่า ปา เฮ่า หมายถึงหมายเลข 8ที่เป็นบ้านเลขที่) ตึกเก่าตรงหัวมุมถนนนานาตัดกับซอยพันธ์จิตต์ และถนนไมตรีจิตต์ ที่เป็นทั้งบาร์เสิร์ฟค็อกเทล คราฟต์เบียร์ และอาหารจีนสไตล์ comfort food

เลือกที่นั่งมุมสบายๆ ซัมซับบรรยากาศรื่นรมย์สไตล์หว่องกาไวเพียงลำพัง สั่ง The Mistress ม็อคเทลสูตรพิเศษไร้แอลกอฮอลล์ของทางร้านมาจิบหล่อๆ สุดฯ สัมผัสได้ถึงอารมณ์กำลังสบายอยากอยู่เงียบๆ คนเดียวของฟรอยด์ เลยปล่อยให้นั่งชิลเพลินๆ ไม่ชวนคุยอะไรเยอะ ต้องยอมรับเลยว่า บรรยากาศของที่นี่มีความน่าตื่นเต้นตั้งแต่การค้นหาพิกัดร้านที่แม้จะไม่ได้อยู่ในซอกลึกลับ แต่ความกลมกลืนกับอาคารในย่านที่อดีตเคยเป็นแหล่งขายยาสมุนไพรจีนเลื่องชื่อย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ก็ส่งเสริมให้บรรยากาศภายในร้านดูมีสไตล์เฉพาะตัว และคลาสสิคแบบที่หาไม่ได้จากที่อื่น

ดูฟรอยด์จะชิลและอินกับย่านเก่าไชน่าทาวน์แบบที่สุดเข้าเสียแล้ว เพราะก่อนเดินทางไปจุดหมายต่อไป เราเห็นฟรอยด์โทรศัพท์บอกแม่ว่าวันนี้จะไม่กลับบ้าน แล้วนางไม่ได้จอดรถคุยนะจ๊ะ นางใช้ฟังก์ชั่นBMW ConnectedRideที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับหมวกกันน็อกแล้วแสดงผลผ่านหน้าจออีกที ลูกปลอดภัยหายห่วงนะจ๊ะแม่

พักผ่อนที่แท้ทรู @ AMA Hostel

จุดหมายต่อไปของฟรอยด์ สุดฯ พูดเลยว่างงเส้นทางหนักมากชนิดที่ถ้าให้มาเองอีกที ต้องมีงงชัวร์ๆ โดยจากซอยนานา ลัดเลาะไปที่ซอยวานิช ย่านสำเพ็ง แล้วเลี้ยวเข้าตรอก ออกตามซอก-ซอยแคบ ที่ดูยังไงก็เป็นชุมชนคนสำเพ็งพักอาศัย ไร้วี่แววของความมีสถานที่ที่นักเดินทางหรือนักท่องเที่ยวจะมาแวะเที่ยวเล่นได้เลยแม้แต่น้อย

แต่แล้วเราก็ได้มาถึงตรอกที่มีแสงไฟสลัวๆ มองเห็นธงชาติแขวนประดับไว้อย่างสวย ฟรอยด์ให้สัญญานว่าเรามาถึงจุดหมายแล้ว

ที่นี่คือ AMA Hostel แต่เดิมเป็นอาคารเก่าอายุกว่า 200 ปี มรดกตกทอดของตระกูลใหญ่ที่ทำธุรกิจทอผ้าเจ้าแรกๆ ในย่านสำเพ็ง ซึ่งเมื่อมาถึงเจนเนอเรชั่นล่าสุด “คุณมอส” ทายาทตัวจริงเสียงจริง จึงขอปรับปรุงให้ที่นี่ กลายเป็นโฮสเทลสุดยูนีค ที่มีสไตล์การตกแต่งแบบ Contemporary Chinese House หรือจีนร่วมสมัย ตั้งชื่อว่า “อาม่า” ก็เพราะให้รู้เลยว่ามาจากครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน และตั้งใจดูแลแขกผู้มาเยือน ให้เหมือนกับที่อาม่าคอยใส่ใจดูแลลูกหลายในทุกๆ รายละเอียดเรื่องของการกินอยู่หลับนอน

นี่ขนาดมีบัดดี้ BMW C 400 X ที่ขี่สนุกสะดวกสบาย สมรรถนะดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ระยะใกล้หรือไกลเป็นเพื่อนร่วมเที่ยงมาโดยตลอด #ฟรอยด์ซอยเปลี่ยว ก็ยังดูอ่อนล้าเมื่อมาถึงจุดเช็คอินสุดท้ายนี้ ก็…นะ ทั้งกินทั้งเที่ยวเล่นหนำใจขนาดนั้น ว่าแล้วก็รีบหยิบเป้ที่เก็บไว้ในช่องเก็บของใต้เบาะที่ใหญ่สะใจเดินเข้าไปเช็คอิน แต่ก่อนเข้าห้องพักผ่อน ฟรอยด์ก็ยังขอเดินสำรวจทุกโซนภายในโรงแรม

ด้านหน้าทางเข้า จัดเป็นมุมคาเฟ่เล็กๆ ที่ทุกคนสามารถมานั่งเล่นได้ บริเวณล็อบบี้จะเป็นโซนไพรเวทที่ต้อนรับสำหรับลูกค้าที่จองห้องพักไว้เท่านั้น ส่วนบริเวณชั้น 3 เปิดเป็นโซน Living ให้ผู้เข้าพักมานั่งรับประทานอาหารเช้า นั่งอาบแดดอ่านหนังสือ รวมถึงอร่อยกับมื้อดินเนอร์ในบรรยากาศสบายๆ

คือสรุปว่าลองได้เช็คอินเข้ามาที่อาม่าโฮสเทลแห่งนี้แล้ว จะอยู่มุมไหน ก็ล้วนแต่สบาย สงบเงียบ ได้ความเป็นส่วนตัว แบบที่ไม่คิดว่าจะมีสิ่งนี้แฝงตัวอยู่ในชุมชนที่ดูจอแจของย่านสำเพ็ง

ถึงเวลาปล่อยให้ได้ปลีกวิเวก หลบหลีกความวุ่นวายแบบที่ฟรอยด์ต้องการแล้ว สุดฯ ส่งเขาเข้านอน แล้วกล่าวคำอำลา ว่าแต่ชักติดใจการพาเที่ยวสไตล์#ฟรอยด์ซอยเปลี่ยว เสียแล้ว มีคิวว่างๆ อีกเมื่อไหร่ทักมาได้ ทางเราจะ Standby รอให้ฟรอยด์พาเที่ยวอีกนะ มันสุดฯ ดี

คลิ๊กเข้าไปดูความสนุก ก่อนตามรอยเที่ยวแบบ #ฟรอยด์ซอยเปลี่ยว กันเดี๋ยวนี้เลย