‘อายุมากขึ้น ริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น’ เชื่อว่า ทุกคนคงทราบ Fact นี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะตามกลไกธรรมชาตินั้น ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ร่างกายก็จะสามารถผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง เส้นใยคอลลาเจนอ่อนแอ และทำให้ผิวหน้าของเราค่อยๆ หย่อนคล้อย แห้งกร้าน และมีริ้วรอยได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าผาก ร่องแก้ม ใต้ตา ระหว่างคิ้ว ยิ่งหากใครมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่กระทบกระเทือนกับผิว อย่างการพักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย ลืมทาครีมกันแดด หรือการขยับใบหน้าบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ริ้วรอยมาปรากฏบนใบหน้าเราได้ไวขึ้น และเมื่อมีริ้วรอยบนใบหน้าขึ้นมาแล้ว หลายคน โดยเฉพาะสาวๆ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยกลางคน ผิวฟื้นฟูได้ช้าลง คงต้องพยายามหาวิธีมาลดเลือนริ้วรอยให้ได้มากที่สุด แต่การไปคลินิกเสริมความงามเพื่อทำทรีตเมนต์หรือหัตถการอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ทุกคนสะดวก ด้วยราคาที่สูง แถมยังต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงด้วย
ในบทความนี้เราเลยขอมาแชร์ 4 สเต็ปลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน เอาใจคนมีงบจำกัด ไม่อยากไปคลินิก อยากได้วิธีที่เป็นธรรมชาติ พร้อมความปลอดภัย บอกเลยว่า หากทำอย่างสม่ำเสมอ ทำทุกๆ วัน ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนได้มากขึ้นแน่นอน เอาล่ะ ตามไปดู 4 สเต็ปที่ว่ากันเลย!
สเต็ป 1: เริ่มด้วยการทำความสะอาดผิว
สเต็ปแรกที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด หากอยากให้ริ้วรอยบนใบหน้าดูลดลง เพราะการทำความสะอาดผิวในแต่ละวันเป็นสเต็ปสำคัญที่ในขจัดคราบเมกอัป มลภาวะ และสิ่งตกต้างที่สะสมเอาไว้ และเป็นตัวการทำร้ายผิว ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ได้ง่าย หากอยากให้ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง ไม่อยากให้เกิดริ้วรอยใหม่ๆ ขึ้นมาอีก ควรทำความสะอาดผิวแบบละเอียด เริ่มตั้งแต่การใช้คลีนซิ่งลบคราบเมกอัป สิ่งสกปรกต่างๆ ต่อด้วยการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ถูวนบนใบหน้าในระยะเวลาที่เหมาะสม เลือกใช้น้ำที่ไม่เย็นและอุ่นจนเกินไป ก่อนจะจบด้วยการซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
สเต็ป 2: บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนริ้วรอย
สเต็ปถัดมาที่ขาดไปไม่ได้ หากอยากให้ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง คือการบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ‘สกินแคร์’ ซึ่งมีหลายประเภทและมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามการแก้ปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นครีม โทนเนอร์ หรือเซรั่มที่มีความเข้มข้นสูง แต่เนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว สำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า อาจมองหาสกินแคร์ที่มีส่วมผสม เช่น
วิตามินซี
เหมาะกับริ้วรอยบนใบหน้าเล็กๆ โดยการใช้สกินแคร์ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนผสมติดต่อกันยาวนานอย่างน้อยสามเดือนจะช่วยลดเลือนรอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าและลำคอ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน กระจ่างใสมากขึ้น
เรตินอล
ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินเอ ทั้งเรตินอล และเรติน เอ มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ริ้วรอยดูเรียบเนียน และตื้นขึ้น เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ทั้งนี้เรตินอลอาจไม่เหมาะกับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย เพราะอาจเกิดการระคายเคืองและทำให้ผิวไวต่อแสงแดดได้นั่นเอง
เปปไทด์
เปปไทด์เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนหลากหลายชนิด และมีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ช่วยเสริมความยืดหยุ่น เติมเต็มความชุ่มชื้นของผิว รวมถึงลดเลือนปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน เป็นต้น ทั้งยังช่วยเสริมให้ Skin Barrier แข็งแรงมากขึ้นด้วย
สเต็ป 3: นวดหน้าและกดจุดให้ทั่วบริเวณใบหน้า
นวดหน้าและกดจุดให้ทั่วบริเวณใบหน้า เป็นเคล็ดไม่ลับที่ช่วยให้ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าแบบธรรมชาติที่ทำเองได้ที่บ้านในทุกๆ วัน โดยการนวดหน้ากดจุดจะช่วยในเรื่องของผิวหนังกระชับ ลดเลือนริ้วรอย ลดการเกิดสิว เพิ่มความสดใสเปล่งปลั่งของผิวพรรณ อีกทั้งยังช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของเลือดและการฟื้นฟูผิวหน้าด้วย ล้างหน้าให้สะอาด ตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว ก็มาลงมือนวดหน้าและกดจุดกันตามนี้ได้เลย
นวดหน้าผาก
เริ่มจากบนสุดด้วยการนวดหน้าผาก การรีดจากหัวตาทั้งสองข้าง ออกไปทางหางตา จากนั้นกดบริเวณคิ้วทั้งสองข้างและรีดวนออกไปทางหางคิ้ว และหากอยากลดรอยตีนกา ให้รีดสลับนิ้วทั้งสองขึ้นลงบริเวณหางตาทั้งสองข้าง ทำสลับกันไป 2-3 รอบ
นวดรอบดวงตา
สำหรับคนที่มีริ้วรอยรอบดวงตา เริ่มด้วยการรีดจากหัวตาทั้งสองข้างออกไปทางหางตา จากนั้นกดบริเวณคิ้วทั้งสองข้าง รีดวนออกไปทางหางคิ้ว ทำสลับกันไป 2-3 รอบ
นวดแก้ม
ลดรอยร่องแก้มด้วยการรีดบริเวณกรามหน้าขึ้นไปที่โหนกแก้ม โดยพยายามยกโหนกแก้มค้างไว้ 1-2 วินาที แล้วจึงรีดไล่ออกไปด้านข้าง รีดส่วนร่องแก้มจากล่างขึ้นบน และใช้ผ้ามือถูบริเวณแก้มจากล่างขึ้นบน ทำสลับกันไป 2-3 รอบ
นวดคางและขากรรไกร
ต่อด้วยการนวดคางและขากรรไกรให้นวดวนบริเวณรอบริมฝีปากเป็นวงกลม เน้นบริเวณมุมปากนวดเป็นวงเล็กๆ นวดช้ำๆ ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้รีดไล่จากหน้าไปหลัง นวดไปเรื่อยๆ ทำสลับกันไป 2-3 รอบเช่นเดียวกัน
นวดคอ
ลำคอก็เป็นส่วนที่มีริ้วรอยเช่นเดียวกัน โดยนวดลำคอทั้งสองข้าง โดยนวดวนเป็นวงกลมให้เป็นแนวขึ้นลงไปจนถึงบริเวณหู 2-3 ครั้งเป็นอย่างต่ำ สำหรับบริเวณตรงกลางลำคอให้นวดวนลงสั้นๆ หลายๆ ครั้ง
สเต็ป 4: ปิดท้ายด้วยการมาส์กหน้า
จบสเต็ปสุดท้ายเพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าด้วยการมาส์กหน้า ซึ่งการมาส์กหน้านั้นจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ปลอบประโลมผิวหน้า คลายความเหนื่อยล้าของผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างครีม เซรั่มลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ที่เราใช้นั้นซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างดียิ่งขึ้น สำหรับรูปแบบการมาส์กก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ จะเลือกเป็น Sheet Mask หรือ Sleeping Mask ก็ได้ แต่แนะนำให้มีส่วนผสมของคอลลาเจนหรือไฮยาลูรอน เพื่อคงความชุ่มชื่นให้ผิว เสริมให้ผิวอิ่มน้ำ ป้องกันผิวไม่ให้แห้งกร้าน และเกิดริ้วรอยขึ้นมานั่นเอง
การทำความสะอาดผิว การใช้สกินแคร์ การนวดหน้าและกดจุด รวมถึงการมาส์กหน้า แม้ 4 สเต็ปเหล่านี้จะไม่ได้ให้ผลลัพธ์รวดเร็วเหมือนกับการทำหัตถกรรมหรือเข้าคลินิกไปทำทรีตเมนต์แบบล้ำลึก แต่หากใครอ่านบทความนี้จบและนำไปทำตามอย่างสม่ำเสมอและทำทุกๆ วันจนเป็นรูทีนก็รับประกันได้เลยว่า วิธีเหล่านี้มีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าให้ดูจางลงได้จริง แถมช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับคนมีงบจำกัดที่อยากดูแลผิวหน้าให้แข็งแรง ดูเรียบเนียน ที่สำคัญยังป็นวิธีธรรมชาติที่มีความปลอดภัยด้วย สาวๆ วัยกลางคนหรือใครที่กำลังกังวลเรื่องริ้วรอยบนใบหน้าอยู่ เก็บข้อมูลแล้วไปทำตามกันได้เลย~