สบู่แบบไหนที่เหมาะกับผิว? รู้หรือไม่ สบู่แต่ละประเภทนั้นแตกต่างกัน

สบู่แบบไหนที่เหมาะกับผิว? รวมข้อดี-ข้อเสียของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายแต่ละประเภท สบู่แต่ละประเภทนั้นแตกต่างกัน มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน

เมื่อถามถึงสิ่งที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายหรือสบู่ คุณนึกถึงอะไร? บางคนเลือกซื้อเพราะกลิ่นหอม บางคนเลือกซื้อเพราะหาซื้อง่าย ใช้งานสะดวก และก็มีคนอยู่ไม่น้อยที่เลือกซื้อใช้เพียงแค่เพราะเห็นคนอื่นใช้กัน แต่รู้หรือไม่ สบู่แต่ละประเภทนั้นแตกต่างกัน มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน และเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น สบู่ที่ใช้แล้วผิวไม่แห้ง สบู่ที่เหมาะกับการทำความสะอาดคราบสกปรกหนัก หรือสบู่ที่ออกแบบมาเพื่อการผ่อนคลายและปรนนิบัติผิว เป็นต้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายหรือสบู่ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด จะมีแบบไหนบ้าง แล้วแต่ละแบบเหมาะกับสภาพผิวแบบไหน มีข้อดี-ข้อเสียยังไง ไปดูกัน

สบู่ก้อน

สบู่ก้อน เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายชนิดแข็ง ได้รับความนิยมอย่างมากก่อนที่จะมีการนำเข้าสบู่เหลวสู่ท้องตลาด โดยสบู่แบบก้อนทำมาจากไขมันสัตว์และพืช ซึ่งมีค่า pH ค่อนข้างสูง แต่ไม่เกินมาตรฐาน pH 11 ที่อย. กำหนด เวลาใช้งานจะให้ความรู้สึกว่าผิวสะอาดมากและยังล้างออกง่าย เหมาะสำหรับใช้งานหลังออกกำลังกาย นักกีฬาหรือผู้ที่ทำกิจกรรมซึ่งต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกมากๆ เป็นต้น

• ข้อดี ใช้งานสะดวก ราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับสบู่ประเภทอื่น สารตกค้างน้อยเพราะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก ล้างคราบสกปรก คราบเหงื่อไคลได้ดี
• ข้อเสีย มีค่า pH สูงกว่าสบู่ประเภทอื่น หลังใช้งานผิวจะรู้สึกแห้งตึง เก็บรักษายาก เสี่ยงต่อการเกิดแบคทีเรียและยึดเกาะของสิ่งสกปรก 

ครีมอาบน้ำ

ครีมอาบน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะใช้งานง่าย มีหลากหลายกลิ่นและหลากหลายสูตรให้เลือก โดยครีมอาบน้ำจะมีส่วนผสมที่มีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น AHA, Q10, Vitamin E, Vitamin C และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งครีมอาบน้ำจะมีลักษณะเป็นเนื้อครีมเข้มข้น ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของมอยส์เชอไรเซอร์ และค่า ph ต่ำกว่าสบู่ก้อน เป็นสบู่ที่ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานในอากาศแห้ง หรืออยู่ในห้องแอร์ตลอด 

• ข้อดี คือ ใช้งานสะดวก มีหลากหลายขนาด หลากหลายกลิ่น ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง และล้างออกง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง
• ข้อเสีย คือ มีราคาสูงกว่าสบู่ก้อน มีส่วนผสมหลายอย่าง ทำให้อาจตกค้างที่ผิวได้หากล้างไม่สะอาด หากไม่ตรวจสอบส่วนผสมก่อนใช้งานอาจเกิดการระคายเคืองได้

เจลอาบน้ำ

เจลอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่ฮอตฮิตในกลุ่มคนที่มีผิวแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์มีเนื้อใส บางเบา ใช้งานง่าย และฟองไม่เยอะ เพราะสบู่ประเภทนี้มีส่วนประกอบหลักๆ คือ น้ำเปล่า สารที่ทำให้เกิดฟองเพื่อทำความสะอาด และสารช่วยยึดเกาะ ซึ่งในปัจจุบันมักจะผสมน้ำมันหอมระเหยเข้าไปด้วย ช่วยให้เวลาอาบน้ำผ่อนคลายมากขึ้น โดยเจลอาบน้ำก็มีหลายสูตรด้วยกัน ทั้งเจลอาบน้ำแบบหอมติดผิว แบบฆ่าเชื้อ และสำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นต้น นับเป็นอีกหนึ่งสบู่ที่ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง เหมาะสำหรับคนผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย

• ข้อดี คือ มีค่า ph น้อย หลังใช้งานผิวไม่แห้งตึง ล้างออกง่าย ทำความสะอาดล้ำลึก ไม่ทำร้ายผิวให้บอบบาง
• ข้อเสีย คือ เนื่องจากเนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบา อาจล็อกความชุ่นชื้นให้อยู่กับผิวได้ไม่นานมากนัก สำหรับใครที่มีผิวแห้งมากๆ ต้องเลือกใช้สูตรที่ให้ความชุ่มชื้นพิเศษ

ออยอาบน้ำ

ออยอาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์จะเป็นออย ใช้งานง่าย ไม่มีฟอง ไม่ทำร้ายผิว และไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น แต่ถึงอย่างนั้นออยอาบน้ำก็ไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะหากมีผิวมันง่ายหรือผิวผสม อาจรู้สึกว่าเหนอะหนะได้ โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแบบออยจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย เหมาะกับใช้งานในวันที่ต้องการปรนนิบัติผิว เป็นสบู่ที่ใช้แล้วผิวไม่แห้ง เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งเป็นพิเศษ ผิวหยาบกร้าน ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว 

• ข้อดี คือ กลิ่นหอมติดผิว รู้สึกสบายผิวหลังใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก ผิวบอบบาง และต้องการปรนนิบัติผิวเป็นพิเศษ
• ข้อเสีย คือ มีราคาค่อนสูง หาซื้อได้ยาก และล้างออกได้ยากกว่า เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายแบบทั่วไป 

และนี่คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่เราคุ้นหูกันอย่างมากในท้องตลาด แต่ละประเภทล้วนเหมาะกับการใช้งานและเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกัน ทั้งสบู่ที่ใช้แล้วผิวไม่แห้ง หรือสบู่ที่เหมาะกับการทำความสะอาดคราบสกปรกหนัก แต่สิ่งแรกที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย คือควรรู้ประเภทผิวของตัวเองก่อน เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้เหมาะกับสภาพผิวของตนเองนั่นเอง ส่วนใครที่กังวลว่าผิวของเรานั้นเหมาะกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหรือไม่ สามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงหลังใช้ผลิตภัณฑ์ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ เพื่อประเมินสุขภาพผิวโดยรวม หากผิวกายยังปกติไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ