ซันโทรี่

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ชูความสำเร็จโครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ปีที่ 4

Alternative Textaccount_circle
event
ซันโทรี่
ซันโทรี่

พร้อมเดินหน้าจุดประกายเยาวชนไทยให้รู้คุณค่า และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ มุ่งสร้างสังคมที่ยั่งยืน

กรุงเทพฯ— บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จของโครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ปีที่ 4 ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่บริษัทจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เพื่อปลูกฝังแนวคิดเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดหลากหลายกิจกรรมในแบบบูรณาการที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ตลอดจนชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องบทบาทของเยาวชน ชุมชน และสังคมในการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

โครงการ “มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ” ประจำปี 2565 ได้รับเกียรติจากภาคีภาครัฐร่วมเป็นพันธมิตรของโครงการฯ ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สำนักงานปลัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดระยอง และจังหวัดสระบุรี สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ยังผนึกกำลังกับ “กล่องวิเศษ” กลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ร่วมขับเคลื่อนพันธกิจในการจุดประกายให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่

  • 1.กิจกรรม “ส่งเสริมความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ” สำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษารวมทั้งสิ้น 45 โรงเรียนใน 3 จังหวัดเป้าหมาย ได้แก่ กรุงเทพฯ ระยอง และสระบุรี ประกอบด้วยกิจกรรมค่ายเยาวชน
    รักษ์น้ำ (Water Youth Camp) และกิจกรรมบูรณาการความรู้เรื่องทรัพยากรน้ำในห้องเรียน (In-class Teaching) ซึ่งมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 2,757 คน  พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นในการพัฒนาคุณภาพน้ำให้แก่โรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
  • 2.กิจกรรม “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ” โดย ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ร่วมกับที่ปรึกษาโครงการฯ จากหน่วยงานภาครัฐ ทำงานร่วมกับโรงเรียนเป้าหมายอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
    • ด้านนโยบาย ให้โรงเรียนกำหนดนโยบายอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนเพื่อสอดคล้องกับแผนการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน
    • ด้านบุคลากร ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายในโรงเรียน อาทิ ผู้อำนวยการ คุณครู นักเรียน รวมถึงนักการภารโรง มีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำตามบทบาทหน้าที่ของตน  พร้อมทั้งจัดตั้ง “มิซุอิกุ คลับ” เพื่อเป็นแกนนำขับเคลื่อนเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในโรงเรียน
    • ด้านโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงเรียนเพื่อพัฒนาโครงการพื้นฐานที่จำเป็นเกี่ยวกับน้ำ ของโรงเรียน เช่น ระบบน้ำดื่มสะอาด การบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
    • ด้านการขยายผลสู่ชุมชน สนับสนุนให้โรงเรียนจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในชุมชนใกล้เคียง

โดยมี “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ” ในปี 2565 จำนวนทั้งสิ้น 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดราชนัดดา กรุงเทพฯ โรงเรียนบ้านห้วยปราบ จังหวัดระยอง และโรงเรียนวัดป๊อกแป๊ก จังหวัดสระบุรี

3.กิจกรรมสุดท้ายคือ “การประกวดออกแบบหลักสูตรการสอนอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย” นับเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ได้สร้างสรรค์หลักสูตรการสอนเรื่องการอนุรักษ์น้ำสำหรับน้องๆ นักเรียน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจาก 17 มหาวิทยาลัยที่ร่วมส่งไอเดียเข้ามาประกวดชิงทุนการศึกษา

นางสาววิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘การเติบโตอย่างยั่งยืน’ หรือ ‘Growing for Good’ เรามุ่งมั่นเสริมสร้างองค์ความรู้เรื่องคุณค่าของทรัพยากรน้ำ พร้อมจุดประกายการมีส่วนร่วมอนุรักษ์น้ำและรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชนมาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อนำพันธสัญญาของซันโทรี่ กรุ๊ป ที่ว่า ‘มิซุ โตะ อิคิรุ (Mizu To Ikiru)’ หรือ ‘การอยู่ร่วมกับน้ำ’ มาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยตั้งแต่ปี 2562 มีนักเรียนกว่า 14,500 คน เข้าร่วมโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ ความสำเร็จของโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ ประจำปี 2565 นับเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่สิ่งแวดล้อม เราขอขอบคุณการสนับสนุนจากภาคีภาครัฐ และสถาบันการศึกษาทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการฯ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ผนึกกำลังและเดินหน้าสานต่อความสำเร็จร่วมกันในโครงการมิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ ในปี 2566 นี้ เพื่อร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ หนึ่งในทรัพยากรสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของพวกเราทุกคน”

ซันโทรี่

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ “ในนามของกรมทรัพยากรน้ำ ผมขอชื่นชมโรงเรียนและน้องๆ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ ในปีที่ผ่านมา และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของกรมทรัพยากรน้ำในการกำกับ ควบคุม อนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรน้ำ โดยกรมฯ เล็งเห็นว่าโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ ของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เป็นโครงการที่ส่งเสริมเยาวชนให้รักและตระหนักถึงคุณค่าของน้ำ ส่งผลระยะยาวให้แก่ชุมชนและประเทศชาติ ถือเป็นการจุดประกายเพิ่มพลังทางสังคมช่วยปลูกจิตสำนึกด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม”

นางสาวพิชญานิน ภิญโญ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดป๊อกแป๊ก จังหวัดสระบุรี ตัวแทนโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ กล่าวว่า “ในนามของครูและนักเรียนโรงเรียนวัดป๊อกแป๊ก ดิฉันมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่โรงเรียนของเราได้รับเลือกเป็น ‘โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ’ ของโครงการมิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ ปี 2565 โดยความพิเศษของโครงการฯ คือมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งครู บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ผ่านกิจกรรมที่เน้นการสร้างองค์ความรู้และการลงมือปฏิบัติจริงในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ  พร้อมทั้งสามารถผสมผสานเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทุกๆ มิติของโรงเรียน โรงเรียนวัดป๊อกแป๊กของเราจะเป็นโรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำไม่ได้เลย หากปราศาจากการสนับสนุนและคำชี้แนะที่ดีจาก ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย และพันธมิตรจากหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งหน่วยงานต้นสังกัด โดยโรงเรียนมีความยินดีขับเคลื่อนโครงการต้นแบบรักษ์น้ำต่อไป”

“บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด จะมุ่งมั่นเดินหน้าสานต่อโครงการ ‘มิซุอิกุ: สอนน้องรักษ์น้ำ’ ต่อไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในการปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแก่เยาวชน และร่วมดูแลรักษาทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมไว้ให้คนรุ่นหลังสืบไป” นางสาววิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย กล่าวทิ้งท้าย

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up