เด็กไทยพร้อมลงสนามแข่งนานาชาติ โดยตัวแทนเยาวชนไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (Singapore International School of Bangkok : SISB) และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี (Shrewsbury International School)กรุงเทพฯ ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทน 1 ใน 2 ของประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขัน Formula 1 (F1) in Schools Challenge รอบ World Final ครั้งที่ 17 ร่วมกับทีมเยาวชนนานาชาติ 40 ทีมจาก 26 ประเทศ ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ณ เมืองซิลเวอร์สโตน นอร์แธมป์ตันเชอร์ ประเทศอังกฤษ
การแข่งขัน F1 in Schools Challenge รอบ World Finals จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยหน่วยงาน “F1 in Schools Challenge” ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับเยาวชนอายุระหว่าง 9-19 ปี เน้นการเเข่งขันการออกแบบและประดิษฐ์รถแข่งที่วิ่งเร็วที่สุดซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการความรู้ ระหว่าง4 สาขาวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (Science, Technology, Engineering, and Mathematics : STEM)
การแข่งขัน F1 in Schools เริ่มแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1999
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนนักประดิษฐ์ทั่วโลกที่สนใจงานด้านวิศวกรรมได้แสดงความสามารถและทักษะฝีมือในการประดิษฐ์ ออกแบบและผลิต รถแข่งขนาดเล็กหรือ F1 ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องออกแบบและผลิต โดยใช้เครื่องมือการออกแบบ CAD/CAM และขับเคลื่อนโดยใช้CO2ที่บังคับโดยระบบคอมพิวเตอร์ รถแข่งจะต้องปฏิบัติตามกฏข้อบังคับ ซึ่งรถจะวิ่งบนแทร็กยาว 20 เมตร ผ่านอุโมงค์ลม ที่ผู้เข้าแข่งต้องใช้ทักษะการคำนวณพลศาสตร์ของไหล (CFD) เพื่อจำลองแรงต้านของอากาศ การแข่งขันจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จากสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา เมื่อปี ค.ศ. 2021 ทีมผู้ชนะจากประเทศออสเตรเลีย สามารถประดิษฐ์รถแข่งทำเวลาได้เร็วที่สุด 0.916 วินาที โดยทีมผู้ชนะเลิศจะได้รับทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
สำหรับตัวแทนนักเรียนจากประเทศไทย 1 ใน 2 ทีม ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อทีม “กินนรี เรสซิ่ง “ (Kinnaree Racing) มีสมาชิกรวม 5 คน ได้แก่ จิรัชย์ พัวพงษ์พัน , โทนี่ แสงสุพรรณ, วรินทร์ เพชรชำลิ, ปัทเมณี จินะดิษฐ์, รวิพัชร์ รอดโพธิ์ทอง
สมาชิกในทีมกินนรี เรสซิง กล่าวถึงความรู้สึกในการได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันว่า
“ทีมงานทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้
โปรเจคนี้เป็นโปรเจคที่ท้าทายมาก พวกเราสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อพิสูจน์ว่าเด็กไทยก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร”
นางสาว รวิพัชร์ รอดโพธิ์ทอง 1ใน 2 สาวเก่งของทีม กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเข้าร่วมเพราะเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจจริงๆ และส่วนตัวสนใจเรื่องรถยนต์ ด้านศิลปะ การออกแบบกราฟิกจึงเป็นกระบวนการที่สนุก ซึ่งได้มีการเตรียมตัวโดย เข้าเรียนหลักสูตร F1 ในโรงเรียนของประเทศไทย เพื่อเตรียมสื่อการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้สามารถออกแบบและทำงานได้ดีขึ้น พร้อมคาดหวังว่า จะทำงานทันเวลาและสามารถคว้ารางวัลกลับมาได้ เนื่องจากทีมมีการประสานความร่วมมือกันได้ดีพอสมควร โดยเธอรับหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์และการขายสินค้าและเป็นผู้ดูแลสื่อโซเชียล
ด้านนางสาว ปัทเมณี จินะดิษฐ์ กล่าวว่า เธอตัดสินใจร่วมทีมกินรี เรสซิง ด้วยมองว่า จะได้รับประสบการณ์ที่นอกเหนือจากการศึกษา ขณะเดียวกันตนยังมีคุณลักษณะที่เหมาะกับโครงการนี้ ซึ่งต้องใช้คนมีเหตุผล มีความละเอียดรอบคอบและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน อย่างไรก็ดีสิ่งที่ท้าทายคือ จะต้องบริหารจัดการเวลา ตีโจทย์ให้แตก และโครงการนี้ต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมาก เธอเริ่มต้นด้วยการเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ในช่วงแรกๆของโครงการ ก่อนเปลี่ยนมาเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินและการตลาดที่เหมาะสมกว่า
นาย วรินทร์ เพชรชำลิ เปิดเผยถึงเหตุที่เข้ามาร่วมทีมกินรี เรสซิง ด้วยเพราะต้องการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ เช่นประสบการณ์การแข่งรถและในด้านการผลิต โดยมองว่า ทีมงานสามารถออกแบบได้ดีและลดส่วนที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกไป และพยายามใช้วัสดุที่มีน้ำหนักน้อยที่สุด คาดว่า ทีมน่าจะติด 1 ใน 10 อันแรกของโลกได้
ด้านนาย จิรัชย์ พัวพงษ์พัน ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการทีมกินรี เรสซิงจากความสนใจด้านรถยนต์และงานด้านวิศวกรรม F1 ประกอบกับเคยมีประสบการณ์ไปช่วยทีมไทยที่ไปเเข่งขันระดับโลกมาแล้ว 2 ครั้ง และหัดใช้เครื่องจักรมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบจึงไม่ได้เตรียมตัวหรือซักซ้อมมากเหมือนเพื่อน ๆ สำหรับความท้าทายในการแข่งขันครั้งนี้มองว่า อยู่ที่การพยายามรักษาการผลิตรถยนต์ให้ได้ตามกำหนดเพราะอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้มากมาย อย่างไรก็ดีทีมงานทำได้ดีในด้านการเงินและการตลาด และยังมีข้อได้เปรียบจากการมีทักษะใช้เครื่องจักรเพื่อการผลิต จึงคาดหวังว่า จะสามารถคว้ารางวัลมาอย่างแน่นอน
นายโทนี่ แสงสุพรรณ กล่าวว่า เขาตัดสินใจมาร่วมทีมเพราะสนใจงานด้านวิศวกรรมและคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะหาประสบการณ์ระหว่างทางและยังเป็นการดีสำหรับจัดเก็บประวัติการทำงานกิจกรรมของตัวเอง โดยในทีมเขามีบทบาททำงานออกแบบรถผ่านซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ มีเป้าหมายหลักเพื่อทำให้รถมีอากาศพลศาสตร์มากที่สุด ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ค่อนข้างซับซ้อน
“การใช้ fusion 360 ต้องใช้เวลาและประสบการณ์มาก ผมใช้เวลามากกับการใช้งานและชินกับมัน เป้าหมายของผมคือการทำให้รถเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มั่นใจในประสิทธิภาพของทีมที่สามารถทำทุกอย่างได้ในเวลาอันสั้น และต้องการไปอยู่ใน 10 อันดับแรกสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้”
ด้าน”โรเบริต์ ซาย ออร์ทิส”–ผู้บริหารหน่วยงาน F1 in Schools ในประเทศไทย เปิดเผยว่า F1 In schools มีมานานกว่า 22 ปี และมีต้นกำเนิดในสหราชอาณาจักร สำหรับ F1 in Schools เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2017 (2560)โดยมีจุดประสงค์หลักในการแนะนำ S.T.E.M. Education ในรูปแบบที่สนุกสนานและมีส่วนร่วมสำหรับนักเรียนเนื่องจาก S.T.E.M.ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่รับรู้กันทั่วไป และF1 in Schools ทำให้นักเรียนสามารถสนุกไปกับการเรียนรู้ต่างๆ**[แนวทางการศึกษาที่ได้บูรณาการความรู้ระหว่างศาสตร์วิชาต่างๆเช่น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ความรู้ทางด้านวิศวกรรม และความรู้ด้านคณิตศาสตร์ รวมเข้าด้วยกัน]**
ทั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญโปรแกรม F1 in Schools ทำหน้าที่เป็นโค้ช/ครูและผู้ใหญ่ดูแลการแข่งขันในต่างประเทศ เป้าหมายหลักคือ มุ่งเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน เพื่อให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการแข่งขัน นักเรียนจะได้รับการสอนทุกอย่างที่จำเป็นต้องรู้เช่น การออกแบบโดยใช้ Fusion 360 การวิเคราะห์ด้วยพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) การจัดการโครงการ และอื่นๆ
“นักเรียนที่เข้าร่วม F1 in schools จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเรียนรู้อากาศพลศาสตร์ การผลิต CNC การพัฒนาการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAD) การผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAM) พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) คณิตศาสตร์ฟิสิกส์ การพัฒนาเว็บ และการเขียนโปรแกรม ความท้าทายกระตุ้นให้นักเรียนใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับฟิสิกส์ อากาศพลศาสตร์ การออกแบบ การผลิต การสร้างแบรนด์ กราฟิก การสนับสนุน การตลาด ขณะเดียวกันยังได้ทักษะความเป็นผู้นำ/การทำงานเป็นทีม ทักษะด้านสื่อ และกลยุทธ์ทางการเงิน จากนั้นนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปฏิบัติจริง ได้สัมผัสวิถีแห่งจินตนาการ การแข่งขัน และน่าตื่นเต้น นอกจากนี้ข้อมูลประจำตัวจะช่วยให้นักศึกษาสามารถนำไปใช้กับมหาวิทยาลัยทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย สิ่งนี้จะเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับเส้นทางอาชีพในอนาคต ช่วยให้มีผลงานนอกหลักสูตรของพวกเขา ช่วยนักเรียนในการตัดสินใจเลือกเส้นทางอาชีพ โดย F1 ในโรงเรียนจะเตรียมนักเรียนให้พร้อมในทุกอาชีพในอนาคต ช่วยพัฒนาความมั่นใจ พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ รวมถึงทักษะการวิเคราะห์ การคิดอย่างมีเหตุมีผล ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาความมั่นใจในการรับผิดชอบต่อบทบาทและภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมแข่งขัน
สำหรับกินรีเรสซิงเป็นหนึ่งในทีมที่จะเข้าแข่งขันใน World Finals ปี 2022 เพียงแค่เข้าแข่งขันก็ถือว่าชนะเเล้วเพราะเป็น 1ใน 2 ทีมที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก ขอแสดงความยินดีด้วย”