“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 2” สุดปังจบดีลธุรกิจ 165 ล้านหนุน SME ไทย พร้อมเปิดสมัครซีซั่น 3 ต่อวันนี้

Alternative Textaccount_circle
event

ผ่านไปแล้วกับการเฟ้นหาสุดยอดไอเดียทางธุรกิจ ธุรกิจพิชิตล้านกับรายการ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 2″ ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้ชมตลอดทั้ง 17 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7HD และช่องทางออนไลน์หลักของรายการ ส่งท้ายความประทับใจด้วยการปิดดีลไอเดียสุดเจ๋ง ของผู้เข้าแข่งขัน  รวมผู้ประกอบการได้รับทุนสนับสนุน 24 ราย มูลค่า 165 ล้านบาท รวม 2 ซีซั่นอัดเม็ดเงินเข้าธุรกิจมากกว่า 400 ล้านบาท  ส่งผล “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ผงาดเป็นเรียลลิตี้ทางธุรกิจ หนึ่งเดียวในไทย ที่ช่วยสานฝันผู้ประกอบการไปสู่จุดหมายและเป็นที่พึ่งทางธุรกิจ ชมแล้วได้มากกว่าความสนุก และยังเต็มไปด้วยเทคนิคและข้อมูล ที่ผู้ชมสามารถนำไปปรับใช้ในกิจการของตัวเองได้

“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์” เป็นรายการเรียลลิตี้ชื่อดังระดับโลก ที่ คุณทรงสุดา พาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย แท็งค์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าลิขสิทธิ์รายการดังจากสหรัฐอเมริกา เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย โดยไทยเป็นประเทศที่ 38 ของโลกที่นำเข้าลิขสิทธิ์รายการ “ชาร์กแท็งก์” (Shark Tank) จากโซนี่ พิคเจอร์  ขณะนี้กำลังเขย่าวงการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสตาร์ทอัพไทย คนมีไอเดียดี มีโมเดลธุรกิจโดนใจ มีโอกาสคว้าทุนสนับสนุนจากนักธุรกิจใหญ่ที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนหนุนธุรกิจให้ไปถึงดวงดาว

รูปแบบของรายการ “ชาร์กแท็งก์” ประกอบด้วยนักลงทุนที่ตั้งให้เป็น “ฉลาม” (Shark) จำนวน 5 คน และมีผู้ประกอบการ SME หรือผู้เริ่มต้นธุรกิจหรือสตาร์ทอัพ ที่เปรียบเสมือน “เหยื่อ” โดยชาร์กจะรับฟังผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ หรือต้องการขยายธุรกิจ นำเสนอแผนธุรกิจของตัวเอง  และหากชาร์กไม่เห็นด้วยก็สามารถแสดงข้อคิดเห็น ชี้แนะ ติติง แนวคิดด้านธุรกิจหรือสินค้าที่นำเสนอมาได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ไว้หน้า ไม่ต่างจากฉลามรุมทึ้งเหยื่อของตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเฟ้นหาผู้ประกอบการและธุรกิจที่เหมาะสมที่สุดในการให้เงินลงทุน  หากชาร์กสนใจในธุรกิจนั้นๆ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการต่อรองการลงทุนกันเพื่อให้ได้มูลค่าการลงทุนที่ทั้งสองฝ่ายต้องการ  บางช่วงบางตอนชาร์กอาจต่อสู้แย่งชิงเหยื่อกันเมื่อถูกใจเหยื่อรายเดียวกันหรือนำไปสู่การร่วมลงทุนก็ได้

“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 1เริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2561 ทางช่อง 7HD หมายเลข 35 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.15 น. และสร้างกระแสฮือฮาในกลุ่มผู้ประกอบการ ธุรกิจ SME และหลากหลายอาชีพที่เข้าร่วมแข่งขันและซีซั่นแรกสามารถคว้าเงินสนับสนุนธุรกิจจากชาร์กไปได้มากกว่า 257 ล้านบาท

กระแสฮอตฮิตยังต่อเนื่องมาถึง  “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 2”  ในที่ปี 2563 นี้ ที่ออกอากาศทางช่อง 7HD หมายเลข 35 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00 -18.00 น. จำนวน 17 ตอน นับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2563 ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารออมสิน ที่มาเสริมทัพด้านเงินทุนและมอบโอกาสให้เหล่าผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก โดยปิดดีลทางธุรกิจคว้าเงินสนับสนุนจากเหล่าชาร์กเป็นมูลค่า 165 ล้านบาท

โดยผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการปิดดีลทางธุรกิจมีทั้งสิ้น 24 ราย อาทิเช่น มะม่วงกรอบ อาเสี่ยใหญ่, add on Taxi, Local Alke, ไมโครเวนดิ้งเทค จำกัด, หลอดน้ำ ที่ย่อย สลายเองได้, ชุดทดลองการเรียนรู้ช่างไฟฟ้าระบบอัตโนมัติและ อิจิบังราเมน เป็นต้น  โดยธุรกิจที่ได้รับเม็ดเงินทุนสนับสนุนตามข้อเสนอของชาร์กแต่ละท่านจะ ได้รับการดูแลตามสัดส่วนตัวเลขเงินลงทุน จากรายการและผู้สนับสนุน เพื่อให้แผนธุรกิจที่ได้นำเสนอเป็นไปตามเป้าหมายที่ทุกฝ่ายได้วางไว้  นับเป็นปรากฏการณ์รายการเรียลลิตี้เชิงธุรกิจที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจ SME ให้ก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง

ทั้งนี้ 5 ชาร์กนักลงทุนที่มาร่วมซีซั่น 2 ล่าสุด ได้แก่  คุณเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด , คุณแอน จักรพงษ์  จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น , คุณกฤษน์ ศรีชวาลา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟิโก้ กรุ๊ป, คุณเบอร์ดี้ บดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, และคุณหมุ  ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) และ 500 TukTuks และ คุณประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)

บรรดาชาร์กต่างตื่นเต้นและสนุกสนานกับธุรกิจพิชิตล้านซีซั่น 2  โดย คุณกฤษน์ ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริษัท ฟิโก้ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยความรู้สึกของตนว่า  สนุกดีและซีซั่น 2 นี้พัฒนาขึ้น ผู้ที่มาร่วมรายการเก่งขึ้น ศึกษาซีซั่น 1 มาก่อน  รายการก็มีการพัฒนาขึ้น จัดได้ดีขึ้นและคัดเลือกผู้ประกอบการที่แตกต่าง น่าจะพัฒนาไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการพัฒนาไปจนกว่าจะถึงจุดพัฒนาได้อิ่มตัว

ด้านคุณเบอร์ดี้ บดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ตนเพิ่งมาร่วมรายการซีซั่นแรกถือว่าดี ได้เห็นผู้ประกอบการจากหลายอุตสาหกรรม ได้เห็นประกายในแววตาผู้ประกอบการใหม่ๆ ที่ทำให้อยากจะพัฒนาตัวเอง เพราะบางทีชาร์กหลายท่านอาจทำธุรกิจมานาน อาจคุ้นเคยกับสิ่งที่ตัวเองทำ พอได้เห็นไฟในผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ อาจทำให้เราเอาพลังนั้นกลับมาเติมเต็มในการทำงานของตัวเองได้อีกครั้ง  นอกจากนี้รายการนี้ยังมีข้อดีทำให้ได้เรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ จากผู้ประกอบการและทำให้ชาร์กยังได้เรียนรู้จากกันและกัน สามารถสร้างพันธมิตรกันได้

สำหรับคุณเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด  เพิ่งมาเป็นซีซั่นแรกเช่นกัน กล่าวว่า รู้สึกสนุกและได้เรียนรู้จากรายการนี้มาก เพราะจริง ๆ แล้วมีธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตน แต่ต้องนั่งฟัง ต้องพยายามไปศึกษาต้องไปเรียนรู้  เหมือนเป็นการเปิดโลกทรรศน์สามารถนำกลับไปใช้ในการทำงาน กลับด้วยความหวังในมุมที่ไม่เคยเห็น และสามารถเอาไปใช้กับชีวิตจริงของเราได้ เป็นการต่อไฟให้ทำงานได้ดีขึ้น

ส่วนคุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้กล่าวในฐานะคนดูว่า คนดูส่วนใหญ่ชอบดูเพราะว่า เขายังไม่รู้จะทำธุรกิจอะไร พอดูแล้วทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เห็นคนนั้นคนนี้เป็นตัวอย่าง และอยากจะรู้ว่าตัวเองทำได้หรือไม่ พอดูแล้วอยากจะเห็นว่า ชาร์กคอมเมนท์ว่าอย่างไร เขาจะได้รีบเอาไปทำ เพราะทุกคนก็ไม่อยากขาดทุนในอาชีพของตัวเอง

“นี่คือ ความเป็นธุรกิจพิชิตล้าน  “อย่าคิดว่ามาพิชิตเงินของชาร์ก แต่เอาชาร์กไปร่วมเพื่อพิชิตความสำเร็จของคุณ “ นี่คือตัวตน ของความเป็นชาร์ก แท็งก์ จริง ๆ ไม่ว่าใครทั่วโลก 40-50 ประเทศที่ซื้อฟอร์แมทนี้ไป   เป็นการส่งเสริมทำให้คนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีแรงบันดาลใจในการทำมาหากินและมี Knowledge  Knowhow ในการที่จะไปประกอบกิจการได้อย่างถูกต้องและพลาดน้อยที่สุด ซีซั่นนี้จบไปเรียบร้อย ไปดูได้ในยูทูป แต่ถ้าซีซั่นถัดมา ซีซั่น 3 ต้องดูเท่านั้นค่ะ

บอกเลยว่า เงินสนับสนุนขนาด 300-400 ล้านบาทต่อรายการดิฉันไม่เคยเห็นเลย และเอาไปกระจายให้ผู้ต้องการทำธุรกิจจริง ๆ แต่ที่มากกว่านั้นคือ ความรู้ของชาร์กทุกท่านถึงแม้จะมีความแตกต่างกันไป มาถึงต้องรู้ว่า คุณอยากจะได้อะไร และจ้องเลยว่า ชาร์กท่านไหนเก่งเรื่องอะไร คุณก็มาคุยเลย บางครั้งเราก็ร่วมกันได้ บางครั้งก็ฟัดกันเองบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ ก็จะได้เห็นว่า เพราะธุรกิจก็เป็นอย่างนี้ล่ะ คนก็จะเห็นได้ว่า  ประเทศไทยมีรายการที่มีสาระและน่าดู สนุกและตื่นเต้น แถมยังลุ้นการทำมาหากินและสร้างความร่ำรวยให้กับเรามันมีอยู่จริง ก็คือ  ชาร์ก แท็งก์  นั่นเอง”

ฝ่ายคุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอุ๊คบี จำกัดและผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks กล่าวว่า ครั้งนี้มาเป็นซีซั่น 2 รู้สึกว่า ผู้ที่มามีการเตรียมตัวมามากกว่าเดิม น่าจะได้ดูบนออนไลน์ของซีซั่น1  โดยตนเวลาออนแอร์ก็จะไปดูบนออนไลน์ ชอบดูเวลาที่มีคนคอมเมนต์ รู้สึกว่ามีคนลุ้นตาม  คนที่ได้ก็จะดีใจ คนที่ไม่ได้บางทีเหมือนมีไปซ้ำเติม  ก็สนุกดี ไม่ใช่ว่าไม่ได้แล้วไปซ้ำเติม แต่เป็นการบอกว่า คุณต้องมีการเตรียมตัวมา โอกาสที่มาอยู่ตรงนี้และออกทีวีด้วย บางคนก็รู้สึกเสียใจที่เสียโอกาสไปว่า น่าจะเตรียมตัวได้ดีกว่านี้

ทางด้านชาร์กรับเชิญพิเศษ คุณประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มาร่วมซีซั่นพิเศษ ปิดซีซั่นพอดี  รายการนี้อยากให้ทุกคนลองติดตามดู  ติดตามในแง่ของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองด้วย  นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณหนึ่งของเราที่น่ายินดี เพราะรายการชาร์กแท็งก์ ถ้าอยู่ในประเทศไหนแสดงว่า ประเทศนั้นๆ มีความเป็นมาตรฐานทางด้านเศรษฐกิจ อยู่ในไทยแล้วแสดงว่า ไทยมีความโดดเด่นและกำลังจะเป็นมาตรฐานสำหรับระดับสตาร์ทอัพ ตรงนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักธุรกิจ ผู้ที่อยากเป็นนักธุรกิจใหญ่ ซึ่งในโลกโซเชียล มีเดีย โลกของออนไลน์ ทุกคนเป็นนักธุรกิจได้หมด เป็นตัวของตัวเอง เรียนรู้กันไปดีที่สุด

คุณประพล ยังกล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการที่มาปัญหาที่มีส่วนใหญ่เป็นด้านการบริหารจัดการภายใน ทางบัญชี ต้นทุน ด้านการตลาด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของต้นทุนมากกว่า คือ อยากจะทำ มีตัง  มีพลัง แต่ยังขาด Knowledge คือ ความรู้และประสบการณ์ ในการสร้าง บริหารงาน จะสร้างผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่าง เรื่องคนงาน ต้นทุนของธุรกิจ สุดท้ายเมื่อไม่รู้ต้นทุน ไม่รู้อะไรเลย ขาดทุนมา จะหาเงินที่ไหน เลยต้องมี ชาร์กแท็งก์ เข้าไปช่วยเหลือ

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาผู้ประกอบการยุคนี้จะมองที่3 ส่วน คือ มีนวัตกรรม (Innovation) มีนักคิด มีเวลา ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ 2.ต้องเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ออนไลน์ และในช่วง New normal นี้มีเรื่องอาหารเป็นหลัก 3.นวัตกรรมในอนาคตคือ เรื่องของสุขภาพ (Wellness)  ซึ่งจะบูมมากในอนาคต

“ส่วนธุรกิจที่ชาร์กร่วมลงทุนนั้น ชาร์กจะมีการติดตามการดำเนินงาน พร้อมเข้าไปช่วยวางระบบ นำKnow how ไปให้จนถึงส่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะเป็นโอกาสของทุกคน  ซึ่งหากมองใน 5 ปี ใครเข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ทำประวัติไว้ ปีที่ 5 จะรู้ว่ามีการสร้างคน สร้างรายได้ได้มากเท่าไหร่ ตรงนี้เป็นสัญญาณดีท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน สตาร์ทอัพมองเห็นว่า จะทำอะไรได้ก็ทำโปรเจคมาเสนอชาร์กได้  ซึ่ง “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 3”  พร้อมเปิดรับสมัครแล้ววันนี้”

คุณประพลยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ในซีซั่นต่อไปอยากจะเห็นพอร์ตใหญ่ขึ้น จากปัจจุบัน 2 ล้านบาทสร้างเป็น 10 ล้านบาท อยากจะเห็น 10 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาทและอยากจะเห็น 100 ล้านบาท เป็น 1000 ล้านบาทเป็นก้าวกระโดด แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นใครมาเข้ามาลงทุน ซึ่งตอนนี้ทุกคนอยากเอาเงินในธนาคารมาลงทุน อยากจะเห็นพอร์ตใหญ่ๆ เมื่อไรที่เห็นพอร์ตใหญ่ 50 ล้านบาท พอร์ตกลาง 30 ล้านบาท พอร์ตเล็ก 20 ล้านบาท แสดงว่า ประเทศเราเริ่มโต แต่โดยสถิติน่าจะเป็นประมาณกลาง ๆ  

ความหวังของคุณประพล เราอาจจะเห็นได้ในสักวัน เพราะจากความสำเร็จจาก 2 ซีซั่นมียอดการลงทุนจากชาร์ก มากกว่า 400 ล้านบาทไปแล้ว ซึ่งช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดในตลาดธุรกิจ SME โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้นได้

ชวน SME และสตาร์ทอัพพันธุ์ไทยมาปล่อยของพิชิตเงินล้านได้ที่ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 3”
มาแล้วไม่ใช่แค่พิชิตเงินของชาร์ก แต่เอาชาร์กไปร่วมเพื่อพิชิตความสำเร็จของคุณด้วย

ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่ www.sharktankthailand.com หรือรับชมรายการย้อนหลัง และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : Shark Tank Thailand
YouTube : MEDIA Tank
Line OA : @sharktankthailand

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up