account_circle
จากการปฎิบัติภารกิจค้นหาทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตช่วงกลางปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครหลายหน่วยงานต่างก็ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สมเจตน์ แซ่จาง หนุ่มหน้าใสลูกครึ่งไทย – จีน เป็นอีกหนึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ใช้ความสามารถด้านภาษาจีนมาเป็นฟันเฟืองเล็กๆ เพื่อช่วยภารกิจถ้ำหลวงเท่าที่พอจะทำได้ เรียกได้ว่าหล่อแล้วยังใจดีอีกต่างหาก
หนุ่มเชียงรายเชื้อสายจีน
“ผมเป็นลูกครึ่งไทย – จีน เกิดที่กรุงเทพฯ แต่เติบโตและเรียนที่เชียงรายครับ ครอบครัวผมมีเชื้อสายจีนกลาง ‘แซ่จาง’ ที่บ้านพูดภาษาจีนกันทั้งบ้าน ฟังเพลงจีน ดูหนังดูละครภาษาจีน สังคมของผมอยู่กับคนจีนมากกว่าคนไทย มีเพื่อนคนไทยแค่เวลาไปโรงเรียน พ่อแม่ไม่ค่อยให้ออกไปไหน แต่หลังจากผมเข้าไปทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิ พระครูพิทักษ์พรหมวิหาร กิจวัตรหลังเลิกเรียนก็เปลี่ยนไป ผมเริ่มเจอเพื่อนในมูลนิธิ เริ่มมีเพื่อนใหม่ๆ ในท้องถิ่นมากขึ้น”
ขอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกำลังตนเอง
“ผมเข้ามาทำงานกู้ภัยแบบไม่มีใครชวน ไม่มีใครแนะนำ มาด้วยตนเอง เข้าไปตอนแรกไม่รู้จักใครเลยครับ นั่งเงียบๆ อยู่คนเดียว สักพักก็มีเพื่อนๆ มาชวนคุย ได้เริ่มทำความรู้จักกัน ช่วงแรกผมจะยังไม่ได้จับอุปกรณ์ใดๆ เราต้องท่องจำให้ได้ก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ท่องจำรหัสวิทยุสื่อสาร เรียนรู้หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หน้าที่ของผมช่วงแรกคือ ช่วยโบกรถ เคลียร์พื้นที่ ณ จุดเกิดเหตุ พอมีประสบการณ์ถึงจะได้ลงมือช่วยผู้บาดเจ็บด้วยตนเอง ทุกคนที่เป็นทีมกู้ภัยมาทำตรงนี้ด้วยใจทุกคน แค่คำขอบคุณของญาติผู้บาดเจ็บก็ทำให้เรามีกำลังใจทำงานต่อไปอีกเรื่อยๆ ยิ่งได้เห็นคนที่เราช่วยปลอดภัยเรายิ่งรู้สึกดี เราทำงานแบบไม่มีค่าแรง ไม่มีเงินเดือน ถ้าอยากตอบแทนน้ำใจจริงๆ ผมก็จะบอกให้เขานำเงินเข้ามูลนิธิ”
ล่ามจีน & กู้ภัยหล่อ ดังชั่วข้ามคืน
“ตอนที่มีข่าวค้นหาหมูป่า 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ที่จีนอยู่ ไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรมาก แต่พอสอบเสร็จผมก็กลับบ้าน เข้ามูลนิธิ วันหนึ่งก็มีทีมแจ้งมาที่ศูนย์ว่ามีใครพูดภาษาจีนได้บ้างพอดีมีกู้ภัยจากเมืองจีนมาถึงแล้ว แต่ไม่มีล่ามแปลภาษา หัวหน้าของผมได้ข่าวนี้ก็เลยบอกให้ผมไปช่วยตรงนี้ ให้ผมคอยช่วยสื่อสาร ไปถึงเราก็เริ่มวางแผนว่าจะไปจุดไหนบ้าง วางแผนแล้วทำตามแผน ทุกคนที่นั่นมีหน้าที่ หน่วยไทยไปช่วยนำทาง ผมก็ไปด้วย จบวันแรกเราก็ต้องวางแผนของวันที่สอง ต้องคิดเผื่อหลายๆ ด้าน การช่วยเหลือต้องครอบคลุม ไม่ใช่อยู่แค่จุดเดียว พอรู้ว่าเจอทีมหมูป่าและทุกคนปลอดภัย ทีมกู้ภัยทั้งคันรถร้องเฮดังลั่น ดีใจที่ทุกคนปลอดภัย”
ภารกิจกู้ภัยที่ถ้ำหลวงเปลี่ยนชีวิต
“ผมไม่รู้เลยว่ามีข่าวผมแชร์ไปในโซเชียล ตกใจมากครับ ผมขึ้นเขาไม่มีสัญญาณเลยยังไม่รู้ข่าวอะไร ลงเขาถึงได้เห็นข่าว และมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ส่งข้อความมาว่า ดังใหญ่แล้วนะ เห็นข่าวหรือยัง ข้อความเยอะมาก จนโทรศัพท์ผมค้างเลย จากข่าวที่แชร์กันในวงกว้างเปลี่ยนชีวิตผมไปส่วนหนึ่งครับ มีคนรู้จักมากขึ้น มีคนติดตามไอจีมากขึ้น ซึ่งทำให้เราต้องวางตัวให้ดี รู้จักกาลเทศะ ทำอะไรต้องระวังนิดหนึ่ง อย่างนิสัยเดิมที่กวนๆ ก็ต้องลดลงบ้างครับ (ยิ้ม) หลังจากนั้นก็มีคนติดต่อให้ผมเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ได้ออกรายการ ได้ถ่ายโฆษณา ตอนนี้ผมให้ทางค่าย GDH ช่วยดูแลเรื่องงานให้ ถือว่าเป็นหนึ่งโอกาสดีๆ ครับ ตอนเด็กๆ ผมเคยฝันอยากเป็นดารา แต่มันก็เป็นฝันลมๆ แล้งๆ ของเด็กต่างจังหวัด ไม่ได้จริงจังว่าจะต้องมาทำงานด้านนี้ แต่พอวันนี้มีโอกาสได้ลองก็ตื่นเต้นเหมือนกันครับ ค่อยๆ เรียนรู้และฝึกฝนกันไป เป้าหมายหลังเรียนจบคือ ผมอยากทำงานทูตตามที่ตั้งใจไว้ ส่วนงานในวงการผมเองก็ไม่มั่นใจว่าจะทำมันได้ดีแค่ไหน เป็นเรื่องของอนาคต ถ้าผมทำได้ดีก็อาจจะจริงจังได้ แต่ตอนนี้ขอทำเป็นงานอดิเรกน่าจะเหมาะกว่าครับ”