Frederique Constant กับ 3 นาฬิกาเรือนเด่น บ่งบอกนิยามตัวตนของผู้หญิงทุกสไตล์

“นาฬิกาข้อมือ” ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องบอกเวลาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี โดยหากคุณสาวๆ มองหานาฬิการาคาจับต้องได้ มีความหรูหรา ผสมผสานดีไซน์คลาสสิก เราขอแนะนำ Frederique Constant ไว้เป็นลิสท์ต้นๆ เนื่องจากตัวนาฬิกาถูกออกแบบอย่างสวยงาม ประณีต ละเมียดละไมทุกขั้นตอนการผลิต  

สำหรับ Frederique Constant ก่อตั้งบริษัทในปี 1988 โดยสามีภรรยาคู่หนึ่ง คือ ปีเตอร์ คองสตองท์ สตาส (Peter Constant Stas) และ อเลตตา ฟรังซัวส์ เฟรเดอริค แบ็กซ์  (Aletta Francoise Frederique Bax) ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างนาฬิกากลไกจักรกลสวิสแบบดั่งเดิม คุณภาพสูง ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในปี 2006 จึงได้เดินเครื่องการผลิตที่โรงงานของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา ดินแดนแห่งการผลิตนาฬิการะดับสูงของสวิส เคียงคู่กับแบรนด์นาฬิกาดังอีกหลายแบรนด์

โดยปัจจุบัน Frederique Constant มีคอลเลกชั่นนาฬิกาออกมาให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะของสุภาพสตรี ที่แต่ละแบบล้วนบรรจงใส่รายละเอียดแห่งความเป็นนาฬิกาสวิสเข้าไป ตั้งแต่การออกแบบ การขัดแต่ง ไปจนถึงงานลวดลายต่างๆ ด้านรูปแบบดีไซน์ก็มีให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับบุคลิกของผู้หญิงที่แตกต่างกัน ซึ่งสาวๆ สามารถเลือกนาฬิกาที่เหมาะสมที่สุดในการสวมใส่ เพื่อให้เข้าถึงบุคลิก ไลฟ์สไตล์ แถมไม่ลืมบ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างลงตัว โดยวันนี้เราขอแนะนำ 3 นาฬิกาเรือนเด่นผ่านมุมมองผู้หญิงเก่งทั้ง 3 คน

เรือนแรก Frederique Constant Ladies Automatic Small Seconds  นาฬิกาที่ คุณเปิ้ล-จริยดี สเปนเซอร์ เลือกใส่ติดข้อมือ ถือเป็นตัวแทนบ่งบอกความเป็นตัวตน ด้วยนิยามว่า “Appreciated Every Moment”

“เปิ้ลเป็นคนให้ความสำคัญกับคำว่า ‘เวลา’ คือตารางแต่ละวันแน่นมาก แต่ยังมีความสุขกับทุกช่วงเวลา เพราะทุกวินาทีคือช่วงเวลาที่มีความหมายและประสบการณ์ที่น่าจดจำ   สำหรับนาฬิกาเรือนโปรดก็ต้องเรือนนี้เลยค่ะ Frederique Constant รุ่น Ladies Automatic Small Seconds  เพราะถ้าเป็นนาฬิกาสำหรับ Everyday Use  จะต้องเป็นนาฬิกาที่ใส่ได้ง่าย มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีคุณค่า และมีความเป็น เปิ้ล สเป็นเซอร์ค่ะ”

ด้านความพิเศษของ Ladies Automatic Small Seconds คือ เอกลักษณ์ดีไซน์หน้าปัด เพราะเป็นครั้งแรกที่วางเข็มวินาทีไว้ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกาในคอลเลกชั่นนี้ และมาพร้อมกับทางเลือกในรูปแบบที่หลากหลาย นำเสนอให้เลือกสรรกันถึง 4 รุ่น ซึ่งล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงความสง่างามคลาสสิกภายใต้เสน่ห์ในความเป็นผู้หญิง

โดยรุ่นล่าสุดนี้ยังคงสะท้อนจิตวิญญาณหรูสง่าของ Frédérique Constant ออกมาอย่างเต็มที่ ภายใต้งานดีไซน์ที่มีความพอดีกับทุกส่วนโค้งของตัวเรือน 2 เลเยอร์ กับขนาดบอยไซส์ที่ 36.0 มิลลิเมตร กันน้ำลึก 50 เมตร ผนึกกระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์ พร้อมทางเลือกตัวเรือนที่จับคู่กับหน้าปัดใน 4 รูปแบบ ได้แก่ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลจับคู่กับหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวหรือเปลือกหอยมุกสีน้ำเงินเข้ม และตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบทองกุหลาบจับคู่กับพื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวหรือเปลือกหอยมุกสีน้ำตาล

ในส่วนของหน้าปัดได้รับการจัดวางเลย์เอาท์ใหม่ โดยนำเสนอการแสดงเวลาแบบ 2 เข็มครึ่ง ซึ่งแยกการแสดงค่าวินาทีมาไว้บนหน้าปัดย่อยตำแหน่ง 9 นาฬิกา ดูสวยงามแบบอสมมาตร ตกแต่งด้วยตัวเลขบอกเวลาแบบโรมันขนาดใหญ่ เติมเต็มอรรถรสคลาสสิก ส่วนกลางหน้าปัดสลักลวดลายฟันปลาเลียนแบบเทคนิคกิโยเช สัมผัสได้ถึงความประณีต และเสริมประโยชน์ใช้สอยให้มากขึ้นด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่บริเวณ 6 นาฬิกา 

เรือนต่อมา Frederique Constant : Classics Art Deco   สะท้อนตัวตนผ่าน คุณมิ้งค์ – ณัฏฐิ์ประภา ชุณหะวัณ  “เห็นแล้วเป็นรักแรกพบเลยค่ะ ตัวเรือนมีทั้งทรงหน้าปัดกลม หน้าปัดเหลี่ยม และที่ชอบมากๆคือตัวหน้าปัดวงรี เพราะอาจไม่ค่อยเห็นทรงนี้ ซึ่งทั้ง3แบบเมื่อลองใส่แล้ว นาฬิกาก็จะแนบไปกับข้อมือมิ้งค์เลยค่ะ มิ้งค์ว่าเข้ากับมิ้งค์มากๆ เลยค่ะ  มิ้งค์สามารถใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะใส่ทำงาน  ไปทานข้าว ไปเที่ยว เป็นทั้งนาฬิกาและเหมือนเครื่องประดับด้วยค่ะ ”

Art Déco (อาร์ต เดโค) คือ รูปแบบทางศิลปะที่ถือกำเนิดในช่วงที่หลุดพ้นจากยุค Classic (คลาสสิก) ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคเริ่มต้นของ Modernism (โมเดอร์นิสม์) ซึ่งเริ่มอยู่ในช่วงปี 1925-1939 มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอยู่ที่การสร้างสรรค์ลวดลายด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย หริอใช้รูปทรงทางเรขาคณิตมาประกอบกันเพื่อให้ดูแข็งแรง หรูหรา และสง่างามมากขึ้น ซึ่งรูปแบบที่โดดเด่นดังกล่าวได้กลายเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน โดยสอดแทรกอยู่ในชิ้นงานต่างๆ ทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม อุตสาหกรรม กราฟิก และงานแฟชั่นดีไซน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รวมถึงนาฬิกา

แบรนด์ Frédérique Constant (เฟรเดริค คองสตองท์) ก็ได้จับเอาเสน่ห์แห่งงาน ‘Art Déco’ มาสร้างสรรค์อีกครั้ง หลังจากที่สร้างความประทับใจและเสียงชื่นชมจากคนรักนาฬิกาโดยเฉพาะสุภาพสตรีมาแล้ว ในรูปแบบนาฬิกาทรงรีที่เปี่ยมเสน่ห์มาตั้งแต่ปี 2005 ในรุ่น  Classic Art Déco Oval โดยเป็นรูปทรงวี ที่มีความสวยงดงามแบบลงตัวในสไตล์คลาสสิกหวาน หรู และน่าถะนุถนอม อ่อนหวานที่ไม่เหมือนใคร โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบ ทั้งสเตนเลสสตีล และสเตนเลสสตีลสลับสเตนเลสสตีลเคลือบทองแบบสองกษัตริย์   พื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว ปั๊มลายวงคลื่นคล้ายเทคนิคกิโยเชบริเวณกึ่งกลาง ตกแต่งด้วยงานพิมพ์ตัวเลขบอกเวลาสไตล์โรมันที่เน้นแนว‘Pomme’ (ปอมม์)

ต่อมาเป็นการสร้างสรรค์ด้วยทรงกลมที่ผสานเข้ากับเส้นสายตามสไตล์ Art Déco ซึ่งนั่นก็คือ Classic Art Déco Round (คลาสสิก อาร์ต เดโค ราวน์ด) รูปแบบแห่งงานดีไซน์ ‘Art Déco’ ถูกนำมาจัดสรรเป็นตัวเรือนทรงกลมเกลี้ยงไร้รอยสะดุดขนาด 30.0 มิลลิเมตร พร้อมขาสายแบบก้านแขวนทรงแท่งที่ให้จุดบรรจบระหว่างขาสายกับตัวเรือนสัมผัสกันน้อยที่สุด เพื่อคงรูปความกลมกลึงของตัวเรือนไว้ให้ได้มากที่สุด แต่คงรักษาความแข็งแรงบนิเวณจุดสัมผัสเอาไว้อย่างเยี่ยมยอด และเสริมเสน่ห์ความงามด้วยการสลักลายร่อง เป็นเส้นตรงแนวตั้งเสมอกันรอบขอบข้างตัวเรือน ในวัสดุที่เลือกได้ทั้งสเตนเลสสตีล และสเตนเลสสตีลสลับสเตนเลสสตีลเคลือบทองแบบสองกษัตริย์ ในแบบปกติและประดับเพชรหรูน่ารักบริเวณขั้วขาสาย กระจกหน้าปัดใช้คริสตัลแซพไฟร์ กันน้ำได้ 30 เมตร

พื้นหน้าปัดมีให้เลือก 2 แบบได้แก่พื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว หรือพื้นสีน้ำเงินในผิวสัมผัส 2 เลเยอร์ ได้แก่ผิวขัดมันบริเวณวงขอบนอก และงานปั๊มลายวงคลื่นคล้ายเทคนิคกิโยเชบริเวณกึ่งกลาง ตกแต่งด้วยงานพิมพ์ตัวเลขบอกเวลาสไตล์โรมันที่เน้นแนวเส้นตรงเพื่อสะท้อนงาน ‘Art Déco’ ที่ผสานอยู่ในอรรถรสคลาสสิกอย่างลงตัว พร้อมการแสดงเวลาที่เรียบง่ายแบบ 2 เข็ม ด้วยเข็มชี้ทรง ‘Pomme’ (ปอมม์)

ส่วนการทำงานเลือกใช้เครื่องควอตซ์ Cal.FC200 เพื่อตอบสนองการใช้งานของสุภาพสตรีไว้เล็บที่ไม่ต้องมาหมุนเม็ดมะยมตั้งเวลาหรือขึ้นลานบ่อยๆ โดยมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 72 เดือน ประกอบกับสายโลหะที่ใช้วัสดุเดียวกับตัวเรือน หรือสายซาติน

และท้ายสุด Classic Art Déco ได้เสริมลูกเล่นใหม่ให้กับนาฬิกาในคอลเลกชั่น Classic Art Déco โดยออกแบบหน้าปัดดีไซน์มาเป็นรูปทรงสีเหลี่ยม Classics Art Déco Carrée แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวแต่ยังคงความงดงาม คลาสสิก สไตล์ Art Deco ด้วย พื้นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาว  ขนาดหน้าปัด 28X20 มิล. งานปั๊มลายวงคลื่นคล้ายเทคนิคกิโยเชบริเวณกึ่งกลาง ตกแต่งด้วยงานพิมพ์ตัวเลขบอกเวลาสไตล์โรมันที่เน้นแนวเส้นตรงเพื่อสะท้อนงาน ‘Art Déco’ ที่ผสานอยู่ในอรรถรสคลาสสิกอย่างลงตัว

 ปิดท้ายด้วย Frederique Constant Slimline Ladies Moonphase นาฬิกาที่ คุณแพรว-ภัทรลดา พุ่มเจริญ ตัวแทนของผู้หญิงเก่ง ผู้หญิงทำงาน ที่มีความสุขกับการเลือกสิ่งพิเศษให้ตัวเอง  “แพรวได้มีโอกาสเห็นวิธีการทำงานของ Moonphase  รวมถึงวิธีการทำ Moonphase เป็นอะไรที่ประณีตมากๆ ใส่ใจในรายละเอียดมาก  เป็นนาฬิกาหน้าปัดกลมสายเหล็กแต่ให้ความเป็นผู้หญิง  ไม่ว่าจะเป็นเปลือกไข่มุก ประดับด้วยเพชร ทุกอย่างรวมตัวกันได้เข้ากัน ทำให้รู้สึกว่านาฬิกาเรือนนี้มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ ทำใ ห้ทุกวันของแพรวไม่ใช่วันปกติธรรมดาแต่แอบพิเศษขึ้นเพราะใส่เค้าค่ะ”   

แสงจันทร์เหลืองทองส่องประกาย ไข่มุกวาววับ และประกายน้ำเพชร สอดประสานอย่างลงตัวบนหน้าปัดนาฬิกา Slimline Ladies Moonphase โดยช่างทำนาฬิกาและนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์ คอลเลคชันที่จะทำให้สาวๆ ต้องใจละลาย นาฬิกาทั้ง 6 รุ่นในเรนจ์นี้สวยงามไม่แพ้กัน โดยนาฬิกาทุกเรือนในรุ่นนี้ เป็นนาฬิกากลระบบ Quartz FC-206 (ใส่ถ่าน) ประดับด้วยเม็ดทับทิมจำนวน 5 เม็ด บนแท่นเครื่องกลไก  หน้าปัดนาฬิกาขนาด 30 มิล บนหน้าปัดไข่มุกและล้อมรอบตัวเรือนนาฬิกา ซึงดีงดูดทุกสายตาของคุณสุภาพสตรีที่ได้พบเห็น

ความงดงามพิเศษของ Moonphase ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา บนบนหน้าปัดเรือนเวลาที่บอกกว่าเวลาชั่วโมง และ นาที ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความพิเศษเหนือกว่านาฬิกาธรรมดาทั่วไป เป็นความงดงามธรรมดาที่ไม่ธรรมดา นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังมีตัวเรือนเรือนพิเศษที่มาใน รูปแบบของความงดงามที่หยุดทุกสายตาด้วยเรือนที่ประดับประดาไปด้วย เพชร จำนวน มากกว่า มากกว่า 0.5 กระรัตบนหน้าปัดและล้อมรอบเรือนเวลา คุณสาวๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ Frederique Constant ได้ทางเพจ Facebook และ Instagram: Frederique Constant Thailand หรือสามารถเลือกรับชมนาฬิกาได้ที่เคาเตอร์แบรนด์นาฬิกา Frederique Constant ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม สยามทาคาชิมาย่า เซ็นทรัล และเดอะมอลล์ สอบถามรายละเอียดโปรโมชั่น และข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆได้ที่ Line Official: @fcthailand