เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ การกลับมาของเมนโวคอลระดับประเทศ พร้อมมิตรภาพคำว่าเพื่อน

account_circle
event

 

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ การกลับมาของเมนโวคอลระดับประเทศ พร้อมมิตรภาพคำว่าเพื่อน

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ เมนโวคอลระดับประเทศที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ 15 ปี กับคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอย ‘The Concert Application Presents Peck Aof Ice InFriendnity Concert’ – Friend สนิท Fin สนั่น เตรียมฟินไปกับความสนุกแบบเหนือความคาดหมาย ของ 3 เพื่อนซี้ ที่จะทำให้คุณฟินกันสนั่นฮอลล์ และประทับใจไปกับทุกโมเมนต์

แต่ก่อนจะไปพบกันในคอนเสิร์ต สุดสัปดาห์ขอชวนคุณมาฟินกับ แฟชั่น Digital Cover เซ็ตพิเศษของ  ‘เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร’, ‘อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์’ และ ‘ไอซ์-ศรัณยู วินัยพานิช’ ที่นอกจากจะมาโชว์ความองค์โมเดลแบบเริ่ดๆ แล้ว สุดสัปดาห์ยังได้พูดคุยกันแบบครบอรรถรส ทั้งมุมมองความเป็นเพื่อน เบื้องหน้าและเบื้องหลังการทำงาน รวมถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากวงการบันเทิง รับรองว่าอ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว จะได้รับความขำฮา และซาบซึ้งระคนกันไปแบบแฮปปี้ 

 

จุดเริ่มต้นของเป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ เริ่มต้นอย่างไรคะ

อ๊อฟ: ด้วยความที่เราเป็นศิลปินมีผลงานของแต่ละคนอยู่แล้ว มันก็เลยทำให้เราได้มีโอกาสไปทำโปรเจ็กต์หนึ่ง เป็นโชว์ครับ งานประกาศรางวัลของ Channel V Awards แล้วก็ร้องเพลง ‘อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง’ ผู้ใหญ่คงเห็นว่าเรา 3 คนรวมตัวกันแล้วเคมีได้

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์
แล้ว Before & After หลังจากที่ได้รู้จักกันเป็นอย่างไรบ้างคะ

ไอซ์:  Perception แรก เจอเป๊กก่อน เป๊กเหมือนเป็นรุ่นพี่อยู่ในแกรมมี่ เป็นศิลปินฝึกหัดในแกรมมี่ แล้วเราประกวดร้องเพลงมา แล้วได้มาเจอเขา เขาจะดูเป็นเด็กกรุงเทพฯมาก  มันจะไม่ได้ดูเบลนด์เข้ากันเหมือนสมัยนี้ เขาจะดูทันสมัย มีความเป็นเด็กกรุงเทพฯ การขยับ การพูด เขาพูดอะไร ดูอินเทรนด์

อ๊อฟ:  เห็นเหมือนกันกับไอซ์ รู้สึกตอนที่เจอเป๊ก รู้สึกเหมือนกัน รู้สึกว่าเขาเป็นคนนำเทรนด์แฟชั่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตัวดนตรี เพลงที่เขาปล่อยมาตั้งแต่แรกๆ อ๊อฟว่าเพลง ‘ไม่มีใครรู้’ เป็นเพลงที่… มันนำเทรนด์จริงๆ วิธีการร้อง การแต่งตัว

เป๊ก:  ขอบคุณครับ…

ไอซ์:  จริงๆ แล้วเป๊กก็เป็นคนสะอาดอยู่ประมาณหนึ่ง และมีความไม่สะอาดอยู่บ้างเล็กๆ แต่ลุคที่เราเห็น เราจะรู้สึกว่าเขาคลีนๆ สบายๆ แต่จริงๆ เขามีไม่อาบน้ำบ้าง พูดได้มั้ย

เป๊ก:  พูดได้ครับ

อ๊อฟ:  เมื่อเช้าเรายังไม่อาบเลย เพราะเรารีบ บ้า… หยอกๆๆ อย่างของเป๊ก อ๊อฟจะค่อนข้างสนิทกับเป๊ก เพราะว่าเราจะคุยกันเนอะ ตอนเราซ้อมคอนเสิร์ต เราจะนัดกัน จะต้องเต้นอะไรยังไง แล้วเขาเป็นคนเพอร์เฟ็กต์มาก เพอร์เฟ็กชันนิสต์มาก เขาแบบ… อ๊อฟ มึงต้องหมุนไลน์นี้นะ มึงต้องเดินก้าวนี้ เราต้องพร้อม แล้วอีนี่ก็คือกดดัน เราไม่ใช่สายเต้นอะเนอะ นี่เป็นสายเต้นแบบว่า… มีความเป็นสไตล์ อันนี้มีความเป็นสายเต้น เลยรู้สึก เออว่ะ มันก็มีความแบบ… ได้เรียนรู้อะไรจากเขาทั้งคู่ พอได้มีโอกาสมาเป็นเพื่อนกัน

ไอซ์:  แต่คนที่จำแม่นสุดคืออ๊อฟนะ อ๊อฟบอกไม่ใช่สายเต้น เป็นคนจำทุกอย่างเร็วมาก เป็นคนปลุกเอนเนอร์จี้ให้ทุกคน เพราะเขามีเอนเนอร์จี้ 3 แสนล้านโวลต์

อ๊อฟ:  สำหรับไอซ์ใช่ปะ คือไอซ์ดังมากตอนนั้น ไอซ์ดังมากจาก ‘คนมันรัก’ ก่อน เราถึงมารวมตัวกัน เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ ตอนเขามี ‘คนใจง่าย’ ซึ่งอันนั้นเขาดังมาก แล้วเรารู้สึกว่า เราก็เป็นศิลปินตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่เราก็ทำตัวแบบเฟคๆ แหละ จะบอกว่า คือเรารู้สึกว่า เพลงเขาและตัวตนของเขา มีฐานแฟนคลับที่แบบ… ติดตามผลงานเพลงเขาเยอะมาก เราก็จะรู้ว่า เอ๊ะ เราไปรวมตัวกับเขา แล้วเราจะยังไงวะ คนจะยังไงกับเราวะ แต่เขาเป็นคนน่ารัก  เขาเป็นคนแบบ… เขาเป็นคนที่… ตระหนี่ เป็นคำชม เขาเป็นคนที่ตระหนี่ แต่ตอนนี้ เขาเริ่มโตขึ้น เขาเปลี่ยนแปลงไปจากความตระหนี่ อันไหนที่เขาอยากได้ เขาก็ใช้ชีวิต ซึ่งเราก็รู้สึก จากตอนนั้นที่เป็นเพื่อนกันจนมาถึงตอนนี้ เราก็รู้สึก… เราเห็นการเติบโตของทั้งคู่

เป๊ก:  ความรู้สึกที่มีต่อพี่ไอซ์ก่อนเลย จริงๆ เขาเป็นคนที่… Famous มากๆ จากเพลงที่ฮิตทุกเพลง จริงๆ เราเป็นศิลปินฝึกหัดมา เรายังไม่ได้ออกผลงานอะไร เลยเห็นพี่เขาเป็นศิลปินต้นแบบ

ไอซ์:  ดูแก่มาก (หัวเราะ)

เป๊ก:  มีเพลงดังเยอะแยะ วันหนึ่งเราก็ได้เจอกัน เออ… เซย์ไฮ ตอนแรกเรายังไม่สนิทกันมาก แต่มาสนิทกันตอนที่เรามาทำโปรเจ็กต์เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ด้วยกัน เราได้มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกันเยอะมาก ไปทัวร์ ไปนู่นไปนี่ ทำงานจ้าง เข้าห้องอัด

อ๊อฟ:  และรอบนี้คือบอกเลย งานพรีเซ็นเตอร์เข้าแน่ กับอ๊อฟล่ะ เหมือนไม่มีอะไรพูดถึงกู (หัวเราะ)

ไอซ์:  จริงๆ เขาอยู่ด้วยกันเยอะนะคู่นี้ เวลาทัวร์เขาพักด้วยกัน

เป๊ก:  ก็คือจริงๆ แล้ว เรารู้ว่าอ๊อฟชอบเรา

อ๊อฟ:  เออ…

เป๊ก:  ล้อเล่น ไม่ใช่ครับ ล้อเล่น คือ… เอิ่มมมม อ๊อฟก็เป็นคนที่แบบ เขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง

อ๊อฟ:  ตอนแรกใช่มั้ย ตอนแรกที่ยังไม่ได้เป็นเพื่อนกัน

เป๊ก: ไม่ๆๆ เป็นตัวของตัวเองสูงตั้งแต่แรก จิตใจดี ชอบฟังข่าวเมาท์

อ๊อฟ:  แล้วก็มาปล่อยข่าวต่อ เราเป็นหน่วยข่าวกรอง (หัวเราะ)

เป๊ก:  ทั้งสองคนเป็นพี่ และเป็นเพื่อนที่ดีครับ ถึงแม้บางทีเราอาจจะไม่ได้คุยกันตลอดเวลา เจอกันตลอดเวลา

อ๊อฟ:  เพราะกูไม่รู้จะโทร.หามึงเบอร์ไหน มึงเปลี่ยนเบอร์บ่อยมาก งงมาก

เป๊ก:  มากจริงๆ

อ๊อฟ:  หนีหนี้มั้งครับ

เป๊ก:  ใช่ครับ ใช่ (หัวเราะ)

เป๊ก:  มันมีหลายเบอร์ ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องขอบคุณทั้งสองที่มาสนิทกับเรา และมาทำงานร่วมกันกับเรา

อ๊อฟ:  มันต้องสนิทสิ เออ…

เป๊ก:  ถึงเวลาที่เราต้องกลับมาสนิทกันอีกครั้งหนึ่ง แบบมากๆ  แล้วก็แบบ ทำงานร่วมกัน 24 ชั่วโมง เพราะมีคอนเสิร์ตร่วมกัน

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์

ย้อนวันวานถึงโปรเจ็กต์ เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ทำงานด้วยกัน

อ๊อฟ:  ตื่นเต้นแล้วก็งง ผู้ใหญ่เห็นอะไรในความเป็น 3 คนเรา เราก็ไม่คิดว่า โปรเจ็กต์มันจะ success มากขนาดนี้ จนมันแบบ ได้มีคอนเสิร์ต แล้วก็มีฐานแฟนเพลงของ เป๊ก ออฟ ไอซ์

ไอซ์:  จริงๆ จะบอกว่า จุดเริ่มต้นมันจะไม่เหมือนบอยแบนด์สมัยก่อน ที่เขาเริ่มมาด้วยกัน อันนี้ต่างคนต่างเป็นศิลปินเดี่ยว แล้วเอามาทำเป็นกลุ่ม ตัวตึงๆ

อ๊อฟ:  ตัวตึงมา

ไอซ์:  เหมือนตอนนั้นทุกคนต่างประสบความสำเร็จ เรานำศิลปินเดี่ยวมาร่วมกัน มันเลยแปลกใหม่ เป็นบอยแบนด์ที่มีเพลงฮิต

ใช้คำว่าไอคอนิกได้มั้ย

เป๊ก:  ได้…

อ๊อฟ:  ณ ตอนนั้นมันยังไม่มีอะไรแบบนี้

ไอซ์:  ภาพเอ็มวี เสื้อผ้า เพลง ดูเป็นที่จดจำ

อ๊อฟ:  ท่าเต้น จังหวะ อะไรแบบนั้นในเพลงช้า อันนี้อ๊อฟว่าน่าจะเป็นเพลงแรกๆ เอาเป็นว่าเราเป็นผู้นำเทรนด์ เต้นในเพลงช้า

เป๊ก:  อยากให้รอ ติดตามเพลงใหม่

อ๊อฟ:  เดี๋ยวเราทำเพลงใหม่กันก่อนคอนเสิร์ตครับ เป็นประมาณ ‘แค่คนโทรผิด’ เลยครับ มีท่าเต้นด้วย สนุกนะครับ สนุกมาก เพราะว่าแต่ละคนก็มีสิ่งที่ตัวเองกต้องการ แตกต่างกัน พอเรามีโอกาสได้มารวมตัวกัน คุยกัน มันก็จะเจอตรงกลาง ซึ่งอ๊อฟว่ามันสนุก มีความชาลเลนจ์นิดหนึ่ง

เป๊ก:  คือถ้าออกอัลบั้มเดี่ยว ทัวร์คนเดียว ไปจังหวัดนี้คนเดียว มันก็เหงาเนอะ แต่พอได้ไปกับเพื่อนๆ

อ๊อฟ:  ก็ไปทัวร์ส่วนใหญ่แกก็นอนกับฉันไง

เป๊ก:  เออ นอนห้องเดียวกัน

อ๊อฟ:  สนุกมาก

ไอซ์:  คือมันจะมีสัมภาษณ์วิทยุ ร้องเพลง เดินสายโปรโมต แล้วก็ร้องเพลง ไปกันที ไปกันหลายวัน

อ๊อฟ:  ใช่ แล้วเขาคนนี้ ก็เป็นคนที่จดรายละเอียดทุกอย่าง เวลาเขาลงไปซื้ออะไร ไอซ์ยืมเงินหน่อยสิ ได้! แต่จด

ไอซ์:  ได้

อ๊อฟ:  แต่จดนะ เอาของเขาไปเท่าไร

มีเรื่องราวที่จำไม่ลืมระหว่างเพื่อนกันบ้างมั้ยคะ

ไอซ์:  บอกก่อนได้มั้ย คืออ๊อฟเขาจะเป็นคนที่สบายๆ กับทุกคน เขาก็จะเป็นกันเองกับเรามากๆ สมัยก่อนเราต้องบอกว่า ปั๊มน้ำมันไม่ได้มีหลากหลายเหมือนสมัยนี้ การนั่งรถตู้ไปตามที่ต่างๆ อยู่ดีๆ จะมาหยุดที่ปั๊มน้ำมัน มันหายากปั๊มน้ำมันสมัยก่อน เขาก็สามารถให้ความคุ้นเคยกับเรา โดยการฉี่บนรถ

อ๊อฟ:  ฉี่ใส่ขวดไง

เป๊ก:  ยูจิบฉี่ตัวเองนิ

ไอซ์:  ใช่เหรอวะ

อ๊อฟ:  ไม่ๆๆ จะบ้าเหรอ

เป๊ก:  ใช่ๆ ที่ลืมเอาไว้ไง จิบ

อ๊อฟ:  ใช่มี ใช่มี แล้วก็ ฮึ้ย! แล้วก็รีบบ้วนออก เราฉี่ เราก็วางไว้ แล้วก็หิวน้ำ หยิบ เราก็ลืมว่าขวดนั้นเป็นขวดฉี่

เป๊ก:  วีรกรรมเหรอครับ ไม่ค่อยทำนะ

อ๊อฟ:  ของเป๊ก ของเป๊ก

เป๊ก:  แต่จะมีอะไรที่พูดไม่ค่อยได้ เช่น เราโชว์เสร็จปุ๊บ อาจจะออกไปแฮงเอาต์ เบาๆ เนอะอ๊อฟ

อ๊อฟ:  ใช่ๆ ตอนนั้นที่เราไปเชียงใหม่

เป๊ก:  อ๊อฟเบาๆ แล้วกันวันนี้

อ๊อฟ:  เป็นไงล่ะ

เป๊ก:  หามปีกกันขึ้นเครื่องบิน ไปเพื่อนไป

อ๊อฟ:  หามกันขึ้นเครื่องบิน ไม่… แต่ว่าของเป๊ก เป๊กจะเป็นอย่างนี้ สมมติไปโชว์หนึ่งต่างจังหวัด แค่โชว์เดียว แค่โชว์เดียวนะ เขาจะเอาเสื้อผ้าไปทั้งหมด 8-9 ชุด

ไอซ์:  เผื่อ!

อ๊อฟ:  แล้วก็… ก่อนที่เขาจะแต่งตัว เขาก็แผ่ แผ่ แผ่ทุกอันเลย แล้วก็ ลองเอาแมตช์ดูดีกว่า ว่าอันไหนมันเข้ากันวะ

แล้วพอบางทีแมตช์แล้ว พอลองใส่แล้ว เฮ้ย มันไม่ใช่ว่ะ เอาใหม่ ก็เปลี่ยนใหม่ เพราะเรานอนอยู่ห้องเดียวกับเขา

อืมๆ คือเขาเป็นคนนำเทรนด์เรื่องเสื้อผ้า เสื้อผ้าเขาจะเยอะมาก

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์

วีรกรรมสร้างเรื่อง

อ๊อฟ:  พูดได้มั้ย (หัวเราะ)

เป๊ก:  ลองพูดไปก่อน ถ้าไม่ได้ เดี๋ยวเขาตัดออก

อ๊อฟ:  ไม่ค่อยมีวีรกรรม เอาจริงๆ พวกเราสามคนก็เป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์

เป๊ก:  ตัวอย่างที่ดีของสังคม

อ๊อฟ:  ใช่ เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม

ไอซ์:  เขาจับได้ก็ตอนเพอร์เฟ็กชันนิสต์

เป๊ก:  ไม่ แค่มี แต่เราหนีเที่ยว เราขอการ์ด 10 คน

อ๊อฟ:  ตอนนี้หรือตอนนั้น

เป๊ก:  ตอนนั้น ออกไปเที่ยวปุ๊บ การ์ด 10 คน เต้นๆๆ

อ๊อฟ:  เราก็อยากมีบ้างไง

ไอซ์:  มันจะมีสไตล์กันที่ชัดเจน สมมติว่าไปต่างจังหวัดกัน ไอซ์ก็จะหาว่า ที่นั่นวัดไหนดัง วัดไหนดังต้องได้ไปไหว้พระ ส่วนทางนี้ เป๊ก อ๊อฟ เขาก็รู้ว่า ร้านไหนดัง

อ๊อฟ:  U Bar ที่เราไป มีที่เชียงใหม่ Warm Up โอ้โห…

เป๊ก:  เอาการ์ดมาก่อน ล้อมรอบแล้วเราไป

อ๊อฟ:  อ๊อฟว่าเป็นวีรกรรมอะไรแบบนี้มากกว่า

 

คิดว่าเสน่ห์ของการเป็นศิลปินในยุคเมื่อ 15 ปีที่แล้วคืออะไร

อ๊อฟ:  อ๊อฟว่าคนเข้าถึงยาก คนเห็นตัวเรายาก

ไอซ์:  ยังไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์ก ยูทูบ เฟซบุ๊ก ยังไม่มี เพิ่งเริ่มจะมี Hi5, MSN

อ๊อฟ:  แล้วก็… อ๊อฟว่าตอนนี้ วงการเพลงหมุนเร็วมาก หมุนเร็วจริงๆ จนบางทีเรารู้สึกว่าเราโชคดีจังเลย

ที่เราอยู่ในยุคนั้น 15 ปีที่แล้ว แล้วเรายังสามารถอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้อีก และได้ทำโปรเจ็กต์เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ อีกครั้งหนึ่ง

อ๊อฟ:  ขี่มอไซต์ตาม

เป๊ก:  เขย่ารถตู้

อ๊อฟ:  วิ่งกรี๊ด

ไอซ์:  สมัยก่อนการได้เห็นดารา นักร้องยากจริงๆ เขาต้องรอดูในทีวี มันไม่ได้มีโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบนี้ ต้องรอรายการเพลง และการที่เขาจะได้เห็นตัวจริง เราต้องไปโชว์ตัว หรือไปสัมภาษณ์วิทยุ เขาถึงจะได้เห็นเพราะ ฉะนั้นความตื่นเต้นที่จะได้เห็น มันก็เห็นได้ชัดว่าในยุคนี้ ที่คนคุ้นเคยกับการ… ฉันเลื่อนโทรศัพท์ก็เห็นแล้ว

อ๊อฟ:  ถ้ายุคนี้ อ๊อฟว่ามาเร็วไปเร็ว ต่างจากยุคพวกเรา เราสร้างขึ้นมาจะอยู่ไปอีกนาน

ไอซ์:  เหมือนเพลงฮิตฮิตเร็ว โซเชียลมีตลอด สมัยก่อน ‘จากคนรักเก่า’ หรือ ‘ไม่มีใครรู้’ จะอยู่ยาว

เป๊ก:  อย่างที่พี่ไอซ์ว่า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ พอเราร่วมงานกับพี่ทั้งสอง ผมต้องพยายามกว่าเดิม กว่าจะมาถึงจุดที่ร่วมงานกับเขาให้ได้  คนนี้มีศักยภาพมาก คนนี้ดังมาก คนนี้เสียงแผ่ด ร้องเพลงดีมาก เราไม่รู้จะเอาตรงไหนไปอยู่กรุ๊ปของเขาครับ หน้าตาตอนนั้นยังเหมือนแบบ…
ไอซ์:  เขามีความน่ารักเป็นแบบ… ความไอคอนิคสมัยก่อน

อ๊อฟ:  ไม่ยากนะ

ไอซ์:  อยู่ในเจนเดียวกัน

อ๊อฟ:  แกคิดไปเอง

เป๊ก:  ไม่ได้เจอทำงานมาก่อน แต่สุดท้ายหาตรงกลาง อยากอยู่กับเขาแบบนี้ ทำแบบนี้ ดีใจที่ได้ร่วมงานกัน ซึ้งเลย

เพลงที่ชอบของเพื่อน

อ๊อฟ:  สำหรับอ๊อฟนะ ของเป๊กถ้าเอาไปร้องจริงๆ คือ ‘ไม่มีใครรู้’ แต่เพลงที่ชอบ คือชอบ ‘ติดใจ’ ส่วนของไอซ์ อ๊อฟชอบเพลง ‘เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ’ แล้วก็ ‘แพ้แล้วพาล’ อ๊อฟเอาแพ้แล้วพาลไปร้อง แต่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ จะเอาไปร้องไม่ได้ มันร้องยากชิบเป๋งเลย

ไอซ์:  ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับอ๊อฟหรอก

อ๊อฟ:  ยากจริงๆ จำได้มั้ย คัพเวอร์ไนต์ครั้งหนึ่งที่เราเอาไปร้องอะ แล้วเราแบบ เชี่ย… เราต้องสลับเพลงกันต้อง ยากมากเลย

ไอซ์:  เหมือนมันเริ่มด้วยคีย์ต่ำมาก แล้วพอเข้าฮุกปุ๊บ

อ๊อฟ:  ยิ่งเธอวางใจ ยิ่ง… มันต้องเปลี่ยนคีย์

ไอซ์:  ถ้าให้ไอซ์ร้องเพลงอ๊อฟ คืออ๊อฟคุมเสียงโทนต่ำได้ดีมาก แบบแข็งแรงมาก อย่างไอซ์ร้อง เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งต้องร้อง ‘ตะวันยังมีให้เห็น’ โอ้โห… ตะวันแทบตกดิน โอ๊ย… ต่ำมาก เขาจะคุมเสียงต่ำได้ดีมาก เสียงสูงเขาแข็งแรงมาก

อ๊อฟ:  ปกติอ๊อฟไม่ค่อยร้องหลบไง อ๊อฟก็จะร้องเสียงเต็ม แล้วก็ ไปช่อง Twang ไปช่องจมูก อ๊อฟจะบอกว่าคนที่ร้องเพลงดีที่สุดในบรรดา 3 คน คือเป๊กนะ จริงๆ

ไอซ์:  เหมือนถูก Technically ของการร้องเพลง

อ๊อฟ:  จริงๆ เขาเป็นคนร้องได้หมดเลย อันนี้เราพูดจากใจ ไม่ได้อวยนะ จริงๆ ไม่ได้อยากพูดเลย แต่ว่า กลัวเพื่อนจะรู้สึกว่า เฮ้ย… จริงหรือเปล่า ดูตอแหลหรือเปล่า

เป๊ก:  ไม่ๆ กูรู้อยู่แล้ว

ไอซ์:  เขาเป็นเด็ก Voice ด้วย เหมือนเขารู้ทฤษฎีการร้อง

อ๊อฟ:  แล้วเขาเป็นศิลปินฝึกหัดมา เขาต้องเรียน ถูกเทรนอะไรมา

ไอซ์:  ถ้าของเป๊กจริงๆ ชอบ ‘แววตา’ นะ รู้สึกว่าเทคนิคการร้องเท่ดี เหมือนเขาร้องออกมามันดูฝรั้งฝรั่ง ดูสากลมากเลย ส่วนอ๊อฟ เพลงโปรดเขา ไอซ์ชอบเขาร้อง ‘ตะวันยังมีให้เห็น’ รู้สึกว่าตะวันยังไม่ให้เห็น ไม่มีใครร้องดีเท่าเขาอีกแล้วมันเหมือน เขาไปนั่งอยู่ในดวงตะวัน ตกไปพร้อมกับตะวันเลย พาไป ดีป ดิ่งมาก

อ๊อฟ:  เป็นเพลงที่อ๊อฟไม่เอาไปร้องงานจ้าง มันยากมาก ยากจริงๆ แล้วคนดูก็ชอบเขียนมาขอ ‘ตะวันยังมีให้เห็น’ ก็เลยบอกว่า ถ้าอยากให้ร้องเพลงนี้ เงินค่ะ ทิปก่อน ร้องให้ได้

เป๊ก:  Sample หน่อย

อ๊อฟ:  ตอนนี้ไม่ได้สิคะ

เป๊ก:  เดี๋ยวทิป

เป๊ก:  ของอ๊อฟชอบเพลง ที่อ๊อฟร้องล่าสุดในรายการของป๊อบ

ไอซ์:  ‘ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง’

เป๊ก:  ฉันเหมือน….

อ๊อฟ:  แทงข้างหลังๆ

ไอซ์:  ขอโทษ

เป๊ก:  อ๊อฟจะเปลี่ยนโน้ต เปลี่ยนเมโลดี้ไปตลอดเวลา ความเป็นอาร์ติสต์ ความเป็นนักดนตรี นักร้องของเขา  เขาสามารถทวิสต์โน้ต เมโลดี้อะไรก็ได้ สมมติวันนี้ป่วยปุ๊บ

ฉันเหมือนคนกำลังจะหมดแรง… เขาจะทวิสต์ไปอีกช่องหนึ่งก็ได้ ที่สามารถออกได้โน้ตเดียวแบบนี้ ทำได้หมด ก็คือเป็นคนที่มีความสามารถ

อ๊อฟ:  ขอบคุณครับ

เป๊ก:  ส่วนพี่ไอซ์ ชอบเพลงเวลาที่พี่สดใสมากกว่า ก็คนมันรอเธอมาตั้งนาน พี่ไอซ์เหมาะกับรอยยิ้ม Prince of Smile

อ๊อฟ:  เขามีฉายา  Prince of Smile

ไอซ์:  ได้มาเพราะอะไรรู้มั้ย ฟังไม่รู้เรื่อง ยิ้มอย่างเดียว

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์

มิตรภาพและความประทับใจของเป๊ก อ๊อฟ ไอซ์

อ๊อฟ:  คืออ๊อฟประทับใจ ตอนที่… คือเขาจะมีช่วงหนึ่ง ที่เขารู้สึกว่า เขาไม่ได้ถูก… ให้ความสำคัญมากในช่วงหนึ่ง เขาคิดไปเองนะครับ จนบางทีเขาก็เฟดตัวเองออกไปช่วงหนึ่ง แล้วทีนี้อ๊อฟประทับใจเขาตรงที่ เขาไปเป็นหน้ากาก แล้วหน้ากากจิงโจ้ทำให้เขาพลิกชีวิต แล้วอ๊อฟรู้สึกว่า เฮ้ย… เพื่อนเราไม่ทิ้งความรัก สิ่งที่เขารักเขาไม่ทิ้ง นั่นแหละประทับใจตรงนั้น

เป๊ก:  ขอบคุณครับ

อ๊อฟ:  มันก็เลยทำให้เขามีวันนี้ แฟนเพลงเยอะมาก สำหรับไอซ์เหรอ อ๊อฟมองว่า เขาโตขึ้น และเขาปล่อยวางมากขึ้น เมื่อก่อนคือเขาเป็นคนแบบว่า สตริกต์ว่าต้องเป๊ะ ต้องนู่นต้องนี่ ปัจจุบันนี้ คือแบบ… เราคุยกันเยอะขึ้น แล้วก็เขาปล่อยวาง เราได้เห็นธรรมชาติในตัวตนของเขามากขึ้น

เป๊ก:  ก็อย่างที่อ๊อฟบอก อ๊อฟเนี่ย… เสมอต้นเสมอปลายนะครับ

ไอซ์:  ก็คือ… ดี

อ๊อฟ:  เลว (หัวเราะ)

เป๊ก:  ถ้าพูดในด้านศักยภาพ ก็คือเหมือนเดิม ถ้าพูดนิสัยก็เหมือนเดิมอยู่ดี ถึงแม้จะไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกันมากมาย ยังเหมือนเดิม ส่วนพี่ไอซ์ ก็กลับมาคือ… ผลิตก็ไม่ทราบว่า จะกลับมาคุยอะไรกับพี่ไอซ์ดีวะ กลับมาก็จูนกันติด เพราะว่าจริงๆ แล้วเพื่อนศิลปินเราก็มีกันอยู่แค่นี้ แล้วก็รู้สึกว่า นี่คือพี่เราคนหนึ่งที่เคยทำงานร่วมกันมา อย่างยากลำบาก ประสบความสำเร็จ เหนื่อยมากทำนู่นนี่นั่น ผ่านอะไรมาด้วยกัน ผ่านมรสุม ไม่มีใครเข้าใจเราหรอก ว่าเราเหนื่อยแค่ไหน แต่เรา 3 คนรู้กันดีว่า กว่าเราจะมาถึงจุดนี้

อ๊อฟ:  มันยากนะ มันยากมาก ไม่เหมือนยุคนี้ เอาจริงๆ ยุคนี้มันง่ายครับ ด้วยความที่โซเชียลมีเดีย ทุกคนดังได้ด้วยตัวเอง

เป๊ก:  ดีใจเหมือนกันที่ได้เจอกัน

ไอซ์:  คือจริงๆ ไอซ์ภูมิใจในตัวอ๊อฟ แล้วก็ภูมิใจในตัวเป๊กมาก เพราะเวลาผ่านมา 15 ปีอย่างที่บอก คนที่เติบโตในช่วงวัยเดียวกัน มันจะรู้ขบวนการในการเติบโต กว่าจะเป็นศิลปิน กว่าจะได้ออกแต่ละซิงเกิล มันยากจริงๆ มันยาก ผ่านเวลากันมาและตลอดระยะเวลา 15 ปี เราก็จะเห็นการเติบโตทั้งของอ๊อฟทั้งของเป๊ก ว่าเขาเติบโตมายังไง กว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จในแต่ละจุดๆๆ

ไอซ์ว่าทั้ง 3 คน เราเป็นศิลปินที่โชคดีมาก เราต่างคนต่างมีจุดที่ประสบความสำเร็จของตัวเอง และผ่านจุดที่เคยไม่ประสบความสำเร็จของตัวเองเช่นกัน เพราะฉะนั้นมันก็จะเรียนรู้ว่า จุดที่มันไม่ประสบความสำเร็จมันเป็นแบบนี้ จุดที่ประสบความสำเร็จมันเป็นแบบนี้ แล้วพอเอาก้อนกลมๆ มารวมกัน  ไอซ์ก็เชื่อว่าทั้งเป๊ก ทั้งอ๊อฟ มีความแข็งแรงในการเป็นศิลปิน แล้วก็ได้เรียนรู้ก้อนๆนั้น แล้วไอซ์ดีใจมากที่ทั้ง 2 คนประสบความสำเร็จ แล้วได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักทั้งคู่เลย เวลาเราโตมาด้วยกัน แล้วเห็นคน 2 คนประสบความสำเร็จเรารู้สึกภูมิใจกับเขาด้วย

อ๊อฟ:  สักพักรถเข็นเข้า ฝันที่เป็นจริง

ไอซ์:  เวลาไอซ์พูดอะไรจะเป็นเชิงวิชาการ

อ๊อฟ:  เหมือนเราคุยกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์

แล้วช่วงเวลาที่ยากลำบากผ่านมันไปได้อย่างไรคะ

อ๊อฟ:  ก็ต้องผ่านมันให้ เพราะสุดท้ายแล้ว สำหรับอ๊อฟนะ ใช้วิธีไม่เอาตัวเองไปเปรียบกับอะไร เราแค่อยู่กับตัวเอง แล้วก็เข้าใจมันให้มากที่สุด เพราะว่า… ต่อให้เราสู้ ถ้าเขาไม่เอา มันก็คือไม่เอา

เป๊ก:  ก็ค่อนข้างเฮิร์ตเหมือนกัน เพราะว่าผมก็ทำเพลงมาหลายสไตล์ แต่ว่ามันไม่ติดสักสไตล์เลย ก็เลยไม่รู้ว่าเขาไม่ชอบเรา หรือไม่ชอบเพลงเรา หรือไม่ชอบเสียงเรา มันมีคำถามอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ เราจะไปทางไหนดี หรือเราควรจบแค่นี้ หรือเราจะไปนู่นนี่ดีแต่สุดท้ายแล้วก็… ความที่เราอยากทำเพลงที่…

อ๊อฟ:  ล้ำ! เขาชอบทำเพลงล้ำ

เป๊ก:  ไม่ล้ำเท่าไร แต่เป็นเพลงที่เราชอบ

อ๊อฟ:  คือแนวสไตล์เขาไง

เป๊ก:  มันก็เลยยากนิดหนึ่งกว่าที่มันจะ…

อ๊อฟ:  เอาจริงๆ แล้ว พอเมื่อกี้เป๊กพูดว่า ไม่รู้ว่าคนไม่ชอบเรา หรือไม่ชอบเพลงของเรา หรือว่าไม่ชอบเสียงของเรา อ๊อฟว่าตัดไอ้เรื่องไม่ชอบเรา ไม่ชอบเสียงของเราออกไปเลย อ๊อฟว่านะ ด้วยความที่ สไตล์เพลงเขา ณ ตอนนั้นมันล้ำ เมื่อย้อนไปเมื่อ 15 ปี 16 ปีที่แล้วตอนที่เขาปล่อยเพลงออกมา คือมันล้ำเกินยุคไง คน ณ ตอนนั้นก็เลยอาจจะรู้สึกเพลงอะไรวะ ดนตรีอะไรวะ อะไรอย่างเงี้ยแต่พอทุกวันนี้เขากลับมาเป็นแบบตัวเองที่ค้นพบแล้วว่าอะไรคือตรงกลาง เออ…เนี่ยมันก็เลยทำให้ เขากลับมาอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่ท้อแล้ว

ไอซ์:  ผ่านหลายช่วงมาก เหมือนอย่างที่น้องๆ บอก เพื่อนบอกเมื่อกี้ เหมือนไอซ์เริ่มต้นอาชีพนี้ด้วยการประสบความสำเร็จเลยตั้งแต่ Day One ที่เข้ามา ‘คนมันรัก’ แล้วมาต่อด้วย ‘คนใจง่าย’ แล้วมีโอกาสได้ไปทำงานต่างประเทศ เหมือนทุกอย่างพุ่งๆๆๆๆแต่พอถึงจุดหนึ่งปุ๊บ แน่นอนมันเกิดขึ้นกับศิลปินทุกคน พอขึ้นไปถึงจุดหนึ่งปุ๊บ มันจะมีจุดที่เราเดินลง วันที่เดินลง ที่นี่แหละ คือวันที่โหดร้ายที่สุดสำหรับการเป็นศิลปิน แล้วต่อให้บอกว่าไม่คิดอะไรเลย เป็นไปไม่ได้ เพราะมันจะเกิดจุดที่เราเพลงเท่าไรก็ตาม เรารู้สึกมันไม่ไปถึงจุดนั้น

แล้วตอนที่ไอซ์รู้สึกตอนนั้นคือเพลงอะไรรู้ปะ ‘หอม’กับ ‘แพ้แล้วพาล’ ซึ่งทุกวันนี้มันกลายเป็นเพลงฮิต แต่ ณ ตอนนั้นที่ไอซ์ทำ ‘หอม’กับ ‘แพ้แล้วพาล’ ไอซ์แม่งเจ็บปวดมากว่า ทำไม’หอม’ มันไม่เท่า จั๊ดจาดาดาวะ ทำไม ‘แพ้แล้วพาล’ ไม่เท่า ‘เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ’ วะ คือตอนนั้นไอซ์รู้สึกแบบนั้น แต่พอเวลามันผ่านมาเรื่อยๆ แล้วไอซ์รู้สึกอะไรแบบนั้นไปเรื่อยๆ จนไอซ์เหมือนเฟลๆๆ จนไอซ์มาเจอ ‘บุพเพสันนิวาส’ แล้วมันทำให้ไอซ์รู้สึกว่า

จริงๆ ชีวิตคนเรามันเหมือนโรลเลอร์โคสเตอร์ ไอซ์ขอบคุณ ‘บุพเพสันนิวาส’ นะ ที่ทำให้เรียนรู้ว่าจริงๆ แล้ว คือมนุษย์เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จเสมอ หรือตลอดไปก็ได้ แต่จำในโมเมนต์ที่เราประสบความสำเร็จว่านั่นคือรางวัล ว่านั่นคือรางวัลที่มันมีค่าที่สุดสำหรับอาชีพของการเป็นนักร้องแล้ว ถ้าใครก็ตามที่เป็นนักร้องแล้ว ได้ไปแตะจุดนั้น จุดนั้น จุดนี้ จงภูมิใจกับสิ่งที่เคยทำได้แล้ว แล้วให้ทุกโมเมนต์ที่ต่อจากนั้นเป็นกำไร โดยที่มันอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่านั้นแล้วก็ได้ แต่นี่คือกำไรของคุณแล้วไง

นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไอซ์พยายามใช้ชีวิตตอนนี้แบบ Work-Life Balance มาก ไอซ์ร้องเพลงอาทิตย์หนึ่ง สองสามวันแล้วก็ไปเที่ยว เที่ยวเยอะมาก เพราะไอซ์รู้สึกว่านี่คือบาลานซ์ชีวิตของไอซ์ ตอนนี้ไอซ์พูดเลย ไอซ์เลือกที่ทำเฉพาะสิ่งที่ไอซ์สบายใจที่จะทำ เป๊ก ออฟ ไอซ์ ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ตอนที่พี่เขาโทร.มาถามว่า ไอซ์จะทำมั้ยแต่เป๊ก ออฟ ไอซ์ เป็นหนึ่งในสิ่งที่รู้สึกว่าอยากที่จะกลับมาทำ แล้วก็อยากที่จะทำ แล้วก็ขอบคุณมากทำด้วยกัน

เป๊ก:  บัตรขายหมด บัตรขายหมด

อ๊อฟ:  เพิ่มรอบ เพิ่มรอบๆ

 

การกลับมาของเป๊ก ออฟ ไอซ์ ในรอบ 15 ปี

อ๊อฟ:  โอ้ว… เอาอยู่แล้ว เพราะว่าคือคิดถึง บรรยากาศคอนเสิร์ตที่เรา 3 คนจะต้องทำด้วยกัน คืออ๊อฟไม่ได้คิดถึงคอนเสิร์ตนะ อ๊อฟคิดถึงบรรยากาศตอนซ้อม เราจะต้องใช้เวลาร่วมกัน ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก เราบอกเลยว่า เรา 3 คนเก่งขึ้น

ไอซ์:  คลังแสง

อ๊อฟ:  เราทั้ง 3 คนเก่งขึ้น เพราะประสบการณ์ที่เราสั่งสมมา 15 ปี ทั้งเรื่องงาน และเรื่องชีวิต เราก็จะมีคอนเสิร์ต ‘The Concert Application Presents Peck Aof Ice InFriendnity Concert’  ธีมคอนเสิร์ตก็เป็น InFriendnity แหละ เพื่อนกันตลอดไป

เป๊ก:  แกบอกเขาเก่งขึ้น กลัวมากเลย กลัวร้องเพี้ยน กลัวร้องเพี้ยนในคู่ 3 ต้องเทสต์หน่อย

พร้อมกัน:  ไม่ต้องรับสาย ถ้าเธอไม่เหงา อยู่กับเขาก็รู้เธอคงไม่แคร์คนอย่างฉัน ฉันมันก็แค่คนโทร.ผิด บอกเขาฉันโทร.ผิด ผิดเองที่เป็นคนมาทีหลัง แล้วยังไปรักเธอ

เป๊ก:  ตื่นเต้นมาก ว่าจะร้องคู่ 3 ไม่ถูก ไม่ได้ร้องมา 15 ปี

อ๊อฟ:  สำหรับคอนเสิร์ต ‘The Concert Application Presents Peck Aof Ice InFriendnity Concert’ เราจะเล่นกันที่ รอยัล พารากอนฮอลล์ วันที่ 4-5 พฤศจิกายนนี้ ส่วนบัตรเราจะเปิดจองกันวันที่ 2 กันยายนนี้นะครับ กับ The Concert  Application หรือ theconcert.com

เป๊ก:  ยังไงก็ฝากทุกคนนะครับ ติดตามคอนเสิร์ตของพวกเราด้วยนะครับ พวกเราเต็มที่แน่นอนนะครับ 15 ปียังไง 15 ปีอย่างนั้นเลย กลับมาเจอกันนะครับ

ไอซ์:  ก็มาเจอกันนะครับ ทั้งเป๊ก ทั้งอ๊อฟ ทั้งไอซ์ เชื่อว่าเราร้องเพลงด้วยความสุข

อ๊อฟ:  และเชื่อว่าคนฟังก็จะมีความสุขกับเราเช่นกัน และช่วงนี้คอนเสิร์ตเยอะมาก ปันใจปันเงิน เก็บเงินมาให้พวกเราด้วยนะครับ มาดูคอนเสิร์ตของพวกเราด้วยนะครับ

Text: AuAi / Photo: เนาวพจน์ โพธิเกษม 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ  

ญดา-ภณ-มีน สามนักแสดงนำจากกรงดอกสร้อย สลัดชุดย้อนยุคขึ้น Sudsapda Digital Cover

เปิดทุกมุมของ เหยาเชิน ทั้งชีวิตส่วนตัวและเส้นทางก่อน-หลังเดบิวต์!