ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ขึ้นแท่น CEO ค่ายเพลง เปิดตัว วง PROXIE บอยกรุ๊ปน้องใหม่สู่เส้นทางไอดอล

account_circle
event

 

เรียกว่าน่าจับตามองสุดๆ สำหรับวง “PROXIE (พร็อกซี)” ศิลปินT-POP เบอร์แรกของค่าย “bROTHERS Music (บราเธอร์ มิวสิก)” เพราะไม่ได้มีแค่คาแรคเตอร์ของพวกเขาเท่านั้นที่น่าสนใจ แต่งานนี้เบื้องหลังยังมีพระเอกตลอดกาล อย่าง ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี มานั่งแท่นผู้บริหารค่ายเพลงครั้งแรกด้วย

โดย 6 หนุ่มสมาชิก ได้แก่ กร วรรณไพโรจน์ , โชกุน-ปวริศร์ ศรีชัยชนะ, อองรี-เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์ , กัน-รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์ , วิคเตอร์-วรเมธ กอนุประพันธ์ และ คิม-ปัณณธร จิรศาสตร์ แต่ละคนนั้นฝีมือไม่ธรรมดา ทั้งการร้องและเต้น รวมถึงความมุ่งมั่นเกินร้อย

สุดสัปดาห์ไม่พลาดที่พาทุกคนไปเปิดวาร์ปทำความรู้จัก ลูกชายทั้ง 6 คนของพี่ติ๊ก รวมถึงพูดคุยถึงอีกหนึ่งบทบาทในการเป็นผู้บริหารค่ายเพลงของเจ้าป่าในตำนานคนนี้ด้วย

 

เราได้เจอกันในวันที่เดบิวต์ วง PROXIE (พร็อกซี) อย่างเป็นทางการ พี่ติ๊กในฐานะผู้บริหารค่ายเพลง และเป็นผู้ผลักดันน้องๆ มีความรู้สึกอย่างไรบ้างคะ

พี่ติ๊ก:   วันนี้เป็นวันที่ตื่นเต้นมากๆ ครับ แล้วก็เป็นวันที่เรารอคอยจริงๆ เรามีแพลนวันที่อยากจะให้เขาเดบิวต์ซิงเกิ้ลแรกตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วหลังจากที่พวกเขาจบโปรเจ็กต์ The Brothers  เราก็รอกันมานานมาก จนถึงวันนี้ ผมคิดว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว  ต้องขอบคุณแฟนๆ และขอบคุณน้องๆ ที่อดทนเพื่อรอวันนี้

 

แล้วสมาชิกทั้ง 6 คนรู้สึกอย่างไรบ้างคะ

กัน:  ผมขอพูดแทนทุกคนแล้วกันนะครับว่าพวกเรารู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆ  อย่างที่พี่ติ๊กพูดเลยครับ เราก็เฝ้ารอคอยโอกาสนี้มาค่อนข้างนานพอสมควร ระหว่างนั้นก็มีการฝึกซ้อม มีการเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ว่าเมื่อไรก็ตามที่จังหวะได้ สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น เราก็พร้อมที่จะเดบิวต์เลย ซึ่งก็คือวันนี้ครับ  เราพร้อมที่จะโชว์ให้แฟนๆ ได้เห็นถึงศักยภาพและส่งมอบความรักให้กับทุกคนแล้วครับ

 

การขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารค่ายเพลงของพี่ติ๊กนับว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์วงการ และแฟนๆมาก ไปยังไงมายังไงพี่ติ๊กถึงเข้ามาทำตรงนี้ได้คะ 

พี่ติ๊ก:  จะเห็นได้จากที่เราใช้ชื่อค่ายว่า “bROTHERS Music (บราเธอร์ มิวสิก)” ครับ คือนี่เป็นสิ่งที่เราต่อยอดจากโปรเจ็กต์ The Brothers เมื่อ 2 ปีที่แล้วที่เราเฟ้นหาน้องๆ เยาวชนที่มีหน่วยก้านดี มีอะไรบางอย่างในตัวเอง แล้วเราก็มาช่วยกรูมมิ่งหลังจากที่จบโปรเจ็กต์ เพื่อเขาจะได้มีโอกาสทำงานต่อในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแสดง ร้องเพลง เล่นดนตรี ฯลฯ บอยกรุ๊ปนี่คือสิ่งที่เราต่อยอดขึ้นมา และ bROTHERS Music ก็เป็นค่ายที่ซัพพอร์ตตรงนี้ โดยเราตั้งใจเดบิวต์ศิลปินกลุ่มแรกของค่ายก็คือ PROXIE ครับ

 

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

 

หลายคนอยากรู้ว่าเมื่อพระเอกตลอดกาล และเจ้าป่าเนวิเกเตอร์มาเป็นผู้บริหารค่ายเพลง ซึ่งดูพลิกบทบาทไปอย่างสิ้นเชิงพี่ติ๊กเจออุปสรรคอะไรบ้างไหมคะ

พี่ติ๊ก:  จะบอกว่ามันไม่ยาก และมันก็ไม่ง่ายนะครับ อุปสรรคหนึ่งที่แน่นอนคือ เรื่องของตัวบุคคล มันอยู่ที่ว่าเขาตั้งใจจริงหรือเปล่า เขามุ่งมั่นจะพัฒนาตัวเองมากน้อยขนาดไหน เขาใฝ่รู้และมีความฝันมากน้อยขนาดไหนในสิ่งเขาอยากจะเป็น เราจะดีใจมากถ้าเขามุ่งมั่น ผมจะพยายามผลักดันเขาอยางเต็มที่ เพื่อให้เขาไปตามความฝันนั้นได้ เรียกว่า “ความฝันของเขาก็คือความฝันของผม” หรือจะพูดว่า “ความฝันของผมฝากไว้ที่ความฝันของเขา” ก็ได้เหมือนกัน นี่คือข้อหนึ่งซึ่งเป็นความยากเพราะเราต้องฝากไว้ที่ตัวบุคคล

 

สอง คือความยากในเรื่องของตลาด เราไม่สามารถจะคาดเดาได้ว่า ตลาดในตอนนี้ผู้บริโภคชอบแบบไหน จะรับอิทธิพลมาจากโซนประเทศไหนในช่วงนั้น เทรนด์เป็นแบบไหน แฟชั่นเป็นยังไง เพลงที่เขาฟังเป็นยังไง สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเจ๋งมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีมาตรฐานเพื่อเป็นแนวทางให้พวกเขาสามารถไปต่อได้ และถ้าอนาคตเราจะไปได้ไกลกว่า เหนือกว่ามาตรฐานนั่นคือยิ่งดี

 

อุปสรรคต่อมา คือสิ่งที่เราไม่คาดคิด อย่างที่ผ่านมาก็คือ โควิด-19 ที่ทำให้หลายๆ คน หลายๆ อาชีพไม่สามารถประกอบอาชีพนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสายอาชีพบันเทิงแบบนี้ เราต้องโชว์ ต้องถอดแมสก์ ออกไปเอนเตอร์เทน ต้องเจอผู้คนมากมาย ดังนั้นเราก็เลยต้องรอคอยวันที่เราสามารถทำได้จริงๆ มองอีกมุมหนึ่งก็มีข้อดีหมือนกันนะ มันทำให้เราได้ตกผลึก ได้มีการฝึกซ้อมวิชาเพิ่มมากขึ้น โอเคในวันนั้นเราอาจจะพร้อมประมาณหนึ่ง ออกไปก็อาจจะดีในระดับหนึ่ง แต่ในวันนี้เมื่อเรามีโอกาสซ้อมมากขึ้น นั่นแปลว่ามันย่อมดีกว่าวันนั้นถ้าเราก้าวออกไป

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

หลายคนแซวว่าพี่ติ๊กเป็นสมาชิกคนที่ 7 แล้วตอนนี้ 

พี่ติ๊ก:  ต้องบอกว่า พี่ติ๊กขอเข้าแก๊งด้วยได้มั้ย (หัวเราะ)

 

แล้วพี่ติ๊กมีแพลนอยากจะทำซิงเกิ้ลเพลงเป็นของตัวมั้ยคะ 

พี่ติ๊ก:  อันนี้ก็ไม่แน่นะครับ ถ้ากระแสสังคมกดดันมากๆ ก็มีซิงเกิ้ลแรกซะหน่อยนะ (หัวเราะ) คือถ้าทำเล่น ทำในติ๊กต่อกพอได้ แต่ถ้าจริงจังไม่น่าจะไหวครับ

 

แอบรู้มาว่าตอนเด็กๆ พี่ติ๊กก็มาทางสายดนตรีเหมือนกัน 

พี่ติ๊ก:   ผมหัดเล่นกีตาร์คลาสสิก ตั้งป. 6 จนกระทั่งถึงปี 1 ในมหาวิทยาลัย แล้วก็ได้มีการฟอร์มวงดนตรีกับเพื่อนๆ พอฟอร์มวงปุ๊บ เราก็ไปทางร็อค ป๊อป แล้วก็มุ่งมั่นสู่เวที อยากประกวดโปรเจ็กต์อะไรสักอย่าง แต่แล้วความฝันนั้นก็จบไป เนื่องจากว่าติดเรื่องเรียน บวกกับเพื่อนในวงเริ่มรีไทร์ไปทีละคนสองคน จนเหลือผมคนเดียว ก็เลยพักเรื่องดนตรี หันไปมุ่งเรื่องเรียน เรียนสักแป๊บก็มาเล่นภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง ทำให้ความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นทั้งการเรียน และงานแสดง เราเลยพักดนตรียาว

แต่ความฝันของผมในวันนั้นยังคงอยู่นะครับ เราทำไม่ได้ไม่เป็นไร วันนี้เรามีตัวแทนของเราที่ก้าวออกไป ผมก็เลยมองว่า นี่แหละที่ทำให้เราอยากจะปั้นน้องๆ ศิลปินขึ้นมา ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้เดบิวต์เป็นบอยแบนด์ในการเล่นดนตรี แค่ผมคิวว่าน้องๆ PROXIE ทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัวหลายรูปแบบ จริงๆ แล้วเขาสามารถเล่นดนตรีก็ได้ ร้องเพลงก็ได้ เต้นก็ได้ ผมว่าเพลงต่อๆ ไปจะมีเซอร์ไพรส์มาอีกเรื่อยๆ ครับ

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

เสน่ห์ของวง PROXIE คืออะไรคะ

พี่ติ๊ก:  ผมว่าด้วยคาแร็คเตอร์ของน้องๆ เขามีความสนุกอยู่แล้ว ต้องบอกว่า PROXIE เราสนุก เราจะมีความเป็นธรรมชาติ คือผมอยากให้ทุกคนมีตรงนี้  ซึ่งน้องๆ มีธรรมชาติที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องเข้ามาช่วยปรับแต่งนิดหน่อย เรื่องของการฝึกซ้อมและทีมเวิร์ค

 

แล้วชื่อวง PROXIE มีที่มาที่ไปอย่างไรคะ

กร:  พวกเราทั้งหมดได้รับโอกาสให้ร่วมกันออกไอเดียคิดชื่อวง โดยได้โจทย์มาว่า อยากให้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ตอนแรกพวกเราก็คิดไม่ออก (ยิ้ม) มีหลายชื่อที่ผุดขึ้นมาแต่ยังไม่ใช่ จนผมนึกได้คำนึงที่เราเคยได้ยินตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความที่ชอบเล่นเกม เล่นคอมพ์บ่อย ก็จะเจอคำว่า Proxy เลยไปเสิร์ชดูความหมาย ซึ่งมันแปลว่า ตัวกลางที่จะช่วยสื่อสารระหว่าง User กับ Server ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย ก็เปรียบพวกเราทั้ง 6 คน เป็นเหมือนตัวกลางช่วยคอนเนคท์ระหว่าง ความสุขและPositive energy ต่างๆ กับแฟนคลับ พวกเราคิดว่าเป็นความหมายที่ดีมากๆ เลยครับ

พี่ติ๊ก:  ผมเปิดกว้างครับ มุมมองพวกเขาเป็นแบบไหน ชอบอะไร เขาอยากเป็นอย่างไร ชื่อวง เนื้อเพลง สไตล์ดนตรี จริงๆ คำว่า  Proxy เรามีการปรับเปลี่ยนตัวหนังสือให้เท่ากับ 6 ตัวอักษร เท่ากับคน 6 สมาชิก มาลงตัวที่ PROXIE ซึ่งเป็นคำที่แปลกดีสำหรับผม ด้วยความที่ผมกับน้องๆ วัยห่างกัน คือถ้าเอาความคิดเราเป็นหลัก มันก็ไม่ใช่ ไม่ตรงรุ่น เราต้องเอาความคิดพวกเขา เมื่อมีคนใดคนหนึ่งเสนออะไรขึ้นมา พวกเขาจะช่วยกันโหวต อันไหนดีอันไหนไม่ดี แล้วเราก็จะคอยช่วยขัดเกลา อืม… น่าสนใจ อันนี้ดี ไหนอธิบายหน่อยซิ เหตุผลคืออะไร เขาก็จะมีเหตุผลในการอธิบาย ซึ่งผมก็จะรับฟังและซื้อไอเดียเขา

 

อยากให้เล่าถึงเบื้องหลังการทำงาน ซิงเกิ้ลแรก Crazy Love (รักบ้าบอ) ให้ฟังหน่อยค่ะ

พี่ติ๊ก:  พี่เปิดก่อนนะ (หันไปยิ้ม) สำหรับการเบรนสตอร์ม เราต้องมีทิศทางว่าอยากให้เพลงของเราเป็นสไตล์ไหน ซึ่งเราก็อยากให้มันเป็นอะไรที่ฉีกขึ้นมาหน่อย แล้วก็มีกลิ่นอายความ90 นิด ๆ ผสมผสานกับความสมัยใหม่ จากนั้นน้องๆ ก็มาเบรนสตอร์มกัน เราได้ 2 โปรดิวเซอร์ชื่อดังของเมืองไทยอย่าง พี่เอฟู-ณรงค์ศักดิ์ ศรีบรรฎาศักดิ์วัชรากรณ์ และ พี่ก๊อป-ธานี วงศ์นิวัติขจร มาช่วยแต่งคำร้องและทำนอง เรามีการพูดคุยกัน แล้วนำมาผสมผสานกันว่า อยากจะให้คาแร็คเตอร์ของพวกเขาเป็นแบบไหน คือเขาอาจจะไม่ได้ออกมาเต้นแบบจริงจัง เป๊ะปังเป็นหุ่นยนต์ แต่ผมอยากให้เวลาเขาเต้นแล้วมีเสน่ห์ เพราะมันเป็นเพลงที่ขี้เล่นๆ มีความดิสโก้หน่อยๆ เพลงเลยออกมาจำง่าย ติดหู เต้นง่ายครับ

กัน:  หลังจากปล่อยเพลงแล้ว เราก็มีชาเลนจ์ให้ทุกคนได้เต้นตาม ท่าไม่ยากครับ เต้นตามได้เลย ท่าเต้นครูออกแบบมาเพื่อให้เต้นตามกันได้ครับ

วิคเตอร์:  เพลงเร็วมีจังหวะ แนวเรโทร เปิดแล้วเต้นได้เลย ร่างกายเราจะไปเองครับ ท่าเต้นง่ายนิดเดียว

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

แล้วเคยมีประสบการณ์ Crazy Love รักบ้าบอกันบ้างมั้ยคะ 

พี่ติ๊ก:  ให้วัยรุ่นเล่าก่อนเลยครับ

กร:  ผมเชื่อว่าทุกคนมีความรักกันมาก่อน รักครอบครัว รักเพื่อน  ซึ่งคอนเนคท์กับเพลงของเราได้ เป็นอาการคลั่งรัก มากกว่ารัก จนกลายเป็นรักบ้าบอ หลับตาก็เห็นแต่เขา เป็น love at first sight  แค่มองตาก็รัก

คิม:  คิมเป็นกับสิ่งของ เป็นคนขี้เห่อ เห่ออะไรก็เห่อนาน ขนาดโทรศัพท์ซื้อนานแล้ว พอทำความสะอาด มันก็เหมือนได้ของใหม่ ก็เกิดอาการรักของใหม่ เป็นความรักที่อะไรก็ไม่รู้ บ้าเอ๊ย (หัวเราะ)

วิคเตอร์:  ส่วนตัวผมไม่มีแฟน แต่ถ้าคุยกับใครแล้วก็จะชอบมากๆ

โชกุน:  รักใครแบบบ้าบอ ยังไม่เคยครับ จะเป็นแนวแอบชอบ ปั๊บปี้เลิฟมากกว่า

อองรี:  ทุกคนเฉียบหมด (หัวเราะ) ผมว่าการที่เคยมีความรักมาก่อน มันคือประสบการณ์ที่สร้างความสุขให้กับเราในเวลานั้น วันนี้เมื่อต้องแสดงให้แฟนคลับชม ผมก็หวังว่าทุกคนจะได้รับความรักและความสุขจากเราครับ

กัน:  รู้สึกว่าน้องๆ พูดกันหมดแล้ว ความรักบ้าบอของผมคือความรักที่มีให้แฟนๆ เราจะเป็น PROXIE ไม่ได้เลย ถ้าขาดแฟนๆ ขอบคุณที่คอยเชียร์และซัพพอร์ตครับ

พี่ติ๊ก:  ของผมไม่ต่างจากน้องๆ เมื่อก่อนเราก็มีความรักนะ รักแบบหัวปักหัวปำ มองดูหลังคาบ้านเขา พออกหักเราก็บ้าบอเลย ถือเป็นประสบการณ์ครับ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ขอเพียงแค่ความรักไม่ได้ทำร้ายซึ่งกันและกัน ความรักมันต้องมีเรื่องของภาวะทางอารมณ์ ภาวะทางจิตใจ ความรักควรมีเหตุผลซึ่งกันและกัน แต่ถ้าน้องๆ จะมารัก PROXIE แบบไม่มีเหตุผล พี่เข้าใจนะครับ (ยิ้ม)

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้แต่ละคนอยากเข้ามาเป็นศิลปิน

อองรี:  แม่ผมชอบดูศิลปิน K-POP ครับ ผมก็ดูกับแม่มาตั้งแต่เด็ก เคยบอกแม่ว่าอยากจะแสดงบนเวที คือเราก็ชอบร้องชอบเต้นนะ แต่อาจจะยังไม่จริงจังมาก จนกระทั่งได้เข้าร่วมรายการ The Brothers ผมชอบมากครับ เพราะได้ร้อง ได้เต้น ได้อัพสกิลของตัวเองจนทำตามความฝันได้สำเร็จ ต้องขอบคุณคุณแม่ที่สนับสนุน คุณแม่ดีใจกับผมมาก บอกทุกวันว่า “อองรีได้เดบิวต์แล้วๆ” (ยิ้ม)

กัน:     จุดเริ่มต้นที่ผมชอบการร้องเพลงมาจากพี่สาว เขาชอบร้องเพลง กันก็จะตามดูตามเชียร์ ทำให้ค่อยๆ ซึมซับความชอบร้องเพลงมาด้วย ส่วนคนที่เป็นไอดอลของผมจริงๆ ก็คือพี่นิชคุณ ในรายการ The Brothers มีพี่ติ๊ก พี่อนันดา พี่มาริโอ้ และพี่นิชคุณเป็น Broach ผมเลยตัดสินใจสมัครเข้ามาในรายการ เราอยากมาเรียนรู้ อยากรู้ว่าวิธีคิดของไอดอลเป็นอย่างไร วิธีการทำงาน วิธีการวางตัว จนเราผ่านเข้ามาเป็น PROXIE ได้อย่างทุกวันนี้ ภูมิใจมากครับ

กร:        ผมโชคดีที่ได้รับโอกาสในการเล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก เราชอบฟังเพลง ชอบเล่นดนตรีมาตลอด พอมีโอกาสเข้ารายการ The Brothers มีโอกาสได้โชว์ ได้เล่นดนตรีให้คนอื่นฟัง ทำให้ค้นพบว่าการส่งพลัง ส่งความสุขให้คนดูด้วยการเล่นดนตรี เต้น การแสดง ทำให้ผมมีความสุขตามไปด้วย เลยเป็นแรงผลักดันให้อยากเป็นศิลปินครับ

คิม:  ตอนเด็กๆ ผมชอบดูการ์ตูน ก็ดูไปเรื่อยๆจนวันหนึ่งเจอช่องเพลง เป็นเพลงเกาหลีวงหนึ่ง ฟังแล้วรู้สึกว่าดนตรีดีจัง ทั้งที่ฟังไม่ออกนะครับ ก็จำชื่อเพลงไว้ไปเปิดยูทูบ หัดฟัง หัดร้อง หัดเต้นตาม เริ่มมีความฝันเล็กๆ ว่าอยากเก่งเหมือนเขา แต่แล้วความฝันก็หายไปตามกาลเวลา จนผมได้มีโอกาสเป็นผู้นำเชียร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ทำให้เรากลับมาชอบทางนี้อีกครั้ง เริ่มศึกษาจริงจัง แล้วเป็นจังหวะที่รายการ The Brother อยากจะค้นหาไอดอลพอดี ต้องขอบคุณรายการและพี่ติ๊กมากๆ

วิคเตอร์:  ผมน่าจะคล้ายกับหลายๆ คน คือมีไอดอลเกาหลีเป็นแรงบันดาลใจ คือพี่เลี้ยงผมฟังเพลง K-POP ทุกวัน  ฟังอยู่เพลงเดียวเปิดทั้งวัน (หัวเราะ) ผมก็เลยลองฟัง ลองศึกษา จนได้รู้จักกับวง BTS รู้สึกว่าเขาเก่งจัง ชื่นชมเขามากๆ และน้าผมก็เห็นผมเต้น เลยส่งไปเรียนเต้นเป็นกิจกรรมเสริม แล้วน้าผมอีกเหมือนกันที่เห็นป้ายรายการ The Brothers บนทางด่วน แล้วโทรหาผมให้ผมสมัคร ซึ่งตอนนั้นผมไปเที่ยวที่แอฟริกาก็ต้องถ่ายคลิปจากแอฟริกาส่งมาสมัคร  (หัวเราะ)

โชกุน:  คล้ายกันเลยครับ แรงบันดาลใจผมก็มาจากศิลปิน K-POP และผมเองก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นด้วยครับ การได้เข้ามาอยู่ในรายการ The Brothers ได้เรียนรู้ด้านดนตรี การร้อง การแสดง การพูดคุยกับสื่อ การวางตัวในวงการ เป็นพื้นฐานที่ดีให้ผมมากๆ เลยครับ

 

 

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

ถ้าเลือกได้แต่ละคนอยากร้องเพลงฟีเจอริ่งกับใครคะ

กัน:  มีในใจเยอะเลย อยากร่วมงานที่สุดคือจัสติน บีเบอร์ ชื่นชมในความสามารถ และความพยายาม กว่าจัสตินจะมีวันนี้ เขาผ่านอะไรมาเยอะ ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ถ้าเรามีแพชชั่น เรามีความสุขที่ได้ทำจริงๆ เราจะสามารถไปถึงจุดที่เราตั้งเป้าหมายไว้ได้

กร:  เลือกยากครับ เราชื่นชมและเคารพหลายคน ผมชอบวง The Parkinson ถ้าพวกเราได้เล่นดนตรีกับพี่ๆ น่าจะเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ เลยครับ เป็นประสบการณ์ดีๆ ให้เรา

คิม: อยากร่วมงานกับ Tattoo Colour ติดตามมาตั้งแต่ประถม พี่ๆ เท่มาก ถ้าได้ร่วมงานกันต้องสนุกมากเลยครับ

วิคเตอร์: คล้ายกร ผมชอบ The Parkinson แนวดนตรีของวงเป็นแนวที่เราชอบ

อองรี:  Silly Fools ครับ ชอบแนวร็อคครับ ถ้ามีโอกาสร่วมงานจะคอมพลีตเลยครับ

โชกุน:   ปลื้มวง Tattoo Colour ครับ ชอบความสามารถทุกอย่างเลย

พี่ติ๊ก:  ผมชอบศิลปะหลายรูปแบบเลย แต่ละช่วงก็ต่างกัน แต่ช่วงนี้มีคนพิเศษสำหรับผมมากเลย ผมชอบโบกี้ไลอ้อน กดไลก์ให้ตลอดเลยครับ เป็นศิลปินที่มีสไตล์ของตัวเอง เก่งมาก มีความสามารถเฉพาะตัว และมีเสน่ห์มาก

 

ให้โอกาสเมาท์ค่ะ การเข้ามาอยู่ในความดูแลของพี่ติ๊กเป็นอย่างไรบ้างคะ

กัน:  ก่อนเข้ารายการ เราจะคุ้นเคยกับพี่ติ๊กที่อยู่ในป่า เป็นเจ้าป่า มีความขรึม และมีความเป็นพระเอกหล่อ เท่ๆ คูลๆ พอเจอกันจริงๆ พี่ติ๊กเป็นคนตลกครับ มุกเยอะมาก เก็บทุกเม็ดห้าบาทสิบบาท (หัวเราะ)  เป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็น ประทับใจมากครับ

คิม: นอกจากเรื่องการทำงาน พี่ติ๊กจะคอยแนะนำเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ต้องรู้จักการแยกขยะ รวมถึงสอนเรื่องการวางตัวในสังคม ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

วิคเตอร์:    พี่ติ๊กตอนทำงานจะจริงจังซีเรียส ถ้าชิลแล้วก็จะมีมุมเล่นๆ ด้วยครับ

 

 

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

พี่ติ๊กล่ะคะทำงานกับน้องๆ เป็นอย่างไรบ้าง 

พี่ติ๊ก:  ผมค่อนข้างถนัดการปกครองผู้ชาย เพราะเติบโตในบ้านที่มีแต่ผู้ชาย ผมมีน้องชาย การดูแลเด็กผู้ชายน่าจะง่ายกว่า ในเรื่องของการพูดคุย กับผู้หญิงเราอาจจะไม่กล้าพูดในบางอย่าง เกรงจะกระทบกระเทือนใจ ผู้ชายเราพูดตรงได้มากกว่า รุ่นโตหน่อยเราก็ เฮ้ยมึง! ได้ ไม่ได้หมายถึงต้องพูดคำหยาบนะ แต่มันเป็นความรู้สีกที่ทำให้เชื่อมโยงใกล้ชิดมากขึ้น ผู้ชายมองตาก็รู้ใจ ตอนนี้ใครมาทำงานสาย ก็อาจจะมีหลายเหตุ ใครที่โกหกบางอย่างเราก็รู้ทัน เรียกมาตักเตือนได้ คุยกันแบบผู้ชายๆ เข้าใจกันง่ายกว่า แต่ที่ผมพูดไปทั้งหมด บางทีก็ไม่แน่ใจ 100% เขาเชื่อกี่เปอร์เซ็นต์ อย่างล่าสุดเรื่องขยะ พูดแล้วพูดอีก เข้าไปในห้องมดยังขึ้นอยู่เลย (หัวเราะ)

 

กร:  (รีบมอบตัว) ล่าสุดผมลืมกาแฟไว้ในห้องพักแล้วมดขึ้น ปกติก่อนกลับพวกเราจะเคลียร์ เก็บขยะทิ้งกัน แต่วันนั้นมีถ่ายงาน คิดว่าจะกลับมาอีกแต่ก็เลยไปที่อื่นต่อ ลืมครับ ขอโทษครับ

 

อยากให้พี่ติ๊กฝากถึงน้องๆ ที่มีความฝันอยากเป็นไอดอลสักนิดค่ะ

พี่ติ๊ก:  ผมเชื่อว่าถ้าน้องๆ มีความตั้งใจจริง มีความฝัน ณ ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้ทุกคนได้โชว์ความสามารถครับ เด็กรุ่นใหม่ยุคนี้กล้าคิด กล้าทำ แต่ควรกล้าในทางสร้างสรรค์ สำหรับผม ผมต้องการคนที่มีมากกว่าความเป็นไอดอล นอกจากความสามารถเรื่องร้อง เต้น การแสดง ในขณะเดียวกัน บุคลิก ความเป็นตัวเองก็สำคัญ ผมอยากให้พวกเขาเป็นคนที่มีคุณภาพในสังคม ทำงานดีทำงานเก่ง แต่ก็ต้องเป็นที่รักด้วยนะ เราอยู่ร่วมกันในสังคม พวกเขาต้องอยู่ให้ทุกคนรักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเขาต้องเป็นทั้งไอดอลและเป็นคนคุณภาพของสังคมครับ

 

 

ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี

 

ทำความรู้จัก 6 สมาชิก วง PROXIE 

รัชชานนท์ เรือนเพ็ชร์ หรือ กัน (GUN)” พี่ใหญ่ของวง หนุ่มหน้าหวาน เจ้าของดวงตาและรอยยิ้มพิฆาต  มาพร้อมพรสวรรค์รอบด้าน ทั้งการร้อง แร็ป เต้น และตีกลอง กันจบการศึกษาจาก ม.หอการค้าไทย คณะมนุษยศาสตร์และประยุกต์ศิลป์ สาขาการจัดการธุรกิจสายการบิน เห็นมาดนิ่ง ๆ แบบนี้ ถ้าได้สนิทกับใครแล้ว เขาจะกลายเป็นคนคุยเก่ง แถมยังแอบมีกวนบ้าง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง ชอบเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ที่สำคัญเจ้าตัวเป็นคนใจเย็นมาก ๆ ดังนั้นถ้าใครทำให้เขาร้อนได้ก็ขอคารวะเลย

ส่วนตอนเด็ก ๆ  เพื่อน ๆ ตั้งฉายาให้กันว่า ไอหล่อ , ขี้เก๊ก หรือ หนุ่มหน้ามน สำหรับความใฝ่ฝันตอนเด็กของหนุ่มกัน อยากเป็นทั้ง นักบินอวกาศ นักธุรกิจ เศรษฐี แต่สิ่งที่ชัดเจน และไม่เคยเปลี่ยนคือศิลปิน” กันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง  เรื่องที่ทำให้กันภูมิใจมากที่สุดคือ การได้ถ่ายเอ็มวีเพลงตัวเองที่เกาหลีถึง 2 เพลง เพราะเคยเดบิวต์มาก่อนที่จะมาอยู่วง “PROXIE”  นั่นเอง และตอนนี้ตื่นเต้นสุด ๆ ที่จะได้ปล่อยผลงานให้แฟน ๆ ได้ชมกัน IG :  HYPERLINK “https://www.instagram.com/gunn.proxie/” @gunn.proxie  และ Facebook :  HYPERLINK “https://web.facebook.com/GunnPROXIE-108880530773895/?_rdc=1&_rdr” gunn.proxie  

ปัณณธร  จิรศาสตร์ หรือ คิม (KIM)” หนุ่มหล่อ ลุคตี๋อินเตอร์คนนี้ เป็นลูกครึ่งไทย–จีน เจ้าของฉายา “ไอตี๋” ที่มีเสน่ห์อยู่ที่ตาชั้นเดียว จบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์ EBA  คิมมีความสามารถพิเศษ คือการว่ายน้ำ เรื่องที่ทำให้เขาภูมิใจมากที่สุด ก็คือครั้งหนึ่งคิมเคยช่วยเด็กที่กำลังจมน้ำในทะเลที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยได้เป็นผู้นำเชียร์ของจุฬาฯ  อีกด้วย ภายนอกของหนุ่มคิมนั้นอาจเหมือนเป็นคนนิ่ง ๆ แต่จริงๆ เป็นคนเฮฮา สนุกสนาน โดยเจ้าตัวได้นิยามความเป็นตัวเองว่า เฟี้ยว ฟ้าว มะพร้าว  ส่วนเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวอยากเข้าวงการบันเทิง  เพราะเป็นสิ่งที่ทำแล้วชื่นชอบ ไม่รู้สึกเบื่อ และยังมีความฝันว่าอยากทำงานด้านเบื้องหลังอีกด้วย  IG :  HYPERLINK “https://www.instagram.com/kim.proxie/” @kim.proxie และ Facebook :  HYPERLINK “https://web.facebook.com/profile.php?id=100027332662034” kim.proxie

ปวริศร์ ศรีชัยชนะ หรือ โชกุน (CHOKUN)”  หนุ่มขี้เล่นจากแดนอีสาน ที่ขโมยหัวใจแฟน ๆ ด้วยมาดกวน ๆ แสนซน  เวลายิ้มจะมีรอยย่นตรงแก้มเหมือนหนวดน้องแมว น่าเอ็นดู !  เจ้าตัวมีฉายาว่า กุนกุน  ตอนนี้กำลังเรียนชั้นปีที่ 1  คณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งสาเหตุที่เลือกเรียนคณะนิเทศฯ ก็เพราะเจ้าตัวมุ่งทำงานเกี่ยวกับด้านนี้ เลยอยากตั้งใจศึกษาให้ลงลึกมากยิ่งขึ้น สำหรับกิจกรรมยามว่างของโชกุน คือการเล่นเกมส์ที่เจ้าตัวชอบมาก ๆ ถึงขนาดมีวีรกรรมสุดแสบ คือการจิ๊กเงินคุณแม่ไปเติมเกมส์!  ที่สำคัญหนุ่มโชกุนนั้นชอบร้องเพลง  เต้น และเล่นเปียโน โดยมีความใฝ่ฝันอยากเป็นศิลปินมาตั้งแต่เด็ก ๆ  และมีความฝันอยากจะประสบความสำเร็จระดับอินเตอร์อีกด้วย!  ท้ายสุดหนุ่มโชกุนฝากมาอ้อนแฟน ๆ ว่า “กุนกุนอยากมีมัมหมีครับ!IG :  HYPERLINK “http://www.facebook.com/index.php?lh=72aa98ba8b61c60117af33c76518d185&eu=CHiebigso45Dk0buSanLVg” @chokun.proxie และ Facebook :  HYPERLINK “https://web.facebook.com/ChokunPROXIE-106743010973765/?ref=py_c&_rdc=1&_rdr” chokun.proxie

 

กร วรรณไพโรจน์ หรือ กร (GORN)” หล่อ โปรไฟล์ดี ครบจบในคนเดียว ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข เห็นเรียนแพทย์แบบนี้แต่บอกเลยว่าหนุ่มกรไม่ใช่เด็กเนิร์ด เพราะมีวีรกรรมสุดซ่า เป็นเด็กในแก๊งค์หลังห้อง คำนิยามความเป็นกรได้ดีที่สุด ได้แก่ “ขอ นอน ต่อ”  นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีพรสวรรค์ด้านดนตรี  ทั้ง เล่นกีต้าร์ ร้องเพลง และยังแต่งเพลงได้อีกด้วย สิ่งที่ทำให้หนุ่มกรอยากเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง  เพราะมองว่าดนตรี เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมาก ๆ ตอนเด็กเขาชอบดูซีดีคอนเสิร์ตต่าง ๆ  มีครั้งนึงที่เจ้าตัวดูวิดีโอคอนเสิร์ตวง “บอดี้สแลม” แล้วร้องไห้ออกมา เพราะอินมาก! ส่วนวงดนตรีแรกที่เริ่มชอบคือ “พาราด็อกซ์”  เพราะคุณพ่อเคยพาไปดูคอนเสิร์ตแบบสดๆ ส่วนคนที่จะพิชิตใจหนุ่มคนได้ ต้องเป็นคนที่ทำงานเก่ง ขยัน และก็มีแพสชั่น ซึ่งกรมองว่ามีเสน่ห์มาก IG :  HYPERLINK “https://www.instagram.com/gorn.proxie/” @gorn.proxie และ Facebook :  HYPERLINK “https://web.facebook.com/GornPROXIE-103443397974081/” gorn.proxie

 

ออสการ์ เอ็ดเวิร์ด วัตราเศรษฐ์ หรือ อองรี (ONGLEE)” หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ลูกครึ่ง 3 สัญชาติไทย จีน และอังกฤษ  อองรี จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของ General Educational Development (GED) หรือ “หลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนในระดับ High School ของสหรัฐอเมริกา” เป็นหนุ่มขี้เล่น มาดกวนๆ กิจกรรมสุดโปรดของเขาคือ ฟังเพลง เล่นดนตรี เต้น ร้องเพลง เล่นกีฬา ส่วนความสามารถพิเศษก็มีไม่เหมือนใคร นั่นคือกระดิกหูได้! หนุ่มอองรีให้นิยามความเป็นตัวเองว่า “เท่ กวน หวาน” นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยคนในอุดมคติว่าชอบคนเก่ง มีความรับผิดชอบ คนที่เข้าใจเขาได้ และมีมุมที่ทำแบบนี้กับเราคนเดียวเท่านั้น! ซึ่งตอนนี้ไม่มีสเป็คที่เป็นรูปลักษณ์ภายนอกเท่าไหร่ เเต่ถ้าเห็นเเล้วเเพ้ทางจะเป็นสไตล์หมวยอินเตอร์ อย่าง เจนนี่ BLACKPINK ไอดอลสาวเกาหลีชื่อดังระดับโลก ส่วนในอนาคตก็อยากจะลองอะไรใหม่ๆดู เช่นงานเบื้องหลังดูบ้าง IG :  HYPERLINK “https://www.instagram.com/onglee.proxie/” @onglee.proxie  และ Facebook :  HYPERLINK “https://web.facebook.com/OngleePROXIE-102106394776853/?_rdc=1&_rdr” onglee.proxie

 

วรเมธ กอนุประพันธ์ หรือ “วิคเตอร์ (VICTOR)” น้องเล็กของวง เป็นหนุ่มสายแฟชั่น หลงรักงานด้านศิลปะและการวาดรูปสุด ๆ  แฟนคลับมอบฉายา “หนูน้อยแฮมเตอร์”  ให้ เพราะแก้มที่เป็นก้อนและหน้าตาน่าเอ็นดู  ตอนนี้วิคเตอร์กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี (Shrewsbury International School)  ตอนเด็ก ๆ วิคเตอร์มีความฝันอยากเป็นนักวาดรูป นอกจากนี้ยังชื่นชอบด้านการเล่นดนตรี  และฟังเพลง สิ่งที่ทำให้หนุ่มวิคเตอร์อยากทำงานในวงการ ก็เพราะเจ้าตัวนั้นมีความสุขที่ได้มาทำงานเบื้องหน้า และอยากเป็น ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ และ สไตล์ลิสต์นิยามที่บอกความเป็นวิคเตอร์มากที่สุด ก็คือ Cool , Swag , Cozy ส่วนสาวในอุดมคติที่เจ้าตัวชื่นชอบ ได้แก่ สาวสไตล์เอเชีย อย่าง ไอดอลเกาหลี ยูจิน สมาชิกของ IVE และนางเอกซุป’ตาร์แดนกิมจิ ฮัน โซฮี  สำหรับสิ่งที่หนุ่มวิคเตอร์อยากบอกแฟน ๆ ก็คือ “Luv yallIG :  HYPERLINK “https://www.instagram.com/victor.proxie/” @victor.proxie  และ Facebook :  HYPERLINK “https://web.facebook.com/VictorPROXIE-111253917183525/” victor.proxie

 

 

 

Text: AuAi Photo: เนาวพจน์

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทำความรู้จัก ATLAS บอยแบนด์น้องใหม่ กับแพชชั่นในเส้นทางดนตรีที่มีเกินร้อย

BNK48 รุ่น 3 ปาเอญ่า-อีฟ-โยเกิร์ต-ข้าวฟ่าง-พีค-แพนเค้ก ฝูงกระต่ายสุดคิวต์ที่อาสามอบความสุขให้ทุกคน