คิมแทรีก็เศร้ากับ ตอนจบ Twenty Five Twenty One ถึงขนาดเคยคร่ำครวญขอนักเขียนเปลี่ยนตอนจบ!

หลัง ตอนจบ Twenty Five Twenty One ออนแอร์ให้ได้ชมไปเมื่อคืนวันที่ 3 เมษายน 2022 ก็เกิดกระแสที่ทำคนดูเฮิร์ตกันหนักมาก ซึ่งบอกเลยว่าไม่ใช่แค่พวกเราที่เศร้ากับตอนจบของ Twenty Five, Twenty One นักแสดงในเรื่องก็เช่นกัน

สัมภาษณ์คิมแทรีเกี่ยวกับ ตอนจบ Twenty Five Twenty One

ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Twenty Five, Twenty One กลายเป็นที่ซีรี่ย์เกาหลีที่เข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของผู้ชมเรียบร้อย เรียกว่า Twenty Five, Twenty One ได้รับความนิยมมากๆ ทั้งแง่เรตติ้งที่ฟาดเรตติ้งสูงสุดไป 11.513% ไหนจะครองอันดับ 1 ซีรี่ย์เกาหลีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดประจำสัปดาห์ตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศจนถึงตอนลาจอ แถมยังได้รับความนิยมในต่างประเทศ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์บ้าง และมียอดผู้เข้าชมใน Netflix ติด TOP10 ทั่วโลก

ด้วยเนื้อหาของซีรี่ย์เกาหลีที่พาเราย้อนไปในความทรงจำในอดีตสมัยวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความสุข ความทุกข์ ความสนุก ความยากลำบาก อุปสรรค ซึ่งแน่นอนชีวิตก็มีทั้งความสวยงามและความไม่สวยงาม บางสิ่งแม้ไม่อยู่ตลอดไป แต่ความทรงจำยังคงอยู่ นอกจากจะถ่ายทอดเรื่องราวและบทละครได้ตรงใจ ทัชใจผู้ชมสุดๆ แล้ว การที่เรื่องทำให้เราลุ้นว่าใครคือพ่อของลูกสาวนางเอก หรือสามีของนางเอก และลุ้นไปกับความรักของนาฮีโดกับแพคอีจินว่าจะสมหวังหรือไม่ ทำให้เรื่องน่าติดตาม แถมเดาตอนจบของ Twenty Five, Twenty One ยากมาก

จนกระทั่งในวันที่ 3 เมษายน 2022 Twenty Five, Twenty One ก็ถึงเวลาต้องโบกมือลาจอ พร้อมกับการมาของตอนจบ Twenty Five, Twenty One ที่ผู้ชมรอคอยว่าสรุปแพคอีจินเป็นสามีที่ไม่เคยปรากฏตัวของนาฮีโดหรือไม่ ซึ่งก็ได้บทสรุปเรียบร้อย งานนี้ทำผู้ชมหลายคนรู้สึกเฮิร์ตเบาๆ ที่เรื่องจบเช่นนั้น

คิมแทรีที่เป็นคนแสดงเป็นนาฮีโดเองก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีว่าเธอก็รู้สึกเศร้ากับตอนจบ โดยคิมแทรีเล่าว่าตัวเองไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับบท เพราะเป็นเจตนารมณ์ตั้งแต่แรกของนักเขียนที่มีความตั้งใจและการวางแผนให้เรื่องราวก้าวไปในทิศทางนั้น แต่มีก็แอบบ่นบ่อยอยู่ 5555+ เคยคร่ำครวญว่าทำไมถึงจบแบบนี้ เปลี่ยนตอนจบให้หน่อยค่ะ เพราะมีความเห็นใจผู้ชมที่หวังอยากให้ความรักของฮีโดกับอีจินประสบความสำเร็จ

คิมแทรียังแสดงความคิดเห็นอีกว่าซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Twenty Five, Twenty One เริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่สวยงามแบบการ์ตูน เป็นช่วงเวลาที่ส่องแสงประกายราวกับจะเรื่องราวแบบนี้จะไม่มีในโลกเหมือนการ์ตูน แต่เมื่อการก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ นาฮีโดก็ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ ทำให้คิมแทรีรู้สึกว่าเป็นก้าวไปสู่ความจริงที่ไม่เหมือนในการ์ตูน

ตอนจบของเรื่อง Twenty Five, Twenty One คือความเป็นจริงที่ไม่สามารถจบได้แบบตอนจบเหมือนการ์ตูน ถ้าตอนจบของการ์ตูนคือความทรงจำของรักครั้งแรกที่เปล่งประกาย จุดจบของความเป็นจริง ก็คือความทรงจำของการจากลาทุกคน ซึ่งคิมแทรีมีหยิบยกคำพูดของนักปราชญ์ขงจื๊อที่พูดเรื่องการลองทำดูมันค่อนข้างสำคัญ เพราะไม่มีอะไรที่อยู่ตลอดไป แม้ว่าแสงจะหายไปตามกาลเวลา แต่สิ่งสำคัญคือเราเคยได้ลองจับแสงนั้นแล้ว ดูเหมือนว่านักเขียนบทควอนโดอึนก็จะต้องการแบบนั้น คิมแทรีก็รู้สึกเหมือนกัน เศร้าแต่โอเค เรามายอมรับกันเถอะ พร้อมหัวเราะ

คิมแทรียังได้พูดถึงเรื่องราวที่มีคนคาดเดาในโซเชียลเรื่องลูกสาวของนาฮีโด โดยคิมแทรีรู้สึกทึ่งที่ผู้คนพยายามหาทฤษฏีมาลบล้างเรื่องราวที่ลูกสาวนาฮีโดชื่อคิมมินแช ทั้งบอกว่านามสกุลเดิมของแพคอีจินคือคิม พ่อแม่ของแพคอีจินไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ บ้าง คิมแทรีรู้สึกสนุกมากเวลาอ่านเรื่องพวกนี้

ยังไม่พอ! คิมแทรียังเล่าถึงวิธีการที่ทำให้แสดงเป็นเด็กม.ปลายได้แนบเนียนทั้งที่อายุ 32 ปีแล้ว โดยคิมแทรีบอกว่าความบริสุทธิ์ที่เปล่งประกายและความเป็นเด็กของฮีโดเป็นที่สิ่งตัวเองยังคงมีจนถึงตอนนี้ ตอนแสดงเลยไม่ได้บังคับตัวเองให้ต้องพยายามแสดงให้ดูเป็นเด็กหรือทำอะไรสักอย่าง แต่แค่แสดงสิ่งที่รู้สึกออกมา เพราะนาฮีโดเป็นเด็กที่สามารถทำอะไรตามที่ตัวเองรู้สึกแบบนั้นได้ คิมแทรีพยายามที่จะเคลียร์ความคิดที่ว่าห้ามทำออกไป เพราะฮีโดเป็นเด็กที่เหมือนกับกระดาษขาวจะสามารถทำอะไรก็ได้

ไม่ใช่แค่การแสดงเด้อ คิมแทรียังใส่ใจรายละเอียดเรื่องทรงผม เสื้อ และไอเท็มเสริมต่างๆ เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับตัวละครนาฮีโด มีการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่จะเป็นเหมือนเอกลักษณ์หรือเครื่องหมายการค้าที่บ่งบอกความเป็นฮีโด เช่น กันมัดผมครึ่งหัวให้เรียบเนียน ความไม่เรียบของเสื้อผ้า นาฬิกาข้อมือ และกระเป๋าแต่ละใบที่คิมแทรีชอบ โดยคิมแทรีบอกว่าชอบการสร้างภาพภายนอก เพราะช่วยในการแสดงได้มาก ทำให้ตัวละครออกมาสมบูรณ์มากขึ้น โอ้โห! เรียกว่าคิมแทรีละเอียดยิบทุกจุดกับการแสดงบทนาฮีโด

คิมแทรียังได้พูดถึงนัมจูฮยอก คู่พาร์ทเนอร์เคมีเยี่ยมของคิมแทรีว่าพอได้เห็นการแสดงของนัมจูฮยอก รู้สึกว่านัมจูฮยอกรักการแสดงมากๆ นัมจูฮยอกมักจะคิดเกี่ยวกับเรื่องการแสดงอย่างมาก และคิดเสมอว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปในฐานะนักแสดง นัมจูฮยอกเป็นเพื่อนร่วมงานที่คิมแทรีได้เรียนรู้หลายสิ่งจากเขาในตอนที่ทำงานด้วยกัน

ส่วนโบนา สมาชิก WJSN นักแสดงที่คิมแทรีต้องแสดงเคมีความเป็นเพื่อนที่แสนแน่นแฟ้นด้วยนั้น คิมแทรีเอ่ยปากชื่นชมว่าโบนาคุณสมบัติที่ดีในการเป็นนักแสดง ทั้งบุคลิกภาพและจิตใจ โบนาเป็นคนที่แข็งแกร่ง และมักเตรียมพร้อมกับการแสดงเสมอ แถมคิมแทรียังบอกอีกว่าตัวเองจะไม่สามาถจินตนาการถึงโกยูริมได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะโบนา

นอกจากนี้คิมแทรียังได้กล่าวถึงฟีดแบ็กที่ดีของ Twenty Five, Twenty One ที่ได้รับความนิยมอย่างมากว่ารู้สึกขอบคุณ ตอนแรกคิมแทรีไม่ได้คาดหวังกับผลลัพธ์เท่าไหร่นัก และไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าคนจะรักฮีโดมากขนาดไหน ผู้ชมให้ความรักที่ยิ่งใหญ่กับคิมแทรีมากๆ

อยากบอกคิมแทรีและนักแสดงทุกคนของ Twenty Five, Twenty One ว่าทำดีมากจริงๆ ทุกคนถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ดี นักเขียนและผู้กำกับก็สร้างสรรค์ Twenty Five, Twenty One ออกมาได้อย่างงดงาม ไม่แปลกที่จะปังและกลายเป็นหนึ่งในซีรี่ย์เกาหลีขึ้นหิ้งไปแล้ว

TEXT : ImJinah

PHOTO : tvN, 매니지먼트mmm