กรี๊ดดดด ถึงเวลาไปย้อนวัยย้อนยุคกับซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Twenty Five, Twenty One กันแล้วแม่ บอกเลยว่าอยากดูเรื่องนี้มาก ปักแรง ความส่องจากทีเซอร์ต่างๆ แล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ไหนจะงานพล็อตเอยไรเอยอีก ยิ่งได้ฟังผู้กำกับและทีมนักแสดงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับซีรี่ย์ในงานแถลงข่าว ณ จุดนี้ฉันปักดูแล้วหนึ่ง
Twenty Five, Twenty One เรื่องราวของวัยรุ่นในยุค 90s
ก่อนที่เราจะไปส่องบทสัมภาษณ์ของผู้กำกับและนักแสดงในงานแถลงข่าว สุดฯ ขอเท้าความถึงงานเรื่องย่อของเรื่องTwenty Five, Twenty Oneก่อน จะเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นที่สูญเสียความฝันไปในยุคที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 1998 รวมถึงเรื่องราวของสถานการณ์ไร้ทางออกและการเติบโตของพวกเขา พวกเขาเรียกชื่ออีกฝ่ายเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 22 และ 18 ขณะที่ปัจจุบันพวกเขาอายุ 25 และ 21 เส้นบางๆ ระหว่างรักแรกที่ทำให้หัวใจสั่นไหวกับมิตรภาพแสนอบอุ่น ทำให้พวกเขารู้สึกใจเต้น ความรักและการเติบโตอันแสนสดใส รวมถึงเคมีระหว่างกัน และความยากลำบากที่กลุ่มเพื่อนทั้งห้าได้เผชิญ ย้อนเตือนให้เรานึกถึงชีวิตวัยรุ่นที่แม้จะเหนื่อยยากแต่ก็สวยงาม
บอกเลยว่านอกจากงานพล็อตที่ดึงดูดให้อยากชมแล้ว งานนักแสดงก็ดี๊ดี นำแสดงโดย นัมจูฮยอก คิมแทรี พร้อมด้วย โบนา อีจูมยอง และชเวฮยอนอุคร่วมแสดงด้วย ซึ่งทั้ง 5 คน พร้อมผู้กำกับจองอีฮยอนก็ได้แท็กทีมกันมาร่วมงานแถลงข่าว
ผู้กำกับจองอีฮยอนได้เล่าให้ฟังว่าคำนิยามที่อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในTwenty Five, Twenty Oneได้ดีที่สุด คือคำว่า “วัยรุ่น” ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องTwenty Five, Twenty Oneจะเล่าเรื่องราวของ นาฮีโด, แพคอีจิน, โกยูริม, มุนจีอุง และจีซึงวาน หนุ่มสาวทั้งห้าคนที่สูญเสียความฝันของพวกเขาไปในช่วงปี 1998 ที่เกิดวิกฤต IMF เป็นซีรี่ย์วัยรุ่นที่จะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสอารมณ์ครบรส ทั้งความสดใส ความงดงาม และความโศกเศร้า ผ่านเรื่องราวของตัวละครทั้งห้าเลยแม่
ส่วนใครรับบทเป็นตัวละครไหนกันบ้างนั้น สุดฯ มีคำตอบจ้า คิมแทรีจะรับบทเป็น “นาฮีโด” สาวน้อยที่พลังเหลือล้นและไม่รู้จักคำว่ายอมแพ้ ในขณะที่นัมจูฮยอกจะรับบทเป็น “แพคอีจิน” นักข่าวช่องโทรทัศน์ ส่วน 3 นักแสดงนำที่ผ่านการแคสต์ติ้งบทนี้อย่างโบนา จะรับบทเป็น “โกยูริม” นักกีฬาเหรียญทองจากกีฬาฟันดาบค่ะ, ชเวฮยอนอุค รับบทเป็น “มุนจีอุง” เด็กหนุ่มที่ฝันอยากจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในช่วงปี 1998 และอีจูมยอง รับบทเป็น “จีซึงวาน” ดีเจวิทยุของโรงเรียนมัธยม
แน่นอนว่าเรื่องเคมีของพระนางอย่างนัมจูฮยอกและคิมแทรีได้รับความสนใจมาก ผู้กำกับบอกว่าไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดถึงเคมีของทั้งคู่นอกจากคำว่าดีมาก ไม่ว่าจะฉากเฮฮา ดราม่า หรือฉากโรแมนติก ทุกรายละเอียดที่สองคนนี้ร่วมกันถ่ายทอดนั้นสง่าและงดงาม แอบสปอยล์ด้วยว่าฉากคิสซีนออกมาสวยงามมากจ้า
ยังไม่หมด! ในงานแถลงข่าวทีมนักแสดงและผู้กำกับยังได้พูดถึงอีกหลากหลายประเด็นเกี่ยวกับซีรี่ย์เกาหลีเรื่องTwenty Five, Twenty One ณ จุดนี้ต้องตามไปอ่านบทสัมภาษณ์กันแล้ว เพื่อกระตุ้นต่อมอยากดูไปพร้อมกัน
อยากรู้ว่าในซีรี่ย์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัยหนุ่มสาวแบบนี้ แล้วได้นัมจูฮยอกและคิมแทรีมาแสดงนำ ทำให้เรื่องมีจุดเด่นอย่างไร และมีข้อแตกต่างจากซีรี่ย์แนวคล้ายๆ กันเรื่องอื่นๆ อย่างไรบ้าง
ผู้กำกับจองจีฮยอน : แค่ได้ยินชื่อนัมจูฮยอกกับคิมแทรี ผมว่านั่นก็บ่งบอกถึงจุดเด่นของเราแล้วครับ นักแสดงทั้งสองคนเตรียมตัวอ่านและวิเคราะห์บทมาอย่างดี ทำให้การถ่ายทอดอารมณ์ของพวกเขาออกมาดีมากครับ ซีรี่ย์ของเราเล่าถึงเรื่องราวในปี 1998 ซึ่งตอนนั้นตัวผมเองอยู่ในวัยมัธยม ถึงผมจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับสมัยนั้นด้วยตัวเอง แต่ทางนักแสดงเตรียมตัวกันพร้อมมาก ในทางกลับกันผมจึงได้ไอเดียใหม่ๆ จากพวกเขา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการถ่ายทำมากครับ
ในส่วนของความแตกต่างระหว่างเรื่องTwenty Five, Twenty Oneและผลงานแนวเดียวกันเรื่องอื่นนั้น ผมขอยกคำพูดของผู้เขียนบทที่กล่าวว่า เรื่องนี้เล่าถึงคนหนุ่มสาวในวัยที่กำลังเติบโต ซึ่งต้องเผชิญกับวิกฤตที่เกิดขึ้นในยุคนั้น มีทั้งเรื่องส่วนตัวที่ตัวละครแต่ละคนต้องเผชิญ และภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดเฉพาะยุคสมัย การเชื่อมโยงเหตุการณ์เฉพาะยุคสมัยเข้ากับการเติบโตของวัยรุ่นน่าจะทำให้เนื้อเรื่องมีน้ำหนักมากขึ้น และเป็นจุดที่ทำให้ซีรีส์ของเราแตกต่างจากเรื่องอื่นครับ
คุณคิมแทรีห่างหายจากวงการซีรี้ย์เป็นเวลากว่าสามปีครึ่งเลย อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ คุณคิดว่าเสน่ห์ของเรื่องนี้คืออะไร และรู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับจองจีฮยอนอีกครั้งหลังจากเรื่อง Mr. Sunshine
คิมแทรี : เหตุผลแรกที่ทำให้ตัดสินใจเล่นเรื่องนี้เพราะบทสนุกค่ะ ช่วงนี้มีผลงานแนวนี้มีมากมาย แต่เรื่องนี้มีทั้งความสนุก ความสวยงาม ความตื่นเต้น ยิ่งอ่านบทไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งอารมณ์ดีและมีความสุขค่ะ อีกอย่างคือนาฮีโดเป็นตัวละครที่สดใส มีพลังเหลือล้น เป็นตัวละครที่สดใหม่ซึ่งฉันไม่เคยเล่นมาก่อนเลย ยิ่งทำให้ฉันหลงใหลค่ะ ฉันมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับผู้กำกับตอนที่ได้ร่วมงานกันใน Mr. Sunshine ไม่แน่ใจว่าผู้กำกับจะรู้สึกแบบเดียวกันไหมนะคะ (หัวเราะ) แต่ดีใจมากค่ะที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดเกี่ยวกับตัวเขาคือ ในช่วงแรกที่เริ่มถ่ายทำ ผู้กำกับพูดกับฉันว่า “ฮีโด ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี” เขาพูดกับฉันตรงๆ แบบนี้เลยค่ะ ความตรงไปตรงมาของเขาทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ฉันว่ามันดีมากเลยที่เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและช่วยหาทางออกไปพร้อมกันค่ะ
คุณคิดว่าเสน่ห์ที่โด่ดเด่นของตัวละครนาฮีโดคืออะไร และตัวจริงของคุณมีส่วนคล้ายกับนาฮีโดหรือไม่
คิมแทรี : เสน่ห์ของฮีโดมีเยอะมากค่ะ ที่โดดเด่นคือความแน่วแน่ค่ะ เธอแน่วแน่ต่อสิ่งที่ตัวเองชอบ และเธอก็มั่นใจในความสามารถของตัวเอง เวลามีความสุขก็สุขล้น เวลาเศร้าก็จมอยู่แต่กับความโศกเศร้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็จริงใจและเต็มที่ ฉันคิดว่าจุดนั้นน่าจะใกล้เคียงกับตัวจริงของฉันค่ะ
ความรู้สึกและประสบการณ์ในการเล่นกีฬาฟันดาบ
คิมแทรี : ฉันเริ่มฝีกซ้อมตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำประมาณ 5-6 เดือน โดยมีนักกีฬาเจ้าของเหรียญทองมาช่วยโค้ชให้ ความรู้สึกหลังจากได้ลองคือ มีกีฬาที่สุดมันและทำให้คนทุกข์ไปพร้อมๆ กันแบบนี้ด้วย! ฉันเองก็เหมือนนาฮีโดที่เต็มที่กับทุกอย่าง ฉันทั้งร้องไห้และหัวเราะตลอดเวลา 5 เดือนที่เรียนฟันดาบค่ะ ฉันฝึกกับโค้ชคนเดียวกับโบนา เราเลยมีโอกาสได้แข่งกันด้วย แต่ฉันแพ้ตลอดเลยค่ะ ฉันเจ็บใจมากและคิดหาทางจะเอาชนะให้ได้ ระหว่างฝึกซ้อมฉันเขียนบันทึกลงสมุดทุกวันเหมือนฮีโด และบันทึกเล่มนั้นก็ถูกนำไปใช้เป็นไดอารี่ของนาฮีโดในซีรี่ย์ด้วยค่ะ
ในTwenty Five, Twenty Oneผู้ชมจะได้เห็นด้านใหม่ๆ ของคุณที่แตกต่างจากเรื่องอื่นอย่างไรบ้าง
นัมจูฮยอก : ผมไม่ได้คิดว่าควรจะแสดงภาพลักษณ์ใหม่ที่ต่างไปจากเรื่องอื่นๆ แต่ผมให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดตัวละครแพคอีจินให้ผู้ชมได้เห็นหลายๆ มุมของเขามากกว่าครับ ผมโฟกัสว่าควรทำอย่างไรถึงจะสามารถแสดงให้เห็นอีกหลายร้อยด้านของตัวละคร ไม่ใช่แค่ด้านใดเพียงด้านเดียวครับ
ในการรับบทแพคอีจินที่ต้องเผชิญความยากลำบากเพื่อช่วยครอบครัวที่ประสบวิกฤต IMF ในปี 1998 คุณนัมจูฮยอกมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
นัมจูฮยอก: ผมยึดบทละครเป็นหลักมากกว่าครับ ถึงผมไม่เคยเผชิญกับวิกฤตนั้นด้วยตัวของผมเอง แต่ผมพยายามลองจินตนาการว่ามันน่าจะเป็นประมาณนี้นะ นอกเหนือจากนั้นก็มีหาข้อมูลและคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสมัยนั้น หลังจากเตรียมตัวทำการบ้านแล้ว ที่กองถ่ายผมก็แสดงไปตามสไตล์ของผมครับ (หัวเราะ) ซึ่งผู้กำกับเองก็พึงพอใจมากครับ
แล้วในการแสดงเป็นผู้สื่อข่าว คุณมีการเตรียมตัวหรือศึกษาอย่างไรบ้าง
นัมจูฮยอก : ผมไปพบกับผู้สื่อข่าวกีฬาตัวจริง ศึกษาแนวทางการทำงานของพวกเขาและสังเกตว่าตอนรายงานข่าวกีฬา ว่าควรให้ความสำคัญจุดไหนเป็นพิเศษบ้างครับ
ถ้าให้นิยามเคมีระหว่างพวกคุณทั้งสองคน (นัมจูฮยอกกับคิมแทรี) เป็นหนึ่งคำหรือประโยค คุณจะนิยามว่าอย่างไร
คิมแทรี: “ไร้เดียงสา” ค่ะ เหมือนกับเป็นการเริ่มต้นอะไรบางอย่างซึ่งยังไม่คุ้นชินค่ะ
นัมจูฮยอก: “วัยรุ่น” น่าจะนิยามได้ครบถ้วนครับ หรือไม่ก็ “สดใส” ครับ
สิ่งที่คุณโบนาให้ความสำคัญในการแสดงบท โกยูริม นักกีฬาฟันดาบเจ้าของเหรียญทองคืออะไร
โบนา : สำหรับยูริมกีฬาฟันดาบเป็นสิ่งสำคัญมาก ฉันเลยต้องฝึกซ้อมฟันดาบตั้งเริ่มการถ่ายทำค่ะ ยูริมเป็นตัวละครที่มีหลายมุม เธอจะแสดงให้เห็นมุมที่แตกต่างกันออกไปตามบุคคลที่เธอพบเจอ ซึ่งฉันค่อนข้างกังวลตรงจุดนั้นมากในช่วงแรก แต่หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้กำกับและพี่ๆ นักแสดงก็ช่วยให้โฟกัสได้ดีขึ้นค่ะ
ช่วยเล่าถึงตัวละครมุนจีอุงที่วาดฝันอยากจะเป็นดาวเด่นในยุค 1998
ชเวฮยอนอุค : ผมเกิดหลังปี 1998 เลยไม่รู้เกี่ยวกับยุคนั้นมาก ผมศึกษาหาข้อมูลว่าสมัยนั้นเขาฮิตอะไรกัน เทรนด์แฟชั่น เครื่องประดับเป็นอย่างไร แต่อันที่จริงแล้วแฟชั่นเป็นเรื่องของความมั่นใจ ผมจึงพยายามเสริมความมั่นใจมากขึ้นครับ
ครั้งแรกที่คุณอีจูมยองได้อ่านบทรู้สึกอย่างไรบ้าง คุณคิดว่าเสน่ห์ของตัวละครของคุณคืออะไร และเตรียมตัวอย่างไรสำหรับการแสดงบทจีซึงวาน
อีจูมยอง : ตอนแรกที่อ่านบท ฉันคิดว่าซึงวานเป็นคนแข็งทื่อ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองมากกว่าใครทั้งหมด และนั่นเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นที่สุดของเธอค่ะ สำหรับการเตรียมตัวรับบทดีเจวิทยุ ฉันฟังเทปรายการวิทยุสมัยก่อน ถึงจะไม่มีคลิปวิดีโอให้ดู แต่มีเทปบันทึกเสียงเก็บไว้อยู่ค่ะ
เหตุผลในการแคสติ้งทีมนักแสดงทั้งห้าคนนี้คืออะไร
ผู้กำกับจองจีฮยอน : เริ่มจากคิมแทรีและนัมจูฮยอก ผมคิดว่าไม่มีผู้กำกับหรือนักเขียนคนไหนที่จะปฏิเสธพวกเขา เหตุผลแค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ (หัวเราะ) ส่วนตัวละคร โกยูริม จีซึงวาน และมุนจีอุง เราคัดเลือกนักแสดงผ่านการออดิชั่น เหตุผลที่เลือกพวกเขาไม่มีอะไรมากเลยครับ ตอนออดิชั่นผมกับผู้เขียนบทอยู่ด้วยกันครับ ตอนที่ทั้งสามคนมาออดิชั่น ผมกับนักเขียนสบตากันและรู้ว่าต้องเลือกพวกเขาครับ ผมว่าทั้งสามคนช่วยเติมสีสันและสร้างเคมีร่วมกับนัมจูฮยอกและคิมแทรีด้วยครับ นอกจากนัมจูฮยอกและคิมแทรีแล้ว ฝากติดตามนักแสดงอีกสามคนด้วยนะครับ
ในเรื่องคุณนัมจูฮยอกต้องทำงานพาร์ตไทม์เพื่อหาเลี้ยงชีพ ช่วงวัยเรียนคุณเคยมีประสบการณ์ทำงานพาร์ตไทม์หรือไม่
นัมจูฮยอก: ผมเคยทำงานพาร์ตไทม์มาก่อนและมันก็ช่วยในการแสดงได้ดี อย่างเช่น ฉากขี่จักรยานแจกหนังสือพิมพ์ครับ ถึงงานที่ผมเคยทำอาจจะไม่เหมือนในเรื่องทั้งหมด แต่ก็มีส่วนช่วยได้มากครับ
คุณมีการเตรียมตัวด้านรูปลักษณ์ภายนอกอย่างไรสำหรับการแสดงเป็นเด็กนักเรียมมันธยมปลาย
คิมแทรี : ตัดผมหน้ามาแล้วก็ขยันบำรุงผิวค่ะ (หัวเราะ) ส่วนพวกเสื้อผ้าก็ศึกษาจากนิตยสารเก่าๆ ค่ะ
สุดท้ายนี้ ฝากถึงแฟนๆ ที่รอชมซีรีย์เรื่องTwenty Five, Twenty Oneหน่อยค่ะ
ผู้กำกับจองจีฮยอน : ทั้งใจความสำคัญของเรื่องและตัวบทละครมีความชัดเจน และมีบทพูดกินใจมากมาย นักแสดงทั้งห้าคนรวมถึงนักแสดงท่านอื่นทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ หวังว่าทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและช่วยให้ย้อนนึกถึงความทรงจำร่วมกับเพื่อนๆ และหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นกำลังใจให้กับหลายๆ คนครับ
คิมแทรี : สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่อาจย้อนกลับมาได้ และไม่มีสิ่งใดที่คงอยู่ตลอดกาล แต่ซเรื่องนี้จะทำให้คุณสัมผัสได้ว่าทุกๆ ช่วงเวลาในความทรงจำนั้นยังคงเจิดจรัสอยู่เสมอค่ะ
นัมจูฮยอก : หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนอบอุ่นในฤดูหนาวนี้ และนำพาความสดชื่นมาพร้อมกับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึงครับ
โบนา : ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นความทรงจำดีๆ ของผู้ชมทุกท่านนะคะ
ชเวฮยอนอุค : ฝากติดตามด้วยครับ
อีจูมยอง : ฝากติดตามเคมีของพวกเราด้วยค่ะ!
ใครอยากจะติดตามซีรี่ย์เกาหลีเรื่องTwenty Five, Twenty Oneแบบสุดฯ รอชมซับไทยที่ Netflix ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มตอนแรกวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2022 จะมีทั้งหมด 16 ตอนนะจ๊ะ พูดเลยว่าอยากดูมากแม่
TEXT : ImJinah
PHOTO : tvN
SOURCE : Netflix
อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
เดือนกุมภาพันธ์ 2022 ผู้ชายรวมตัว! ฟินกับเดือนแห่งความรัก 5 พระเอกเกาหลีสุดฮ็อตคัมแบ็กพร้อมกัน
นัมจูฮยอกกับพัฒนาการทางการแสดงที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด รับบทคาแร็กเตอร์ไม่ซ้ำ!
นัมจูฮยอก พระเอกดาวรุ่งสุดฮ็อต เจ้าตี๋ของเหล่านูน่า เล่นดีอนาคตไกล บทไหนก็หลัว!
นัมดารึม – ซนซังยอน All of Us Are Dead : 2 นักแสดงดาวรุ่งที่ตัดสินใจเข้ากรมตอนอายุน้อย!!!
ย้อนดูผลงานซีรี่ย์เกาหลีดังของนักเขียนพัคฮเยรยอน ผู้ปั้นบทปังๆ โดนใจผู้ชม!
รีวิว START-UP ซีรี่ย์เกาหลีเปิดเผยโลกธุรกิจ และการเริ่มต้นของคนหนุ่มสาว
มาไทยไม่ได้ Racket Boys เลยเนรมิตรไทยแลนด์ทิพย์ สร้างฉากสำคัญในเรื่อง!
ทังจุนซัง สลัดภาพฮันกือรูสวมบทยุนแฮกัง ใน Racket Boys ฉีกคาแร็กเตอร์ 360 องศา!
ส่องคาแร็กเตอร์ตัวละครหลักในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง START-UP พื้นหลังเป็นมายังไง?!?
ไลน์อัพ Netflix ปี 2022 จัดหนัง รายการ และซีรี่ย์เกาหลีบุกจอ #ลิสต์ยาวประหนึ่งพงศาวดาร
ซนเยจิน – คังฮานึล จากเคยปฏิเสธบทนำคู่กันในปี 2020 ในที่สุดก็ได้เจอกันในซีรี่ย์เกาหลีปี 2022 !
5 ซีรี่ย์เกาหลีรักต่างวัยที่เตรียมออนแอร์ในปี 2021 – 2022 งานนี้ทีมนูน่าใจสั่นไม่หยุด!
คนในวงการเคาะ TOP13 ซีรี่ย์เกาหลียอดเยี่ยมปี 2021 Hospital Playlist ยืนหนึ่ง 2 ปีซ้อน!
TOP20 ซีรี่ย์เกาหลีสุดฮ็อตในทวิตเตอร์ ที่ถูกทวิตถึงมากที่สุดทั่วโลกในปี 2018 – 2021!!!
เตรียมพบกับนัมจูฮยอกรัวๆ ในเดือนกันยาและตุลา 2020 หวีดจัดเต็มแบบ Nonstop!