ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Snowdrop กลับมาเป็นประเด็นร้อนระลอกที่สองหลังจากการออกอากาศตอนแรก เมื่อชาวเน็ตเกาหลีพากันเรียกร้องไปยังทำเนียบประธานาธิบดีอีกครั้งให้ระงับการออนแอร์ เพราะเนื้อหาของเรื่องที่ส่อแววบิดเบือนประวัติศาสตร์ เรียกว่าเป็นมหากาพย์ที่กินระยะเวลามาตลอดปี 2021
สรุปดราม่าของ Snowdrop ที่กลายเป็นประเด็นร้อนตลอดปี 2021
ในปี 2021 ถ้าใครได้ติดตามวงการซีรี่ย์เกาหลีจะเห็นข่าวเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของประชาชนหรือชาวเน็ตเกาหลีเกี่ยวกับซีรี่ย์เกาหลีหลายเรื่อง มีทั้งประเด็นเรื่องการใช้โฆษณาแบรนด์จากจีน หรือซีรี่ย์เกาหลีที่มีประเด็นเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์ หนึ่งในนั้นก็มีซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Snowdrop (설강화) ของช่อง JTBC ที่มีการรวมนักแสดงดังมากมาย ทั้ง จองแฮอิน, จีซู BLACKPINK, ยูอินนา, คิมฮเยยุน, ยุนเซอา, จางซึงโจ และจองยูจิน ที่โดนกระแสวิจารณ์และเรียกร้องให้ระงับการถ่ายทำและการออกอากาศตั้งแต่ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนี้ยังไม่ออนแอร์
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Joseon Exorcist ถูกถอนออกจากผังออกอากาศของช่อง SBS หลังออนแอร์ไปแค่ 2 ตอนเท่านั้น จากประเด็นเรื่องการใช้พร็อปส์แบบจีนในเรื่อง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์จากฉากที่พระเจ้าแทจงเกิดภาพหลอนจนฆ่าผู้คนไปมากมาย ซึ่งพระเจ้าแทจงเป็นกษัตริย์ที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์และเป็นกษัตริย์ที่นำโชซอนไปในทิศทางที่ดี และยังมีฉากที่บาทหลวงใช้คำหยาบกับองค์ชายที่เป็นราชวงศ์อีกด้วย ทั้งยังมีข่าวลือว่าเรื่องนี้รับทุนสร้างมาจากจีน
แม้ว่าทางทีมผู้ผลิตก็ได้ออกมาชี้แจงและให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมระบุแนวทางการแก้ไข แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และกระแสเรียกร้องก็ยังคงแรง จนท้ายที่สุด ทางช่อง SBS ก็ได้ออกมาประกาศยกเลิกการออกอากาศเรื่อง Joseon Exorcist
ชาวเน็ตเกาหลีเรียกร้องให้ Snowdrop ยุติการถ่ายทำ
หลังจากเกิดกรณีของซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Joseon Exorcist ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องอื่นๆ ก็ถูกจับตามอง รวมถึง Snowdropก็โดนจับตามองเช่นกัน โดยมีคนไปพบเรื่องย่อและข้อมูลที่แพร่ออกมาในโลกออนไลน์ มีการตั้งข้อสังเกตว่าตัวละครพระเอกเหมือนจะเป็นสายลับจากเกาหลีหนีที่เข้ามาแทรกซึมในการประท้วง และชื่อของพระเอกและนางเอกในเรื่องไปคล้ายกับบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ทำให้ประชาชนมีความกังวลว่าเรื่องนี้จะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัติศาตร์ ทำให้มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการถ่ายทำซีรี่ย์เรื่องนี้
ก่อนที่จะไปติดตามเรื่องราวหลังจากที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการถ่ายทำ ขอเท้าความถึงเรื่องย่อของซีรี่ย์ที่มีการระบุว่าจะบอกเล่าเรื่องราวในปี 1987 เมื่อ “อิมซูโฮ” (รับบทโดย จองแฮอิน) นักศึกษามหาวิทยาลัยดังได้หนีเข้าไปในหอพักหญิงพร้อมกับเลือดอาบตัว ซึ่งเขาได้พบกับ “อึนยองโร” ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า “อึนยองโจ” (รับบทโดย จีซู BLACKPINK) ที่คอยดูแลบาดแผลของเขาและยังช่วยซ่อนตัวซูโฮท่ามกลางสถานการณ์ที่แสนอันตราย
ต่อมาหลังจากมีกระแสเรียกร้อง JTBC ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเรื่องย่อที่หลุดออกไปไม่ตรงกับเรื่องราวที่Snowdrop จะนำเสนอ โดยบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีการบิดเบือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงการเรียกร้องประชาธิปไตย พระนางไม่ใช่แกนนำ ซึ่งพระเอกเป็นคนเกาหลีเหนือก็จริงแต่ไม่ใช่สายลับ และนางเอกก็ไม่ใช่แกนนำในการประท้วง โดยทางช่องตัดสินใจเปลี่ยนชื่อนางเอกใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
ถึงกระนั้น แม้ว่า JTBC จะออกแถลงการณ์มาแล้วก็ตาม แต่ข้อครหาของประชาชน รวมถึงรายชื่อประชาชนที่ส่งคำร้องถึง Blue House หรือ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลี ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นจนมีรายชื่อทะลุ 220,000 คน ซึ่งตามกฎของเกาหลีทำเนียบประธานาธิบดีจะต้องมีการพิจารณาเรื่องนี้ โดยในวันที่ 28 กรกฎาคม 2021 สื่อเกาหลีพากันรายงานว่าทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นของซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdrop
โดยสรุปจากแถลงการณ์คร่าวๆ ของทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีระบุว่าตามกฎหมายแล้วไม่สามารถเข้าไปควบคุมหรือแทรกแซงได้ สื่อมีอิสระในการออกอากาศ แต่ในขณะเดียวถ้าในการออกอากาศมีการบ่อนทำลายความรับผิดชอบต่อสาธารณะหรือละเมิดกฎระเบียบในการออกอากาศ เช่น มีการบิดเบือนประวัติศาสตร์มากเกินไป จะมีคณะกรรมการมาตรฐานการสื่อสารของเกาหลี (KCSC) เข้ามาดูแล (สามารถตามไปอ่านแถลงการณ์ของทางทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีเต็มๆ ได้ที่นี่ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ Snowdrop หลังประชาชนเรียกร้องเกิน 2 แสน!)
กระแสหลังออนแอร์ตอนแรก
หลังจากการแถลงของ JTBC และทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลี ข้อครหาเกี่ยวกับซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdropก็ยังมีอยู่ จนกระทั่งในการออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2021 ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdropก็กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อในอีพีแรกได้มีการทิ้งข้อสงสัยว่าพระเอกเป็นคนเกาหลีเหนือ และยังมีการพูดถึงประเด็นที่ตำรวจสงสัยว่าพระเอกเป็นสายลับเกาหลีเหนือ มีฉากตำรวจวิ่งไล่ล่าพระเอก ท่ามกลางบรรยากาศการเรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชนชาวเกาหลีใต้ในปี 1987 และมีเพลงที่ใช้สำหรับการเคลื่อนไหวในการเรียกร้องประชาธิปไตยเปิดอยู่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเกาหลีอย่างมาก จนมีการลงชื่อเรียกร้องให้ยุติการออกอากาศของSnowdropเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งรายชื่อทะลุ 2 แสนภายใน 1 วัน
ต้องขอเท้าความก่อนว่าตามประวัติศาสตร์ของเกาหลีมีการระบุว่าในช่วงรัฐบาลเผด็จการในปี 1987 ที่ชาวเกาหลีได้ร่วมประท้วงและเรียกร้องประชาธิปไตยได้เกิดเหตุการณ์มีผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองและเรียกร้องประชาธิปไตยถูกกล่าวหาจากรัฐบาลว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือ ถูกจับไปทรมานและฆ่า ซึ่งชาวเกาหลีที่เรียกร้องมองว่าการที่ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdropสร้างคาแร็กเตอร์พระเอกให้เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือ เป็นการสนับสนุนกลอุบายของรัฐบาลเผด็จการในยุคนั้น และทำลายคุณค่าการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และอาจทำให้ผู้ชมต่างชาติที่ได้ชมเรื่องSnowdropผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Disney+ เข้าใจประวัติศาสตร์การเรียกร้องประชาธิปไตยของคนเกาหลีใต้ผิดเพี้ยนได้
ทั้งนี้ ไม่ได้มีแค่กระแสเรียกร้องจากประชาชนที่ไปลงชื่อในเว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดีเท่านั้น แต่ยังมีการประกาศแบนแบรนด์สินค้าที่เป็นสปอนเซอร์ของซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdropจนหลายๆ แบรนด์ออกมาเคลื่อนไหวและประกาศว่าจะยกเลิกการสนับสนุนซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdrop
หลังกระแสการเรียกร้องของชาวเกาหลีที่ร้อนระอุเกี่ยวกับซีรี่ย์เกาหลีเรื่องSnowdropผ่านไป 3 วัน JTBC ก็ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นถกเถียงของเรื่องSnowdropในวันที่ 21 ธันวาคม 2021 โดยในแถลงการณ์ระบุว่าเหตุการณ์สำคัญในเรื่องคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีในระบอบการปกครองของทหาร ทางSnowdropต้องการนำเสนอและบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้มีอำนาจในขณะนั้น ยืนยันว่าไม่มีตัวละครที่เป็นสายลับที่เป็นแกนนำการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่มีฉากที่ตัวละครนำชายและหญิงมีส่วนร่วมในการเรียกร้องประชาธิปไตยในอีพี 1 – 2 และไม่มีอยู่ในบทเลย
นอกจากนี้ JTBC ยังกล่าวว่าความกังวลในเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์และการดูหมิ่นการเคลื่อนไหวในการเรียกร้องประชาธิปไตยที่หลายคนได้ชี้ให้เห็นนั้น ทางทีมผู้ผลิตจะเก็บนำไปแก้ไขและพัฒนาซีรี่ย์ในอนาคต ทางทีมผู้ผลิตมีความตั้งใจที่จะไม่ผลิตซ้ำความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากการถูกกดขี่โดยอำนาจเกินควรที่ลิดรอนเสรีภาพของบุคคล พร้อมบอกว่าไม่สามารถเปิดเผยพล็อตเรื่องได้มากกว่านี้ อยากให้รอติดตามพัฒนาการของเรื่องที่จะเกิดขึ้นในตอนต่อๆ ไป แถมจะมีการเปิดหน้าแชทสำหรับให้ผู้ชมสามารถส่งฟีดแบ็กแบบเรียลไทม์ได้ แล้วทางทีมจะรับฟังความคิดเห็น พร้อมยืนยันว่าพยายามเต็มที่ที่จะสร้างผลงานที่ดี
เรียกว่าทางช่องได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องราวและพล็อตของเรื่องเรียบร้อย นอกจากนี้ JTBC ยังตัดสินใจเพิ่มวันออกอากาศในช่วงสัปดาห์ที่ 24 – 26 ธันวาคม 2021 เพื่อออนแอร์ตอนที่ 3 – 5 เลย จากปกติที่ออนแอร์ 2 ตอนต่อสัปดาห์ เพื่อคลายข้อสงสัยเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ซึ่งหลังออกอากาศก็ทำให้เกิดกระแสตีกลับ เริ่มมีผู้ชมเข้าใจมากขึ้นว่าซีรี่ย์ไม่ได้มีเนื้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์
TEXT : ImJinah
PHOTO : JTBC
อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ Snowdrop หลังประชาชนเรียกร้องเกิน 2 แสน!
ได้กลิ่นความหวานแรงของ จองแฮอินและจีซู ใน Snowdrop ตั้งแต่อีพีแรก!!!
จองแฮอิน พระเอกเกาหลีสุดฮ็อต ผู้รับงานไม่ว่างเว้น กับภูมิหลังครอบครัวที่ไม่ธรรมดา!!!
จีซู Blackpink พี่ใหญ่สุดสวย เจ้าของฉายา 4 มิติ ครบสูตรความน่ารักและตลกที่ทำให้บลิ๊งค์ต้องเอ็นดู
คู่พระนางขวัญใจแฟนคลับในตำนาน อีดงอุค – ยูอินนา คัมแบ็คงานแสดงชนกันในเดือนธันวาคม 2021!
การรวมตัวทีมนักแสดงนำชื่อดังสุดปังจาก Sky Castle อาจจะเกิดขึ้นใน Snowdrop?!
เกาหลีวุ่น! จากกรณี Joseon Exorcist ถูกยกเลิก ไปสู่ Mr.Queen จนชินฮเยซอนเกือบโดนถอดจากพรีเซ็นเตอร์!
7 ซีรี่ย์เกาหลีถูกชาวเน็ตเรียกร้อง จนต้องมีการออกแถลงการณ์หรือปรับแผน!
เส้นทางนักแสดงของไอดอลผู้งดงามเหมือนรักแรก: จีซู BLACKPINK กับบทบาทแสดงนำครั้งแรกใน Snowdrop