คุยลึกลับกับนางพญากระสือ หญิง-รฐา โพธิ์งาม ในภาพยนตร์แอคชั่นระทึกขวัญ “SisterS กระสือสยาม”

การร่วมงานกับ “ป้าแดง” (วาสนา ชลากร) ที่เล่นเป็นน้องสาวเป็นยังไง

ตอนแรกป้าแดงก็แบบเขินๆ เพราะทุกฉากต้องเรียกหญิงว่าพี่ไง ป้าแดงก็จะแบบ “พี่ราตรีคะ” ป้าเขาก็จะเขินๆ แต่ป้าเขาน่ารัก ก็เป็นนักแสดงอาวุโสที่น่ารัก และก็เป็นคนที่ Nice สำหรับหญิงนะ เขาก็จะชอบถามถึงคุณแม่ เคยทำงานด้วยกันกับคุณแม่ ป้าๆ เขาก็จะสนิทๆ กัน เข้ากองมาก็จะเหมือนอยู่กับเพื่อนแม่อีกคนหนึ่ง คือป้าเขาก็ตั้งใจอะ พี่ปรัชให้ทำอะไรเขาก็ทำ เขาค่อนข้างเปิด ให้ทำอะไรก็ทำ ให้ถลึงตา ให้กรี๊ด จริงๆ ซีนเขาน่ากลัวมากเลยนะทุกซีน ด้วยเอฟเฟกต์ การแต่งหน้า ด้วยรูปโครงหน้าของเขา ตาโตๆ ทุกอย่างคมชัดไปหมด พออยู่ในกล้องมันเชื่ออะสำหรับหญิง

 

บทภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนโดย “พี่เจี๊ยบ วรรธนา” (นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดัง)

คือพี่เจี๊ยบเป็นผู้หญิงที่เข้าใจผู้หญิง ดังนั้นเนี่ยมันจะมีความรู้สึกในมุมของ “ราตรี” ที่เข้าใจ “ดวงดาว” ก็จะคอยปลอบน้องอยู่ตลอดเวลา ในคำพูดนั้นมันมีทั้งความแค้นและความห่วงใย เราเลยรู้สึกว่าพี่เจี๊ยบจะเอาความรู้สึกผู้หญิงออกมาเล่าให้เห็นเป็นภาพได้ดี พอพี่เจี๊ยบมาเขียนบทภาพยนตร์เลยรู้สึกน่าสนใจ เขาเองเขียนบทที่เป็นบทละครก็ประสบความสำเร็จ (เมีย 2018) แต่พอพูดถึงเรื่อง “กระสือ” มันก็จะเป็นแต่กระสือ การหาวิธีฆ่ากระสือ หมอผี กระสือไปกินบ้านนู้นบ้านนี้ แต่อันนี้มันไม่ใช่

มันจะเป็นแอคชั่นระทึกขวัญ เป็นเรื่องของการเอาคืน แก้แค้น การอาฆาต ดังนั้นเนี่ยมันจะถูกตีความในเรื่องของแอคชั่น ตอนแรกๆ เนี่ยตัว “โมรา” จะไม่ยอมรับความจริง เขาจะไม่รู้ว่าเขาเป็น คนดูก็จะลุ้นไปว่าเขาเป็นอะไร เขาเริ่มปวดท้อง กินอะไรไม่ได้ เริ่มกินอันนี้แล้วชอบ มันก็จะเป็น Storyline ของสองพี่น้องนั้น

ส่วนเส้นสองพี่น้อง “ดวงดาว-ราตรี” ก็จะเป็นเส้นที่ตามแค้นตามล่าในมุมของ Story เขาก็จะต้องหารกให้น้อง มีวิธีเกลี้ยกล่อมคนให้มาทำแท้ง ก็จะเป็นเส้น 2 เส้น แต่สองเส้นนี้จะมาเจอกันตอนท้าย ก็อยากให้ลืมภาพของกระสือสมัยก่อน การแปลงร่างกระสือที่นอนอยู่แล้วถอดออกมา มันก็มีนิดหน่อย แต่รูปแบบการแปลงร่างของราตรีจะเป็นแนวดิ่ง และรูปแบบของไส้ที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ในละครจะมีหัวใจตรงนี้ๆ อันนี้จะไม่ใช่ มันจะมีความเป็นไซไฟแล้วก็แฟนตาซีนิดๆ วิธีการฆ่าก็จะไม่ใช่เป็นการล้วงไส้ หรือกัดอะไรขนาดนั้น วิธีการฆ่าเราจะเป็นไซไฟมากขึ้น เหมือนเวลาดูหนังเอเลียนพรีเดเตอร์ที่เวลาฆ่าก็จะมีจงอยออกมาจิ้มแล้วเข้าไปแทรกทุกอณูของร่างกาย ให้คิดว่าถ้ากระสือมีจริงบนโลกนี้ กว่าจะถอดหัวออกจากร่าง เวลาก็หมดแล้ว ตี 3 ตี 5 เขาออกไปทำงานกันหมดแล้ว คือ Lifestyle คนในยุคนี้ ถ้าใช้กระสือตอนยุคก่อนออกหากินตอน 4 ทุ่มก็คือยังอยู่ทองหล่อ คนยังกินข้าว ยังดื่มไวน์ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นต้องมีวิธีการที่รวดเร็วในการที่จะหาเหยื่อในแต่ละครั้ง

 

ความเชื่อส่วนตัวเกี่ยวกับกระสือ

จริงๆ ครอบครัวหญิงเป็นครอบครัวคนอีสาน คือคุณตาเป็นคนร้อยเอ็ด คุณยายเป็นคนปราจีน ดังนั้นคุณตาจะมีความเชื่อเรื่องผีมาก คุณตาจะมีห้องพระใหญ่มาก ดังนั้นเราก็จะมีความเชื่อในระดับหนึ่ง เรื่องของวิญญาณ พี่เลี้ยงหญิงก็จะมาจากอีสานหมดเลย เขาก็จะชอบเล่ามันมีจริงๆ นะน้องหญิง มันลอยมาเป็นไฟๆ เลย เรายังไม่เคยเห็นเป็นตัวเป็นๆ เราก็ไม่ได้ลบหลู่ แต่ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ ว่ามันมีจริงๆ เหรอคนที่มันถอดหัวออกจากร่างแล้วก็ลอยไปไหนต่อไหนได้ ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ด้วยทิศทางลม ด้วยปัจจุบันถนนหนทางมีไฟหมดแล้ว ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งดีกว่า ไม่อยากลบหลู่

ถ้าย้อนไปหลายๆ ปีตั้งแต่ต้นกำเนิดกระสือ ถ้ามันเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้น ก็ถือว่าคนไทย Create มาก ของฝรั่งอย่างมากก็ Frankenstein ก็ไม่ได้ลอยไปลอยมา มีบ้านเราที่ลอยได้แบบไร้ทิศทาง โดรนนี่เพิ่งมี กระสือมีมาก่อนโดรนอีกนะจ๊ะ จริงๆ แล้วกระสือเป็นต้นแบบของโดรนนี่เอง (หัวเราะ) ก็รู้สึกเชื่อ ถ้าไม่เชื่อเลยเราจะเล่นเรื่องนี้ไม่ได้ เคยอ่านแบบมีคนค้นพบอะไรแบบเนี้ยก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างค่ะ

คิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ในสังคมปัจจุบันจะมีคนแบบราตรีที่เป็นกระสือใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์ในเมือง

          จริงๆ หญิงว่ามันก็เป็นไปได้ เวลาเราอ่านข่าวเมืองนอกที่มีคนกินคน ซึ่งชีวิตประจำวันเขาก็อยู่กับเรา เพียงแต่ว่าเขามีความป่วยทางด้านจิต มันก็เป็นไปได้ แต่ว่าถึงขั้นกลางคืนถอดหัวกลางพารากอนนี่ก็ต้องคิดดูอีกที แต่มันก็มีเรื่องที่น่าเชื่อ เหมือนตอนเด็กๆ เราก็มีซีอุยที่กินเนื้อคนจริงๆ แต่สำหรับเราอะไรที่มันเกินไป มันก็ต้องพิสูจน์นิดนึง คือมันมีรูปแบบของผีแค่คนเดินไปกินศพ แต่ถอดหัวนี่มันก็ต้องให้ชัดเจนกว่านี้หน่อย แต่อาจมีผู้หญิงแบบ “ราตรี” สวยเซ็กซี่ แต่อีกมุมหนึ่งของชีวิตคือฉันเชื่อว่า ฉันได้กินสิ่งนี้ อายุฉันจะวัฒนะ ถ้าฉันได้ฆ่าสิ่งนี้ ถ้าฉันได้กินรกเด็ก หรือการฉีดสเต็มเซลล์ ก็คืออีกวิธีหนึ่งที่ทำให้หน้าเด็ก มันก็อาจจะมาในรูปแบบอื่นๆ ได้

 

การแสดงกับซีจีเป็นยังไงบ้าง

โชคดีที่เป็นคนชอบดูหนังผี พวก The Exorcist และหญิงชอบมูฟเมนต์แบบนี้ คือเป็นคนชอบดูหนังผี เราก็จะเห็นมูฟเมนต์อะไรแบบนี้ตลอด ถ้าง่ายสุดก็พวกจูออน จะเป็นมูฟเมนต์ที่เร็วและคมทุกอัน ดังนั้นเราก็จะจำวิธีการถอดหัวมาจากอันนั้น เราก็ใช้เทคนิคของการแดนซ์มาด้วย คือทุกอย่างต้องนิ่งแต่หัวต้องไป ก็มีคอเคล็ดบ้าง (หัวเราะ) ในส่วนที่เป็นซีจีมันคือถอดหัวไปแล้ว ถึงแม้เราจะถอดหัว แต่เราต้องคิดเสมอว่าเวลาเราลอยมันต้องมีลม เราต้องเชื่อ ใช้จินตนาการ ก็สนุกดีค่ะ เป็นอะไรที่เราได้ลองทำดู

 

ความน่าสนใจของเรื่องนี้

หญิงว่าน่าจะเป็นหนังไทยแอคชั่นไซไฟเรื่องแรกๆ ที่คิดว่าซีจีจะเทียบเท่าต่างประเทศ ก็อยากให้มาชมฝีมือคนไทย เพราะซีจีก็เป็นฝีมือคนไทย ตัว Storyline ก็มีความสากลในเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละคร ตัวละครจะมีมุมมอง มีแง่คิดหลายแง่มุม คือไม่อยากให้คิดว่าการมาดูเรื่องกระสือคือมาดูแค่มันเป็นกระสือ เรื่องนี้มีความสนใจมากกว่าความเป็นกระสือ มันมีเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละคร มีเรื่องของ แอคชั่น ซีจี ทั้งหมดมันถูกซ่อนอยู่ในความเชื่อของคนไทยในเรื่องของผีกระสือ ดังนั้นเวลามาดู อยากให้ดูองค์ประกอบรวมทั้งหมด อยากให้มองว่าเป็นหนังสปีชีส์ใหม่ที่คนไทยทำ และพี่ปรัชกล้าทำ เวลาเราพูดถึงหนังของ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” มันก็จะเป็นมวยเป็นแอคชั่นซะส่วนใหญ่ อันนี้เรียกได้ว่าเขาก็พลิกในความเป็นเขา แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายในความเป็นปรัชญา ปิ่นแก้วเช่นกันค่ะ

 

เรื่องย่อ

เราเกิดมาเพื่อเป็นอะไร เราก็ต้องเป็นสิ่งนั้น…?

สองสาวพี่น้อง “โมรา” และ “วีณา”

คนหนึ่งกำลังรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ใกล้กลายร่างตามสายเลือดนักล่า

ขณะที่อีกคนต้องยอมพลีทั้งชีวิตฝึกฝนวิชาเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญชาตญาณนักฆ่า

ทั้งคู่ต้องต่อสู้กับชะตากรรมที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง…ที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะสิ้นสุดอย่างไร

ภาพยนตร์ไทยแอคชั่นระทึกขวัญ

จากตำนานผีไทยสู่การตีความใหม่โดยผู้กำกับแถวหน้าของไทย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว”

เรื่องราวความรักความผูกพันของ “พี่น้องสองสาว” ที่ไม่สามารถเลือกวิถีชีวิตและความเป็นไปของตัวเองได้ ทั้งคู่ได้รับการเลี้ยงดูมาต่างกันและต้องแยกกันอยู่ด้วยความจำเป็นบางอย่าง

วันหนึ่งโชคชะตาก็ทำให้สองพี่น้องต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน “วีณา” พี่สาวผู้ยอมเสียสละทั้งชีวิตเพื่อปกป้อง “โมรา” น้องสาวผู้อ่อนแอให้รอดพ้นจาก “ราตรี” นางพญากระสือคู่อาฆาตซึ่งรอคอยวันที่โมราจะกลายร่างในวัย 16 ปี เพื่อหมายเอาชีวิตจากความแค้นที่ฝังลึกในอดีตกับตระกูลของพวกเธอ

และเมื่อความจริงปรากฏ สองพี่น้องต้องต่อสู้และก้าวผ่านความขัดแย้งอันรุนแรงนี้ไปให้ได้

สุดท้ายแล้วพวกเธอจะปล่อยให้เป็นไปตามวิถีชีวิตที่ไร้ทางเลือกของแต่ละคน

หรือจะดิ้นรนฝ่าฝืนชะตากรรมนี้เพื่อที่จะได้กลับมาอยู่เป็น “ครอบครัวเดียวกัน” อีกครั้ง…

เตรียมลบทุกภาพจำกระสือ พร้อมกลายร่างใหม่สู่ #SisterS #กระสือสยาม

แหวกทุกความระทึก 4 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจากสหมงคลฟิล์ม

 

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แพ้แก้มบุ๋ม!!! 10 ไอดอลเจ้าของลักยิ้มทรงเสน่ห์ ผู้ทำให้พ่ายแพ้ทุกครั้ง ที่ส่งยิ้มมา

นักข่าวเกาหลีจัดเต็มวิจารณ์ฝีมือการแสดงของ 4 ไอดอลแบบไม่มีกั๊ก ใครรอดใครร่วง?!?

4 วงไอดอลเกาหลี รวมตัวก็ปั๊วะ! แยกตัวก็ปัง! ฟาดงานกลุ่มและเดี่ยวไม่หยุด!

ส่องความปังของ 4 ตัวแทนโปรดิวเซอร์แห่งชาติรายการ Produce เกาหลี มีดีจนต้องถูกจีบมารับตำแหน่ง!