ลิสต์ไว้ดู! 7 รายการใน Netflix ที่เข้าชิง Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 70

กลับมาอีกครั้งสำหรับงานไพรม์ไทม์ เอ็มมี่ อะวอร์ดส์ ครั้งที่ 70 (Primetime Emmy Awards) รางวัลอุตสาหกรรมโทรทัศน์ที่ปีนี้ Netflix สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงถึง 112 รางวัล ทำลายสถิติของ HBO ที่เข้าชิงมากที่สุดอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 17 ปี โดยในปีนี้งานประกาศรางวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 17 กันยายนนี้ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อม เราเลยขอแนะนำรายการที่เข้าชิงรางวัลใหญ่ๆ ของปีนี้ รับรองเลยว่าดูจบ คุณก็เห็นด้วยกับกรรมการของเอ็มมี่ว่ารายการเหล่านี้คู่ควรกับการได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลจริงๆ

เดอะ คราวน์ (The Crown)

ถ่ายทอดเรื่องราวของสมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 2 ที่ขึ้นครองราชย์ภายหลังจากที่พระราชบิดา พระเจ้าจอร์จที่ 6 สวรรคต เนื้อหากว่า 80% ของซีรีส์ประวัติศาสตร์เรื่องนี้ อิงมาจากเรื่องจริงทั้งหมด สังเกตได้จากการที่ตัวละครทุกตัวล้วนแล้วแต่มีตัวตนอยู่จริง หากใครคุ้นเคยกับภาพยนตร์เรื่อง The King’s Speech อยู่ก่อนบ้างแล้วล่ะก็ ซีรีส์เรื่องนี้คือประวัติศาสตร์ฉากต่อมาภายหลังจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 สละราชสมบัตินั่นเอง
นอกจากแสง สี เสียง และฉากอันตระการตาของซีรีส์แล้ว The Crown ยังได้รับเสนอเข้าชิงรางวัล Emmy ปีนี้ ถึง 13 รางวัลด้วยกัน อาทิเช่น รางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม(แคลร์ ฟอย) รับรองได้เลยว่า The Crown จะเข้าไปตรึงใจคุณได้อย่างแน่นอน

โกลว์ (Glow)

เมื่อความฝันคือสิ่งที่ต้องคว้ามาให้ได้ ภายหลังจากที่ไปตระเวนทดสอบหน้ากล้องและถูกปฎิเสธจนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดโอกาสในการออกหน้ากล้องของ รูธ ก็มาถึง เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักแสดงในรายการ “โกลว์” ซึ่งเป็นโชว์นักมวยปล้ำหญิง ความยากไม่ได้อยู่ที่ศิลปะการต่อสู้เท่านั้น ในรอบชิงของรายการ รูธต้องมาเจอกับเด็บบี้ เพื่อนแค้นแสนรัก ที่เธอเคยไปทำแสบแอบกินสามีเขาจนโดนจับได้ งานนี้เด็บบี้จะยอมยกโทษให้ รูธ และยอมมาเป็นคู่ท้าชิงในรอบสุดท้ายให้หรือไม่ต้องติดตามใน “โกลว” ซีรีส์ฮาปนซึ้ง การันตีด้วยการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy ปีนี้ ในสาขาซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม โกลว์ได้รับความนิยมมากมายและกระแสที่ดีจนบรรดาสาวๆ ต้องกลับมาพร้อมกับสไตล์อีกครั้งในซีซัน 2

โอซาร์ก (Ozark)

รางวัล Emmy 2018 นี้ เจสัน เบทแมนมาพร้อมตำแหน่งผู้ท้าชิงในสาขาผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากซีรีส์น้ำดี “โอซาร์ก” ซีรีส์แนวดาร์กดราม่าที่จะพาคุณมันส์ และอินไปกับเรื่องราวของ มาร์ตี้ เบิร์ด(เจสัน เบทแมน) นักวางแผนการเงินที่หวังจะให้ลูกและภรรยาอยู่กินอย่างสุขสบาย เลยจำยอมเข้าไปพัวพันกับแก๊งฟอกเงินชาวเม็กซิกัน แต่เรื่องราวไม่ได้ส่งผลดีดังคาด มาร์ตี้ทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในอันตราย และถ้าหากว่าเขาไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้แล้วล่ะก็ ทั้งครอบครัวก็ไม่รอดเช่นกัน เรื่องราวเหนือความคาดหมายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นที่ โอซาร์ก ทะเลสาบขนาดใหญ่ในรัฐมิสซิสซิปี้ ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อเรื่องนี้นั่นเอง

แบล็ค มิร์เรอร์ (Black Mirror)

โลกอนาคตมีหน้าตาเป็นอย่างไร? แบล็กมิร์เรอร์ ซีรีส์แนวไซไฟกลิ่นอายวิทยาศาสตร์ที่มีเนื้อหาจบในตัวทุกตอน บนแกนเรื่องหลักที่เล่าถึงจินตนาการสมมติของโลกอนาคตที่เทคโนโลยีมีความรุดหน้าไปไกล และผลกระทบของมันคืออิทธิพลต่อพฤติกรรมทั้งด้านดีและร้ายของมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีความโน้มเอียงไปทางด้านลบเสียมากกว่า ความตื่นเต้นระทึกใจของเนื้อเรื่อง ยังพาให้แบล็ก มิร์เรอร์ตอน USS Callister ถูกเสนอเข้าชิง Emmy Awards 2018 ในสาขาภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เกรซ แอนด์ แฟรงกี้ (Grace and Frankie)

ซีรีส์สนุกพล็อตดีเรื่องนี้ นำเสนอเรื่องราวของ เกรซ และแฟรงกี้ สองสาววัยดึกที่ออกจะไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันสักเท่าไร แต่ดันจำเป็นต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในบ้านพักริมทะเลที่ครอบครัวของพวกเธอซื้อร่วมกันเอาไว้ ภายหลังจากที่สามีของพวกเธอซึ่งเป็นธุรกิจหุ้นส่วนทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน ออกมาสารภาพว่าแอบชอบกันมานานถึง 20 ปีแล้วและจะขอใช้ชีวิตที่เหลือทำตามที่ใจเรียกร้องโดยการแต่งงานกันซะเอง เจอแบบนี้เข้าไปสองภรรยาถึงกับไปไม่เป็น ต้องปรับตัวและทำใจไปพร้อมๆ กัน ลิลี ทอมลินผู้รับบทเป็นแฟรงกี้ สามารถเรียกเสียงฮา จากการสวมบทบาทของเธอได้เป็นอย่างดี รางวัลEmmy ปีนี้มีหรือจะพลาดการเข้าชิงสาขา นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากซีรีส์ตลก

ปฐพีเถื่อน (Godless)

จะเกิดอะไรขึ้นหากเมืองแห่งหนึ่งจะไม่มีผู้ชายอาศัยอยู่เลย? ครั้งหนึ่ง ลาเบล เคยเป็นเมืองที่มีประชากรชายหญิงเหมือนอย่างเมืองทั่วๆ ไป แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ได้พรากชีวิตผู้ชายทั้งเมืองไป ทิ้งสตรีคนรักไว้เบื้องหลัง วันหนึ่งอดีตสมาชิกแก๊งโจรใจเหี้ยมได้เข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองแห่งนี้ และได้นำหายนะจากกลุ่มโจรที่กำลังอออกตามล่าตัวเขาอยู่มาสู่เมืองแสนสงบ แต่ผู้หญิงในเมืองลาเบลนั้นแตกต่างออกไป พวกเธอไม่ได้อ่อนแอและพร้อมเสมอสำหรับการต่อสู้ สงครามกลางเมืองขนาดย่อมๆ จึงเกิดขึ้น สำหรับรางวัล Emmy ในปีนี้ มิเชล ด็อกเกอรี นักแสดงหญิงมากฝีมือ ในบทบาทของอลิซ เฟลตเชอร์ ได้รับเลือกให้เข้าชิงในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากลิมิเต็ดซีรีส์ รับรองได้เลยว่าการแสดงของด็อกเกอรี และความตื่นเต้นระทึกใจจากซีรีส์แอคชั่นเรื่องนี้ จะทำให้คุณเพลิดเพลินได้อย่างแน่นอน

เควียร์ อาย (Queer Eye)

เควียร์ อาย รายการเรียลลิตี้ที่ถูกหยิบขึ้นมาดัดแปลงและทำใหม่จากเวอร์ชั่นเดิม Queer Eye for the Straight Guy ที่ฉายในช่วงปี 2003-2007 เควียร์ อาย เป็นเรียลลิตี้ความยาว 8 ตอนซึ่งในแต่ละตอน จะมีชายผู้โชคดี 1 คนที่ได้รับเลือกให้พลิกโฉม เปลี่ยนชีวิต โดยมี The Fab Five กลุ่มเกย์ 5 คนที่เป็นกูรูเฉพาะด้านคอยให้ความช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน ความโดดเด่นของ เควียร์ อายในเวอร์ชั่นนี้คือไม่ได้มีเพียงแค่ชายแท้เท่านั้นที่ได้รับเลือกให้ช่วยพลิกโฉมชีวิต แต่ยังรวมไปถึงการเมกโอเวอร์กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอีกด้วย เควียร์ อายได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัล Emmy ในสาขารายการเรียลลิตี้ยอดเยี่ยม (Outstanding Structured Reality Program) การันตีคุณภาพด้วยจำนวนผู้ชมที่มากขึ้นเรื่อยๆ รับรองว่าคุณจะได้ข้อคิดดีๆ การรับชมเรียลลิตี้คุณภาพเรื่องนี้แน่นอน