ช่วงที่ผ่านมา กระแสร่างทรงมาแรงมากในโลกออนไลน์ของบ้านเรา โดยเฉพาะองค์เทพหรือร่างทรงแปลกๆ เชื่อไหมว่า หลายๆ ประเทศในโลกก็มีความเชื่อเกี่ยวกับลัทธิลึกลับที่ว่าด้วยการทรงเจ้า และเชื่อในภูติผีวิญญาณเช่นกัน ถึงขนาดมีปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หรือละครมากมาย นึกง่ายๆ ก็ในซีรี่ย์เกาหลีไงล่ะคะ แล้ว คนทรงเจ้าเกาหลี เป็นยังไง เหมือนกับไทยไหม เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
คนทรงเจ้าเกาหลี ความเชื่อที่สะท้อนสังคมผ่านซีรี่ย์
ก่อนอื่นต้องเล่าที่มาของความเชื่อสักนิด ในอดีตเกาหลีเป็นประเทศเกษตรกรรม จะได้ผลผลิตดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับธรรมชาติ ชาวเกาหลีจึงรู้สึกขอบคุณธรรมชาติอยู่เสมอ และเชื่อว่าในธรรมชาตินั้นมีวิญญาณ มีเทพเจ้าคอยดูแลอยู่ อะไรที่เป็นธรรมชาติล้วนสวยงาม การที่คนเกาหลีนิยมทำศัลยกรรมก็เพราะอยากเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ประมาณว่าสวยที่สุด เท่ากับ เป็นธรรมชาติที่สุดนั่นเองค่ะ ด้วยความรักที่มีต่อธรรมชาตินี่เอง จึงก่อกำเนิดลัทธิมู (무교) โดยมี คนทรง ในภาษาเกาหลีเรียกว่ามูดัง (무당) มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง เป็นคนที่ตั้งตัวขึ้นมา และกล่าวว่าตนนั้นเป็นสื่อกลางในการติดต่อระหว่างเทพเจ้ากับมนุษย์
แม้ในปัจจุบันประเทศเกาหลีจะมีการเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าไปไกลมากแค่ไหนก็ตาม แต่ทั้งคนทรงเจ้า และคนที่เชื่อในการติดต่อกับเทพเจ้าผ่านคนทรงก็ยังคงมีอยู่ในสังคมเกาหลี พวกเขาเชื่อว่ารูปร่าง ใบหน้า ไปจนถึงวันเวลาเกิด บอกชะตาชีวิตคนได้ หนังสือพิมพ์ Korea Economic Daily คาดการณ์ว่า ตลาดหมอดูเกาหลียิ่งใหญ่หลักแสนล้าน มีหมอดูที่ลงทะเบียนในประเทศประมาณ 3 แสนคน และมีหมอผีอีก 1.5 แสนคน (หมอดูใช้หลักจิตวิทยา หมอผีใช้จิตวิญญาณในการดูดวง) ถ้านับรวมคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนอาจมีตัวเลขสูงถึง 1 ล้านคน! O_O
ถ้าใครเคยไปเที่ยวเกาหลีก็อาจจะเคยเห็นเต๊นท์สำหรับดูดวงไพ่ทาโร่ต์เรียงรายอยู่ริมถนน บางคนเช่าตึกหรือเปิดสำนักในบ้านของตัวเองเลยก็มี ในยุคดิจิทัลยังสามารถดูดวงออนไลน์ได้ด้วย มีแอพพลิเคชั่นมากมายให้ดาวน์โหลดไปใช้ ที่กำลังฮิตสุดๆ ก็คือแอพ Jeomsin ซึ่งมียอดดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 3 ล้านครั้ง จะรับข้อความทำนาย โชว์ฝ่ามือให้กล้อง หรือถ่ายรูปเซลฟี่ส่งไปให้ดูดวงผ่านใบหน้าก็ทำได้ง่ายๆ (โอ้ว …ธุรกิจดีไม่แพ้เมืองไทยเลย)
“ดวง” อยู่กับคนเกาหลี ทุกช่วงเวลาของชีวิต ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้แต่อดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเยก็ยังเชื่อในลัทธิคนทรงและบริหารประเทศตามคำแนะนำของเพื่อนที่เป็นคนทรง จนเกิดความเสียหายมากมาย เมื่อ Duo บริษัทเอเจนซี่หาคู่แต่งงานออนไลน์ของเกาหลีลองทำการสำรวจในปี 2017 ก็พบว่า สาวโสดเกาหลีกว่า 82% เคยไปขอคำปรึกษากับหมอดูมาแล้วทั้งนั้น นั่นเพราะว่าลัทธิมูฝังรากลึกในสังคมเกาหลีมาช้านานแล้ว
ซีรี่ย์หรือละครเปรียบเหมือนภาพสะท้อนสังคมนั้นๆ ถ้าอยากเข้าใจสังคมเกาหลีก็ต้องเรียนรู้จากซีรี่ย์นี่แหละค่ะเผื่อจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น
ธิดาแห่งเทพเจ้า ใน จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์
ถ้าใครเคยดูซีรี่ย์พีเรียดเกาหลียุคบุกเบิกอย่าง จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์ คงจะเคยได้ยินคำว่า “ธิดาเทพ” ใช่ไหมคะเพราะในเรื่องนี้มีตัวละครที่เป็นธิดาเทพถึง 11 คนด้วยกัน ธิดาเทพนี่แหละคือคนทรงที่มีหน้าที่สื่อสารกับเทพเจ้า แถมยังไม่ใช่คนทรงทั่วไป แต่ถูกยกย่องให้เป็นธิดาหรือบุตรสาวของเทพเจ้าเลยทีเดียว ความเชื่อเรื่องโชคชะตา และการติดต่อกับเทพเจ้าผ่านคนทรงมีบทบาทต่อการปกครองประเทศในสมัยนั้นมากๆ (มีความเชื่อมาตั้งแต่ยุคชนเผ่า ก่อนจะรวมเป็นอาณาจักรโคกูรยอ) อย่างในเรื่องนี้ ธิดาเทพบอกให้จูมงแต่งงานกับ โซซอโน เพื่อความมั่นคงแห่งแคว้น ให้เป็นที่ยอมรับของราษฎร จูมงก็แต่ง หรือเมื่อตัวร้ายต้องการจะปองร้ายจูมง ก็ให้ธิดาเทพเป็นผู้ทำพิธีสาปแช่ง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องปรึกษาธิดาเทพก่อน ธิดาเทพว่ายังไงก็ต้องทำไปตามนั้น ถือเป็นยุคธิดาเทพเรืองอำนาจเลยก็ว่าได้
ยันต์มนุษย์ ใน The Moon Embracing the Sun
ในเรื่องนี้ธิดาเทพเป็นแค่คนที่ติดต่อกับเทพเจ้าได้ แต่ไม่ใช่ลูกเทพแล้ว สรุปคือถูกเทพเจ้าตัดพ่อตัดลูกนั่นเองค่ะ ฉากหลังของเรื่องนี้เป็นยุคโชซอน ซึ่งเป็นยุคที่ได้รับอิทธิพลลัทธิขงจื๊อจากจีน ลัทธิขงจื๊อมีการแบ่งชนชั้นออกเป็นชนชั้นสูง (ขุนนาง) ชนชั้นกลาง (หมอ พ่อค้า) แล้วก็ชนชั้นล่าง ธิดาเทพถือเป็นชนชั้นล่างมากๆ ล่างที่สุดเลยก็ว่าได้ แล้วลัทธิขงจื๊อก็มีอิทธิพลในเรื่องครอบครัวและบทบาทของผู้หญิงด้วย ทำให้ผู้หญิงไม่ค่อยมีสิทธิมีเสียงมากเท่าผู้ชาย คนทรงเจ้าก็เลยมีค่าแค่ทำนายดวงชะตา และเป็นเครื่องรางปัดเป่าความชั่วร้าย อย่างตอนที่รัชทายาทประชวร นางเอกที่เป็นคนทรงก็ถูกเรียกเข้าวังเพื่อคอยดูดซับสิ่งชั่วร้ายออกจากฝ่าบาท เลยต้องมาเฝ้าฝ่าบาทตอนนอนทุกคืน แต่ตอนหลังถูกจับไปทรมานเพราะไม่ได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทตอนประชวรขณะเข้าหอกับพระมเหสี ต่อมาก็ถูกนำตัวมาเป็นเครื่องสังเวยในพิธีสุริยุปราคาอีก …รันทดจริงๆ เนอะ
ติดตามอ่านความเชื่อเกี่ยวกับ คนทรงเจ้าเกาหลี ในซีรี่ย์เกาหลีอีก 2 เรื่อง ได้ในหน้าถัดไปค่ะ