ในยุคที่คนเราขยับร่างกายน้อยลง แถมอาหารการกินก็เน้นที่ความอร่อย โรคอ้วนและโรคแทรกซ้อนต่างๆ จึงกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ทำลายความมั่นใจของใครหลายๆ คน และการลดน้ำหนักก็กลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันมาก แต่จะลดอย่างไรให้ถูกวิธี ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่เครียดเกินไป คุณหมอนัท แห่ง Nutchiko Clinic จะมาบอกเราค่ะ
เราได้เจอกับ คุณหมอนัท – ณัฐพล อุดมเดชาเวทย์ แห่ง Nutchiko Clinic ที่พกพาออร่าและความมั่นใจมาขนาดนี้ เลยขอชวนคุณหมอมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับการกิน การเผาผลาญ และการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพกันค่ะ
ทำความรู้จักคุณหมอนัท และ Nutchiko Clinic
“ตั้งแต่เรียนจบก็อยู่ในวงการความงามมาตลอดเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่เมียนมาร์ ลาว แล้วก็อุดรธานี ทีนี้พอกลับมาบ้าน คุณพ่อก็อยากให้อยู่ใกล้ๆ เลยทำคลินิกให้ ส่วนตัวชอบเรื่องความสวยความงาม ผิวพรรรณ รูปร่างอยู่แล้ว เลยทำคลินิกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันค่ะ ตอนนี้ Nutchiko Clinic ก็ดำเนินการมา 11 ปี มีด้วยกัน 3 สาขา คือ สาขาห้วยม่วง จ.อุบลราชธานี, สาขาม.อุบลฯ แล้วก็สาขากรุงเทพฯ ที่ซอยรางน้ำ”
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ Nutchiko Clinic สนใจการลดน้ำหนัก
“โปรแกรมเด่นของคลินิกเราจะเป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับรูปหน้าแล้วก็ร้อยไหม ซึ่งก็เป็นหัตถการที่ช่วยในเรื่องความสวยความงามได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไงก็ต้องมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการควบคุมอาหาร และควบคุมน้ำหนักร่วมด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราหันมาสนใจการลดน้ำหนักและการควบคุมอาหารค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์ของการปรับรูปหน้าตอบโจทย์ผู้รับบริการมากขึ้น ให้เขาได้มั่นใจขึ้นในแบบของตัวเอง ซึ่งโปรแกรมลดน้ำหนักของเราก็มีการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ปรับรูปหน้าร่วมด้วย เพื่อให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพและคงน้ำหนักไว้ได้ต่อเนื่องค่ะ”
เข้าใจ การเผาผลาญ ของร่างกาย
“ก่อนจะเริ่มลดน้ำหนัก อยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเผาผลาญของร่างกายสักเล็กน้อยค่ะ การเผาผลาญ คือ กระบวนการที่ร่างกายเปลี่ยนอาหารที่เรากินเข้าไป ให้เป็นพลังงานเพื่อใช้ในระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งสารอาหารแต่ละประเภทอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน ก็จะมีวิธีการเผาผลาญจัดการแตกต่างกันไป
ถ้าการเผาผลาญดี เมื่อเรากินอาหารเข้าไป ร่างกายก็จะนำไปเผาผลาญใช้เป็นพลังงานได้หมด แต่ถ้าการเผาผลาญไม่ดี หรือกินอาหารมากกว่าที่ร่างกายเผาผลาญ หรือ กินมากกว่าที่ออกกำลังกาย สารอาหารจำพวกไขมัน น้ำตาล คอเลสเตอรอลก็จะไปสะสมตามบริเวณต่างๆ ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแก้ม เหนียง ใต้ท้องแขน ต้นขา หน้าท้อง หรือเกาะที่ตับ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้การกินจึงมีผลต่อน้ำหนักและรูปร่างของเรามากค่ะ“
ลดน้ำหนักต้องเริ่มจากการกินให้ถูก
“การเพิ่มการเผาผลาญด้วยการออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่ง แต่อย่างที่บอกไปว่าการกินคือต้นเหตุ คือปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักและรูปร่างของเรา ดังนั้นเราต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการกินค่ะ”
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้
- กินอาหารไม่เป็นเวลา
- กินอาหารรสจัดเกินไป
- กินอาหารที่มีไขมันไม่ดี ส่งผลให้เกิดเส้นเลือดอุดตันซึ่งอาจนำไปสู่โรคอ้วน
เปลี่ยนมากินแบบนี้
- กินโปรตีนให้เพียงพอ
- กินผักผลไม้ให้เพียงพอ
- ลดอาหารมัน อาหารเค็ม ของทอด ของหวาน
รู้จักฮอร์โมนในการควบคุมการทานอาหาร
“จะเห็นได้ว่าการรับประทานอาหาร มีผลต่อน้ำหนักและสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก หากเราสามารถควบคุมการรับประทานอาหารได้ ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและเห็นผลในระยะยาว พฤติกรรมการทานอาหารจุบจิบ หิวบ่อย เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจแสดงออกจากการรักษาสมดุลของฮอร์โมนหิว-อิ่มในร่างกาย ทำงานได้ไม่ดีพอ
โดยสมองเอง มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการรับประทานอาหารผ่านศูนย์หิว ศูนย์อิ่ม โดยมีฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณเชื่อมต่อระหว่างสมองกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ตื่นนอนในตอนเช้า ร่างกายต้องการพลังงาน กระเพาะอาหารหลั่งฮอร์โมนเกรลิน ทำให้รู้สึกหิว และเมื่อรับประทานอาหารแล้ว ลำไส้เล็กหลั่งฮอร์โมน GLP-1 ทำให้รู้สึกอิ่ม
จะเห็นได้ว่า อ้วน นับเป็นโรคอย่างหนึ่ง ที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งในปัจจุบัน มีการนำฮอร์โมน GLP-1 มาพัฒนาช่วยในการรักษาโรคอ้วน หรือหลายคนเรียกให้เข้าใจง่ายว่า ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความหิว เนื่องจาก มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon Like Peptide-1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนอิ่มที่เรามีอยู่แล้วในร่างกายตามธรรมชาติ ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ออกฤทธิ์ทำให้อิ่มเร็วขึ้น อาหารย่อยและดูดซึมช้าลง ค้างอยู่ในกระเพาะนานขึ้น จึงทำให้อิ่มนาน และคุมความหิวให้ลดลง
สำหรับเคสที่มีค่าดัชนีมวลกาย หรือ BMI มากเกินกำหนด มีปัญหาด้านสุขภาพ อย่างเช่น เริ่มมีโรคอ้วนชัดเจน คอเลสเตอรอลสูง มีการนอนกรน หรือมีภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดตันจากไขมัน การใช้ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมความหิวก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เสริมให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมเยอะ ทั้งที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัยซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาว จึงแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการตรวจสอบรับรองจากองค์การอาหารและยาที่ถูกต้อง และการรักษาโรคอ้วนด้วยการใช้ยาต้องใช้ภายใต้คำแนะนำและการสั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น”
สุดท้ายนี้ ในสังคมปัจจุบันมีค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามมากขึ้น จนอาจทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจจากค่านิยมเหล่านั้น ซึ่งคุณหมอก็ได้ทิ้งท้ายไว้แบบนี้ค่ะ
“อยากให้ทุกคนมีมายด์เซ็ตว่าแต่ละคนมีความสวยที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน เราก็มีความสวยในแบบของตัวเองทั้งนั้น อย่างดอกกุหลาบกับดอกลิลลี่ก็มีความสวยที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราไม่ควรไปเปรียบเทียบตัวเองกับใครค่ะ ขอให้เรามั่นใจว่าเราสามารถสวยขึ้นในแบบของเราได้” สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Nutchiko Clinic ทั้ง 3 สาขา (สาขาห้วยม่วง, สาขาม.อุบลฯ, สาขากรุงเทพฯ ซอยรางน้ำ)