ฟาดได้ฟาดอีกแม่! พี่หมอกุ้งพาสกินแคร์จาก KVKX ยืนหนึ่ง-ยืนยาวในใจคนไทย เตรียมโชว์ Big Project สุดจึ้งปีนี้ #เฉิดฉายได้อีก

KVKX Thailand ผู้ผลิตแบรนด์สกินแคร์ออนไลน์สุดปังที่ออกมากี่โปรดักส์ก็ฟาดความนิยมไม่ยั้ง พิสูจน์จาก 9 ปีที่ผ่านมายังไม่เคยต้องเลิกผลิตสินค้าตัวไหนเลย เพราะผลตอบรับที่ดีทุกตัว เพราะคุณภาพที่ยืนหนึ่งเกินราคา ยังไม่พอยังไม่หยุดที่จะพัฒนาให้ปังขึ้น ขายดีขึ้น แต่ก็ยังไม่หยุดฟาด เตรียมฉลองปีที่ 9 ด้วย Big Project สุดว้าว! …ทำได้ยังไง – โปรเจ็คต์อะไร สุดสัปดาห์ จะพาไปคุยกับ หมอกุ้ง – กรวิกกา พัฒนะปราน ผู้ก่อตั้งแบรนด์ KVKX และ Vikka Skincare …จากที่คุยกันบอกได้เลยว่า “ปังได้อีกแม่”

เริ่มต้นจาก “ครีมทาฝ้า” ที่บอกลูกค้าว่า “ฝ้ารักษาไม่หาย”!

“ย้อนไป 10 ปีก่อนกุ้งทำคลินิกเล็กๆ ที่โคราชนี่แหละค่ะ เคสของคลินิกเราก็จะเป็นสิวกับฝ้าเยอะ ในคลินิก 30 กว่าตารางเมตร มีผู้รับบริการ 100-200 คนต่อวัน คือคนเยอะมากจนเพื่อนมาเห็นแล้วชวนทำแบรนด์สกินแคร์ ทีแรกไม่ได้อยากทำ แต่เพราะคำพูดของสามี (นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์) ที่ว่า “ถ้าเธอทำคลินิก เธอรักษาได้วันละ 100 คน แต่ถ้าเธอทำแบรนด์สกินแคร์เธอจะดูแลคนได้ทั้งประเทศไทย” …แค่คำพูดคำนี้คำเดียวกุ้งตัดสินใจทำเลยค่ะ

“กุ้งเลือกทำสกินแคร์สำหรับดูแลฝ้า (แบรนด์ KVKX THAILAND) ก่อนสกินแคร์สิวทั้งที่คลินิกดังเรื่องสิวเพราะชาเลนจ์กว่า ก็เริ่มรีเสิร์ช เริ่มคุยกับนักวิทยาศาตร์ต่างประเทศ จนพบสารสกัด DKK1 ซึ่งเมื่อปี 2015 ยังใหม่มาก มีแค่ที่ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น เราคือเจ้าแรกที่นำเข้าไทย สารตัวนี้ผลิตได้จากร่างกายมนุษย์บริเวณฝ่ามือ-ฝ่าเท้า มีคุณสมบัติช่วยลดเม็ดสีได้ดีและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สังเกตดูได้เลยว่าผิวหนังบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้าเป็นส่วนที่ดำคล้ำน้อยกว่าส่วนอื่นๆ และมีความแข็งแรง กุ้งรู้สึกว่า เฮ้ย! มันน่าจะเป็นนวัตกรรม เลยสั่งผลิตและนำเข้าจากฝรั่งเศส ณ วันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กุ้งเป็นคนแรกๆ ที่ก้าวไปทำงานกับต่างประเทศ รู้สึกสนุกมากๆ ค่ะ และท้าทายมากพร้อมๆ กัน

“จุดเปลี่ยนของแบรนด์คือการได้ไปออกรายการพี่วู้ดดี้ ตอนนั้นยังเป็น “วู้ดดี้ตื่นมาคุย” ไม่รู้เกิดทันกันไหม (หัวเราะ) ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ไปพูด 7 นาทีรวดเดียวเท่านั้น ห้ามคัท ห้ามตัดต่อ เป็น 7 นาทีที่กุ้งจะต้องทำให้คนรู้และเข้าใจคอนเซ็ปต์ของเรา กุ้งไม่ได้พูดตามสคริปต์เลยนะ พูดด้วยฟีลกุ้งล้วนๆ ต้องขอบคุณพี่วู้ดดี้เพราะวันนั้นคือจุดเปลี่ยนจากหมอตัวเล็กๆ คนไม่รู้จัก พอบอกว่าฝ้ารักษาไม่หายนะ คนก็ไม่คุยกับเราต่อ เพราะในยุคนั้นมีครีมสเตียรอยด์เยอะ มีแบรนด์อื่นๆ อีกมากมายที่เคลมว่าใช้กระปุกเดียวฝ้าหาย การออกรายการพี่วู้ดดี้ช่วยให้ทุกคนเชื่อว่าสิ่งที่เราออกมาพูดคือ Fact คือความรู้ที่ถูกต้อง ก็เปลี่ยนชีวิตเลย ขายดี แล้วก็พัฒนาต่อมาเรื่อยๆ มาจนถึงวันนี้ค่ะ”

ยืนหนึ่งด้วยคอนเซ็ปต์ “ดีได้อีก ฟาดได้อีก”

“หนึ่งในความภาคภูมิใจของเราคือตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่มีสินค้าตัวไหนเลยที่ต้องเลิกผลิตไป มีแต่พัฒนาขึ้น ซึ่งกุ้งเชื่อว่าเป็นเพราะ

1 สินค้าดีจริง ถ้าสินค้าไม่ดีมันจะอยู่ในตลาดไม่ได้ยาวนาน แต่ถ้าเราทำสินค้าดี มันจะอยู่กับผู้บริโภค และจะซื้อซ้ำวนๆ ไป เรามีฐานลูกค้าเก่าที่ Royalty กับเรา 95% เลยทีเดียว

2 ไม่หยุดนิ่ง คำว่าดีที่สุดไม่มีอยู่จริง ณ วันนี้เราเชื่อว่ามันดี แต่ถ้าเราไม่พัฒนา วันหนึ่งมันจะมีคนที่ดีกว่าเรา ฉะนั้นกุ้งเชื่อว่าที่เรายังอยู่มาตลอดเพราะเราพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง กุ้งเป็นคนมี Ambitious สูงมาก ชอบพัฒนา คิดค้น หาความรู้อยู่ตลอด จะว่าเป็นเด็กเนิร์ดก็ได้ ดังนั้นจึงมีไอเดียในการพัฒนาอะไรใหม่ๆ ตลอด พัฒนาส่วนผสม สูตร แพ็คเกจจิ้งก็ยังพัฒนาให้รักษาคุณภาพได้ดี ใช้ง่าย ใช้คุ้ม คือให้ 1 ปั๊มออกมาในปริมาณที่พอดี คือใส่ใจทุกองค์ประกอบที่จะออกมาเป็นครีม 1 กระปุก กุ้งว่านี่แหละคือ Key Success ของสินค้าเรา

3 ให้องค์ความรู้ กุ้งมองว่าการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เรามีมันดีกว่าเราเอาแต่ขายของ ฉะนั้นคนจะเห็นแบรนด์ KVKX – Vikka Skincare มีการถ่ายถอดความรู้ บอกความจริง การดูแลสิว การดูแลฝ้า การดูแลตัวเอง อย่างจริงใจ นี่คือสิ่งที่ทำให้คนเริ่มจดจำภาพเรา เริ่มรู้จักกุ้งมากขึ้น เป็นที่ติดตาติดปาก คนก็เลยใช้กันอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ มาตลอด 9 ปี และเราก็ไม่หยุดพัฒนา ไม่ยอมหยุดนิ่ง และไม่ยอมให้โควิดมา Disruption

“ช่วงโควิดนี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Vikka Skincare ตอนนั้นทุกคนอยู่บ้านกันหมด มีคอนเทนต์และสินค้าออนไลน์ออกมาเยอะมาก กุ้งก็เช่นกัน คลินิกถูกปิด ฉะนั้นก็เป็นช่วงคิดค้นพัฒนา เลยทำสกินแคร์ไลน์สิว แล้วก็ติดตลาด กลายเป็นว่า Vikka เป็นตัวที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่าแบรนด์ของกุ้งจับต้องได้ง่ายขึ้น คุยภาษาที่เข้าใจง่ายมากขึ้น เพราะกุ้งมี Know How จากที่เราทำแบรนด์สกินแคร์มา 9 ปีแล้ว เข้าใจการสื่อสารกับผู้บริโภค  เลยเป็นการเริ่มต้นที่สนุกค่ะ ทำให้ทุกวันนี้เรายังคงครองตลาดสกินแคร์สายขาว ให้ความรู้ที่ถูกต้อง ทำสินค้า  High Quality ในราคาที่จับต้องได้

“กุ้งมองว่าการทำของแพงมาขายราคาแพงใครก็ทำได้ แต่ทำของแพงออกมาขายในราคาที่จับต้องได้มันท้าทายกว่า จริงอยู่ที่กุ้งทำธุรกิจกุ้งอยากมีเงิน แต่เงินไม่ใช่ที่สุดของกุ้ง กุ้งอยากพิสูจน์ตัวเอง เพราะเชื่อว่าถ้าทำผลงานได้ดี เงินมันมาเอง ทุกวันนี้สิ่งที่อยากทำคือสร้างตำนานบทหนึ่ง อยากให้บทนี้มันอยู่กับเรา อยู่กับโลก และอยู่กับคนไทย ทำของดีๆ ให้คนไทยได้ใช้ในราคาจับต้องได้ค่ะ”

Marketing & Management แบบ “Dr.Koong Style”

“กุ้งเน้นคุณภาพสินค้าก็จริง แต่ไม่เคยทิ้งเรื่อง Marketing ในยุคที่มีแบรนด์มากมายแบบนี้การตลาดสำคัญมาก ทุกวันนี้การสื่อสารแบรนด์เป็นแบบ Omni Channel เราต้องตามให้ทันว่าเทรนด์ตลาดมันเปลี่ยนไปยังไง Social Media มีอิทธิพลมากขึ้นแค่ไหน การเข้าถึงผู้บริโภคมันไม่ได้ง่ายเหมือนก่อน การเข้าถึงลูกค้ามีไม่รู้กี่แบบกี่ช่องทาง เราก็ต้องกวาดให้ได้ทั้งหมด กุ้งพยายามทำให้คนในองค์กรของเรามีความ Proactive ทำคอนเทนต์ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแนวสนุก แนวจับกระแส และแนวความรู้ เน้นการสื่อสารที่จริงใจ เข้าใจง่าย และไม่เคยพาดพิงหรือด่าแบรนด์ไหน แบรนด์ไหนทำได้ดีกว่ามีแต่ชื่นชมและถือเป็น Inspiration ตรงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนนึกถึงเราเสมอเมื่อนึกถึงคอนเทนต์ดีๆ

“อีกจุดที่กุ้งคิดว่าเราค่อนข้างต่างกับคนอื่นคือเราไม่ได้จ้างเอเจนซี่หรือคนนอกเข้ามาดูแลการตลาด แต่เลือกที่จะทำกันเองเพราะเชื่อว่าคนที่จะรู้เรื่องของแบรนด์ รู้ปัญหา และทำ S.W.O.T Analysis ได้ดีที่สุดคือตัวเรา ฉะนั้นถ้าเราทำเอง เราจะรู้ว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน ต้องแก้ยังไง ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งยังไง หรือต่อให้จะมีบางส่วนที่ให้คนนอกเข้ามาช่วย กุ้งก็จะกระโดดเข้าไปในทุกจุดเสมอ เพื่อเรียนรู้ทุกอย่างให้เป็น จริงอยู่ที่เราควรพยายามทำเฉพาะในส่วนที่สำคัญ แต่เราต้องรู้ทุกขั้นตอนเพื่อนำองค์กรให้ได้ดี

“นอกจากการสื่อสารแบรนด์แล้ว การสื่อสารกับทีมก็สำคัญเพื่อให้เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันและพร้อมวิ่งไปด้วยกัน เรามี Morning Brief กันทุกเช้า น้องๆ ในทีมทำการบ้านกันทุกเช้าค่ะ (หัวเราะ) มี Monthly Plan ไปจนถึง Daily Plan ความที่กุ้งเป็นคนเร็วและชอบทำงานกับคนมี Energy ตัวกุ้งเองก็ต้องใส่ Positive Energy ให้ทีมด้วย เราจะคุยกันเสมอว่ามีอะไรที่เราต้องทำ เราจะต้องดูแลลูกค้ายังไงให้เขารู้สึกประทับใจ หรือเราจะทำยังไงให้ดีกว่าเดิม

“นอกจากนี้ ประสบการณ์ 9 ปีสอนให้กุ้งรู้ว่าวินัยโคตรสำคัญ การเริ่มต้นมันสนุกค่ะ แต่พอทำไปนานๆ การมีวินัยที่จะทำอย่างต่อเนื่องสำคัญที่สุด กุ้งไดรฟ์ตัวเองด้วยแพสชั่นและความสุขในการทำงาน แต่กุ้งต่อเนื่องด้วยวินัย แม้วันที่ไม่อยากทำก็ต้องตื่นมาทำ กุ้งไม่เคยหยุดอยู่กับที่เพราะรู้ว่าทุกคนกำลังเดินไปข้างหน้า เราจะไม่ยอมเป็นคนหลังๆ เราจะไม่ยอมอยู่ในค่าเฉลี่ย แต่เราอยากเป็นคนที่ Outstanding ตลอดเวลา ฉะนั้นก็ต้องผลักดันตัวเองให้อยู่ใน Sportlight ตลอดเวลา”

ดูแลลูกค้าแบบ #หมอกุ้งจัดให้

“ต้องบอกว่าลูกค้าเรามีความ Loyalty สูงมาก ซื้อแล้วซื้อซ้ำ และยังซื้อเยอะ ทุกครั้งที่เราไลฟ์สดจะมีออร์เดอร์หลักหมื่นเข้ามาตลอด ต้องบอกว่าสกินแคร์ของเรา 390, 490, 590 แพงสุดคือ 990 บาทนะคะ ลองคิดดูว่าการจะถึงหมื่นต้องซื้อกี่ชิ้น แพ็คของกันทีเป็นลังใหญ่ๆ เลย สิ่งนี้ทำให้เรารับรู้ได้ว่า ถ้าเขาใช้ของเราแล้วเขาชอบ เขาก็จะอยู่กับเรายาวๆ กุ้งรู้สึกขอบคุณมากๆ และอยากให้สิ่งนี้ยั่งยืนต่อไป ดังนั้นการพัฒนาระบบหลังบ้านให้ดูแลลูกค้าได้ทุกมิติเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นทีมแพ็ค ทีมเซอร์วิส การจัดระบบสต๊อก การรัน-รีเช็คออร์เดอร์ ทั้งหมดเราดูแลกันแบบต่อเนื่องในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะมาจาก Social Media หรือ  E-Commerce Platform ลูกค้าจะต้องได้รับการดูแลและได้รับ Benefit ทุกช่องทาง ทั้งหมดที่พูดมานี้กุ้งรีเช็คตลอด ตั้งบริษัทอยู่ติดกับคลินิกเพื่อให้เดินไปตรวจงานได้ทุกวันนี่แหละค่ะ (หัวเราะ)

“นอกจากนี้กุ้งรู้ว่าลูกค้าเราชอบอะไร เขาชอบความสนุกในกิมมิคของแบรนด์ ดังนั้นสีสันและความสนุกต้องมีตลอด มีของพรีเมียมแจกทุกเทศกาล อย่างวาเลนไทน์มีกระจกหัวใจ มีหวีสีชมพู ก่อนหน้านี้มีกระเป๋า Puffy Bag ที่เป็นกระแสมาก ลูกค้าสนุกกับการเอฟให้ครบ 5 สี หรือสำหรับลูกค้า VIP บางครั้งไม่ต้องซื้อของเราก็จะส่งไปให้ แล้วของพรีเมียมเราก็ไม่จำเป็นว่าต้องสกรีนชื่อแบรนด์หรือบางทีก็เป็นของอย่างอื่นไปเลย เช่น เครื่องประดับแบรนด์ที่กุ้งชอบและใช้อยู่ อยากให้ลูกค้าได้ใช้ด้วยก็ซื้อมาแจกลูกค้า Top Spender คือถ้ากุ้งชอบ กุ้งอยากให้ ก็จัดให้เลย!”

Next Step ปังมากแม่!

“สำหรับในปีนี้ KVKX จะมีความอลังการมากๆ ค่ะ เราจะมีการทำงานร่วมกับ CO CEO คนใหม่ นั่นก็คือ พี่เมย์ พิชญ์นาฏ เขาน่าจะเล็งแบรนด์เรามาสักพักแล้ว และพอได้ใช้ของเราพี่เมย์เขาแฮปปี้มาก …และเป็นครั้งแรกที่แบรนด์ของเรามี CO CEO ด้วยค่ะ เราจะมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับ INACLEAR CREAM และ INACLEAR SERUM สูตรใหม่ที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกุ้งมั่นใจว่าเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันมาก เพราะมีการเพิ่มส่วนผสมที่ต้านการทำลายผิวจาก  PM2.5 และปรับสูตรให้ทาแล้วลงเมคอัพต่อได้เลย เพื่อให้สกินแคร์ของเราเป็นทั้ง Daily Use และ Night Routine รวมทั้งปรับแพ็คเกจใหม่เริ่ดๆ ยังไม่พอนะคะ เราอาจจะมีการ Collaboration กับแบรนด์ดังด้วย

“ในปี 2024 นี้หลายๆ คนน่าจะเห็น KVKX ที่โฉบฉาย คือทั้งโฉบเฉี่ยวและเฉิดฉายขึ้น แล้วก็เห็น Vikka Skincare กระโดดไปทำตลาดใน AEC มากขึ้นและใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แล้วก็อาจจะเห็น Big Project จากกุ้งและน้องๆ ทีมงาน  

“ทั้งหมดนี้กุ้งเชื่อว่าคนที่จะได้เบเนฟิตที่สุดก็คือผู้บริโภคที่จะได้ใช้ของดีในราคาจับต้องได้ ให้รู้ไปว่า “ของดีไม่จำเป็นต้องแพง” นี่เป็นแนวคิดของกุ้งที่มีมาตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันนี้ก็ยังยึดคอนเซ็ปต์นี้มาตลอดค่ะ

“แน่นอนว่าการพัฒนารอบนี้ คือสูตรที่กุ้งคิดว่าดี และเหมาะกับคนเอเชียมากๆ และลงตัวที่สุด  และรอบนี้มาแบบไม่ธรรมดา เพราะเรามี CO-CEO คุณเมย์ พิชญ์นาฎ มาทำงานร่วมกับกุ้งด้วย สนุกมากที่สุด ประเดิมล็อตแรกกับการเปิดตัวแล้วหมดเกลี้ยงทันทีใน 2 เดือน จะเป็นยังไงต่อฝากติดตามไปพร้อมๆ กันกับทุกโปรเจ็คต์ของกุ้งและพี่เมย์กันค่า“

… ณ จุดนี้บอกเลยว่าอยากเห็นทั้ง Big Project และ InaclearG+ serum in cream สูตรใหม่ล่าสุดที่ตกผลึกมานาน 8 ปีากๆ!