พูดคุยแบบเจาะลึกถึงการออกแบบทรงจมูกเฉพาะบุคคลกับ “คุณหมอหนึ่ง“ Emma Clinic คุณหมอมาแรงแห่งปี 2024 เพื่อมาอัพเดทเทรนด์จมูกในปีนี้
“เสริมจมูก” เป็นคำค้นหาลำดับต้นๆ ในเสิร์ชเอนจิน เนื่องจากสาวไทยหลายคนอยากเพิ่มมิติให้ใบหน้า จึงเลือกที่จะเสริมจมูก แต่ปัจจุบันแค่รูปทรงที่โด่งขึ้นอาจยังไม่ตอบโจทย์ สุดสัปดาห์ จึงต้องขอพูดคุยกับ คุณหมอหนึ่ง นพ.อนันต์ จึงสุวัฒนานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบจมูกเฉพาะบุคคลที่ EMMA CLINIC คลินิกเจ้าของรางวัล The Best Rhinoplasty Design of 2023 เพื่อมาอัพเดทเทรนด์จมูกในปีนี้ พร้อมเผยวิธีเลือกรูปทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า
…ใครอยากดูดีขึ้นในแบบฉบับของตัวเองตามมาพบกับความรู้และคำแนะนำสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากคุณหมอหนึ่งกันค่ะ
เทรนด์ความงามปี 2024 : เน้นความกลมกลืน-สวยในแบบฉบับของตัวเอง
ขอเริ่มต้นกันที่เรื่องเทรนด์ความงามในยุคนี้ก่อนเลย ซึ่งคุณหมอหนึ่งอัพเดทว่า “ภาพรวมเทรนด์ความงามปัจจุบันจะนิยมทำศัลยกรรมเพื่อให้สวยขึ้นแต่ยังคงความเป็นตัวเอง เช่น ไม่ได้คิดว่าต้องทำจมูกโด่งที่สุด พุ่งที่สุด คางต้องยาวที่สุด ต้องแหลมที่สุด แต่จะมองถึงความกลมกลืนมากขึ้น มีความละมุนขึ้น มองการทำสวยที่เข้ากับใบหน้าของแต่ละคนมากขึ้น อาจจะด้วยในยุคนี้คนส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการศัลยกรรมมากขึ้นด้วยครับ
“เมื่อมีผู้รับบริการเข้ามาปรึกษา เราจะมีการพูดคุยกันในแต่ละเคส สอบถามข้อมูลจากเจ้าตัวด้วยว่ามีแบบที่ชอบ หรือมีทรงในใจไหม และแพทย์จะตรวจประเมินโครงสร้างใบหน้าว่าสามารถเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อหาตรงกลางที่สุด ทั้งความคาดหวังและสิ่งที่ทำได้”
สำหรับเรื่องนวัตกรรมในการเสริมจมูกนั้น คุณหมอหนึ่งอธิบายว่า “จริงๆ เทคนิคมีตั้งแต่แบบ Open และแบบปิด แต่ว่าเทคนิคปิด ปัจจุบันมีมากขึ้น ในส่วนของวัสดุที่ใช้รองปลายจมูก แต่ก่อนจะใช้กระดูกหลังหู หรือว่าเนื้อเยื่อก้นกบ ทำให้คนไข้ต้องเจ็บตัว 2 จุด พักฟื้นนาน แต่เดี๋ยวนี้มีพวกเนื้อเยื่อเทียมขึ้นมาทดแทน ซึ่งช่วยลดจุดที่ต้องทำการผ่าตัด
“ในแง่ของความปลอดภัย จริงๆ แล้วการเสริมจมูกด้วยเทคนิคในสมัยก่อนกับปัจจุบันมีความปลอดภัยไม่ต่างกัน แต่ผู้รับบริการมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น เริ่มรู้จักเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกแพทย์อย่างพิถีพิถันมากขึ้น ไม่ใช่ดูจากรูปรีวิวอย่างเดียว ทำให้ตัวเขามีความปลอดภัยมากขึ้นไปด้วย รวมทั้งเริ่มมีความเข้าใจแล้วว่า การทำจมูกที่โด่งมากเกินไปหรือพุ่งมากเกินไปก็อาจทำให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง เช่น ทะลุ อักเสบ ฯลฯ เมื่อเขาเข้าใจว่าความโด่งประมาณไหนพอดีกับเนื้อจมูก หรือเนื้อจมูกของเขาทำสูงที่สุดได้แค่ไหน ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาดังที่เล่าไป ซึ่งสมัยก่อนจะไม่ใช่แบบนี้เลยครับ”
ทำจมูกที่ EMMA Clinic แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร
- ความปลอดภัยคือ Priority
“ในการเสริมจมูก เราจะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่เสริมให้ฝืนเนื้อ กับบางเคสที่ทำด้วยเทคนิคปิดแล้วไม่ปลอดภัย เราจะแจ้งกับคนไข้ตรงๆ เลยว่า ทำไม่ได้นะ ไม่ควรทำ และจะแนะนำวิธีอื่น เทคนิคอื่นที่ปลอดภัยกับตัวเขามากกว่าเพื่อเป็นทางเลือก” คุณหมอหนึ่งย้ำจุดยืนเรื่องความปลอดภัยซึ่งเป็นหลักการทำงานที่ Emma Clinic ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
- แนะนำเทคนิคที่เหมาะสม
ส่วนเทคนิคการเสริมจมูก คุณหมอบอกว่าที่นี่มีครบทุกแบบ ทั้ง Closed Technique, Semi-Open Technique และแบบ Open Technique โดยแพทย์จะประเมินดูว่าเทคนิคแบบไหนเหมาะกับคนไข้ ขณะที่ Closed Technique เป็นเทคนิคที่คุณหมอทำมากที่สุด
ทั้งนี้เพราะส่วนใหญ่ปัญหาของคนไทยจะเป็นในเรื่องที่ “ขาด” มากกว่า “เกิน” ต่างจากทางฝั่งยุโรปที่มักมีปัญหาจมูกโด่งเกินไปหรือมีปมกระดูกสูง ในการตัดสินใจมาทำจมูกของคนไทยจึงมักเป็นการเพิ่มความสูงมากกว่า และ Closed Technique ราคาไม่แพง พักฟื้นไว แก้ไขปัญหาของคนไทยได้ตรงจุดประมาณ 80-90% ส่วนที่เหลือนอกจากนี้คือเคสที่ต้องทำเป็นเทคนิค Semi-Open Technique หรือแบบ Open Technique
สำหรับเทคนิค Closed Technique ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมนั้น คุณหมอหนึ่งให้ความรู้เพิ่มเติมว่า “เทคนิค Closed Technique เป็นการเสริมจมูกแบบปิด โดยแพทย์จะใช้ซิลิโคนแท่งเป็นตัวเสริม และมีการรองตรงส่วนปลายจมูกด้วยวัสดุต่างๆ อย่างเช่นเนื้อเยื่อเทียม กระดูกหลังหู หรือเนื้อเยื่อหลังหู ตามความเหมาะสม เทคนิคนี้จะช่วยแก้ไขให้ทรงจมูกดูเรียวขึ้น มีความพุ่งขึ้น ได้มิติขึ้น แต่ถ้าหากผู้รับบริการมีปัญหาเรื่องแกนจมูกเอียงมาก หรือเนื้อน้อยมาก ก็อาจจะต้องเลือกเป็นเทคนิคอื่น เช่น Open Technique หรือเทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อแก้โครงสร้างจมูก ซึ่งสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ การเสริมจมูกแบบปิดก็ถือว่าตอบโจทย์แล้ว”
การออกแบบจมูกเฉพาะบุคคล
ในส่วนของการดีไซน์จมูกในแต่ละบุคคล คุณหมอหนึ่งเล่าว่า “อันดับแรกต้องดูเรื่องของเนื้อจมูกก่อน ว่าเนื้อของเคสนั้นๆ เพิ่มความโด่งขึ้นได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อไม่ให้ทำมากเกินไปแล้วเกิดปัญหาตามมาภายหลัง แล้วก็ดูตรงช่วงสัน เพื่อให้รับกับบริเวณหน้าผาก ซึ่งหน้าผากของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่หลักๆ เลยก็คือจะไม่ให้สูงมากเกินไป สูงที่สุดก็คือเสมอกับหน้าผาก ซึ่งแบบนี้จะเป็นทรงสายฝ. แต่ถ้าอยากได้หวานก็จะดร็อปลงมานิดหนึ่งเพื่อให้มีสโลปตรงช่วงหัวตา ให้ดูหวานขึ้น เป็นแนวสายเกา ส่วนของปลายเราจะดีดขึ้น เพื่อยกให้ดูเรียวขึ้น อาจจะมีทิ้งหยดน้ำเล็กๆ แต่ว่าไม่ให้เยอะจนเกินไป และจะดูภาพรวมให้กลมกลืนเหมาะกับใบหน้าของเคสนั้นๆ ด้วย”
คำแนะนำสำหรับคนที่กังวลเรื่องจมูก
- การประเมินเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เราเชื่อว่าคนที่มีความกังวลก็มักจะโฟกัสกับส่วนนั้นๆ เวลาที่ส่องกระจก ซึ่งคุณหมอหนึ่งได้ให้คำแนะนำง่ายๆ สำหรับคนที่กังวลเรื่องจมูกและอยากประเมินเบื้องตเนด้วยตัวเองอย่างน่าสนใจว่า
“เบื้องต้นสามารถส่องกระจกดูได้เองคร่าวๆ ว่าแกนจมูกเอียงไหม รูจมูกสองข้างไม่เท่ากันหรือเปล่า หรือถ้าอยากดูว่าหากเสริมจมูกจะทำได้แค่ไหน ให้ลองหยิบเนื้อตรงบริเวณช่วงระหว่างตาขึ้นมา แล้วดูว่าความยืดที่หยิบได้มากน้อยแค่ไหน คนที่หยิบได้เป็นแค่หนังบางๆ จะไม่แนะนำให้เสริมด้วย Closed Technique รวมทั้งกลุ่มที่มีปัญหาแกนจมูกเอียงมากก็ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะจะไม่ปลอดภัย แต่ถ้าไม่ชัวร์หรือตัดสินใจแล้วว่าอยากทำจริงๆ แนะนำให้เข้ามาตรวจที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ประเมินอีกครั้ง แต่การประเมินด้วยตัวเองมาเบื้องต้นจะช่วยให้เข้าใจและมีความคาดหวังที่ไปกันได้กับเนื้อจมูกของตัวเอง เมื่อปรึกษาพูดคุยกับแพทย์จะเห็นภาพในทิศทางเดียวกันได้ดีขึ้น”
ส่วนเรื่องทำจมูกตามเทรนด์ คุณหมอหนึ่งมองว่าควรทำให้เหมาะกับตัวเองมากกว่า เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เทรนด์จะเปลี่ยน แต่ถ้าทำให้เข้ากับหน้าเราจะอยู่ได้ยาวนาน ไม่ต้องแก้ไขตามเทรนด์บ่อยๆ
เลือกคลินิกให้ปลอดภัย+ทำในเวลาที่เหมาะสม
“อันดับแรกต้องหาข้อมูลว่าแต่ละคลินิกมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง จากนั้นดูว่าคลินิกที่เราชอบจดทะเบียนถูกต้องไหม มีมาตรฐานความปลอดภัยและชื่อเสียงที่เชื่อถือได้ไหม นอกจากนี้ควรศึกษาว่าเทคนิคการผ่าตัดเสริมจมูกแบบต่างๆ แตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้มีความรู้เบื้องต้นก่อนพูดคุยกับแพทย์ สามารถซักถามได้ละเอียดและเข้าใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญแนะนำให้ดูเรื่องรูปทรง รีวิวผลงานของแต่ละคลินิกว่าชอบสไตล์ จากนั้นค่อยเจาะลงไปว่าแบบที่เราชอบเป็นผลงานของแพทย์ท่านไหน” คุณหมอแนะนำพร้อมทิ้งท้ายถึงช่วงอายุที่เหมาะสมในการเสริมจมูกว่า
“ต้องยอมรับว่าสมัยนี้คนเริ่มทำจมูกเร็วขึ้นคล้ายๆ เกาหลีที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มที่จะเข้าใจและยอมรับการศัลยกรรมได้มากขึ้น บางเคสก็เป็นการให้รางวัลอย่างหนึ่ง เช่น ให้ทำก่อนเข้ามหาวิทยาลัย แต่ถ้าให้แนะนำควรเสริมจมูกในช่วงที่กระดูกเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว คืออายุประมาณ 18 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช่วงที่เรียนจบมัธยมพอดี แต่ถ้าเป็นเคสที่อายุน้อยกว่านี้แต่ต้องใช้หน้าตาในการทำงานจริงๆ หมอจะแจ้งตามตรงว่ามีโอกาสที่กระดูกจะเติบโตกว่านี้และทรงจมูกอาจเปลี่ยนแปลงนะ และต้องมีการยินยอมของผู้ปกครองร่วมด้วย ซึ่งที่ EMMA CLINIC กลุ่มหลักที่เข้ามาทำจมูกจะเป็นวัย 18 ปีขึ้นไป ทั้งวัยรุ่น วัยเริ่มทำงาน หรือเพิ่งเรียนจบ ซึ่งที่นี่มีการเสริมจมูกในทุกเทคนิคซึ่งแพทย์จะแนะนำแบบที่เหมาะสม รวมทั้งมีหลายช่วงราคาสำหรับผู้รับบริการกลุ่มต่างๆ หากสนใจสามารถมาปรึกษาแพทย์ก่อนได้ครับ”
บอกเลยว่าการพูดคุยกับคุณหมอหนึ่ง EMMA CLINIC นั้น ทำให้เราได้ความรู้เกี่ยวกับการทำจมูกเพียบ ทั้งเรื่องของเทคนิค เทรนด์ ทัศนคติ ความปลอดภัย ไปจนถึงเทคนิคการเลือกสรรสิ่งที่เหมาะกับเรา เชื่อว่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่สนใจ ซึ่งหากอยากได้ข้อมูลที่มากขึ้นทั้งในเรื่องการทำจมูกและเสริมความงามอื่นๆ หรือดู Reference สวยๆ เพิ่มเติม สามารถตามไปดูได้ที่ emmaclinicthailand.com หรือเข้าไปปรึกษาแพทย์ได้ที่ EMMA CLINIC ทั้ง 3 สาขา
EMMA CLINIC
- สาขาพระราม 2 โทร 064 192 2823
- สาขาลาดพร้าว โทร 063 394 7492 ต่อ 3
- สาขาอโศก โทร 095 746 2823