สังคมไทยอยู่กับไสยศาสตร์และเรื่องเหนือธรรมชาติมาช้านาน ความเชื่อเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ จึงมีละครหลายเรื่องที่เอาไสยศาสตร์และการทำเสน่ห์เข้ามาเอี่ยว แถมเรื่องเหล่านี้แฝงความน่ากลัวอยู่ด้วย และคนไทยก็ชอบดูละครแบบนี้มากด้วย แม้จะขนพองสยองเกล้าเบาๆ ก็เถอะ ไปดูกันว่ามี ละครคุณไสย เรื่องไหนบ้าง ที่คนดูพูดถึง
ละครคุณไสย สายสตรองต้องดู
แรมพิศวาส ถ้ายังจำกันได้ “กลีบผกา” คือผู้หญิงที่มากด้วยตัณหาราคะและความทะเยอทะยาน เธอใช้ต้น “รากราคะ” ต้มให้สามีดื่มเพื่อให้เขารักเขาหลง โดยทำพิธีในคืนเดือนแรม ทำให้ว่านรากราคะโด่งดังจนคนคิดว่ามีจริงๆ พยายามสรรหามาต้มกินกันเพียบ
บ่วง ในชาติก่อน ก่อนที่ อีแพง จะกลายเป็นผีอาฆาต เธอเป็นเมียทาสที่เคยถูกกดขี่ จึงทำเสน่ห์เพื่อให้คุณพระมาสนใจ เพื่อที่เธอจะได้ตีตนเสมอกับเมียอื่นๆ ในเรือนได้ โดยมีคาถามหาเสน่ห์ ที่ตอนนั้นโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล ที่มีเนื้อความว่า “โอม… ให้ช้างลืมโขลง… โอม… ให้โขลงลืมไพร… โอม… ให้มันร้อนเร่า…โอม… ให้มันรักใคร่… โอม… ให้มันอยู่ไม่ได้…”
บ่วงบาป บทบาทของตัวละครรำพึงที่ต้องการจะครอบครองทั้งตัวและหัวใจของ ขุนพิทักษ์ แต่ใจของเขาเป็นของคนอื่น จึงทำให้เธอหันหน้าเข้าพึ่งไสยศาสตร์ โดยการลงนะหน้าทอง และใช้คาถามหาเสน่ห์ “ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู” จนทำเอาขุนพิทักษ์เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการโดนของ แต่กรรมก็ตามทันเธอ เพราะเธอก็ต้องมอบกายให้กับหมอทำคุณไสยเป็นสิ่งตอบแทนเช่นกัน หนำซ้ำเธอยังโดนแก้แค้นจากบาปกรรมและความริษยาที่เคยทำมา ทำให้ตอนสุดท้ายเสียสติไป
กำไลมาศ ความมีเสน่ห์ของ หม่อมเจ้าดิเรก ทำให้สาวทั้งหลายหมายปอง นอกจาก ริ้วทอง และ หม่อมเจ้าหญิงรัมภา แล้ว ยังมีสาวชาวจีนนามว่า ล้อมเพชร ที่ปรารถนาในตัวเขาเหมือนกัน โดยเธอทำเสน่ห์ใส่หม่อมเจ้าดิเรกให้หลงใหลเธอ และเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิดและความแค้นของริ้วทอง โดยคาถาของเธอคือ “โอม…สิทธิฟ้าฟื้นจำเริญศรี ศรีเจ้างามคือฟ้าหน้ากูงามให้แขนขาดังนางบุษบาดาวตาสุกใสดังจันทร์ฉาย ชายเห็นเป็นทนไม่ได้ ใจรำพึงถึงเพียงกู กินข้าวอยู่ในคอก็ลืมกลืน ให้สะอื้นถึงกูทุกทิวาและราตรี”
บ่วงอธิฏฐาน ชาติก่อน ก่อนที่ บุษกร จะกลายเป็นผีที่ตามรักตามอาฆาต เธอเคยทำเสน่ห์ใส่พระเอก เพราะต้องการจะเป็นชายา และรู้ตัวดีว่าเขารักกับหญิงสาวอีกคน วิธีทำเสน่ห์ของเธอคือผูกหุ่นเข้าด้วยกัน แล้วใส่ผ้าถุงนั่งคร่อมหุ่น ท่องคาถา “โอม…ให้นกลืมคอน ให้พาดกลอนลืมป่า ให้ผีไพรจงมานำทางผัวกู ให้ต้องร้อนเร่า ให้ต้องหลงใหล ให้ต้องรักใคร่ หัวปักหัวปำ” ซึ่งแรกๆ ก็ได้ผลดี แต่พอถูกจับได้ เธอก็ได้รับกรรมที่เคยทำลงไป
ลิขิตริษยา ซ่อนกลิ่น หมอตำแยสาวที่มีความทะเยอทะยาน เธอต้องการเป็นเมียของ หลวงเดชบริรักษ์ ชายผู้เพียบพร้อมทั้งรูปโฉม ยศศักดิ์ และฐานะอันมั่งคั่ง แต่เขามีเมียอยู่แล้วถึง 3 คน เธอจึงใช้คาถาเป่าหู ที่ได้มาจากหมอผีที่แอบหลงรักเธอมาโดยตลอด ร่ายคาถาใส่หลวงเดช จนได้เขามาครอบครอง คาถาที่ว่านั้นคือ “นะเมตตา โม เห็นหน้ารักสนิท พุธจับจิต ธามิให้กำจัด ยะกระหวัดจิตหลวงเดช ละอย่าละ ชีวิตัง ยาวิพพานัง สะระยัง คัจฉามิ” แต่ท้ายที่สุดแล้ว จุดจบของเธอก็น่าเวทนา ด้วยกรรมที่ตามทัน
เรือนเบญจพิษ หยก ผู้ซึ่งต้องการเป็นเมียรักไม่ต่างจากเมียคนอื่น เธอวางแผนร้ายโดยการใช้ “กู่” ซึ่งเป็นการรวมเอาสัตว์มีพิษทั้ง 5 ได้แก่ แมงป่อง แมงมุม ตะขาบ คากคก งู มาขังรวมกันไว้ในไหให้กัดกินกันเองจนเหลือตัวสุดท้าย จะกลายเป็นตัวที่มีพิษร้ายแรงที่สุด เพราะรวมเอาความเคียดแค้นชิงชัง และพิษของตัวอื่นเอาไว้ในตัว เธอใช้กู่นี้แหละในการทำร้ายผู้คนเพื่อให้สมปรารถนา สร้างความสยดสยองเป็นอย่างมาก
ภาพจาก codehomok.exblog.jp , talk.mthai.com , www.manager.co.th , www.daradaily.com , www.sanook.com , dara.trueid.net , www.broadcastthai.com , drama.tlcthai.com / Twitter : #เรือนเบญจพิษ
TEXT : Ploychompoo
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
แค้นมาตั้งแต่รุ่นแม่! รวมละครที่ขัดแย้ง ตั้งแต่ รุ่นแม่สู่รุ่นลูก ใครไม่อินก็ใจแข็งไปหน่อยแล้ว
สุดยอดนักแสดงมากฝีมือ รวมตัวประชันบทบาทในละครเรื่องใหม่ “เรือนเบญจพิษ”