เรียกว่าเป็นละครขึ้นหิ้งจนไม่คิดว่าจะมีค่ายไหนกล้าเอามารีเมคใหม่เลยทีเดียว กับละครเรื่อง “ล่า” แต่ล่าสุด ทางช่อง One ก็นำละครสุดโหดในตำนานเรื่องนี้มารีเมคใหม่จริงๆ ด้วย แถมเวอร์ชั่นนี้การปลอมตัวมีความแอดวานซ์มากขึ้น วิธีการล่าก็ดูท่าทางจะโหดมากไม่แพ้เวอร์ชั่นก่อน สุดฯ เลยขอเทียบทั้ง 2 เวอร์ชั่น เพื่อให้คนดูระลึกความหลังกันสักหน่อย
เทียบ “ล่า” 2 เวอร์ชั่น
โดยเรื่องราวของเรื่องนี้คือ มธุสร ตัดสินใจหย่าขาดกับสามีอารมณ์รุนแรงและเจ้าชู้ โดยยกทรัพย์สินทั้งหมดให้เขาเพื่อแลกกับ ผึ้ง ลูกสาวคนเดียว หลังจากที่หย่า เธอตัดสินใจเช่าบ้านย่านสลัมอยู่ จนวันหนึ่งเธอและลูกได้ไปพัวพันกับแก๊งนักเลงในย่านสลัมของ ไอ้แป๊ว และทำให้พวกมันถูกตำรวจจับ
พวกมันโกรธแค้นมาก จึงดักฉุดแม่ลูกไปข่มขืน และนำน้ำมันท่อรถกรอกปากผึ้ง หลังจากเหตุการณ์นั้น ผึ้งกลายเป็นคนเสียสติจนต้องทำการผ่าตัดเพื่อรักษา แต่แล้วผึ้งก็กลายเป็นคนไร้ความทรงจำ ไร้ความรู้สึก และกลุ่มนักเลงต่างไม่ได้ถูกลงโทษตามที่สมควรจะได้รับ หรือติดคุกแค่ไม่กี่ปีก็ออกมา เพราะพวกมันต่างมีอิทธิพลคุ้มหัว จึงทำให้มธุสรโกรธแค้นอย่างมาก เธอออกจากงานเสมียนไปเรียนเสริมสวย และได้รู้จักกับครูสอนแต่งหน้าชาวญี่ปุ่นที่ทำให้เธอรู้จักกับการฆ่า และทำให้เธอรู้จักคำว่า “ความพยาบาทเป็นของหวาน” และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการล่า
ในปี 2537 คนที่มารับบท “มธุรส” คือ “นก-สินจัย เปล่งพานิช” ตอนนั้นเธอปลอมตัวหลากหลายลุค ทั้งใส่วิก ใส่ฟันปลอม และที่คนจำได้คือลุคยายแก่ๆ หาบคานหาบ เพื่อปลอมตัวไปล่าฆาตกร ตอนนั้นเธอทำได้ดีมาก ทั้งสายตาอาฆาต และการฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมด้วยวิธีการต่างๆ ทำให้คนเริ่มกังวลกันว่า ถ้าทำเวอร์ชั่นใหม่ออกมา จะมีใครเล่นได้ถึงบทบาทเท่านี้อีกหรือไม่
เวอร์ชั่นปี 2560 ได้ “หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส” ตัวแม่อีกคนของวงการ มาสานต่อบท “มธุรส” แม้ในละครจะยังดำเนินเรื่องไปไม่ถึงจุดที่เธอเริ่มล่า แต่แค่ดูทีเซอร์ก็บอกได้เลยว่าเลือกคนมาไม่ผิด เพราะเวอร์ชั่นนี้เธอต้องปลอมตัวเป็น 7 คาแร็คเตอร์ที่ต่างสุดขั้ว แต่งหน้าเอฟเฟ็กต์แบบเหนือชั้นจนแทบจำเค้าโครงหน้าเดิมไม่ได้ แถมเวลาที่เธอล่านั้นแฝงความโรคจิตจากความแค้นไว้อย่างเต็มเปี่ยม เรียกว่าทำได้ดีแบบไม่มีที่ติ
สำหรับบท “ผึ้ง” ในปี 2537 รับบทโดย “ทราย-อินทิรา เจริญปุระ” ซึ่งตอนนั้นถือเป็นละครเรื่องแรกของเธอ และเป็นเรื่องที่แจ้งเกิดให้กับเธอเลยก็ว่าได้ ใครที่เกิดทันได้ดูเวอร์ชั่นก่อน บอกเลยว่าฉากที่โดนรุมโทรมนั้นยังติดตา คำว่า “แม่ช่วยหนูด้วย” คือก้องในหู หลังจากนั้นตอนที่เธอเล่นเป็นคนสติไม่ดี สูญเสียความทรงจำ ก็เล่นได้ทั้งลอย ทั้งจิต เรียกว่าถึงบทบาทสุดๆ
ในปี 2560 ได้ “เซียงเซียง-พรสรวง รวยรื่น” มารับบทนี้ เธอเคยผ่านการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง เช่น สุดแค้นแสนรัก , เรือนกาหลง , อีสา , ข้าบดินทร์, รักนี้ชั่วนิรันดร์ รวมถึงเคยผ่านงานละครเวทีอย่าง สี่แผ่นดิน และเลือดขัตติยา จากการที่ดูตอนที่ผ่านมา การแสดงของเธอก็เรียกว่าใช้ได้เลยทีเดียว ต้องรอดูกันอีกหน่อยว่าตอนที่เธอเล่นเป็นคนสูญเสียความทรงจำไปแล้ว จะเป็นยังไง และสู้เวอร์ชั่นก่อนได้มั้ย
ในส่วนของนักแสดงประกอบอื่นๆ โดยเฉพาะแก๊งชายโฉดชั่วทั้ง 7 คนนั้น ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นที่แล้วทั้ง 7 คนดูน่ากลัวกว่ามากๆ เพราะในเวอร์ชั่นนี้มีบางคนที่เรายังรู้สึกว่าพวกเขาแจ้งเกิดจากบทตลก และดูไม่มีพิษภัยอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูกันต่อไปว่า หลังจากที่เรื่องดำเนินไปได้อีกสักระยะแล้ว พวกเขาจะดูน่ากลัวขึ้นหรือไม่
แต่บอกได้เลยว่า การที่นำละครเรื่องนี้กลับมารีเมค ถือว่าเป็นการท้าทายฝีมือทั้งผู้จัด ผู้กำกับ และนักแสดงเป็นอย่างมาก แต่ดูท่าทางว่าจะไปได้สวย ถ้าอยากดู กดไปที่ช่อง One ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 21.15 น. – 22.15 น. นะจ๊ะ
ภาพจาก plus.google.com/+JackSanborn , www.sabaycd.com , www.prachachat.net , thestandard.co , www.tvpoolonline.com , www.matichon.co.th , movie.sanook.com
TEXT : Ploychompoo
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
ละครเรื่องแรก ของเหล่าซุป’ตาร์ แต่ละคนเป็นไงบ้างนะ
หมิว-ลลิตา กลับมาทวงบัลลังก์สุดยอดนักแสดงกับการพลิกสารพัดโฉม