กำลังจะกลับมาทวงบัลลังก์สุดยอดนักแสดงอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายจากการแสดงอย่างจริงจังไปพักใหญ่ กับละครเรื่อง “ล่า” ในบทบาทสุดเชือดเฉือน สำหรับ หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส แต่ก่อนที่จะไปติดตามดูเธอในบทบาทใหม่ในคืนนี้ เราลองย้อนไปดูผลงานเก่าๆ ของเธอ ที่ประทับใจเรากันดีกว่า
ผลงานสุดประทับใจของ หมิว-ลลิตา
เธอเข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2524 แต่ได้เป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรกในปี 2530 ในเรื่อง ปริศนา และเป็นละครเรื่องแรกที่เธอเล่นคู่กับ ฉัตรชัย เปล่งพานิช ด้วย เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่โด่งดังมาก และเป็นบทบาทแรกที่ทำให้คนจำเธอได้
ในฝัน ในปี 2535 บทบาทเจ้าหญิงรัชทายาท แม้จะไม่ใช่คู่หลักในเรื่อง แต่บทบาทที่ได้เล่นคู่กับ โอ-วรุฒ ก็ทำเอาหลายๆ คนประทับใจไม่น้อย ยิ่งรวมกับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบฝรั่งด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เธอดูสวยสง่า สมกับบทบาทเจ้าหญิง
ยามเมื่อลมพัดหวน เธอเล่นคู่กับ เจ-เจตริน ในปี 2536 เป็นละครที่มีเพลงประกอบแทบทุกฉาก เนื้อหามีความโรแมนติก ทำให้คนอยากเป็น “การบูร” กันเป็นแถว แถมเรื่องนี้มีการถ่ายทำที่ต่างประเทศตลอดทั้งเรื่อง คือ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ เราจึงได้เห็นฉากสวยๆ ดูแล้วเพลินตา ละครเรื่องนี้ทำให้เธอได้รับรางวัล RADIO VOTE SATELLITE สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม
ปราสาทมืด ในปี 2537 เป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นกับคู่ขวัญอย่าง วิลลี่ แมคอินทอช และทำให้กลายเป้นคู่ขวัญต่อมาในอีกหลายเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของของหม่อมเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ผู้หลบหนีหม่อมแม่ที่จะแต่งงาน มาเป็นพีเลี้ยงของ “คุณแจ๋ว” น้องสาวพิการของคุณหมอภรตผู้เฉยชาในปราสาทใหญ่แต่เต็มไปด้วยเรื่องลึกลับ
ทรายสีเพลิง ในปี 2539 เป็นเรื่องที่สร้างชื่อเสียงและทำมาตรฐานของเรื่องนี้ไว้ดีมากๆ เพราะเธอเล่นเป็นนางเอกที่มีความร้าย เพราะมีความแค้นฝังอยู่ในอก และต้องการจะทวงทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา ซึ่งขณะนั้นยังไม่ค่อยมีบทนางเอกที่ค่อนข้างแรงอย่างนี้ เรื่องนั้นทำให้เธอได้รับรางวัล รางวัล RADIO VOTE SATELLITE สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ตามหัวใจไปสุดหล้า ในปี 2540 เล่นคู่กับคู่ขวัญตลอดกาลอย่าง วิลลี่ แมคอินทอช โดยเรื่องนี้เราได้เห็นเธอในลุคสาวอาหรับที่แปลกตาไป มีการถ่ายทำที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตน์ และอียิปต์ เป็นอีกหนึ่งละครที่ประทับใจคนดูไม่รู้ลืม ด้วยบทบาท และสถานที่ถ่ายทำอันสวยงาม
เจ้ากรรมนายเวร ในปี 2543 อดีตละครสุดหลอนที่ทำให้หลายคนกลัวการทำบาปไปเลย เรื่องนี้เธอเล่นเป็น 3 คาแร็คเตอร์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง จาก 4 ชาติ คือ ท้าวทรงวาด รัญจวน จุติพร และพิณพร หากใครเคยดูคงจำฉากที่เธอถูกฝังไปพร้อมกับเสาเอกได้ หลอนสุดๆ ไปเลย
กุหลาบสีดำ ในปี 2548 แสดงคู่กับ ชาคริต แย้มนาม โดยรับบทเป็น ชงโค สาวสวยทายาทนักธุรกิจ แต่ชึวิตพลิกผันทำให้ต้องติดคุก ทำให้ต้องเอาตัวเข้าไปหาความจริงที่โหดร้าย แต่ความอยุติธรรมได้ทำให้เธอต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ด้วยฝีมือการแสดงในเรื่องนี้ทำให้เธอได้รับรางวัลถึง 2 รางวัลด้วยกันคือ คมชัดลึก อวอร์ด และ รางวัลสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์ ทั้งสองรางวัลได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
สู่ฝันนิรันดร ในปี 2551 เป็นละครแนวย้อนยุค สลับปัจจุบัน ซึ่งเธอรับบทพัชร์เฟื่อง ช่างภาพสาวมือหนึ่งในยุคปัจจุบัน ผู้เป็นที่รักของใครหลายๆ คน แต่ถูกเจ้าสัวมหาเศรษฐีผู้หนึ่งใช้วิธีเจ้าเล่ห์ ทำให้ย้อนอดีตไปยังสมัยกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร และได้พบเจอกับหลวงพิพิธราชเสนา เรื่องนี้เธอรับบทคู่กับ วิลลี่ แมคอินทอช และ ฉัตรชัย เปล่งพานิช
และเธอกำลังจะกลับมาทวงบัลลังก์การเป็นนักแสดงแถวหน้าอีกครั้งกับละครเรื่อง “ล่า” ที่รับบทเด่นในการตามล้างแค้นชายโฉดที่มาทำร้ายตนและลูกสาว โดยเรื่องนี้เธอต้องปลอมตัวถึง 7 คาแร็คเตอร์ด้วยกัน แถมยังมีวิธีการฆ่าที่สุดแสนจะโหดพิศดาร ฉายทุกวันจันทร์-อังคาร 21.15 – 22.15 น. เริ่มวันนี้ (28 พฤศจิกายน) เป็นวันแรก รอดูเลยค่ะ
ภาพจาก www.bloggang.com , pantip.com , www.thaifilm.com , www.youtube.com , www.geocities.ws , gossipstar.mthai.com , www.komchadluek.net , www.prachachat.net
TEXT : Ploychompoo
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
หมิว ลลิตา กลับมาทวงบัลลังก์สุดยอดนักแสดงใน “ล่า” กับการพลิกสารพัดโฉม