อาหารพระราชทาน เพื่อผู้ป่วย จากน้ำพระทัยถึงปวงชน

เป็นกระแสอยู่พักใหญ่ สำหรับ อาหารพระราชทาน เพื่อผู้ป่วย ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ทรงเมตตาออกทุนในการวิจัยทั้งหมด และกำเนิดเป็นอาหารพระราชทานถึง 2 ชนิดด้วยกัน

อาหารพระราชทาน เพื่อผู้ป่วย

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว เมื่อในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงทราบว่าสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความสนใจอยากทำอาหารเจล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่กลืนอาหารไม่ได้ ก็ทรงรับสั่งให้สนับสนุนโดยทรงออกทุนวิจัยทั้งหมด และทรงรับสั่งให้จัดตั้งเป็นโครงการอย่างรวดเร็ว

โครงการนี้จึงก่อเกิด “เจลลี่พระราชทาน” ขึ้นมา โดยขณะนั้นพระองค์เองก็ประชวรอยู่ จึงรับสั่งให้ทดลองทำเจลลี่ออกมาหลายรส เพราะทรงเข้าใจดีว่า ผู้ป่วยที่กลืนอาหารลำบาก อย่างเช่น ผู้ที่เป็นมะเร็งช่องปาก หรือผู้ที่ต้องให้อาหารทางสายยางนั้น ไม่สามารถรับรู้ถึงรสชาติของอาหารได้เลย โดยมีพระกระแสรับสั่งว่า “อาหารผู้ป่วยดีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องอร่อยด้วย เพราะผู้ป่วยมีความทุกข์ทางร่างกายอยู่แล้ว”

ซึ่งขณะนั้นอาหารเจลพระราชทานได้รับการพัฒนาให้มีมากถึง 9 รสชาติด้วยกัน คือ แกงเขียวหวาน ต้มยำกุ้ง ข้าวหอมมะลิ ข้าวมันไก่ มะม่วง และชานม เป็นต้น แต่รสที่ได้รับการพัฒนาเพื่อการอุตสาหกรรมสำหรับแจกจ่ายให้ประชาชน ปัจจุบันจะมีเพียงรสมะม่วงเท่านั้น

จุดเด่นของอาหารเจลพระราชทานนี้ จะมีเนื้อเนียนนุ่ม บรรจุมาในกล่องแนวนอน เพื่อป้องกันการถูกเขย่าจนเละ มีรสชาติดี และสามารถนำไปประกอบเป็นเมนูได้หลากหลาย ทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการกินอาหารมากขึ้น

นอกจากอาหารเจลพระราชทานแล้ว พระองค์ยังทรงมีโครงการในพระราชดำริ อย่าง “วุ้นชุ่มปาก” หรือน้ำลายเทียมชนิดเจล เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการปากแห้ง-น้ำลายน้อย ซึ่งอาจเกิดจากความเครียด ป่วยด้วยโรคเบาหวาน การทานยาบางชนิด หรือได้รับการฉายรังสี เพื่อรักษามะเร็ง โดยมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 จึงดำเนิน “โครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมน้ำลายเทียมชนิดเจล” ขึ้น

โดยวุ้นชุ่มปากนี้ มีลักษณะเป็นเจลใส ผลิตออกมา 2 รสชาติ คือ กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ และกลิ่นมิ้นต์มะนาว มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำลายที่หลั่งออกมาตามธรรมชาติมาก เพราะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ที่เป็นกลาง ช่วยสามารถปรับสมดุลของสิ่งแวดล้อมในช่องปากให้เป็นกลางโดยไม่ก่อให้เกิดการละลายของผิวฟัน และไม่ดึงเอาแร่ธาตุออกจากฟัน และยังสามารถกลืนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับลำคอได้อีกด้วย เพราะผลิตด้วยเทคโนโลยีทางอาหาร

อาหารทั้งสองชนิดนี้สามารถเก็บได้ยาวนานในอุณหภูมิห้อง เพราะผ่านกรรมวิธีที่สะอาดอย่าง UHT หากใครสนใจ ทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์พระราชทาน จึงไม่สามารถจำหน่ายได้ แต่สามารถไปรับผลิตภัณฑ์ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ค่ะ