ประมวลภาพ คืนสุดท้ายกราบลาพ่อ พสกนิกรสุดอาลัย

Alternative Textaccount_circle
event

เมื่อคืนวาน (5 ต.ค.60) นับเป็น คืนสุดท้ายกราบลาพ่อ ที่คนไทยต้องจดจำไปนานเท่านาน ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่เช้ามีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมาเข้าคิวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย แม้จะมีสายฝนโปรยปราย ก็ไม่มีใครถอดใจ ยังคงยืนตากฝนรอเข้าคิว เพื่อจะได้เข้าไปกราบพระบรมศพก่อนที่จะปิดในเวลา 24.00 น.

 คืนสุดท้ายกราบลาพ่อ

ประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ปิดเมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 6 ต.ค.60 หลังประชาชนคนสุดท้าย เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

ประชาชนในค่ำคืนสุดท้าย กราบลาพ่อ หน้าประตูประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

ประชาชนในค่ำคืนสุดท้าย กราบลาพ่อ หน้าประตูประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

น้ำตาแห่งความอาลัย ในคืนสุดท้ายที่ประชาชนจะได้กราบลาพ่อ (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

ประชาชนสุดอาลัย กราบลาในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังประตูวังปิด (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

คืนสุดท้ายกราบลาพ่อ

สำหรับบรรยากาศในค่ำคืนสุดท้ายที่สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีประชาชนเดินทางเข้ากราบพระบรมศพอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จึงมีเรื่องราวน่าประทับใจเกิดขึ้นมากมาย

เจ้าของกระทู้สมาชิกพันทิปชื่อ BIG TG ได้เล่าว่า มีโอกาสได้บันทึกภาพเหตุการณ์ “พสกนิกรของพ่อคนสุดท้าย” ที่ได้กราบลาพระองค์ท่าน โดยในค่ำคืนสุดท้ายนี้ มีกองทัพนักข่าวมากมายอยู่บริเวณหน้าจุดทางเข้า และพอถึงเวลา 24.00 น. (เที่ยงคืน) ซึ่งเป็นเวลาตัดแถวตามกำหนด เจ้าหน้าที่ประกาศปิดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ มีน้องผู้ชายคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาเป็นคนสุดท้าย พร้อมด้วยกองทัพนักข่าวเข้ารุมล้อมขอสัมภาษณ์ สักพักเจ้าหน้าที่ประกาศว่า ยังเปิดให้เข้าเพราะต้องรอคำสั่งเด็ดขาดจากสำนักพระราชวัง คนที่มาหลัง 24.00 น. จึงยังโชคดีที่ได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระบรมศพ ทุกคนในที่นั้นต่างยินดี และรีบวิ่งเข้าประตูไปก่อนจะมีคำสั่งออกมา กระทั่งเวลา 24.09 น. มีคำสั่งเด็ดขาดจากสำนักพระราชวัง เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นทางเข้า และพี่ผู้ชายคนสุดท้ายในกลุ่มนั้นก็ถูกนักข่าวรุมล้อม

แต่แล้วก็ยังมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่มาช้าไปเพียงเสี้ยววินาที ได้ขอความกรุณาจากเจ้าหน้าที่ผ่อนผันให้เข้า เจ้าหน้าที่ก็ใจอ่อนและอนุญาตให้เข้า ทุกคนต่างดีใจที่จะได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ทุกคนต่างก็ขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ ที่เห็นอกเห็นใจประชาชนที่มาเฝ้ารอเป็นอย่างมาก

ในขณะที่นักข่าวกำลังสัมภาษณ์ ก็มีคุณแม่ท่านหนึ่งวิ่งอุ้มลูกเข้าประตูมาเป็นคนสุดท้าย ท้ายสุดจริงๆ คุณแม่อุ้มลูกร้องไห้เข้ามา โดยมีนักข่าวที่เห็นรีบวิ่งไปขอสัมภาษณ์ คุณแม่บอกเพียงแต่ว่า “ไม่เอาค่ะ ไม่คุยค่ะ ขอโทษนะคะ” วิ่งไปน้ำตาไหลไปด้วยความตื้นตันที่ได้เข้ามากราบพระบรมศพ จนนักข่าวที่ตามไปทันขอสัมภาษณ์อีกครั้ง คุณแม่พูดเพียงสั้นๆ และร้องไห้ไปด้วยว่า “คนไทยรู้สึกทุกคนแหละค่ะ ขอให้ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มากราบ” คุณแม่เดินทางมาจากบ้านที่สุวรรณภูมิโดยรถแท็กซี่ ที่มาช้าเพราะรถติดเป็นชั่วโมง ค่าแท็กซี่ร่วม 400 บาท แต่รถติดแค่ไหนก็ตั้งใจมาให้ถึง

คุณแม่อุ้มลูกชาย ซึ่งเป็นประชาชนคนสุดท้ายที่ได้เข้ากราบบังคมพระบรมศพ  (ภาพจาก bigg.sirirojwong)

คุณแม่อุ้มลูกร้องไห้ด้วยความตื้นตันที่ได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ  (ภาพจาก bigg.sirirojwong)

 

เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย

นอกจากนี้ ในช่วงกลางวันจนถึงประตูวังปิด ก็ยังมีเรื่องราวและภาพถ่ายเล่าสู่กันฟังจากคุณ วสันต์ วณิชชากร ช่างภาพสำนักข่าวเอพี โดยแชร์ผ่านเฟซบุ๊ค Wason Wanichakorn ตอนหนึ่งว่า

คุณอาเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง กำลังเอากระดาษทิชชูซับเลือดกำเดาที่ไหลออกมา เนื่องจากการทำหน้าที่ดูแลประชาชนมาอย่างยาวนานและต่อเนื่องร่วมหนึ่งปี เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ได้บอกให้แกไปพักผ่อนก่อนเพราะแกอดหลับอดนอนยืนทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบมาอย่างต่อเนื่อง แต่แกบอกว่าขอนั่งพักสักครู่ เดี๋ยวก็หาย วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ทำหน้าที่เพื่อพระองค์ท่าน และได้ปฎิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนตามรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ ที่ทรงห่วงใยพสกนิกร รับสั่งให้เจ้าหน้าดูแลประชาชนแขกของพระองค์ให้ดีที่สุด” โดยสักสิบนาทีต่อมา คุณอาเจ้าหน้าที่ก็ลุกขึ้นมาทำหน้าที่อย่างแข็งขันต่อไป

เจ้าหน้าที่ท่านเดิมเล่าให้ฟังต่อว่า….  เมื่อพวกเราได้ทำหน้าที่ส่งประชาชนคนสุดท้ายเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเสร็จสิ้นแล้ว พวกเราทั้งหมดนัดกันว่า จะมารวมตัวกันที่ลานหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พวกเราทั้งหมดจะนั่งหมอบและก้มลงกราบทูลลาพระองค์ท่านอยู่ตรงนี้ ตรงที่พวกเราทำหน้าที่”

เจ้าหน้าที่กำลังซับเลือดกำเดาที่ไหลออกมา เพราะดูแลประชาชนต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

 

เจ้าหน้าที่กลับมาทำหน้าที่ต่ออย่างแข็งขัน  (ภาพจาก วสันต์ วณิชชากร)

 

 แม้จะต้องรอคอยนานหลายชั่วโมง ตากแดด ตากฝน แต่ทุกหัวใจของคนไทย ก็ไม่ถอย เพราะต่างก็รู้สึกไม่ต่างกันว่า ขอให้ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้มากราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยความจงรักภักดีในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

 

Text: Miss G ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก วสันต์ วณิชชากร , “BIG TG” , เฟซบุ๊ก bigg.sirirojwong

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up