มิว-นิษฐา กับฝีมือการแสดงแบบก้าวกระโดด

ดูละครเรื่อง รากนครา แล้วอดชื่นชมความสามารถของนักแสดงในเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ แน่นอนว่า มิว-นิษฐา เป็นหนึ่งในนักแสดงที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะนอกจากพลิกบทบาทมาแสดงบทร้ายเต็มตัวแล้ว เรื่องนี้มิวยังต้องพูดภาษาเหนือทั้งเรื่องอีกด้วย ซึ่งเป็นละครเรื่องแรกที่เธอต้องพูดภาษาถิ่น เรียกว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฝีมือการแสดงของเธอพัฒนาไปไกลมากทีเดียว ไม่เชื่อไปย้อนดูกัน

มิว-นิษฐา กับฝีมือก้าวกระโดด

เรารู้จักมิวจากละครเรื่องแรกคือ “คุณชายปวรรุจ” ในบท “ท่านหญิงรสา” ที่ทำให้เกิดกระแสคู่จิ้นกับ โป๊ป-ธนวรรธน์ ในทันทีหลังจากออกอากาศ ในปีต่อมา มิวได้เล่นละครคู่กับโป๊ปอีกครั้งในละครเรื่อง “รักออกฤทธิ์” ซึ่งทั้งคู่มีคาแร็คเตอร์ที่ต่างจากเรื่องแรกเอามากๆ

และในปีเดียวกัน มิวได้เล่นเป็น “ลูกศร” ในเรื่อง “ทรายสีเพลิง” ประกบคู่กับ ชมพู่-อารยา บทบาทนี้เป็นบทบาทเรียบร้อยและไม่ค่อยเด่นนักหากเทียบกับตัวนางเอกอย่างชมพู่ ทำให้คนไม่ค่อยพูดถึงลูกศรสักเท่าไหร่

จากนั้นเธอก็มารับเล่นในซีรี่ส์เลือดมังกร ตอน “สิงห์” คู่กับ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะเป็นเรื่องราวความรักต่างชนชั้นแล้ว ยังผสานความดราม่าเข้าไปอย่างจัดเต็ม ทำให้เราเห็นพัฒนาการทางการแสดงของมิวที่ค่อนข้างเปลี่ยนไป วิธีการพูด วิธีการออกเสียงของเธอก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย

“ตามรักคืนใจ” เป็นเรื่องที่ทำให้เราเห็นพัฒนาการทางการแสดงของมิวได้อย่างเด่นชัด โดยเฉพาะฉากที่เข้ากับ อู๋-ธนากร เพื่อสารภาพว่าตัวเองคือลูกสาว ฉากนั้นเรียกน้ำตาคนดูได้เป็นปี๊บเลยเชียวแหละ และในปี 2559 นี้เอง มิวกลับมาเล่นละครพีเรียดอีกครั้งในเรื่อง “ชาติพยัคฆ์” โดยรับบทเป็น “คุณพลอย” หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่มาหลงรักชายผู้ต่ำต้อย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เวทีไนน์เอ็นเตอร์เทนอวอร์ดด้วยนะ

“เพชรกลางไฟ” เป็นละครพีเรียดอีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างท้าทายความสามารถของเธอ เป็นละครดราม่าที่ต้องใช้พลังและอารมณ์ในการเล่มสูง บท “ท่านหญิงหลง” เป็นตัวละครที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา และถูกทำให้เข้าใจผิด ซึ่งภายใต้ความดราม่านั้น หญิงหลงกลับมีความสุขุมและเข้มแข็ง จนในที่สุดก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ได้

ระหว่างนั้น มิวก็ได้มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ “แฟนเดย์…แฟนกันแค่วันเดียว” ซึ่งการทำงานภาพยนตร์กับค่ายใหญ่อย่าง GDH559 ทำให้ความสามารถในการแสดงของมิวชัดเจนขึ้น เพราะอย่างที่รู้กันว่า ค่ายนี้เขาเน้นความเป็นธรรมชาติในการแสดง มิวเลยแสดงตัวตนออกมาได้เต็มที่ ซึงหนุ่มๆ หลายคน อยู่ๆ ก็ตกหลุมรักเธอจากภาพยนตร์เรื่องนี้ นับเป้นความสำเร็จทางการแสดงอีกขั้นของเธอ

“รากนครา” ละครพีเรียดที่ทุ่มทุนสร้างทั้งฉาก เสื้อผ้า และบทบาทตัวละคร เรื่องนี้มิวเล่นเป็นนางเอกร้ายเรื่องแรก มีคาแร็คเตอร์ขี้อิจฉา ใจดำ เห็นแก่ตัว ซึ่งดูขัดกับใบหน้าสวยหวาน อีกทั้งเรื่องนี้สาวมิวยังต้องอู้คำเมืองทั้งเรื่อง แม้แต่ตอนที่ใส่อารมณ์โกรธสุดๆ แม้จะยากและยังดูไม่เข้าปากสาวมิวเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าดีเกินคาดกับการเล่นละครภาษาถิ่นครั้งแรกของเธอ