ในบ้านเราหลายๆ คนอาจมองว่างานใช้แรงงานเป็นงานต่ำต้อย ได้เงินน้อย แถมยังเหนื่อยอีกต่างหาก แต่รู้ไหมว่า ดารานักร้องระดับโลกมากมายผ่านงานใช้แรงงานกันมาแล้วทั้งนั้น และนี่คือเหล่าคนดังที่ไม่ปิดบังว่า ก่อนจะดัง พวกเขาเคยผ่านงานอะไรมาบ้าง
Calvin Harris
ก่อนจะเป็นดีเจที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก แคลวิน แฮร์ริส ก็เคยเป็นผู้ใช้แรงงานมาก่อนเช่นกัน ตอนนั้นเขาเดินทางจากบ้านเกิดที่สกอตแลนด์ไปยังลอนดอน เพื่อจะหางานโปรดิวเซอร์ในวงการดนตรี แต่ลงท้ายด้วยการเป็นพนักงานทำแซนด์วิชและขนปลาแซลมอนที่แผนกอาหารของ Marks and Spencer หลังจากไม่สามารถหางานด้านดนตรีที่ต้องการได้ เขาก็ถอดใจแล้วกลับบ้านเกิดแต่แคลวินก็ยังไม่หยุดทำเพลง เขาโพสต์เพลงใหม่ลงอินเทอร์เน็ตอยู่เรื่อยๆ จนมีแมวมองสนใจและได้ทำอัลบั้มของตัวเองในที่สุด
Rooney Mara
รูนีย์ มารา เป็นนักแสดงสาวมากความสามารถที่แสดงได้สมบทบาทไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็นบทแฮ็กเกอร์สาวสุดเซอร์ใน The Girl with the Dragon Tattoo หรือบทสาวน้อยเลสเบี้ยนยุค 50 จากเรื่อง Carol ซึ่งทำให้เธอได้ชิงออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่คงมีน้อยคนที่จะนึกภาพสาวผอมบางคนนี้เป็นพี่เลี้ยงเด็กออก ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอเคยหารายได้ด้วยการรับจ้างเป็นพี่เลี้ยงเด็กก่อนที่จะมาเป็นนักแสดง
Kanye West
ความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำแฟชั่นของ คานเย เวสต์ ไม่ได้เพิ่งจะมีตอนนี้ เพราะงานแรกที่เขาเลือกทำในสมัยยังเป็นวัยรุ่นก็คือการเป็นพนักงานพาร์ตไทม์ในร้าน Gap เขาให้เหตุผลว่าต้องการอยู่ท่ามกลางเสื้อผ้าเท่ๆ ที่สมัยนั้นเขาไม่มีเงินซื้อ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เขาอยากทำงานที่ Gap เพราะเมื่อคานเยดังแล้วเขาเคยเสนอตัวเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ให้ Gap โดยโฆษณาตัวอย่างเลิศหรูว่า “ผมอยากเป็นสตีฟ จ็อบ ของ Gap” แต่ดูเหมือน Gap จะไม่สนใจดึงตัวอดีตพนักงานคนนี้กลับไปทำงานด้วยแต่อย่างใด
Blake Shelton
ชีวิตของไอ้หนุ่มคันทรี่อย่างเบลก เชลตัน ต้องผ่านงานมาไม่น้อยกว่าจะโด่งดัง เริ่มจากการเป็นลูกจ้างของพ่อที่มีอาชีพซ่อมหลังคา พอเรียนจบไฮสกูลเขาก็เดินทางไปยังเมืองแนชวิลล์ที่เป็นมหานครของเพลงคันทรี่ เบลกได้ไปหานักแต่งเพลงที่รู้จักกันเพื่อของานทำ แต่งานที่เขาได้รับมานั้นกลับเป็นงานทาสีบ้าน จากนั้นเขาก็ได้งานก๊อปปี้เทปคาสเส็ตให้ค่ายเพลง และทำงานจิปาถะอีกหลายอย่างจนได้โอกาสทำงานเพลงอย่างที่เขาต้องการในท้ายที่สุด ถือเป็นหนุ่มสู้ชีวิตไม่แพ้ศิลปินลูกทุ่งหลายๆ คนในบ้านเราเลย
Ne-Yo
อีกหนึ่งคนดังที่เคยขายเบอร์เกอร์ที่แมคโดนัลด์ ก็คือนักร้องหนุ่มเสียงนุ่มอย่างนี-โย แต่ประสบการณ์ทำงานของเขานั้นไม่ค่อยสวยงามนัก เขาเล่าว่า “ผมลาออกเพราะผมโรยเกลือลงบนเฟรนช์ฟรายส์มากเกินไป ผู้จัดการเลยตะคอกใส่ผม ผมไม่คิดว่าเฟรนซ์ฟรายส์ควรจะเป็นเหตุผลที่คนเราจะตะคอกใส่กัน ผมเลยถอดป้ายชื่อคืนให้เขาแล้วเดินออกมาเลย” แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นี-โยโกรธแค้นแมคโดนัลด์แต่อย่างใด เพราะเขาได้กลับไปเปิดคอนเสิร์ตให้ลูกค้าของแมคโดนัลด์ชมตอนที่กลายเป็นนักร้องดังแล้ว
Megan Fox
เมแกน ฟ็อกซ์ เป็นดาราสาวหุ่นดีที่ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูดีไปหมด แต่คงต้องยกเว้นสำหรับชุดทำงานสมัยที่เธอยังไม่โด่งดัง ตอนนั้นเมแกนทำงานเป็นพนักงานในร้านขายสมู้ตทีเล็กๆ ที่ฟลอริดา ปกติเธอจะอยู่ที่หลังแคชเชียร์ แต่ทุกวันศุกร์เธอจะต้องสวมชุดแมสคอตเป็นผลกล้วยสีเหลืองอร่ามออกไปเดินเรียกลูกค้าตามท้องถนน แหม ถ้าเจ้าของร้านให้เธอสวมอะไรที่เซ็กซี่สักหน่อย น่าจะเรียกลูกค้าได้มากกว่านี้นะ
Pharrell Williams
ก่อนที่ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ จะกลายเป็นศิลปินดังเจ้าของเพลง Happy หนุ่มคนนี้เคยทำงานที่ร้านแมคโดนัลด์ถึง 3 สาขา ซึ่งจบลงด้วยการถูกไล่ออกทุกครั้ง สาเหตุเป็นเพราะฟาร์เรลล์ขี้เกียจมากๆ ถ้าผู้จัดการร้านไม่คอยจ้ำจี้จ้ำไชเขาก็จะแอบอู้งานแล้วชิลไปกับเพลงที่เปิดในร้าน เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่า “สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดตอนทำงานที่แมคโดนัลด์ก็คือการกินแมคนักเก็ตนั่นแหละ” แต่ดูเหมือนแมคโดนัลด์จะไม่สนใจประวัติการทำงานที่เลวร้ายของเขาเท่าไร เพราะเมื่อปี 2015 แมคโดนัลด์ได้จ้างฟาร์เรลล์ให้แต่งเพลงโฆษณาของบริษัท ไม่รู้ว่านอกจากค่าจ้างก้อนโตแล้ว ฟาร์เรลล์จะขอแมคนักเก็ตเป็นโบนัสด้วยรึเปล่า
Emma Stone
ชีวิตจริงของเอ็มมา สโตน นั้นคล้ายคลึงกับตัวละครที่เธอแสดงในหนัง La La Land อยู่ไม่น้อย ตอนที่เอ็มมาย้ายไปลอสแอนเจลิสเพื่อหาโอกาสแจ้งเกิดเป็นดารา เธอต้องทำงานเป็นพนักงานร้านเพื่อหาเลี้ยงชีพไปด้วย เพียงแต่ร้านที่เธอทำงานนั้นไม่ได้มีลูกค้าเป็นคนเหมือนในหนังแต่กลับมีลูกค้าเป็นเพื่อนสี่ขา เพราะว่าเธอทำงานที่ Three Dog Bakery ร้านเบเกอรี่สำหรับสุนัขนั่นเอง เอ็มมาบอกว่าเธอยังจำเรื่องขำๆ จากสมัยนั้นได้อยู่เลย “ที่ร้านมีขนมที่คล้ายกับโอริโอสำหรับหมาซึ่งทำจากผงแครอตที่ใช้แทนช็อกโกแลตของคนกับน้ำผึ้ง บางครั้งพวกแม่ๆ ก็มาซื้อขนมนี้ให้ลูกกิน เพราะคิดว่ามันดีต่อสุขภาพมากกว่าโอริโอของคน”
Jennifer Hudson
ใครจะคิดว่าอาชีพนักร้องของสาวเสียงดีคนนี้จะเริ่มต้นที่ร้านเบอร์เกอร์คิง ตอนที่เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ทำงานที่นั่น นอกจากจะทำเบอร์เกอร์และทอดเฟรนซ์ฟรายส์แล้ว เธอยังรับออร์เดอร์ที่ช่องไดรฟ์ทรูแล้วร้องเพลงผ่านไมค์ให้ลูกค้าฟังไปด้วย พลังเสียงของเธอนั้นเป็นที่ถูกใจผู้จัดการร้านมากจนเขาชวนเธอไปร้องเพลงตามคลับ ซึ่งทำให้เธอได้เป็นนักร้องอาชีพในที่สุด แม้จะโด่งดังแล้วเจนนิเฟอร์ก็ยังคงเล่าถึงประสบการณ์สมัยทำงานที่เบอร์เกอร์คิงอยู่เสมอ จนทำให้ทางเบอร์เกอร์คิงมอบ Bk Crown Card บัตรสมาชิกสุดพิเศษใช้สั่งอาหารที่ Burger King ได้ฟรีตลอดชีวิตให้เธอเป็นการขอบคุณที่ช่วยโฆษณาร้านให้
Evangeline Lilly
ไม่น่าแปลกใจที่ดาราสาวสวยจากซีรี่ส์ Lost หนังไตรภาค The Hobbit และหนังซูเปอร์ฮีโร่ Ant-Man คนนี้จะเคยเป็นแอร์โฮสเตสมาก่อน เพราะความสวยและความสูงของอีแวนเจลีน ลิลลี่ นั้นถือว่าผ่านเกณฑ์ของทุกสายการบินได้อย่างสบาย ตอนนั้นอีแวนเจลีนทำงานที่สายการบิน Royal Airlines ของแคนาดา แต่เธอกลับไม่ชอบงานนั้นแม้แต่น้อย “ฉันไม่ชอบผู้โดยสาร ไม่ชอบจุดหมายปลายทาง ไม่ชอบอากาศรีไซเคิล ไม่ชอบอาหารห่วยๆ และไม่ชอบที่เขาบอกฉันก่อนเริ่มงานว่า ฉันควรซื้อรองเท้าให้ใหญ่กว่าปกติ 2 ไซส์เพราะเท้าของฉันบวม” เธอยังเล่าว่าเคยผายลมใส่ผู้โดยสารที่ทำตัวแย่ๆ กับเธอด้วย ถือเป็นโชคดีของผู้โดยสารทั่วแคนาดาที่อดีตแอร์โฮสเตสคนนี้ได้งานในวงการอื่นไปเรียบร้อยแล้ว
Brad Pitt
El Pollo Loco เป็นร้านอาหารเม็กซิกันที่ลอสแอนเจลิส ร้านนี้ไม่เพียงขึ้นชื่อเรื่องรสชาติ แต่ยังเป็นที่รู้จักในฐานะที่ทำงานเก่าของซูเปอร์สตาร์อย่างแบรด พิตต์ ด้วย ตอนที่แบรดลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วเดินทางไปตามฝันที่ฮอลลีวู้ด เขาต้องหาเงินจ่ายค่าเช่าห้องด้วยการสวมแมสคอตไก่ของร้าน El Pollo Loco แล้วเดินแจกใบปลิวไปตามท้องถนน แต่นั่นไม่ใช่งานเพียงอย่างเดียวของแบรดก่อนที่เขาจะโด่งดัง แบรดยังเคยทำงานเป็นคนขับรถและนักเต้นระบำเปลื้องผ้าในงานปาร์ตี้สละโสดของสาวๆ ด้วย ถึงจะเป็นงานที่เขาไม่ค่อยเต็มใจจะทำนัก แต่งงานเปลื้องผ้านี่แหละที่เปลี่ยนชีวิตเขา เพราะแบรดได้พบกับลูกค้าที่กำลังเรียนการแสดงอยู่ เขาจึงไปลองลงเรียนคอร์สเดียวกัน และกลายมาเป็นแบรด พิตต์ ที่เรารู้จักกันดีในที่สุด
Eva Mendes
เอวา เมนเดส เป็นคนขยันทำมาหากินมาตั้งแต่เด็กๆ พออายุ 15 ปีซึ่งเป็นวัยที่สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนียเธอก็ไม่รีรอที่จะออกไปทำงานทันที เอวาเริ่มต้นงานแรกด้วยการเป็นพนักงานในร้านพิซซ่า ซึ่งเธอบอกว่างานที่หนักที่สุดคือ การเอาพิซซ่าใส่เตาอบและเอาออกจากเตาซึ่งร้อนมากๆ พอได้ย้ายมาทำงานที่หน้าเคาน์เตอร์เธอก็ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเพื่อสุขอนามัย ทำให้กว่าเธอจะถูกค้นพบโดยแมวมองก็ต้องรอจนถึงตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ถึงทุกวันนี้เอวาจะเป็นดาราดังแล้วเธอก็ยังไม่หยุดขยันหาเงินแต่อย่างใด โดยตอนนี้เธอมีทั้งธุรกิจแฟชั่นและของตกแต่งบ้านเป็นของตัวเอง
Agyness Deyn
เมื่อ 10 กว่าปีก่อนที่ร้านขายฟิชแอนด์ชิปเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ มีพนักงานสาวสวย 16 ปี ผู้มีใบหน้าสวยเก๋แต่กลับไว้ผมสกินเฮดแบบชาวพั้งค์ ต่อมาพนักงานคนนี้ได้รับเลือกให้เป็นผู้มีลุคโดดเด่นแห่งปีจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เธอจึงเดินทางไปลอนดอนเพื่อเข้าสู่วงการแฟชั่น แต่ระหว่างนั้นเธอก็ยังทำงานไปด้วย ทั้งเป็นพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดตอนกลางวันและพนักงานในบาร์ตอนกลางคืน จนกระทั่งมีแมวมองมาพบเธอเข้าและทำให้เธอได้เดินรันเวย์มาจนถึงปัจจุบัน นั่นคือเรื่องราวของแอกเนสส์ ดีน หนึ่งในนางแบบแถวหน้าของยุคนี้
Chace Crawford
ระหว่างที่หนุ่มคนนี้ลาออกจากมหาวิทยาลัยและกำลังรอให้มีคนเรียกตัวเขาไปออดิชั่นงานแสดง เชส ครอว์ฟอร์ด หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานรับจอดรถที่ร้านอาหารในไมแอมี โดยมีนิสัยเสียคือชอบขโมยหมากฝรั่งที่ลูกค้าทิ้งไว้ในรถมาเคี้ยวเล่น ตอนทำงานที่นั่นเขาเคยพบกับคนดังหลายคนรวมถึงซุจ ไนต์ โปรดิวเซอร์เพลงแร็พชื่อดังผู้มากินอาหารที่ร้าน จริงๆ แล้วเชสต้องเป็นคนขับรถหรูของซุจไปจอด แต่การเจอเจ้าพ่อเพลงแร็พตัวเป็นๆ ทำเอาเขามือไม้สั่นไปหมดสุดท้ายเชสเลยต้องขอให้เพื่อนร่วมงานเป็นคนขับรถไปจอดแทนเขา ตอนนี้เขาคงไม่ตื่นเต้นเวลาเจอคนดังอีกต่อไป เพราะเขาเองก็ได้เป็นคนดังไปเรียบร้อยแล้ว
Kim Jaejoong
ถึงหน้าตาจะหล่อราวกับคุณชาย แต่คิมแจจุงแห่งวง TVXQ และ JYJ กลับเติบโตมาในครอบครัวอุปถัมภ์ที่ฐานะไม่ดีนัก เขาฝันอยากเป็นนักร้องจึงออกจากบ้านไปออดิชั่นที่กรุงโซลตั้งแต่อายุ 15 ปี ซึ่งแจจุงก็ผ่านออดิชั่นและได้เป็นศิลปินฝึกหัดของค่าย SM Entertainment แต่การเป็นศิลปินฝึกหัดนั้นไม่ได้มีรายได้มากนัก แจจุงจุงต้องทำงานสารพัดเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าอาหาร และค่าเรียน เขาใช้เวลาว่างส่งหนังสือพิมพ์ เสิร์ฟอาหาร เป็นนักแสดงประกอบ จนถึงขั้นขายเลือดแลกเงิน ความพยายามของเขาในครั้งนั้นไม่สูญเปล่าแม้แต่น้อย เพราะในที่สุดแจจุงก็ได้เดบิวต์เป็นนักร้องดังอย่างที่ฝันเอาไว้
Rachel McAdams
ตอนที่เธออายุ 16 ปี ราเชล แมคอดัมส์ ดาราสาวจาก Doctor Strange เริ่มทำงานในแวดวงละครเวที แต่งานเหล่านั้นไม่ได้เงินแต่อย่างใด ทำให้เธอต้องหาจ๊อบอื่นเพื่อจะได้มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟด้วยซึ่งเธอก็เลือกทำงานที่แมคโดนัลด์และทำอยู่นานถึง 3 ปี เธอบอกว่ามันเป็นที่ทำงานที่ดี แต่ตัวเธอเองนั่นแหละที่มีปัญหา “ฉันไม่ใช่ลูกจ้างที่ดีนัก ฉันเคยทำเครื่องทำน้ำส้มพังด้วยละ” ไม่เพียงเท่านั้น ราเชลยังเป็นคนรักความสะอาดที่ชอบล้างมือนานๆ จนโดนผู้จัดการดุอยู่บ่อยๆ แต่ประสบการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ราเชลชื่นชอบงานในร้านอาหารน่าดู เพราะเธอบอกว่า ถ้าเธอไม่ได้เป็นดาราก็คงจะเปิดร้านอาหารของตัวเองไปแล้วละ
Nicki Minaj
กว่าจะกลายเป็นเร็พเปอร์สาวที่ใครๆ ก็รู้จัก นิกกี้ มินาจ ต้องกัดฟันสู้ชีวิตมาไม่น้อย ช่วงหนึ่งเธอเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟของ Red Lobster ร้านอาหารสไตล์อเมริกันที่มีสาขาทั่วโลก แน่นอนว่าสาวแร็พอย่างเธอคงไม่ถือคติว่าลูกค้าคือพระเจ้าแน่ๆ และแล้ววันหนึ่งก็มีลูกค้ายืมปากกาของเธอไปแล้วไม่ยอมคืน นิกกี้จึงเดินตามลูกค้าคนนั้นไปที่ลานจอดรถเพื่อทวงปากกาของเธอพร้อมชูนิ้วกลางให้ลูกค้าด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอถูกไล่ออก เมื่อมีคนถามว่าปากกาแท่งนั้นสำคัญกับเธอมากขนาดนั้นเลยหรือ เธอก็ตอบว่า “ไม่เลย ฉันก็แค่ทำแบบนี้เป็นปกติ”
Gwen Stefani
คงจะพูดได้ว่า ถ้าเกวน สเตาฟนี ไม่เคยทำงานที่แดรี่ควีนเราก็คงไม่รู้จักเธอ ตอนนั้นเกวนกับพี่ชายของเธอทำงานที่ร้านแดรี่ควีน ทั้งสองคนได้พบกับ จอห์น สเปนซ์ เพื่อนร่วมงานเสียงดีที่ชื่นชอบดนตรีแนวเดียวกัน พวกเขาจึงได้ตั้งวงดนตรีที่ชื่อว่า No Doubt โดยจอห์นเป็นนักร้องนำ ขณะที่เกวนเป็นนักร้องคอรัส ต่อมาจอห์นได้ฆ่าตัวตายก่อนที่วงจะโด่งดัง ทำให้เกวนต้องขยับมารับหน้าที่เป็นนักร้องนำของวง การเปลี่ยนตัวนักร้องเป็นผู้หญิงเปรี้ยวอย่างเกวนทำให้ภาพลักษณ์ของวงโดดเด่นขึ้น จนได้เซ็นสัญญาออกอัลบั้มในที่สุด
Andrew Garfield
คอกาแฟที่เคยไปเที่ยวอังกฤษอาจเคยดื่มกาแฟที่ชงโดยดาราดังมาแล้วอย่างไม่รู้ตัว เพราะแอนดรูว์ การ์ฟีลด์ เคยเป็นบาริสต้าที่สตาร์บัคส์บนเกาะอังกฤษมาก่อน เขาเล่าว่าก่อนที่จะเริ่มงานนั้นเขาตื่นเต้นไม่น้อย “ผมคิดว่าจะได้พบสาวๆ สวมแว่นกรอบดำ นั่งอ่านหนังสือวรรณกรรมคลาสสิกในร้าน และผมจะชงกาแฟจนชนะใจพวกเธอทุกคน” แต่เมื่อถูกถามว่างานจริงๆ เหมือนที่มโนไว้หรือเปล่าแอนดรูว์ก็ตอบว่า “ไม่เลย มันก็เป็นร้านสตาร์บัคส์อะนะ”
James Franco
ในบรรดาคนดังที่เคยทำงานในร้านฟาสต์ฟู้ดคงไม่มีใครที่รู้สึกอินกับงานมากเท่าเจมส์ ฟรังโก อีกแล้ว สมัยที่ออกจากบ้านมาตามความฝัน เจมส์เคยพบกับช่วงเวลาแย่ๆ ที่เขาถูกไล่ออกจากงาน แถมพ่อแม่ก็เลิกส่งเสียเงินให้เขาด้วย ตอนนั้นเจมส์เคว้งคว้างสุดๆ จนกระทั่งมีเพื่อนมาชวนเขาไปทำงานที่แมคโดนัลด์ เจมส์บอกว่าทางร้านปฏิบัติต่อเขาอย่างยุติธรรม แถมเขายังมีโอกาสกินเบอร์เกอร์ที่ตั้งทิ้งไว้นานจนต้องทิ้งแบบฟรีๆ และได้แกินเฟรนซ์ฟรายส์ที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ๆ อยู่เสมอ ความประทับใจในการทำงานที่แมคโดนัลด์ยังคงติดตัวเจมส์มาจนทุกวันนี้ เขาถึงขั้นเขียนบทความเกี่ยวกับแมคโดนัลด์ลงหนังสือพิมพ์ พร้อมวรรคทองสุดซาบซึ้งว่า “ตอนที่ไม่มีใครต้องการผม แมคโดนัลด์ยังคงอยู่เคียงข้างผมเสมอ”
ภาพจาก : Getty Images
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
ส่องคู่ดาราจากเพื่อนเลิฟกลายมาเป็น คนรัก แถมหวานฉ่ำกว่าใคร
ศรราม-นิโคล จากเพื่อน 20 ปี วันนี้กลายเป็นคนรู้ใจ (ได้ยังไงนะ?)