นี่แหละนะ ชีวิตติ่ง #ติ่งวนไปค่ะ

หลายคนมองติ่งไม่ดี หลายคนไม่เข้าใจว่าติ่งแล้วได้อะไร แต่เหล่าติ่งส่วนใหญ่ก็จะออกมาปกป้องตัวเองว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนและอยู่ในพื้นที่ของเขา ในฐานะที่สุดฯ ก็เป็นติ่งด้วยเหมือนกัน วันนี้สุดฯ เลยจะมาตีแผ่ ชีวิตติ่ง ให้รู้กันไปเลยว่าวันๆ พวกเขาทำอะไรบ้าง และได้อะไรจากการติ่งบ้าง

นี่แหละนะ ชีวิตติ่ง

• การเริ่มชอบใครคนหนึ่งอย่างหัวปักหัวปำทำให้เรากลายมาเป็นติ่ง วันๆ ก็จะสิงอยู่แต่ในทวิตเตอร์ ส่องแฮชแท็ก ส่องภาพศิลปินที่ชอบ กดเซฟ ดูคลิป วันๆ ก็วนอยู่อย่างนี้แหละค่ะ
• ดูรายการ ดูคลิป เห็นโมเมนท์น่ารักๆ ก็อดยิ้มตามไม่ได้ ความสุขเกิดขึ้นจากตรงนี้ เครียดอะไรมาเจอหน้าศิลปินที หายเป็นปลิดทิ้งเลยจ้า
• พอมีข่าวศิลปินจะคัมแบ็ก เอาแล้ว เงินเก็บที่มีอยู่จะพอมั้ย พรีออเดอร์อัลบั้มกันรัวๆ (บางคนทุนเยอะหน่อยก็บินไปเข้างานแจกลายเซ็น) เปิดยูทูบปั่นยอดวิวในเอ็มวี และสตรีมเพลงออนไลน์ ฟังวนไปจนกว่ายอดจะขึ้น เพราะเราอยากให้เขาได้ที่ 1 (เขามีความสุขเราก็มีความสุข) ของออฟฟิเชียลอะไรออกมา อยากได้ไปหมด อยากมีเขาเก็บไว้ในคอลเล็คชั่น…ถามว่ามีเงินมั้ย…ไม่เป็นไร ความสามารถในการปั๊มเงินเราจะมาทันที (กินมาม่าสามมื้อก็ยอมอะ)
• ศิลปินมีคอนเสิร์ต-มาไทย ดีใจรัวๆ จากนั้นก็เริ่มเครียด จะดูบัตรเท่าไหร่ดี จะนั่งตรงไหนดี พอถึงวันกดบัตรจริง ตาลีตาเหลือกตื่นแต่เช้านั่งเฝ้าเว็บ รัวนิ้วกดบัตร นกบ้างไม่นกบ้าง แต่ในที่สุดก็หาทางไปดูจนได้ แม้ที่นั่งที่คิดไว้จะไกลเกินฝันก็ตาม
• และติ่งก็จะเชื่อมั่นเสมอว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของความสุขของเขา และเขาก็เป็นความสุขของเรา แค่ได้เจอ ได้เห็นหน้า เห็นรอยยิ้ม แค่นี้ก็พอแล้ว จริงๆ นะ

ส่วนดีๆ ในการติ่งก็มีเยอะนะ

• ชาวติ่งได้เพื่อนที่ดีหลายคนจากการติ่งด้วยกันนี่แหละ ชอบคนเดียวกัน คุยกันถูกคอ ไปตามศิลปินด้วยกัน สนิทกัน จากนั้นก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน บางคนถึงขั้นร่วมงานกัน สร้างธุรกิจใหญ่โตเลยก็มี
• การติ่งทำให้มีแรงบันดาลใจในการทำอะไรต่างๆ เช่น บางคนตั้งใจเรียนภาษาเพิ่ม เพราะอยากฟังที่เขาพูดรู้เรื่อง จนได้ภาษาและได้งานการดีๆ ทำ, บางคนตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อที่จะได้ติ่งได้อย่างเต็มที่ จนฐานะดีมีเงินเก็บเยอะ, บางคนตั้งใจออกกำลังกาย เพราะอยากสุขภาพดีเหมือนศิลปินที่ตัวเองชอบ, เด็กๆ บางคนตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อทำเกรดได้ดีๆ เวลาไปติ่งพ่อแม่จะได้ไม่ว่า และพิสูจน์ตัวเองว่าการติ่งไม่ได้ทำให้เสียการเรียน
• บางคนได้อาชีพจากการติ่งเลยก็มี เช่น เรียนภาษาจนได้เป็นไกด์หรือเป็นล่าม, เปิดธุรกิจพรีออเดอร์ของเกี่ยวกับศิลปิน, รับวาดภาพ ทำของเกี่ยวกับศิลปินขาย
• มีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าบางคนบอกว่าการติ่งเป็นการบำบัด เพราะทำให้พวกเขาหลุดออกจากภาวะซึมเศร้า มีความสุขขึ้น มีกำลังใจและแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น

นี่แหละนะสังคมติ่ง

• ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็คุยกันได้ แค่ชอบคนหรือวงเดียวกัน
• เจอกันครั้งแรกไม่ถามชื่อ แต่ถามว่า “เมนใคร” (ชอบใครมากที่สุด)
• อยากได้อะไรเกี่ยวกับศิลปิน เช่น ได้เจอ ได้ไฮทัช ได้ตั๋วคอนเสิร์ต มักจะบน แต่ไม่ได้บนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ บนแจกของในทวิตเตอร์ (และดันได้จริงๆ ด้วยแน่ะ)
• ไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวได้สบายมาก เพราะพอไปถึงก็รู้จักกับคนข้างๆ เอง
• ไม่ต้องกลัวว่าไปติ่งแล้วจะไม่มีเพื่อน เข้าไปเลียบๆ เคียงๆ คุยแป๊บๆ ได้เพื่อนมาเพียบ
• ไลน์ไม่ต้อง จะคุยกันเมนชั่นทวิตเตอร์มาเลย ตอบเร็วแน่นอน

เนื้อร้ายในสังคมติ่งก็ไม่น้อย

• ทุกคนย่อมมีมุมเห็นแก่ตัวบ้างทั้งนั้น ฉันต้องได้ก่อน ฉันต้องเห็นชัด ฉันจะต้องเข้าใกล้ศิลปินให้มากที่สุด จนอาจทำให้ศิลปินได้รับบาดเจ็บ เราจะเห็นติ่งไม่น่ารักแบบนี้ประปรายแทบทุกงาน
• โกงเงิน เห็นบ่อยมากและไม่หมดไปสักที พวกที่โกงค่าบัตรคอนเสิร์ต โกงค่าของต่างๆ พอได้เงินแล้วหนีหาย โดนจับแล้วก็ออกมาทำใหม่
• กดบัตรคอนเสิร์ตไปโก่งราคา มักจะเป็นพวกที่ไม่ได้อยากไปดูจริงๆ ไม่ได้ชอบศิลปิน แต่อาศัยความสามารถและความเร็วกดบัตรคอนเสิร์ตได้แล้วอัพราคาให้สูงๆ ใครอยากดูมากๆ ก็ต้องจ่าย บางรายอัพไปสี่ห้าเท่า เอาไปขายชาวต่างชาติ

แต่พูดก็พูดเถอะนะ ถ้าติ่งแล้วมีความสุขและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนจริงๆ (ยกเว้นเงินในกระเป๋าตัวเอง) ก็ทำไปเถอะ เพราะเราได้อะไรดีๆ จากการติ่งมากมาย แถมชุ่มชื่นหัวใจอีกต่างหาก

ภาพจาก iME Thailand

เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ

ใครว่าไม่เกี่ยวกัน ผลกระทบของวงการบันเทิงเกาหลี เหตุจากเรื่อง การเมือง

เกาหลีมาไทย ทำไมต้องมี ดราม่า ?

เตนล์ ชิตพล ความภาคภูมิใจล่าสุดของไทย