account_circle
นับจากจุดเริ่มต้นในนิวยอร์กในปี 2002 แบรนด์ rag & bone สร้างชื่อด้วยการผสมผสานดีไซน์ในแบบฉบับอังกฤษแท้ ๆ เข้ากับความชัดเจนเรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์นไม่ซ้ำใคร
มาร์คัส เวนไรท์ และ เดวิด เนวิลล์ สองดีไซเนอร์ผู้ไม่เคยผ่านการศึกษาเล่าเรียนด้านแฟชั่นมาก่อน เลือกศึกษาทักษะและเทคนิคการตัดเย็บจากโรงงานผลิตเสื้อผ้าเก่าแก่ในอเมริกา จนกระทั่งเรียนรู้ถึงเรื่องคุณภาพ ความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือ ตลอดจนการใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ ได้กลายมาเป็นหัวใจหลักที่นำพาแบรนด์ rag & bone ก้าวสู่การเป็นตัวแทนของลุค “โมเดิร์น ดาวน์ทาวน์” แบบนิวยอร์ก ด้วยซิลลูเอตต์ที่ดูเรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยการตัดเย็บแบบคลาสสิกซึ่งกุมหัวใจบรรดาแฟชั่นนิสต้าเอลิสต์ไว้อยู่หมัด
ปัจจุบัน rag & bone มีร้านอยู่ตามหัวเมืองแฟชั่นทั่วโลก และล่าสุด ณ จุดนี้ที่กรุงเทพฯ rag & bone มาเปิดบ้านใหม่ที่ดิ เอ็มควอเทียร์ พร้อมคอลเล็คชั่นล่าสุดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ความบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติคือหัวใจของซีซั่นนี้ที่มาร์คัสและเดวิดตั้งใจจะผสมผสานเอกลักษณ์ของชนเผ่าเข้ากับสไตล์ของคนเมือง เน้นการใช้เนื้อผ้าจากธรรมชาติ โดยเลือกผ้าฝ้ายเป็นวัตถุดิบหลัก และใช้ผ้าแคนวาส ผ้าไหม และผ้าป่านย้อมสีมาเพิ่มลูกเล่นให้เสื้อผ้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
ลายพิมพ์ดอกไม้ซึ่งเป็นจุดเด่นของฤดูกาลนี้ปรากฏอยู่ทั่วไปทั้งในแบบลายดอกไม้กระจายตัวทั่วทั้งชิ้นเสื้อผ้าและลายดอกไม้พิมพ์ลายแบบดิจิทัล ส่วนเฉดสีที่มาแรงคือสีโทนเย็นอย่างสีฟ้าและสีน้ำเงินเข้ม กับสีกลาง ๆ อย่างสีขาว สีแทนและสีเขียวสไตล์ทหาร
โครงเสื้อที่ดูพลิ้วไหวและการใช้โทนสีขาวช่วยเสริมความเป็นเฟมินีนได้อย่างไร้ที่ติ ขณะเดียวกันสาว rag & bone ตัวจริงต้องไม่ทิ้งความเท่ ฉะนั้นชิ้นเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือเสื้อตัวสั้นและกางเกงตัวสั้นพิเศษ รวมถึงกางเกงขาสั้นที่ได้ไอเดียมาจากชุดชั้นใน เป็นชิ้นที่ช่วยสร้างสมดุลให้มีกลิ่นอายแบบแมสคิวลีนปรากฏอยู่ทั่วไปในคอลเล็คชั่น
ปิดท้ายด้วยกระเป๋าเป้กลับด้านได้ (Aston Convertible Sling Backpack) กระเป๋าสะพาย (Goa Crossbody Bag) กระเป๋าคาดเอว (Jude Hip Bag) รองเท้าผ้าใบ (Velcro Sneakers) และรองเท้าแตะทรงสปอร์ตประยุกต์น้ำหนักเบาที่เราบอกไม่ได้จริง ๆ ว่าควรเลือกชิ้นไหนดี
คู่นั้นก็ดี คู่นี้ก็ใช่ ตัวใครตัวมันนะยูว์
Text : Miss Paparazzi
