บอกลาวันเดิม ๆ แล้วไปสนุกกับวันวุ่นๆ ของวัยรุ่นวันจันทร์ (ส) กับภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ “สวัสดีวันจันทร์ (ส)” นำทีมความบันเทิงกับ โอบ-โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์, พีพี-ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม รอดสวาสดิ์ สุดสัปดาห์ชวนคุยกับพระเอกนางเอก โอบ-พีพี ถึงเรื่องราววันจันทร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ และความประทับใจ

เมื่อพูดถึงวันจันทร์นึกถึงอะไรคะ
โอบ: รถติดครับ
พีพี: สีเหลืองค่ะ
มีไลน์กรุ๊ปที่ส่งสติ๊กเกอร์ไลน์สวัสดีวัน… กันบ้างมั้ยคะ
โอบ: แม่ผมทำครับ แม่ผมชอบทำครับ ผมก็ไม่ได้ตอบและก็ไป เป็น feeling ที่เขาต้องส่งมาหาเราทุกวัน เป็นกรุ๊ปญาติที่จะส่งหากันตลอด มีสติ๊กเกอร์ไลน์ หลายสีหลายแบบมากครับ ส่งมาว่ามีหลายสีมากครับ
พีพี: ช่วงแรกๆ ที่มีไลน์ใช้กัน ก็ส่งหากันนะคะ แต่พอหลังไม่ส่งกันเท่าไร กับคุณแม่ก็ไม่ส่ง แต่คุณแม่อาจจะส่งกับเพื่อน ส่งหาลูกอาจจะไม่อิน เพราะเราอยู่ด้วยกันทุกวัน เจอหน้ากันตลอดเลย
พูดถึงเรื่องหนังบ้าง ‘สวัสดีวันจันทร์(ส)’
โอบ: เอิร์ธป็นคาแรคเตอร์ของเด็กวัยรุ่น ที่ไม่ได้มีเป้าหมายในในอนาคต ไม่ต้องดิ้นรน ชิลๆ ชีวิตที่ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร จนวันหนึ่งมาเจอ ‘สายไหม’ ชีวิตก็เลยมีเป้าหมายขึ้นมา คืออยากจีบผู้หญิงคนนี้ครับ
เป้าหมายที่อยากจีบผู้หญิงคนนี้คือ
พีพี: สวยค่ะ (หัวเราะ)
โอบ: ถ้าผมตอบเป็นตัวละคร ผมก็จะตอบว่าเขาสวยครับแค่จะไปทำความรู้จักเขา ยังลำบากเลยครับ เพราะเราเป็นรุ่นพี่ปี 8 ที่เรียนไม่จบสักที เรียนพร้อมเพื่อนจบพร้อมแพทย์ (หัวเราะ)
พีพี: แพทย์ยังจบก่อน
โอบ: เวลาเอิร์ธจะไปจีบสายไหนมีคู่แข่งเยอะครับ เขาเป็นสาวฮอต เราเป็นแค่รุ่นพี่ปี 8 ที่ไม่มีอะไร คนในคณะก็ตราหน้าเรียนไม่จบสักที
พีพี รับบทเป็น ‘สายไหม’ ค่ะ เหมือนเป็นตัวท็อปในมหาลัย อุ๊ย! คนนี้พี่สายไหม อยากเป็นพี่สายไหม แล้วตัวสายไหมเป็นคนโลกสวยสุดๆ ทุกอย่างเป็นพลังบวกเชิงบวก เขามีเป้าหมายของเขา เป้าหมายของสายไหมคือ มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม เป็นที่รู้จักของคน มีคนติดตาม เขามีสิ่งที่อยากได้ แต่จะได้มาด้วยวิธีไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง
เล่าเรื่องราวของ ‘สวัสดีวันจันทร์(ส)‘
โอบ: วันจันทร์ที่ 1 เมษายน ซึ่งตรงกับ April fool day หลายๆ คนคงคิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก ซึ่งวันนี้เอิร์ธตั้งใจจะจีบสายไหม แล้วเราดันตกอยู่ในลูปวันจันทร์ เหมือนกับหยุดแค่วันจันทร์ ตื่นมาก็เป็นดันเป็นวันจันทร์ที่ 1 เมษาเหมือนเดิมไปเรื่อยๆ วนลูป ตี่นมาก็วันจันทร์ เราก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ย! นี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการที่จะหาวิธีจะไปจีบเขาไปเรื่อยๆ หาวิธีลองผิดลองถูก วิธีนี้ work ไหม ก็พยายามหาทุกวิถีทาง ทำให้ตัวเองดูดีขึ้น หรือไปสร้างเรื่องนี้เรื่องนั้นให้ตัวเราเองดูดีขึ้น จนสุดท้ายแล้ว วันหนึ่งหลุดออกจากลูปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้คิดเผื่อว่าสุดท้ายเมื่อหลุดออกจากลูป อะไรที่ไปสร้างปัญหาไว้จะทำอย่างไร และไม่ได้คิดวิธีแก้ไว้ด้วย ต้องมาดูกันว่าจะจีบสายไหมติดไหม หรือว่าเขาจะทำอย่างไรต่อจากที่เกิดปัญหาด้วย

เหตุผลที่รับเล่น ‘สวัสดีวันจันทร์(ส)‘
โอบ: ผมว่ามันสนุกนะ หลายๆ คนอาจจะพูดว่ามันคือหนังติดลูปที่เคยมีมาแล้ว ที่หลายๆคนเคยมีมาแล้ว แต่เรื่องนี้พยายามนำเสนอแนวใหม่ เวลาติดลูปก็อยากจะออกจากลูปใช่มั้ย แต่ตัวละครเรื่องนี้มันมีความสุขกับการติดอยู่ในลูป
เพื่อทำในสิ่งที่อยากทำในลูปนั้น มัน enjoy กับการทำอะไรแบบนี้มากเลย เป็นการนำเสนอแบบใหม่ที่ว่าเราจะอยู่ในลูปอย่างไรให้สนุก และได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำอยากได้ จีบวันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้จีบใหม่
พีพี: เอิร์ธมีโอกาสทดลองไปเรื่อยๆ ถ้าผู้หญิงไม่ชอบแบบนี้ ก็หาวิธีใหม่ วันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้เริ่มใหม่
ชอบอะไรในเรื่อง ‘สวัสดีวันจันทร์(ส)‘
พีพี: ตอนหนูอ่านบทแรกๆ ไม่ค่อยเข้าใจว่าสายไหมเป็นคนอย่างไร แต่พอหนูอ่านไปแล้ว หนูรู้สึกว่าบทมันดีตรงที่ว่ามันสะท้อนเรื่องราวของมนุษย์ในชีวิตประจำวันจริง คนเราไม่มีใครดี 100% ไม่มีใครขาว 100% ไม่มีใครดำ 100% ทุกคนเทาๆ อยู่ที่ว่ามันจะเป็นเช็ตสีอะไรกันแน่ เทาเข้มเทาอ่อน และมันน่าสนใจตรงที่ว่าตัวสายไหมที่หนูอ่าน คือคนที่เราเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน แค่เราอาจจะไม่ได้สังเกตอย่างลึกซึ้ง หนูว่าหนังเรื่องนี้ทำให้ภาพมันชัดขึ้น เห็นชีวิตมนุษย์ที่ใช้ชีวิตประจำวันน่ะค่ะ เห็นว่าคนในสังคมมีแบบนี้จริงๆ
ได้ร่วมงานกันเป็นอย่างบ้างคะ
โอบ: เป็นการร่วมงานกันครั้งแรก ช่วงแรกดูน้องน่าจะพูดน้อย แต่พอรู้จักกันก็… นั่นแหละ แล้วเรามีมติหนึ่งเวลาคุยกัน หรือเวลาต่อล้อต่อเถียงกัน ใครเป็นคนพูดสุดท้าย เป็นคนชนะครับ แล้วเขาไม่ยอมผมเลยครับ ตอนแรกว่าจะสอนสกิล แต่ไม่ต้องสอนอะไร (10:42) แต่ผมไม่ต้องสอน

พีพี: หนูคิดว่า ครั้งแรกที่หนูเจอพี่โอบ พี่โอบนั่งตรงนี้เลยค่ะ ฟีลก็แบบหยิ่งมาก ตึง นิ่ง หนูก็เดินไปหา “พี่โอบสวัสดีค่ะ” แต่นิ่งมาก
โอบ: ก็ไม่รู้จักกันอะ จะแบบสวัสดีครับ! เฮฮาเลยก็… ไม่ต้องมาคิดแทนเลย
พีพี ก็ไม่ได้คิดแทน คิดว่าเราต้องร่วมงานด้วยกันจะยังไง
พีพี คือเราก็ยังไม่เคยคุยกันจริงๆ จังๆ แต่พอคุยกันจริงจัง พี่โอบเขากวนๆ พูดไม่หยุดค่ะ และแกล้งทุกคน ไม่ว่าจะทีมงานนักแสดง แล้วเขาเป็นคนมีเรื่องในหัวตลอดเวลา ไม่รู้ไปเอามาจากไหน คือเก็บทุกเม็ด เนี่ย (12:16) นั่งนิ่งๆเฉยๆ
โอบ เขาเรียกใส่ใจลายละเอียด
พีพี ก็จริงค่ะ ใส่ใจลายละเอียดของทุกคน
ประทับใจอะไรต่อกันบ้า
โอบ เอาความจริงเหรอ คทอเขาเป็นคนตั้งใจทำงาน เขามีspirit ในการทำงานค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะไม่สบาย ก็ยังมาทำงานได้ สุดท้ายทำงานเสร็จปุ๊ป น็อคเลยครับ เข้าโรงพยาบาลเลย
พีพี พี่โอบดูเหมือนคนติดเล่น ติดชิล สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง แต่พอได้ร่วมมาจริงๆ เขามีสมาธิ โฟกัสและตั้งใจกับงานมาก แล้วพี่เขาเป็นคนดีมาก เป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน เป็นคนทำงานแบบมีคุณภาพ

ชอบอะไรในการทำงานเรื่องนี้ ประทับใจเลยในการชิ้นนี้ของน้อง
โอบ ชอบบรรยากาศในการให้ทำงานภายในกองมากกว่า มีความสนุก คือทุกคนเป็นคนผ่อนคลาย อะไรก็ได้ ทุกคนมาแบบทำงานร่วมกัน เรามาลงเรือลำเดียวกันแล้ว แค่อยากจะทำงานศิลปะให้ออกมาดีที่สุดที่เราจะทำได้ ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ อยากจะทำงานนี้ให้ออกมาดีดีสุด รู้สึกว่าบรรยากาศกองถ่ายสนุกครับ ออกกองทั้งหมด 20 คิว ผมมาทุกคิว มาตั้งแต่คนแรกผมกลับคนสุดท้ายตลอด มีผมทุกซีน เรื่องติดลูป เราก็ต้องถ่ายซ้ำๆ แต่มีความสุขมาก ไม่เบื่อเลย
พีพี: เหมือนพี่โอป คือชอบบรรยากาศออกกองกอง แฮปปี้… สนุก ทุกคนใจดีค่ะ สายตาแววตาทุกคนคือ แฮปปี้ในการทำงาน เหมือนเรามาทำงานกลุ่มกับเพื่อน มากกว่าที่ใครทำตำแหน่งไหน มีเรื่องอะไรก็ปรึกษากัน ลองกันว่าอันนี้ดีไหม ลองแบบนี้แบบนั้นไหม ด้วยความที่เราวัยใกล้เคียงกันหมดเลยเหมือนเราคุยภาษาเดียวกัน ทุกคนเปิดใจกันหมด ไม่มีใครแอ็ค ไม่มีกำแพงต่อกัน ทำงานด้วยกันมีแต่ความสบายใจ กล้าเล่นกล้าพูด กล้าทำอะไรมากขึ้น
โอบ: เขาหลอกให้ผมเลี้ยงน้ำ ชอบถามว่าจะสั่งเหรอ หนูไม่กินๆ เราก็ถามเป็นมารยาทไง เอาไหมๆ เขาก็เอานี่ก็ได้
พีพี: หนูก็ถามเขาว่าเดี๋ยวหนูโอนให้ เขาก็แบบว่าไม่เป็นไร
โอบ: ใครจะไปกล้าคิดตังค์
พีพี: พอหนูสั่งบ้าง ถามพี่โอบพี่ก็บอกว่าไม่เอาไง
โอบ: ก็ผมเป็นคนไม่ค่อยกินอะไรอยู่แล้ว ผมกินกาแฟ แต่ไม่กินชาเขียวเลย คนนี้ก็ชอบกินชาเขียวเหลือเกิน วันหลังถามกินช็อคโกแลตมั้ย จะสั่งให้คุ้มเลย
ซีนที่ชอบในเรื่องอยากเล่าให้ฟัง
โอบ: ผมพูดในเชิงการทำงานแล้วกันนะครับ มันเป็นสิ่งที่ผมเจอมากที่สุด และทำให้ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจ จะอยู่ท้ายเรื่อง มีอยู่ 3 อย่าง คือการ insert มือถือครับ การวิ่งครับ และการกินน้ำครับ เหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกผวา การถ่ายซ้ำซีนมือถือบ่อยๆ ซีนปาร์ตี้แล้วผมต้องกินน้ำหลายๆ รอบ ผมบอกทีมงานว่าพี่ไม่ต้องเสิร์ฟน้ำแล้ว และซีนวิ่งมาเจอพีพี วิ่งหาคนอื่นๆ วิ่งนู่นวิ่งนี่ สามสิ่งนี้ทำให้ผม ทำให้ผมรู้สึกผวาไปนาน
พีพี: ซีนหนึ่งที่พี่โอบต้องวิ่งขึ้นบันได ตอนนั้นจะเที่ยงแล้ว หนูต้องเล่นฉากนี้ต่อจากพี่โอบ เลยถามว่าอีกนานไหมเผื่อแว้บมากินข้าว พี่ทีมงานบอกรอแป๊บนึง ก็เลยนั่งรอจน 45 นาที แต่ในซีนหนูไม่วิ่งนะ
โอบ เขาแค่หันมาสวยๆ แต่ผมวิ่งในบันไดหนีไฟที่ไม่มีอากาศ ร้อนมากช่วงเดือนเมษา ออกมาผมเกือบตาย สภาพยับเยิน

สมมติว่าตัวเองต้องติดลูปจะทำอย่างไร
โอบ ติดกับใครได้มั้ยครับ แต่ไม่ติดกับพีพีนะ (หัวเราะ) เลยอ่ะ
พีพี ทำไมอ่ะ
โอบ ผมปวดหู
โอบ ผมอยากติดอยู่ในโมเมนท์วันเช็คออก วันเงินออก ผมรับไปเรื่อยๆ รับหมดเลย แต่วันนั้นเงินต้องออกในก้อนใหญ่นะ
พีพี หนูคิดไม่ออก… รู้สึกว่าการติดลูป มันไม่ค่อยมีอะไรดีเท่าไหร่เลย อืม… ติดลูปในสถานที่แบบมีธรรมชาติแล้วกัน ได้เดินเล่นไปเรื่อยๆ เจอธรรมชาติที่สวยงาม เหมือนเขาวงกต ในทุกๆ เส้นทางที่เราเดินจะไม่เหมือนเดิม
ฝากหนัง สวัสดีวันจันทร์(ส)‘ พีพี
โอบ เพราะมันเป็นเรื่องแรกของผม และพีพี และผู้กำกับของเราด้วย คือหนังเรื่องนี้มันให้ข้อคิดอะไรหลายๆ อย่าง ดูแล้วก็สนุกด้วยแหละ แต่ว่าจริงๆ แล้ว สอดแทรกข้อคิดบางอย่างที่ว่า อย่าลืมให้ความสำคัญกับคนรอบข้างด้วย ทำให้เราใส่ใจรายละเอียด หรือคนที่เราเคยลืมไป
พีพี ภาพยนตร์เรื่องนี้จะสะท้อนสังคมว่า มนุษย์มีหลากหลายประเภท หลายแบบ มันไม่มีใครดี 100% มันไม่มีใครแย่ 100% ทุกคนมีเป้าหมายของตัวเอง ทุกคนมีวัตถุประสงค์มีจุดประสงค์ของตัวเอง แค่คิดไม่ตรงกัน ไม่เหมือนกัน มันไม่มีใครถูกผิด อยู่แค่ที่ว่าวัตถุประสงค์ของคนนั้น และความตั้งใจของเขาเป็นสิ่งสำคัญ
คนดูก็จะได้เห็นมุมมองของคนแต่ละคนมันไม่เหมือนกันค่ะ ถ้าเรามองในมุมมองของเอิรธ์ สายไหมจะดูแย่มาก แต่ถ้าเรามองในมุมมองของของสายไหม เราก็จะมองว่าก็ไม่เห็นเป็นอะไร มันก็เป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้ทำให้คนมองเห็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นในชีวิตประจำวัน ได้มองเห็นภาพมันชัดขึ้น
โอบ ไม่ได้มีแค่ความสัมพันธ์แบบคนรักกัน แต่ยังมีความสัมพันธ์ของครอบครัว และเพื่อนเข้ามาด้วย จากจุดเริ่มต้นคือสวัสดีวันจันทร์ การส่งสติ๊กเกอร์ไลน์ที่กรุ๊ปครอบครัวส่งหากัน บางทีหนังเรื่องนี้อาจจะบอกว่า เขาส่งเพื่อเริ่มความสัมพันธ์ เพื่อเป็นการเริ่ม conversation กับเรา หรือเป็นการส่งมาเพื่อเป็นความสบายใจของเขา หรือความสุขที่เขาอยากจะมอบให้ในแต่ละวันแค่นั้นเอง เรื่องนี้กำลังส่งสารบางอย่างว่า อย่าลืมนึกถึงกันนะ บางครั้งเราอาจจะลืมนึกถึงสิ่งนั้นไป เห็นบ่อยเจอบ่อยจนเกิดความรำคาญ สมมติวันหนึ่งที่เขาไม่ส่งมาล่ะ อันนี้ก็น่าคิด
