หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู Melo Movie ซีรีส์แนวโรแมนติกจากผลงานของผู้สร้างที่อยู่เบื้องหลังซีรีส์ยอดฮิต ทั้งผู้กำกับโอชุงฮวาน จาก รอรักโรงแรมพันปี (Hotel Del Luna) และ สตาร์ทอัพ (Start-Up) กับผู้เขียนบท อีนาอึน จาก Our Beloved Summer: ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer) โดยจะเล่าถึงเรื่องราวเรื่องราวของหนุ่มสาวที่อยากมีความรักไปพร้อมๆ กับวิ่งตามความฝัน พวกเขาต่างต้องก้าวข้ามความเจ็บปวดเมื่อได้กลับมาพบและเป็นแรงบันดาลใจให้กัน ในช่วงเวลาที่ไม่ต่างไปจากภาพยนตร์สักเรื่อง
ชเวอูชิก (จาก หน้ากากความยุติธรรม (A Killer Paradox), Our Beloved Summer: ร้อนนั้นเรารักกัน (Our Beloved Summer), ถึงเวลาล่า (Time to Hunt) และ ชนชั้นปรสิต (Parasite)) รับบทเป็นโกกยอม นักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ชีวิตได้เจอกับจุดเปลี่ยนเมื่อพบกับคิมมูบี ซึ่งรับบทโดยพัคโบยอง (จาก รับแดดอุ่น กรุ่นไอรัก (Daily Dose of Sunshine) และ สาวน้อยจอมพลัง โดบงซุน (Strong Girl Bong-soon)) มูบี หญิงสาวที่มีชื่อคล้ายกับคำว่า Movie มีความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์และได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ เธอมีความสัมพันธ์ที่ทั้งรักทั้งเกลียดกับพ่อของเธอที่มักให้ความสำคัญกับภาพยนตร์มากกว่าเธอเสมอ ซีรีส์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของโกกยอมและคิมมูบีที่ถึงแม้จะมีบุคลิกต่างกันคนละขั้วแต่มีความรักต่อภาพยนตร์เหมือนกัน
ด้วยเรื่องราวที่น่าติดตาม ทีมผู้สร้างมากความสามารถ และการรวมตัวสุดพิเศษของเหล่านักแสดงและทีมงาน หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู (Melo Movie) จะเป็นซีรีส์รักโรแมนติกที่เข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมได้อย่างแน่นอน และสุดสัปดาห์ไม่พลาดที่จะนำบทสัมภาษณ์ทีมนักแสดงมาฝาก โดยพวกเขาได้เผยถึงเรื่องราวการทำงานเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

ตัวละครที่คุณได้รับบท มีความเหมือนหรือแตกต่างจากตัวคุณอย่างไร
ชเวอูชิก: สำหรับผมค่อนข้างคล้ายครับ เส้นทางชีวิตของตัวละคร “โกกยอม” เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงสมทบก็คล้ายกันกับตัวผม แต่จะมีเรื่องนิสัยที่ต่างกันครับ ผมค่อนข้างเป็นอินโทรเวิร์ต แต่โกกยอมจะไปทางเอ็กซ์โทรเวิร์ตครับ
พัคโบยอง: สำหรับฉัน ค่อนข้างต่างจากตัวจริงนะคะ ตัวละคร “มูบี” เป็นคนที่มองจากภายนอกแล้วมีกำแพงสูงทีเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างจากตัวจริงของฉันมากเลยค่ะ
อีจุนยอง: ผมเองก็มีส่วนที่เหมือนค่อนข้างเยอะครับ มองจากภายนอกผมดูเหมือนเป็นคนสบายๆ ไม่ได้มีเรื่องลำบากอะไร แต่ในใจค่อนข้างอ่อนไหว ผมคิดว่าเหมือนกันตรงนี้ แล้วก็เป็นคนที่ชอบเพลงมากด้วยครับ
จอนโซนี: ฉันเหมือนจูอามาก ในแง่ของการไม่กล้าแสดงความรู้สึกจริงๆ ออกไปต่อหน้าคนที่รัก แต่จูอาสุดท้ายก็ยอมจำนน แต่ฉันยังไม่ยอมค่ะ ก็เลยอาจจะต่างกันเล็กน้อย

อะไรคือโจทย์ยากที่สุดของการทำงานในซีรีส์เรื่อง หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู (Melo Movie)
อีจุนยอง: ผมเล่นกีต้าร์ไม่เป็นครับ แต่ในการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ ผมต้องจำคอร์ดกีต้าร์ทั้งหมดให้ได้ นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับผมเลย
พัคโบยอง: ส่วนสำหรับฉันคือ ก่อนหน้านี้ฉันมักจะเล่นบทโรแมนติกคอมเมดี้ด้วยโทนเสียงสูงค่ะ แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ฉันคิดว่าควรจะเล่นด้วยโทนเสียงต่ำ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องนี้ที่ยากที่สุดค่ะ
ชเวอูชิก: ตอนถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้เราเริ่มจากช่วงฤดูหนาวแล้วไปจบที่ฤดูร้อน ตอนอากาศร้อนเลยค่อนข้างลำบากครับ
จอนโซนี: สำหรับฉัน ตัวละคร “จูอา” จะมีตอนที่เธอเพิ่งมารู้ใจตัวเองทีหลัง ทำให้ฉันค่อนข้างคิดเยอะอยู่เหมือนกันค่ะว่าตอนแสดงฉากแรกๆ จะต้องแสดงความรู้สึกของเธอออกไปมากน้อยแค่ไหนดี

อยากให้เล่าซีนที่ตัวเองชอบ หรือซีนที่พีคให้ฟังหน่อย
จอนโซนี: อาจจะคาดไม่ถึง แต่สำหรับฉันคือซีนที่ต้องบอกเลิกกับชีจุนค่ะ เพราะตั้งแต่ตอนไปถึงที่กอง ฉันรู้สึกได้เลยว่าสถานที่นั้นได้รับการตกแต่งไว้เพื่อความรู้สึกดีๆ ให้คนมีความสุข การที่ฉันต้องบอกเลิกเขาในฉากนั้นจึงเจ็บปวดมาก และเป็นซีนที่ติดอยู่ในใจค่ะ
ชเวอูชิก/พัคโบยอง: ของพวกเราเป็นฉากเดียวกันครับ นั่นก็คือช่วงท้ายของตอนที่ 1 ซึ่งน่าจดจำมากสำหรับเรา ตอนถ่ายฉากนี้เราเริ่มถ่ายตั้งแต่ช่วงแรกๆ เลย เป็นซีนที่เต็มไปด้วยความรู้สึก และเราก็ทุ่มเทกับมันมากเลยครับ
อีจุนยอง: ของผมเป็นฉากที่เห็นในตัวอย่างซีรีส์เลยครับ เป็นฉากที่ผมพูดว่า “เธอเป็นฝ่ายทิ้งฉันไปนะ” ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ตัวละครชีจุนแสดงออกว่าที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตไปทั้งๆ ที่โกรธจูอา แต่เขาก็คิดถึงเธอมากเช่นกัน นี่จึงเป็นฉากที่ติดอยู่ในใจในมุมของชีจุนครับ

ฝากซีรีส์ หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู (Melo Movie)
ชเวอูชิก: รับชมได้ทาง Netflix หวังว่าจะมีความสุขกับซีรีส์ของพวกเราครับ

Text: AuAi Photo: Netflix