น้อย พรู กับความท้าทายใหม่ และการใจอ่อนยอมรับบทพ่อครั้งแรกในงานแสดง

แสงกระสือ 2 บอกเล่าเรื่องราวความรักต่างสายพันธุ์ระหว่าง คน และ กระสือ ที่กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลังโศกนาฏกรรม “กระสือสายบ้านโคกอีนวล” ผ่านไป 30 ปี น้อย (น้อย-กฤษดา แคลปป์) เลี้ยงดู สาว (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรีย์) ลูกสาวที่ได้รับเชื้อกระสือ ทำให้น้อยและ บาทหลวงออกัสติน (โจ คัมมินส์) ช่วยกันคิดค้นตัวยาที่สกัดจาก “ว่านกระสือ” เพื่อใช้ในการรักษาอาการของสาว และสาวได้พบกับ คล้าว หรือ คลาว โดยบังเอิญ (เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) บุตรบุญธรรมของบาทหลวงออกัสติน ที่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่กำเนิด (คนเผือก) ความรักของสาวและคล้าวค่อย ๆ เบ่งบาน พร้อมๆ กับเชื้อร้ายของกระสือในตัวของสาวที่เริ่มออกอาการมากขึ้นทุกวัน และเมื่อนักลงทุนชาวต่างชาติต้องการตัวกระสือสาว พันธุ์ (ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม) อดีตทหารรับจ้างจึงถูกจ้างมาเพื่อไล่ล่าเธอ

เรื่องนี้เรียกว่าเป็นการรวมตัวของนักแสดงฝีมือดี และหนึ่งในตัวละครสำคัญนั่นก็คือ น้อย พ่อของสาว ซึ่งรับบทโดย น้อย พรู หรือ น้อย กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ซึ่งเรื่องนี้พี่น้อยมารับบทพ่อที่พร้อมจะปกป้องลูกด้วยชีวิต เป็นตัวละครหนึ่งเดียวที่เชื่อมจากภาคแรกสู่ภาค 2 น้อยแบกความทุกข์และความเศร้าจากการที่เขาสูญเสียคนรักถึง 2 ครั้ง คือ กระสือ “สาย” และ “ดาริน” แม่ของ “สาว” สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือ “สาว” เมื่อรู้ว่าลูกสาวได้รับเชื้อกระสือ เขาจึงพยายามหาทางรักษา เพื่อให้ลูกสาวอยู่รอด เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งบทที่มีความลึกซึ้งและท้าทายสำหรับพี่น้อยมาก และถือเป็นครั้งแรกเลยที่พี่น้อยยอมใจอ่อนยอมเล่นบทพ่อ

อะไรคือเหตุผลสำคัญในการมารับงานแสดงในรอบ 8 ปี กับภาพยนตร์เรื่องแสงกระสือ2

แปดปีนานเหมือนกันนะครับ (หัวเราะ) อย่างแรกก็คิดถึงการแสดงเหมือนกันครับ เพราะก่อนหน้านี้น้อยไปสร้างโรงแรม ทำเพลงบ้าง และบทต่างๆ ที่ผ่านมา ก็ยังไม่เจออะไรที่ใช่ มีคนชวนเล่นเป็นพ่อบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจเล่น กระทั่งมาเจอบทนี้ บทน้อยใน แสดงกระสือ 2

เป็นบทที่มีความหมายจริงๆ ครับ เพราะผมก็รู้สึกว่าความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือระหว่าง พ่อแม่ลูกครับ เลยอยากมาค้นหา พลังแห่งความรักกับพ่อคนหนึ่งที่ต้องปกป้องลูกสาว ลูกสาวในเรื่องเป็นกระสือนะครับ แต่เราไม่ได้มองเขาเป็นกระสือ ความเป็นพ่อก็ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกคนเดียวที่เรารักเหลือเกิน

พี่น้อยรู้สึกอย่างไรกับบท น้อย ที่ได้รับในเวอร์ชั่นนี้ แล้วก็ต้องเป็นพ่อเป็นครั้งแรกด้วย ไม่ได้เคยรู้สึกว่ามันจะเป็นยังไง จนกว่าเราจะเริ่มแสดงครับ แล้วมันค่อนข้างชัดเจนครับ เหมือนกับบางที เราเล่นคาแร็กเตอร์หนังหลายเรื่อง มันก็จะมีมิติ มีหลายแมนชั่น แต่คราวนี้ค่อนข้างชัดเจนครับ ว่าหน้าที่ของน้อยในภาพยนตร์เรือืงนี้คือต้องดูแลลูก ปกป้องลูก ทุกอย่างมันเคลียร์ ในหนังเรื่องนี้มันชัดเจนเหลือเกิน ทุกอย่่างมันไม่มีอะไรที่จะหลอกลวงเราได้ครับ จริงๆ มันค่อนข้างเฟรชเหมือนกันครับ กับคาแร็กเตอร์นี้ครับ

ต้องรับบทที่เป็นภาคต่อจากภาคที่แล้ว ต้องทำการบ้านอะไรบ้าง ?

ผมก็ไปดูภาคหนึ่งมานะครับ แม้แต่หน้าตาผมก็ไม่ได้เหมือนกับหนังแสดงในภาคหนึ่งนะครับ แต่ว่าเราก็อาจจะต้องหยิบคาแร็กเตอร์เขามานิดน้อยครับ อย่างเช่น น้อยจากภาคแรกเป็นคนชอบเอาใจคนครับ เอาใจกับคนที่เขารักในภาคแรกครับ เลยเหมือนหนังเรื่องนี้เขาก็เป็นคนที่ต้องเข้มงวด เข้มแข็งกับลูกสาว แต่ก็เป็นคนที่ชอบเอาใจลูกสาวในเวลาเดียวกันครับด้วย

จากภาคแรกดูออกเลยว่า เริ่มต้นเขาเคยเป็นคนที่ยิ้มเก่ง สดใส แต่ประวัติของเขานี่มันทุกข์เหลือเกิน เห็นคนที่รักโดนยิงตาย แล้วในหนังภาคนี้เขาก็มี…ภาษาไทยน้อยไม่เก่งนะครับ แต่ว่าการที่เขามีเชื้อกระสือที่เขาได้หยิบมาจากภาคแรก มันทำให้ลูกสาวเขาต้องเป็นกระสือ และทำให้ภรรยาเขาในภาคสองเสียชีวิตไป เป็นคนที่ค่อนข้างแบกทุกข์เหลือเกินครับ ในหนังเรื่องนี้ผมก็แบกทุกข์ทั้งเรื่องเลย (หัวเราะ) ไม่ค่อยยิ้มเลยครับ

การแสดงในเรื่้องนี้ มีส่วนไหนที่ทำให้พี่น้อยรู้สึกหนักใจไหม

ไม่มีหนังเรื่องไหนที่เล่นง่ายนะ เล่นยากทุกเรื่องเลยครับที่ผ่านมาที่ผ่านมาน้อยจะเล่นบทที่ค่อนข้างมีความโดดเดี่ยว ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครเยอะแยะครับ มันไม่ยากเท่าเวลาเราเล่นบทที่ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกับใครคนหนึ่ง แล้วเวลาเล่นมันต้องมี relationship ต้องมีแสดงกลับไปกลับมา มันยากกว่าที่ทุกคนคิดครับ แล้วเหมือนผมบอกครับ ผมไม่เคยเล่นบทไหนที่แบกทุกข์ถึงขนาดนี้มมาก่อนอะครับ แต่ว่ามันก็สนุกด้วยนะครับ การแสดงมันสนุกเสมอครับ มันได้ปลดปล่อยอารมณ์ของเราครับ

อุปสรรคในการถ่ายทำที่ต้องเจอ

น้อยดีใจมากที่ได้ถ่ายในธรรมชาติ แต่น้อยเป็นคนที่แพ้ง่าย ผิวน้อยจะแพ้พวกใบไม้ ใบไม้บางชนิดจะมีพิษนิดหน่อย ซึ่งในหนังเรื่องนี้มีการแอคชั่นบ้าง จนน้อยเริ่มมีผื่นขึ้นที่คอน้อยจนถึงวันนี้ยังไม่หายเลยครับ

ความท้าทายที่สุดในแสงกระสือ 2 นี้คืออะไร

เป็นการเล่นบทคุณพ่อครั้งแรกครับ มันก็เป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับผมครับ แม้ชีวิตจริงผมเป็นคุณพ่อแล้ว

แต่การที่เล่นกับนักแสดงน้องชาแนล ลูกเราเป็นกระสือ ตัั้งแต่เขาอายุ 6 ขวบ 7 ขวบ เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งนะครับ ชื่อน้องชาแนล และนิ้ง ลูกสาวตอนโต ตัวเราเองก็เล่นตั้งแต่เป็นหนุ่ม จนเป็นคุณพ่อ เป็นผมเปลี่ยนสี ที่ผ่านมาผมจะเป็นบทแนวแรงๆ โรคจิต แต่เรื่องนี้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้างในหมดครับ ความอลังกาล ความแรง เพราะเราไม่อยากให้ลูกสาว เห็นเรากำลังไม่ไหว บทมีความซับซ้อนในจิตใจเราครับ ซึ่งท้าทายดีครับ

ท้าทายที่ว่ารับบทพ่อครั้งแรกใช่ไหมคะ?

ก็ท้าทายครับ  พูดตรงๆ แต่ก่อนเราในวงการบ้านเรา ใคนรับบทเป็นแม่ เป็นพ่อ ก็… โอ้! เป็นพ่อเป็นแม่แล้ว (หัวเราะ) แล้วเราก็มีอีโก้เรา ไม่เอาไม่เป็นพ่อ ไม่รับบทพ่อ  ไม่เอาๆ (หัวเราะ) พูดเล่นนะครับ แต่ว่าบทนี้มีความหมายดีครับ มันไม่มีอะไรที่มีความหมายไปมากกว่า พ่อที่ต้องปกป้องลูกสาวหรอกครับ

ได้ร่วมงานกับน้องนิ้ง ที่ต้องเป็นพ่อลูก เป็นอย่างไรบ้าง มีการละลายพฤติกรรมอย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้าถึงบทพ่อลูก

นิ้งเป็นคนที่ซ่ามากกว่าน้อยด้วยซ้ำนะครับ มีความดื้อ มีความกล้าครับ แล้วมีพลังเยอะมาก เอเนอร์จี้เยอะมาก เวลาแสดงเทคนิคเราก็ไม่ได้เหมือนกันนะ แต่นั้นก็คือเสน่ห์ของการเป็นนักแสดง แต่ละคนมีเทคนิคของตัวเอง เหมือนตอนเวลามาซ้อมนิ้งก็เต็มที่แบบร้องไห้ ผมก็จะเป็นคนชอบเก็บอารมณ์ไว้จนกว่าแสดงจริงดีกว่า แล้วค่อยมาเต็มที่ทีหลังดีกว่าครับ แอคติ้งเวิร์กชอปนี่ผมจะไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่มันก็สำคัญนะครับ ผมชอบเก็บไว้จนกว่าขึ้นเวที จนกว่าแอคชั่น แล้วก็ลุยเลย แม้แต่เขาอาจจะเด็กกว่าน้อย 20ปี แต่เขามีประสบการณ์ชีวิตไม่น้อยเลย บางทีคนอายุมากไม่ได้แปลว่าเรามีประสบการณ์มากกว่าคนที่อายุ 22, 23, 24  นิ้งก็เป็นคนที่หลายคนก็ทราบว่าผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาแล้ว ที่ไม่ง่ายเลยครับ จุดเหล่านี้มันก็ทำให้เราเป็นห่วงเขา เอ็นดูเขา เหมือนกับที่เรารักและเอ็นดูคาแร็กเตอร์ในภาพยนตร์ครับ

แล้วเจเจ กับปีเตอร์ละคะ ได้ร่วมงานกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง อยากให้รีวิวให้ฟัง

น้อย : น้องเจเจก็เป็นนักแสดงที่เราชื่นชมอยู่แล้วครับ ผมว่าหลายครั้งน่าจะมีหลายบทที่เวลาคนมองว่าจะเลือกน้อยหรือปีเตอร์นะ เพราะว่าเขาก็เป็นคนที่ตั้งใจ แล้วก็มีอะไรที่คนอื่นไม่มีส่วนของปีเตอร์นะครับ การที่ปีเตอร์เล่นเป็นกระหังนี่ มันมีความลึกแล้วครับ จากแคสติ้ง จากการที่ปีเตอร์เขาเล่นครับ แล้วส่วนเจเจผมก็ไม่ได้เคยรู้จักเจเจมาก่อนนะครับ แต่นักแสดงยุคใหม่เล่นค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทำการบ้านกันเยอะมากเลยครับ และผมก็บอกเจเจว่า เฮ้ย! เจเจรู้ไหม? ผมก็เคยเขียนเพลงชื่อว่าคนเผือกมาก่อนนะ แล้วน้อยก็บอกว่า แค่เจเจเล่นเป็นคนเผือกมันค่อนข้างพิเศษแล้ว ผมว่าแค่นี้น่าจะมีหลายคนมาดูแล้วครับ แต่ว่าทุกคนก็ได้บทที่เข้มข้นจริงๆ

แสงกระสือ 2 ได้สะท้อนมุมมองของความรักอย่างไรบ้าง

สำหรับนักแสดง เวลาเราเล่นบทที่หนังผีหรือปีศาจ เราไม่ได้มองว่ามันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วครับ มันลึกกว่านั้น ผมรู้สึกว่า มันเป็นหนังเกี่ยวกับความรัก มันมีเสน่ห์ของมัน ผมว่าทุกคนคอนเนคต์ คาแร็กเตอร์นิ้งกับเจเจแปลกไม่เหมือนใคร แต่ผมว่ามันทำให้ทุกคนคอนเนคต์กับเขาได้ ผมว่าชีวิตจริงพวกเราทุกคน เด็กๆ ทุกคน น้องๆ ทุกคน หรือ ผู้ใหญ่ ทุกคนโดดเดี่ยวได้หมด ดังนั้นผมว่าชีวิตเราทุกคน เสามารถคอนเนคต์กับคาแร็กเตอร์ในหนังภาพยนตร์ได้ครับ โดยเฉพาะเด็กๆ วัยรุ่น ที่กำลังค้นหาตัวเองกันอยู่ เพราะทุกคนกำลังหาตัวตน เราไม่อยากเหมือนใคร เรารู้สึก ฉันใช่หรือเปล่า? ฉัน fit in หรือเปล่า? ทุกคนรู้สึกอย่างนั้น โดยเฉพาะน้องๆ ที่ยัง develop กำลังค้นหาตัวเองกันอยู่ จริงๆ ไม่ใช่แค่น้องๆ ผู้ใหญ่เรายังเป็นอย่างนั้นเลยครับ เราค้นหาตัวเองไปเรื่อยๆ ครับ จนกว่าจุดที่เราจะเจอว่าเมื่อมันใช่แล้ว มันนิ่งแล้ว น้อยเองก็ใกล้จะเจอแล้ว แต่ยังไม่เจอนะ จะเจอแล้วครับ (ยิ้ม)

พี่น้อยเป็นนักแสดงด้วย เป็นนักร้องด้วย แพสชั่นในการเป็นนักร้องกับนักแสดงต่างกันอย่างไรบ้างคะ

ตอบได้หลากหลายรูปแบบนะครับ ระหว่างการเป็นนักร้อง นักแสดงในรูปแบบการทำงานเวลาเป็นนักร้องมันก็มีความเหงาหน่อยครับ อยู่บนเวทีคนเดียวครับ บางทีรู้สึกเหมือนตัวประหลาย ทุกคนจับตามองเราอยู่ เราก็รู้สึกเขิน กลัว แต่ว่าเวลาเป็นนักแสดง มันเป็นเกี่ยวกับทีมเวิร์กมากกว่า มันเข้าฉาก แล้วมันก็เจอหลายๆ คน

ทุกคนช่วยกัน แล้วเพิ่งทราบว่าพอผมอายุมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น ผมเพิ่งทำอัลบั้มใหม่มาครับ แล้วผมรู้สึกว่านักร้อง ปัญหาคือว่าเวลาเรามีผลงานใหม่ๆ มีอัลบั้มใหม่ๆ คนเขาไม่ค่อยอยากฟังแล้วครับ เขาอยากฟังเพลงเก่าๆ นั้นคือข้อยอมรับของน้อย แล้วก็ที่ต้องยอมรับ แต่สิ่งที่ดีเกี่ยวกับการแสดงคือว่าเราสามารถได้ทำสิ่งใหม่ๆ ตลอด ได้บทใหม่ๆ ได้เจอกองถ่ายใหม่ๆ ได้โลเคชั่นใหม่ๆ มันเป็นสิ่งใหม่ๆ ครับ เท่าที่น้อยสัมผัสคือว่าเราร้องเพลงฮิตของเรา บางทีมันก็สนุกนะครับ แต่ว่ามันไม่ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ เท่าเวลาเราได้เป็นนักแสดงครับ แต่นั้นคือวงการบันเทิงครับ ในเมื่อที่ยังมีคนอยากดูเราอยู่ เราก็มีงาน เราก็ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ครับ มันก็ต่างกันประมาณนี้ครับ พูดได้อีกเยอะเลย แต่ว่านั้นคือล่าสุดที่น้อยรู้สึกนะครับ

ความสุขของการทำอาชีพนักแสดงของพี่น้อยคือจุดไหน… แล้วความสุขของอาชีพนักร้องคือ….

มันจะคล้ายๆ กันในจุดนี้นะครับ ในความสุขของการเป็นนักแสดง นักร้อง ทั้งสองด้าน เราอยากไปถึงจุดที่เรา in the zone ที่เราลืมตัวเองไปแล้วครับ เหมือนกับเวลาคอนเสิร์ตที่ดีมาก เวลาผมแสดงอะไรไปแล้วผมโฟล์วเลย ผมลืมไปแล้วว่าผมทำอะไรบนเวทีอะครับ มันเป็นความ high แบบหนึ่งครับ แล้วการเป็นนักแสดงเหมือนกัน จุดหมายเราคือเราอยากไปอยู่จุดที่เรากลายเป็นคนละคนแล้วจริงๆ แล้วครับ เราลืมตัวเราไม่ได้เป็นน้อย วงพรูแล้วครับ แล้วมันอยู่ในโซนที่มัน

มหัศจรรย์ครับ แล้วนั้นก็เป็นสาเหตุที่เราอยากเป็นนักแสดงครับ เพื่อที่จะปลดปล่อยอารมณ์ผ่านอีกคาแร็กเตอร์หนึ่งที่เรากำลังเล่นอยู่ แล้วมันก็เป็นเหมือนกับการร้อง มันเป็นสิ่งที่เราโชคดี ที่เราสามารถร้องไห้ ตะโกนได้ ก็คืองานของเราครับ เราปลดปล่อยอารมณ์ได้บนเวที การแสดงก็เหมือนกันครับ มันเหมือนกับไปหาหมอ แล้วเราได้ปลดปล่อยอารมณ์ของเราครับ ได้แชร์อารมณ์ของเรา เลยรู้สึกว่าเราโชคดีจริงๆ ครับ

พ่อในแบบน้อย ในแสงกระสือ คือพ่อสไตล์ไหน และพ่อในแบบ น้อย กฤษดา สุโกศล แคลปป์เลี้ยงลูกสไตล์ไหน

ผมสงสารน้อยในเรื่องเลยครับ เขาไม่เคยนอนหลับ นอนหลับไม่ได้ จะดูโทรมมากครับ ไม่รู้ว่าคนจะมาทำร้ายลูกเขาหรือเปล่า ไม่รู้ว่าปีศาจตัวไหนจะมาทำร้ายลูกเขาหรือเปล่า การใช้ชีวิตเราต้องมองข้างหลังเสมอ มันไม่สนุกครับ มันเหนื่อยอะครับ และนั้นคือคาแร็กเตอร์เขาครับ แต่ว่าเพื่อความรักนั้นคือสิ่งที่สุดยอด เพื่อปกป้องลูกสาว

ในชีวิตจริงละคะ?

ชีวิตจริงก็เป็นห่วงอยู่แล้วครับ ในชีวิตจริงผมก็มีลูกชายกับลูกสาวครับ ก็โชคดีเหมือนกันครับ แล้วแต่ละคนนิสัยก็ไม่เหมือนกันครับ พี่น้องทุกคนไม่เคยนิสัยเหมือนกันใช่ไหมครับ?  แม้แต่มาจากพ่อแม่คนเดียวกัน อารมณ์ผมก็เป็นเพื่อนมากกว่าอยู่แล้ว แต่ว่าผมก็ก็เข้มงวดนะครับ เวลาผมดุ ผมก็ต้องดุนะ โดยเฉพาะสมัยนี้ก็ โทรศัพท์ ไม่ใช่แค่เด็กๆ ผู้ใหญ่อย่างเรายังดูทุกวันเลย แล้วเราก็พยายาม และนั้นคือเป็นชาเลนจ์ที่สำคัญสุดว่าอเดี๋ยวเราอยู่ในโลกที่ทุกคนเลิกเป็นกลุ่มเฉพาะตัวแล้ว ฉันคิดอย่างนี้ ฉันก็จะอยู่กับคนอย่างนี้แหละ ไม่ยอมฟังคนอื่นแหละ ไม่ใช่แค่เมืองไทยทั่วโลกเป็นอย่างนั้นแล้วครับ แล้วมันเป็นโลกที่น่ากลัวมาก แล้วโลกโซเชียลที่แบบ โซเชียลบูลี่ หรือว่าทุกคนก็สับสนว่าฉันเป็นใครกัน ฉันอย่างเป็นคนนู้น ฉันอย่างเป็นคนนี้ อินฟลูเอนเซอร์มันเยอะเหลือเกินอะไรอย่างเนี้ย จนในสุดท้าย บางคนโดยเฉพาะลูกผมจะเริ่มเขวแล้วอะครับ 

ผมจะต้องสอนลูกเสมอว่าลูกต้องรู้ว่าจุดยืนของลูกคืออะไรนะ ว่าอะไรผิดอะไรถูกนะลูก นั้นไม่ง่ายเป็นสิ่งที่ผมต้องสอนลูกอะครับ ว่าอย่าหลอกใครนะในชีวิตนี้ ผมก็จะบอกคนว่าผมก็เคารพความคิดของคุณนะ หรือแม้แต่ใครจะว่ายังไงเกี่ยวกับน้อย น้อยจะบอกเขาว่าแต่เราไม่เคยหลอกลวงใครนะน้อยพูดความจริงเสมอ ในเมื่อที่เราพูดความจริงเสมอมันไม่มีใครทีจะติเราได้ครับ โดยที่เราไม่ได้ทำร้ายใครนะครับ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญคือเราต้องสอนให้คนรู้จักจุดๆ หนึ่งของตัวเองอะครับ อย่าไปเขวครับ แน่นอนว่าเราต้องพยายามเข้าใจกันและกันครับ ต้องแฟร์กันและกันผมก็พยายามสอนลูกในจุดนี้ครับ

ความสุขที่น้อย กฤกษา ได้รับจากเป็นพ่อคือ

 น้อยก็เคยพูดมาบ่อยแล้วครับ น้อยก็เข้าใจครับว่าสมัยนี้หลายคนก็ไม่ค่อยชอบมีลูกกันแล้ว มีลูกคือภาระนู้นนี่ คือผมเข้าใจแล้ว แต่ว่าผมจะบอกทุกคนอยู่เสมอว่าคุณไม่มีความรู้หรอกความรักคืออะไร จนกว่าคุณมีลูกจริงๆ ครับ คุณไม่รู้ ขอโทษกำลังว่าคนที่ไม่มีลูก แต่ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นพลังที่แบบมหาศาลอะครับ โดยเฉพาะที่ผมเพิ่งสัมภาษณ์มาผมยังอิจฉาคนที่เป็นแม่เลยครับ เพราะว่าผมว่าพลังระหว่างแม่กับลูกนี่มันมหาศาล การที่มีอะไรบางอย่างเติบโตมาข้างในเราครับ

มันเหมือนกับเอเลี่ยนอะไรบางอย่างเติบโตขึ้นมา แล้วเรารู้สึกกับมัน แล้วมันออกมากลายเป็นคนที่เรารัก ผมอิจฉาผมไม่มีทางที่จะได้รูัสึกความรู้สึกนั้นครับ เพราะว่าผมเป็นผู้ชายไงครับ

 มันต้องมหาศาลมากสิครับ โตมาข้างในมันออกมา แล้วเราก็เห็นลูก develop มา ถึงวันนี้แม่ผมยังอยากจับมือผมเลยครับ แล้วตอนนี้ลูกชายผมก็อายุ 15 ปี ผมก็ยังอยากวิ่งไปกอด แล้วเขาก็ต่อหน้าคนอื่นเขาไม่ชอบ เขาอาย แต่ว่าที่บ้านเขาก็ให้กอดนะครับ ผมก็ยังอยากกอดเลยมัน forever อะครับความอินเลิฟทุกอย่างมัน forever พลังมันสูงสุดมันก็เป็นที่เราทราบว่าใครจะยอมตายเพื่อใครก็ยอมตายเพื่อลูกใช่ไหมครับ? ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมอยากเลยบทนี้ครับ เล่นเป็นคุณพ่อครับ

ในความเป็นพ่อนั้น ลูกๆ ได้สอนหรือทำให้พี่น้อยเรียนรู้แง่มุมในชีวิตอย่างไร

ต้องใจเย็นครับ เวลามีลูกแล้ว มันต้องเข้าใจว่า มันก็พูดได้เยอะ แต่ว่าจะสรุปยังไงดีให้มันกระชับๆ หน่อย เหมือนการมีลูกสำหรับน้อยมันเริ่มมีมีนนิ่งครับ มันทำให้น้อยอยากเป็น บางทีเขาชอบพูดเหมือนในหนังเจอผู้หญิง She makes me want to be a better man แต่ว่ามีลูกแล้ว They make me want to be a better man better person เพราะผมต้องเป็นตัวอย่างที่ดีครับ I wanna be a superhero ให้กับลูกครับ (หัวเราะ) แล้วผมไม่อยากพลาดอะไรในชีวิตครับ ชีวิตเราทุกคนมันพลาดกันเสมอจากเด็กจนโตมันไม่เคยหยุดครับ แต่พอเป็นพ่อ เราต้องเปลี่ยนนิสัยด้วยให้เป็นคนที่ดีขึ้น เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกครับ

จะเห็นว่าพี่น้อยได้โพสต์โมเมนต์ดีๆ กับลูกๆ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมหรือการเดินทางร่วมกัน อยากให้เล่าถึง โมเมนต์ดีๆ ที่พ่อลูก ได้ใช้เวลาร่วมกัน

เดินทางทำให้ได้เจออะไรใหม่ๆ มันได้แชร์ประสบการณ์ มันมหัศจรรย์จริงๆ นะครับ แล้วมันเป็นโอกาสที่เราได้อยู่ด้วยกัน TWENTY FOUR SEVEN

ทั้งวันทุกวินาที อยู่บ้านเราก็เจอกันเวลา dinner  วันเสาร์-อาทิตย์บ้าง แต่ว่าท่องเที่ยวด้วยกันมันอยู่ด้วยกันเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นมันคุ้มค่าเหลือเกิน แล้วก็ได้เจอสัมผัสสิ่งใหม่ๆ เหมือนกัน แล้วมันมีค่าเหลือเกินจริงๆ  มันรู้ว่ามันไม่ forever วันหนึ่งเขาก็จะโตก็จะไม่อยากอยู่กับเราแล้ว (หัวเราะ)

ในความเป็นพ่อ ที่คาดหวังจากลูกๆ คืออะไร

สิ่งที่คาดหวังจากลูกก็คือว่า ผมแค่ขอให้เขาสามารถ… ขอให้จิตใจมั่นคงแต่มันยากนะครับ

ผมบอกลูกเสมอว่าเราโชคดีกว่าหลายๆ คนใช้ชีวิตให้มีคุณค่า อย่าหลอกใครนะครับ แล้วขอให้จิตใจมั่นคง แล้วก็เข้ากับทุกคนได้ครับ แล้วก็เคารพทุกคนด้วยครับ ขอให้เป็นคนดีแค่นั้น

สุดท้ายอย่างให้พี่น้อย ฝากแสงกระสือ 2 เหตุผลดีๆ ที่เราไม่ควรพลาดเรื่องนี้

จนถึงวันนี้เราเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดนะครับ แล้วเราต้องทำให้ถึง แล้วเราต้องเป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่ที่มีมุมมองที่ใหม่ครับ แล้วน้อยว่าผู้กำกับพี่เขาทำได้ถึงครับ

เท่าที่สัมผัสอะครับ เท่าที่น้อยเห็นวันนั้นก็  It’ cool! นะครับ  So cool people go see a cool movie. You know ครับ ขอให้ทุกคนมาชมหนังแสงกระสือ 2 ครับ  แล้วเดี๋ยวปลายปี เราจะมีหนังโรคจิตมา หนังแรงๆ มานะครับ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นคุณพ่อก่อนแล้วกันนะครับ (หัวเราะ)